รหัสลับบนผนังกระเพาะอาหาร คือกุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความจริงของนกกระเรียนพันตัว
ฟังดูอาจเป็นเรื่องราวยากเกินจะเชื่อ จะมีใครคิดแอบซ่อนรหัสลับอันเป็นคำใบ้ที่สามารถสาวไปถึงตัวฆาตกรต่อเนื่อง เอาไว้บนผนังกระเพาะอาหารได้กัน
ทว่า มิกิโตะ ชิเน็น (Mikito Chinen) นักเขียนและนายแพทย์มากฝีมือ ได้เลือกใช้วิธีสุดจะพิสดารดังกล่าว ในการเปิดประตูผู้อ่านสู่โลกแห่งการสืบสวนสอบสวนใน ‘คดีฆาตกรรมนกกระเรียนพันตัว’ หนึ่งในหนังสือแนวสืบสวน ซึ่งมีพล็อตเรื่องเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความรู้เฉพาะทางทางการแพทย์กับคดีฆาตกรรมอันแสนซับซ้อน ทำเอาใครก็ตามที่ได้เปิดอ่าน ยากจะวางหนังสือลง
*บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของ ‘คดีฆาตกรรมนกกระเรียนพันตัว’*
คดีฆาตกรรมนกกระเรียนพันตัว ผลงานแนวสืบสวนสอบสวนลำดับที่ 2 ของ มิกิโตะ ชิเน็น ว่าด้วยเรื่องราวของ ‘มิสุกิ จิฮายะ’ และ ‘โทยะ ชิโอริ’ สองแพทย์สาว ผู้ร่วมกันชันสูตรศพของ ‘มิสุกิ มิโนรุ’ อดีตสายสืบมือดีของกองสืบสวนที่เสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว ทว่าพวกเธอกลับพบข้อความประหลาดอยู่บนผนังกระเพาะอาหาร ซึ่งมันถูกโยงไปสู่ ‘คดีฆาตกรรมกระดาษพับ’ คดีฆาตกรรมต่อเนื่องอันโด่งดังเมื่อ 28 ปีก่อน บัดนี้ ฆาตกรนกกระเรียนพันตัวได้ลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง
สิ่งที่จะพาสองแพทย์สาวไปสู่คำตอบของเรื่องราวทั้งหมด รวมไปถึงโฉมหน้าแท้จริงของนกกระเรียนพันตัวได้ มีเพียงแค่ รหัสลับบนกระเพาะอาหารและความรู้ทางการแพทย์ของพวกเธอเท่านั้น
เรื่องราวเฉพาะทางแพทย์กับคดีฆาตกรรม
หากใครเป็นแฟนนิยายแนวสืบสวน คงทราบกันดีว่า องค์ความรู้ทางการแพทย์ถือเป็นอีกหนึ่งศาสตร์สำคัญ ที่นักเขียนหลายท่านมักหยิบนำมาใช้ในส่วนใดส่วนหนึ่งของเนื้อหาอยู่เสมอ
ในอีกทางหนึ่ง ถ้าหากเนื้อหาตลอดทั้งเรื่องถูกขับเคลื่อนด้วยความรู้เฉพาะทางการแพทย์ เรื่องราวจะเป็นอย่างไร? แล้วนิยายสืบสวนจะยังคงความเข้มข้นไว้ได้อยู่หรือไม่?
