ในบ่ายวันศุกร์ที่แดดแรงจัด ป้ายเมนูเครื่องดื่มสีเหลืองสดชวนให้เราหยุดยืนหน้าห้องแถวสีครีมและแดงเข้ม เมื่อลองมองผ่านประตูกระจกเข้าไปจึงเห็นว่าด้านในมีโต๊ะ เก้าอี้ ภาพวาด และรอยยิ้มจากหญิงสาวที่ยืนอยู่หลังเคาท์เตอร์
‘หลบแดด’ เราคิดอย่างนั้นขณะที่ผลักประตูเข้าไป และเป็นความคิดนี้เองที่พาเราไปทำความรู้จักมวลความฝันที่อบอวลอยู่ใน Head in the Clouds คาเฟ่และอาร์ตสเปซแห่งใหม่บนถนนพระสุเมรุ
ก่อร่างสร้างเมฆ
กลุ่มเพื่อน 5 คน ช็อปเฮ้าส์ใจกลางเมืองเก่า และความรักในศิลปะ สามสิ่งนี้คือส่วนผสมที่ก่อให้เกิด Head in the Clouds “เริ่มต้นคือรุ่นน้องที่เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนมีพื้นที่ตรงนี้อยู่ เราก็เลยลองมาคุยกันว่าจะทำอะไรดี” มี่-วาสิทธิ์ จินดาพร หนึ่งในผู้ก่อตั้งเริ่มเล่า “ตอนแรกคิดว่าจะเปิดเกสต์เฮ้าส์ แต่สุดท้ายก็กลับมาทำสิ่งที่ตัวเองชอบและรู้สึกว่ายังขาด”
แล้วสิ่งที่เหล่าบัณฑิตจากคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากรชอบจะเป็นอะไรได้นอกจากศิลปะ ส่วนสิ่งที่ยังขาดนั้นเตย-ฐิติวัลคุ์ เฉลิมแสงสกุล อีกหนึ่งผู้ก่อตั้งเฉลยว่าคือพื้นที่สำหรับปล่อยของ “หลายๆ คนเรียนจบแล้วก็ไม่ได้ทำงานด้านนี้ต่อ บางทีเรายังอยากทำต่อ แต่ก็ไม่มีสเปซรองรับ” เธออธิบาย
“มันไม่มีที่จัดแสดงหรือวางขาย นอกเหนือจากแกลเลอรี่ใหญ่ๆ ซึ่งก็อาจจะมีคาแรกเตอร์ของตัวเอง หรือมีการคัดเลือกงานที่จริงจัง” มี่เพิ่มเติม
ปั้นเมฆเป็นตัว
ผลงานแรกที่ Head in the Clouds เปิดพื้นที่ให้ก็คือจิตรกรรมฝาผนังซึ่งผู้ก่อตั้งทั้งห้าร่วมมือกันวาด โดยผสมผสานเอกลักษณ์ของ The Kiss ภาพวาดสีน้ำมันอันลือเลื่องของ Kustav Klimt จิตรกรระดับบรมครู เข้ากับรูปถ่ายสุดคลาสสิคที่คนไทยทุกคนรู้จักกันดี นั่นคือรูปในหลวงรัชกาลที่ 9 โน้มตัวลงให้สมเด็จย่าหอมแก้ม
ส่วนผลงานอื่นๆ ในร้านนั้นได้จากพี่ๆ น้องๆ ที่พวกเขาชักชวนให้มาวางขาย เช่น ภาพวาดหลากสีสันของ juli baker and summer ภาพวาดและงานปักสุดก๋ากั่น จาก After door. ของแฮนด์เมดน่ารักกุ๊กกิ๊กจาก Tanpopo และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งถ้าใครอยากนำผลงานไปฝากวางก็สามารถติดต่อสอบถามผ่านอินบ๊อกซ์เพจหรืออีเมลล์ headintheclouds.artspace@gmail.com ได้เลย โดยไม่ว่าคุณจะเป็นใครและสร้างสรรค์งานประเภทใด ที่นี่ก็รับพิจารณาทั้งหมด
“เราอยากติดต่อไปให้ถึงมหาวิทยาลัยอื่นๆ ด้วย หรือคนทำงานศิลปะที่ไม่ได้อยู่ในกรุงเทพฯ” เตยยกตัวอย่าง
“หรืออาจเป็นคนที่ไม่ได้จบศิลปะมา ไม่ได้อยากเป็นอาร์ตทิสท์เต็มตัว แค่ทำในเวลาว่างแล้วอยากมีที่มาแสดง มาปล่อยของ” มี่เสริม
