ไม่ต้องบอกซ้ำหรอกว่าตอนนี้เกมอย่าง Pokemon GO นั้นฮอตฮิตติดชาร์ตขนาดไหน ถึงขั้นที่ Apple ยังออกมายอมรับว่าเกมดังเกมนี้เป็น App ที่มียอดโหลดมากที่สุดใน App Store ไปแล้ว แล้วเมื่อเกมเปิดในประเทศที่ใครๆ ก็เห็นว่ามีระเบียบเรียบร้อยมากที่สุดแห่งหนึ่งอย่างญี่ปุ่น ทางรัฐก็ออกคำแนะนำในการเล่นเกมนี้ออกมาเพื่อดึงสติประชาชนกันเลยทีเดียว
นี่มันไปไกลกันเกินกว่าที่ใครหลายคนคิดเป็นแน่ ซึ่งอาจจะรวมถึงทาง The Pokemon Company (บริษัทร่วมทุนของทาง Nintendo กับ Game Freak) ผู้สร้างเกม Pokemon ต้นฉบับ กับ Niantic ทีมพัฒนา Pokemon GO และเกม Ingress ก็คงไม่คิดว่าตัวเกมจะได้รับกระแสความคลั่งไคล้ถึงระดับที่เป็นอยู่ แต่ตอนนี้ Pokemon GO อาจจะกลายเป็น Pokemon GONE ในบางพื้นที่ อย่างที่ได้ยินมิตรสหายของเราในอเมริกา กับ ญี่ปุ่น พูดว่า “คนเดินแย่งโปเกมอนน้อยลง” หรือ “คนเดินตามสวนสาธารณะลดลง” ไม่ก็ “คนเดินไป เล่นไป แล้วมองแต่จอจนเดินมาชนนี่น้อยลงแล้ว” แถมยังมีข่าวว่าคนเล่นเกมนี้จนเก็บโปเกมอนได้ครบทุกตัวแล้ว
มากคน มากความ
จริงๆ ก็เป็นเรื่องปกติแหละ แต่กรณีของ Pokemon GO ที่คนเข้าไปเล่นรัวๆ อย่างที่เราบอกไปข้างต้นที่ตัวเกมเฉียดจะกลายเป็น Application บนโทรศัพท์มือถือที่ถูกโหลดมากที่สุดไปแล้ว เพราะตอนนี้มี
คนโหลด Pokemon GO ไปติดตั้งแล้วถึงราวร้อยล้านครั้ง พอมีคนเล่นเยอะแบบนี้ เกมก็เลยมีปัญหาค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะปัญหาในการแย่งโปเกมอน ปัญหาการกระทบกระทั่งกันทั้งแบบเบาๆ อย่างเดินชนกันบ้าง หรือแบบแรงๆ ที่ถึงขั้นมีการดักปล้น คนเล่นที่กะมาลองเล่นแบบชิวๆ เรื่อยๆ ก็เลยถอยห่างออกจากเกมไปก่อน
เรื่องนี้เราคาดว่าถ้าผ่านไประยะหนึ่ง หลังจากที่ธรรมชาติของเกมชัดเจนขึ้น ผู้เล่นหลายๆ คนก็จะกลับมา แต่ก็เฉพาะประเทศที่เปิดเล่นกันก่อนล่ะ เพราะประเทศที่ตัวเกมยังไม่ได้เปิดให้บริการก็คงจะต้องเจอกับภาวะมากคนมากความจนทำให้คนเลิกเล่นอีกระยะแน่ๆ
ระบบของเกม Pokemon GO ที่ตันเร็ว