คดีฆาตกรรมนกกระเรียนพันตัว เป็นหนึ่งในนิยายแนวสืบสวน ที่นำเอาองค์ความรู้ทางการแพทย์มาเป็นตัวดำเนินเรื่องหลัก ตั้งแต่เปิดเรื่อง เรื่อยมาจนถึงตอนท้าย ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือในการอธิบายวิธีการของคนร้าย ทว่าเป็นส่วนสำคัญของเนื้อหา อันช่วยร้อยเรียงเรื่องราวเข้าไว้ด้วยกัน จนนำไปสู่คำตอบของปริศนาในตอนจบ
การเล่าเรื่องผ่านความรู้เฉพาะทางการแพทย์ โดยมีตัวละครหลักเป็นแพทย์ คือเอกลักษณ์สำคัญซึ่งทำให้คดีฆาตกรรมนกกระเรียนพันตัว โดดเด่นขึ้นมาท่ามกลางกองหนังสือนิยายสืบสวนสอบสวนเล่มอื่นๆ
อย่างไรก็ดี เนื้อหาเกี่ยวกับทางการแพทย์ที่สอดแทรกอยู่ในเนื้อเรื่อง กลับถูกใส่มาได้อย่างลงตัว ไม่ได้โฉ่งฉ่างมากจนเกินไป ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับผู้ไม่ได้มีความรู้ทางการแพทย์เยอะเท่าไหร่นัก ก็สามารถเพลิดเพลินไปกับเนื้อหาได้ แถมในบางส่วนยังสามารถสร้างความตะลึงให้กับคนอ่านได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
โดยการทำให้คนอ่านเข้าใจองค์ความรู้ทางการแพทย์เฉพาะทางได้นั้น ถือเป็นเทคนิคสำคัญของ มิกิโตะ ชิเน็น ที่ได้มาจากการควบบทบาทระหว่างนักเขียนและนายแพทย์
“การเป็นหมอสายอายุรกรรมจะมีทักษะและองค์ความรู้เกี่ยวกับถ่ายทอดเรื่องเฉพาะทางการแพทย์ให้คนทั่วไปได้รู้อยู่แล้ว เพราะในแต่ละวันแพทย์จำเป็นต้องอธิบายให้คนไข้ที่ไม่รู้เรื่องการแพทย์เลย เข้าใจให้ได้ว่า พวกเขากำลังป่วยเป็นโรคอะไรอยู่ ซึ่งเทคนิคเหล่านี้ ก็ถูกนำมาใช้ในตอนเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาเช่นกัน” มิกิโตะ ชิเน็น บอกกับเราถึงวิธีการในการถ่ายทอดองค์ความรู้ทางการแพทย์ยากๆ ให้ออกมาเข้าใจง่ายและน่าสนใจ จนทำให้ผู้อ่านอย่างเราสามารถเข้าถึงเนื้อหาเฉพาะทางได้ อย่างไม่รู้สึกติดขัด
อย่างเช่น การบอกรหัสลับอันเป็นคำใบ้ สำหรับสาวไปถึงตัวฆาตกรของตัวละครมิโนรุ ซึ่งถูกสลักเอาไว้บนกระเพาะอาหารของตัวเขา ฟังดูอาจเป็นวิธีที่เหลือเชื่อ และไม่น่าเป็นจริงได้ ทว่าทางมิกิโตะได้ยืนยันว่า “วิธีดังกล่าวสามารถทำได้จริงในทางการแพทย์”
หรือแม้แต่ในตอนของตัวละครชิโอริ ผู้เป็นพยาธิแพทย์ ทำการชันสูตรศพของมิโนรุ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งส่วนที่นำเอาองค์ความรู้ทางการแพทย์มาหลอมรวมกับความเป็นสืบสวนสอบสวนได้อย่างลงตัว ด้วยการตรวจสอบอวัยวะภายในของศพอย่างละเอียดถี่ถ้วน จนทำให้ตัวเธอได้พบคำใบ้ ตลอดจนสิ่งสำคัญที่ตัวของมิโนรุพยายามจะสื่อสารออกมาอยู่ตลอด
อาจกล่าวได้ว่า เนื้อหาเฉพาะทางทางการแพทย์ ที่มิกิโตะเลือกใส่เข้ามาในเนื้อเรื่องนั้น สามารถล้อไปกับเรื่องได้อย่างดี อีกทั้งยังช่วยเสริมความน่าสนใจให้กับเนื้อเรื่องอยู่ไม่น้อย โดยมันทำให้คนอ่านตกตะลึงไปกับเนื้อเรื่อง ตลอดจนเทคนิคที่เขาใช้ สำหรับนำเสนอเรื่องราวคดีฆาตกรรมผ่านมุมมองนายแพทย์ของเขาด้วย