ตอนนี้ยังเป็นช่วง soft opening ทางร้านจึงเปิดให้บริการเพียงชั้นล่าง แต่ถ้าเปิดบริการเต็มรูปแบบเมื่อไหร่ (แว่วมาว่าราวๆ เดือนมิถุนายนนี้) ก็จะสามารถเดินชมนิทรรศการหรือเข้าร่วมเวิร์กช็อปต่างๆ ที่จะจัดขึ้นบนชั้นสองและชั้นสามด้วย เช่นเดิม ถ้าใครต้องการพื้นที่เพื่อทำกิจกรรมทางศิลปะใดๆ ก็ติดต่อทางร้านได้เลย
วาดวิมานบนก้อนเมฆ
เพราะอยากให้ Head in the Clouds มีบรรยากาศสบายๆ เหล่าผู้ก่อตั้งจึงตั้งใจให้มีโซนคาเฟ่อยู่ในร้านด้วย
“บางคนก็ไม่กล้าเข้าแกลเลอรี” เตยให้เหตุผล “แต่เราคิดว่าคาเฟ่น่าจะคอนเน็คคนทั่วไปได้… นี่เป็นสมมติฐาน (หัวเราะ)”
“บางคนเข้าแกลเลอรีแล้วทำตัวไม่ถูก แต่นี่เป็นร้านคาเฟ่ เข้ามาก็แค่สั่งน้ำ แล้วเดินดูงาน ชิลๆ” มี่เสริม
วันนั้นเราเลือกสั่งเครื่องดื่มที่ดูเหมาะกับซัมเมอร์มากๆ อย่างสมูตตี้มะม่วง พีช สับปะรด ส่วนตัวว่าอร่อยเพราะปั่นออกมาได้เนื้อเนียนแบบที่ชอบ แล้วก็มีคอมบิเนชั่นผลไม้อื่นๆ ให้เลือกด้วย ได้แก่ สตรอเบอร์รี่ กีวี่ กล้วย, แตงโม ส้ม สับปะรด, และมิกซ์เบอร์รี่
ส่วนเครื่องดื่มอื่นๆ นั้นก็มีตั้งแต่เมนูเบสิกอย่างโกโก้ ชาเย็น ชาเขียวมัทฉะ ไปจนถึงชาอินเดียหอมกลิ่นเครื่องเทศ ส่วนชาร้อนนั้นเลือกใช้เบลนด์ชื่อไพเราะจากร้าน TE อย่าง Energy Ginseng, Moon Gerden, และ Midsummer Dream (ทางร้านกระซิบว่าจะมีเมนูชาเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ เพราะคนในทีมชอบดื่มชากันมาก) แล้วยังมีกาแฟ cold brew พร้อมเสิร์ฟให้คอกาแฟด้วย
เสียดายที่วันนั้นเรายังอิ่มอยู่ เลยไม่ได้ลองเมนูอาหารคาวอย่างข้าวสตูว์เนื้อและข้าวหน้าไก่ซึ่งเป็นสูตรเด็ดของคุณแม่ของคนหนึ่งในทีม นอกจากนี้ยังมีขนมโฮมเมดจากหลายร้านที่คัดสรรมาแล้วว่าอร่อยจริงอร่อยจัง
ก่อนจากกัน เราถามสองหนุ่มสาวถึงที่มาที่ไปของชื่อร้าน Head in the Clouds
“วลีนี้แปลว่าการอยู่ในความฝัน เรื่องเพ้อฝัน เราเองก็ไม่รู้ว่าทำร้านออกมาจะเป็นยังไง แต่มันก็เป็นความฝันที่อยากทำ เลยใช้ชื่อนี้” คือคำตอบจากมี่
เอาเป็นว่า ถ้าวันไหนได้แวะเวียนไปแถวถนนพระสุเมรุ ก็ลองไปนั่งเล่นและเดินดูงานศิลปะในบรรยากาศเป็นกันเองที่ Head in the Clouds กันดูได้ และในระหว่างที่คุณทำเช่นนั้น ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง, คุณก็จะได้สนับสนุนศิลปินรุ่นใหม่และผลักดันวงการศิลปะไทยไปพร้อมกัน
หรืออย่างน้อยที่สุด คุณก็จะได้สนับสนุนความฝันของคนรุ่นใหม่กลุ่มนี้ไง 🙂
Head in the Clouds ถนนพระสุเมรุ ตรงข้ามวัดบวรนิเวศ ห่างจากบาร์แจ๊สเก่าแก่อย่าง Brown Sugar เพียง 300 เมตร / อังคาร-ศุกร์ 11.00-20.00 น. เสาร์-อาทิตย์ 11.00-21.00 น. ปิดทุกวันจันทร์