Pokemon GO นั้นเปิดกว้างให้ผู้เล่นสามารถออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อออกตามหา Pokemon ที่กระจายตัวอยู่บนทั่วโลก ออกเดินทางไปยังจุด Pokestop (หรือตีเสา ตามภาษาของเกม Ingress) พอเลเวลเกินเลเวล 5 ก็จะสามารถเลือกทีม ไปตียิมเพื่อทำการยึดยิม หรือไปท้าทายของผู้ที่ครอบครองยิม ถ้ายังสู้ไม่ไหว ก็ตามหา Candy เพื่อเพิ่มพลังให้โปเกมอนของเราต่อ แล้วก็เดินจนได้ระยะทางเพื่อให้ไข่ที่เราได้มาฟักตัวด้วย
ฟังดูตัวเกมมีกิจกรรมเยอะไม่น้อย แต่กิจกรรมเหล่านี้ก็เป็นกิจกรรมที่ค่อนข้างวนเวียนไปมาอย่างรวดเร็ว แล้วพอผสมกับปัญหาก่อนหน้า รวมไปถึงความชำนาญในการเล่นเกมของคนที่เคยเล่น Pokemon ภาคเดิมๆ มา ก็ทำให้ตัวเกมถูกวิเคราะห์จนเกมแทบจะปรุไปในระยะเวลาสั้นๆ ทั้งยังทำให้เกิดปัญหาข้อถัดมาอีกด้วย
ความแตกต่างของระบบที่ทำให้แฟนเกมดั้งเดิมหงุดหงิด
ถึงการเล่นเกม Pokemon GO โดยคร่าวๆ จะเป็นแบบที่เราอธิบายไว้ในข้อก่อนหน้า แต่ระบบบางอย่างของ Pokemon GO ก็เปลี่ยนไปจากระบบดั้งเดิมของเกม อย่างระบบการต่อสู้ที่เปลี่ยนจากระบบ Turn-Base ไปเป็นการต่อสู้แบบ Real Time ถึงแม้ว่าระบบนี้อาจจะออกแบบเพื่อให้การเล่นนั้นลื่นไหลและไม่ทำให้ผู้เล่นคนใดคนหนึ่งเสียเวลาในการต่อสู้มากไป (ลองนึกสภาพว่ามีผู้เล่นที่เข้าฉากต่อสู้แล้วใช้เวลานานในการเลื่อนคำสั่งดูนะ)
ระบบดังกล่าวน่าจะได้รับความชื่นชมและความนิยมอยู่ไม่น้อย ถ้าตัวเกมไม่มีคำว่า Pokemon แปะเอาไว้ล่ะนะ การมีอยู่ของชื่อนี้ ทำให้หลายคนที่เข้ามาเล่นคาดหวังว่า การเล่นเกมในแบบฉบับใหม่ควรจะให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงเกมต้นฉบับอยู่บ้าง แต่พอเจอระบบต่อสู้ที่เปลี่ยนแปลง กับระบบสกิลที่ลุ้นราวกับซื้อหวยว่าโปเกมอนตัวไหนจะได้ทักษะอะไรมา
แฟนเกมฉบับดั้งเดิมก็พร้อมจะวางมือถือแล้วหยิบเอาเครื่องเกมที่มี Pokemon สไตล์ใกล้เคียงเดิม หรือรอเกม ภาค Sun กับ Moon มาเล่นมากกว่า
ความแตกต่างกันของตลาดในแต่ละประเทศ
Pokemon GO อาจจะยังฮิตอยู่ในฝั่งอเมริกา / ออสเตรเลีย เพราะเหล่าเด็ก ’90s ยังคงออกเดินทางกันอย่างสนุกสนาน แต่เด็กยุค ’90s ในฝั่งญี่ปุ่นเริ่มที่จะสนใจเกมนี้น้อยลงแล้ว สิ่งหนึ่งที่น่าจะมีผลอย่างมากกับกรณีนี้ก็คงไม่พ้นความแตกต่างกันมากของตลาดเกมในแต่ละฝั่ง