“ตอนแรกลองพยายามสมมติปริศนาขึ้นมา
เลยรู้สึกว่าต้องเฉลยตัวอักษรในสถานที่บ้างอย่าง
พอได้โจทย์นี้มา เลยใช้ความรู้ทางการแพทย์ของตัวเองมาเล่าเรื่องราว
อีกทั้งด้วยการเป็นอายุรกรรม เลยรับรู้ได้โดยอัตโนมัติว่า
อะไรควรเป็นอะไร อะไรควรอยู่ตรงไหน”
ตัวละครกับการดำเนินเรื่องในหลากมิติ
นอกจากเนื้อเรื่องสุดเข้มข้นแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่มิกิโตะ ชิเน็น ให้ความสำคัญอย่างมากในคดีฆาตกรรมนกกระเรียนพันตัวคือ เหล่าตัวละครผู้คอยขับเคลื่อนเรื่องราวสืบสวนสอบสวนให้เข้มข้นมากขึ้น
“การสร้างคาแร็กเตอร์ที่มีเสน่ห์ โดยแต่ละตัวจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด แถมมีอะไรให้ผู้อ่านคาดไม่ถึงเยอะ เพื่อให้ผู้อ่านอยากพลิกหน้าต่อไปเรื่อยๆ” มิกิโตะบอกกับเรา ถึงอีกส่วนสำคัญสำหรับเขาในการเขียนนิยายสืบสวนเล่มนี้
คงต้องกล่าวได้ว่ามิกิโตะทำสำเร็จในนิยายเล่มนี้ เขาสามารถสร้างตัวละครซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอันน่าสนใจ และมีเสน่ห์ จนสามารถดึงดูดให้ผู้อ่านอย่างไรอยากติดตามต่อไปเรื่อยๆ ว่าท้ายสุดแล้ว พวกเขาเหล่านี้จะลงเอยอย่างไร พวกเขาจะสมหวังในสิ่งต่างๆ ที่พวกเขาต้องการได้หรือไม่
หนึ่งในตัวละครที่มีความเปลี่ยนแปลงมากสุดคงหนีไม่พ้นนางเอกของเรื่องอย่าง จิฮายะ ศัลยแพทย์สาว ผู้จับพลัดจับผลูต้องย้ายมาทำงาน ณ แผนกพยาธิวิทยา นอกจากจะต้องรับมือกับ ชิโอริ แพทย์พี่เลี้ยง ผู้เคยเป็นเพื่อนสมัยเด็ก เธอยังต้องเผชิญกับการสูญเสียผู้เป็นพ่อ ซึ่งได้ทิ้งทวนเธอก่อนจากลาเอาไว้ว่า “แม้จะมีสายเลือดเดียวกัน แต่ไม่ใช่พ่อลูกกัน” จนทำให้เธอต้องเผชิญกับความสับสนในใจอันยากจะลืมเลือน
ตลอดทั้งเรื่องเราจะเห็นตัวละครจิฮายะค่อยๆ เรียนรู้ และผลักดันตัวเอง เพื่อก้าวข้ามผ่านกำแพงมากมาย ซึ่งก่อตัวขึ้นในจิตใจของเธอ ควบคู่ไปกับการตามหาความจริงเรื่องของพ่อ ตลอดจนโฉมหน้าของฆาตกรนกกระเรียนพันตัว จึงอาจนับได้ว่า เธอเป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องเผชิญหน้าความท้าทายมากมายรอบทิศทาง
อย่างไรก็ตามจิฮายะไม่ได้ต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว เธอยังมีชิโอริ คอยสนับสนุนเธออยู่เคียงข้าง แม้ทั้งคู่เหมือนจะไม่ลงรอยกันเท่าไหร่นักในตอนแรกทว่า พอเนื้อเรื่องค่อยๆ เคลื่อนไปข้างหน้า เราก็จะได้เห็นการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวละครนี้ได้ชัดเจนมากขึ้น นับเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ ที่ช่วยให้ผู้อ่านรู้สึกไม่เบื่อ อยากเอาใจช่วยตัวละครทั้งสองตัว ตลอดจนอยากติดตามเรื่องราวของทั้งคู่ไปจนถึงตอนจบของเรื่อง