สังเกตได้จากยอดการโหลด Application จากภาพด้านบน ไม่ว่าจะเป็นในฝั่ง iOS หรือ Android ของประเทศญี่ปุ่น มีความนิยมแอพพลิเคชั่นที่แตกต่างจาก อเมริกา หรือ ยุโรป อยู่มาก และญี่ปุ่นก็จะมีเกมที่ออกให้เล่นเฉพาะในเกาะญี่ปุ่นอย่าง Fate / Grand Order ติดอยู่อันดับสูงด้วย
สิ่งนี้บ่งชี้ว่าฝั่งชาวญี่ปุ่นมีตัวเลือกมากกว่า แถมเกมตัวเลือกนั้นก็เป็นเกมที่ใช้ตัวละครการ์ตูนที่มีฐานแฟนเข้มแข็งเช่นกัน และแต่ละเกมก็มีการตลาดที่ยั่วเย้าให้แฟนตัวการ์ตูนพร้อมกระโดดเข้าไปเล่นแล้วเปย์เงินเพื่อหาทางครอบครองตัวละครที่พวกเขาชื่นชอบ แม้ว่าอาจจะเกิดภาวะ “จ่ายกาชาเป็นแสน Rare ยังไม่ได้แตะ” บ่อยๆ ก็เถอะ
ไหนจะตัวเลือกเกมให้เล่นมาก คนเล่นก็อาจจะลงทุนกับเกมอื่นไปเยอะ การจะย้ายไปเล่นเกมใหม่แบบถาวรเลยเกิดขึ้นยาก ปริมาณคนเล่นเกม Pokemon GO ที่เข้ามาลองในช่วงแรกก็หายไปมากกว่าธรรมชาติของความอยากรู้อยากลองเกมใหม่ตามปกติ
แล้วเกมจะเป็นอย่างไรถ้าเปิดในไทย?
ในวันนี้ หลายคนก็คงได้เริ่มเล่น Pokemon GO (กันอีกครั้ง) สำหรับประเทศไทยที่คนเล่นเกมบนมือถือส่วนมากก็เป็นคนเล่นเกมแนว Casual แล้วก็ถือว่าเป็นประเทศที่เล่นเกมไม่เหมือนกับคนส่วนใหญ่เช่นกัน (เห็นได้จาก เกมเศรษฐี ที่มีคนเล่นและเปย์เยอะอยู่ ต่างจากกลุ่มประเทศที่ POkemon GO เปิดตัวไปแล้ว) แต่กลุ่มคนที่เล่นเกมตามตัวละครแบบชาวญี่ปุ่นก็ไม่เยอะนัก
ดังนั้นในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ ตามท้องถนนไทยก็น่าจะเต็มไปด้วยผู้เล่นเกม Pokemon GO ไม่ต่างกับที่เกิดขึ้นในอเมริกา หรือ ประเทศญี่ปุ่นอย่างแน่นอน แต่หลังจากนั้นแล้วกระแสของ Pokemon GO อาจจะอยู่ในไทยไปอีกราว 1-2 เดือน ทั้งนี้เราอาจจะได้เห็นดราม่าอะไรแปลกๆ ในไทยกันอีกด้วยนะ เหมือนก่อนหน้าที่เคยมีคนบอกว่าเกมกินแบตมากเกินไป
ถึงคนจะเลิกเล่นไปบ้างแล้ว และจำนวนการเล่นอาจจะลดลงอีกหน่อย แต่ทุกอย่างก็อาจจะเปลี่ยนไปท้ังโลกนะ เพราะตอนนี้ผู้พัฒนาเกมก็เพิ่งใส่โปเกมอนมาแค่เฉพาะกลุ่ม Generation แรกเท่านั้น หากพวกเขาอัพเดทแล้วใส่ระบบต่อสู้ที่โดนใจมากขึ้น รวมถึงเหล่ามอนสเตอร์ตัวอื่นที่ใหม่สดกว่านี้ ตัวเกมนี้อาจจะอยู่ให้พวกเราเห็นกันไปอีกหลายสิบปี ในลักษณะเดียวกับเกมต้นฉบับที่ยังออกมา
ยังไงก็เล่นเกม Pokemon GO กันด้วยความระมัดระวังก็แล้วกันนะทุกท่าน