แต่ถึงอย่างนั้น คงต้องยอมรับว่า การมีเพียงแพทย์สาวสองคนมาเป็นผู้ดำเนินเรื่อง อาจทำให้รสชาติการเป็นนิยายแนวสืบสวนสอบสวนไม่เข้มข้นมากเท่าไหร่นัก ดังนั้น การมีตัวละครตำรวจอย่าง รองสารวัตรซากุราอิ คิมิยาสุ ถูกใส่เข้ามาในเนื้อเรื่อง กลายเป็นอีกหนึ่งสีสันซึ่งช่วยให้เนื้อเรื่องส่วนของการสืบสวนเข้มข้นมากขึ้น
การตัดสลับไปมาระหว่างพาร์ทของสองแพทย์สาวและรองสารวัตรซากุราอิ ทำให้เนื้อเรื่องของคดีฆาตกรรมนกกระเรียนพันตัวไม่นิ่งเรียบ รวมถึงช่วยเพิ่มรสชาติอันหลากหลายแก่ผู้อ่านมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตามหาความจริงฉบับแพทย์สาวที่ใช้องค์ความรู้ทางการแพทย์ในการแกะรอยหาคนร้าย หรือการสืบหาความจริงแบบไล่บี้คนร้ายฉบับเจ้าหน้าที่สืบสวน ต่างก็ล้วนสร้างความตื่นเต้นให้กับคนอ่านกันไปคนละรูปแบบ
คนร้าย แรงจูงใจ และคดีฆาตกรรม
หนึ่งในส่วนซึ่งช่วยให้ผู้อ่านอย่างเราสามารถจดจำนิยายแนวสืบสวนสอบสวนเล่มโปรดของแต่ละคนได้ ถ้าจะบอกว่าเป็น ตัวคนร้ายหรือฆาตกรผู้ก่อเหตุ คงไม่เกินจริงเท่าไหร่นัก
เหล่าฆาตกรคืออีกตัวละครสำคัญ ที่บรรดานักเขียนหลายคนต่างให้ความสำคัญ เพราะมันมีส่วนอย่างยิ่งต่อการเนื้อเรื่องของนิยายสนุกและน่าตื่นเต้นมากขึ้น อีกทั้งตอนเฉลยปมท้ายเรื่อง หากแรงจูงใจของพวกเขาไม่แข็งแรงหรือสมจริงมากพอ ก็อาจทำให้ผู้อ่านไม่คล้อยตามหรืออินไปกับเนื้อเรื่องทั้งหมดได้
ด้วยเหตุนี้เอง มิกิโตะ ชิเน็น จึงให้ความสำคัญและใส่ใจต่อการวางเนื้อเรื่องของตัวฆาตกรเป็นอย่างมาก โดยเขามองว่า “สำหรับคดีฆาตกรรมนกกระเรียนพันตัว แม้ว่าทริคจะไม่ได้ซับซ้อนมาก แต่ก็ต้องสมบูรณ์ในตัวมันเอง ส่วนแรงจูงใจของฆาตกร ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำให้สมจริงมากสุดเช่นกัน”
นั่นจึงทำให้ตอนท้ายของเรื่อง หลังจากรับรู้ถึงแรงจูงใจซึ่งนำไปสู่การก่อคดีของฆาตกร แม้ผู้อ่านอย่างเราจะไม่ยอมรับต่อการกระทำของตัวเขา ทว่าในอีกด้านหนึ่ง เราก็จะได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานที่ตัวฆาตกรต้องเผชิญ จนนำไปสู่คดีฆาตกรรมนกกระเรียนพันตัวในครั้งนี้
ท้ายสุดแล้ว คดีฆาตกรรมนกกระเรียนพันตัว ถือเป็นนิยายแนวสืบสวนอีกหนึ่งเล่ม ซึ่งเรียกได้ว่าครบทุกรสชาติ ควรค่าสำหรับแฟนนิยายสืบสวนในการหยิบขึ้นมาอ่านกัน เพราะผู้เขียนอย่างมิกิโตะ ชิเน็น เรียกได้ว่าใส่ใจทุกรายละเอียดในการถ่ายทอดเรื่องราว ให้ทั้งสนุก ตื่นเต้น และสมจริงมากที่สุด
หากกำลังหานิยายแนวสืบสวนสักเล่ม ซึ่งมีทั้งรูปคดีสุดเข้มข้น เรื่องราวเฉพาะทางแพทย์ที่ไม่ซับซ้อน และฆาตกรอันแสนยากจะจับตัวได้ เราขอแนะนำ ‘คดีฆาตกรรมนกกระเรียนพันตัว’