ถ้าพูดถึงวงการฮิปฮอป โดยเฉพาะในเอเชีย ก็ต้องนึกถึง ‘เกาหลีใต้’ หนึ่งในประเทศที่มีวัฒนธรรมฮิปฮอปเติบโตมาก
และช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ได้มางานเทศกาลฮิปฮอปอย่าง ‘Hiphopplaya Festival 2019’ จัดขึ้น ที่เมื่อเห็นไลน์อัพแล้ว เราก็พลาดไม่ได้ ที่จะกดปุ่มจองตั๋วไปงานนี้ถึงที่เกาหลี
Hiphopplaya Festival เป็นงานเทศกาลดนตรีฮิปฮอปที่จัดโดย Hiphopplaya ซึ่งเป็นคอมมูนิตี้ฮิปฮอปที่แรกๆ ของวงการ K-hiphop ที่ก่อนหน้านี้ จัด Hiphop show มาตลอดตั้งแต่ปี 2000 ก่อนที่ในปี 2016 เริ่มขยายมาเป็นงานเฟสติเวิลที่ใหญ่ขึ้น และนี่ก็เป็นปีที่ 4 แล้ว แถมยังเป็นปีแรกที่ขยายงานถึง 2 วันเต็ม พร้อมด้วยไลน์อัพแร็ปเปอร์ที่มากกว่าปีก่อนๆ รวมแล้วกว่า 50 คน กับราคาตั๋ว 2 วัน ที่ 3,579 บาท เฉลี่ยแล้วเราเสียเงินไปดูแร็ปเปอร์ตกประมาณคนละ 71.58 บาทเท่านั้น คุ้มกว่านี้ มีอีกไหม!
บรรยากาศงานจัดขึ้นในสวน Nanji Hangang ข้างๆ กับแม่น้ำฮัน ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ทำให้อากาศหนาวนิดๆ มีแดดหน่อยๆ ช่วงกลางวัน อุณหภูมิอยู่ที่ 15-17 องศาแต่ก็มีออนนี่ แต่งตัวชิคท้าลมหนาวไม่น้อย รวมถึงชาวต่างชาติมากมาย ทั้งชาวตะวันตก จีน ญี่ปุ่น หรือคนไทยเอง ที่มาร่วมงานจำนวนไม่น้อย
ในงานมีการแบ่งสัดส่วน แบ่งโซนอย่างชัดเจน ตั้งแต่โซนอาหาร ที่ราคาทั่วไป ไม่แพงขึ้นไปกว่าข้างนอก แต่ร้านที่ฮ็อตที่สุด ก็คือ ‘THE FAMOUS BURGER’ ร้านเบอร์เกอร์ของแร็ปเปอร์อย่างพี่โลโค่ ที่แม้ตอนนี้จะเข้ากรม รับใช้ชาติอยู่ แต่ก็ฝากร้านมาขายของแทน
นอกจากโซนอาหารแล้ว ยังมีบู๊ธขายเสื้อผ้า โชว์งานสตรีทอาร์ท โซนถ่ายรูปกับป้ายชื่องาน และรูปศิลปิน ที่จากการคาดการณ์ คนที่มีคิวยาวเหยียด รอแฟนๆ ถ่ายรูปมากที่สุด ทั้งแฟนบอย และแฟนเกิร์ล คงจะเป็นพี่ beenzino ที่เพิ่งออกจากกรม และจะปรากฏตัวบนเวที ในงานนี้เป็นงานแรก
เมื่อเป็นงานเทศกาล แม้จะมีเวทีใหญ่ของศิลปินอยู่ตรงกลาง มีหลุมหน้าเวทีให้แฟนๆ ยืนติดขอบเวที แต่ในงานก็มีทั้งโซนสำหรับการปิคนิก นั่ง นอน เอาขนม อาหารมานั่งกิน ซึ่งเราก็เห็นคนมากมาย ที่เอาเสื่อมาปู นั่งดู ฟังเพลงอยู่ไกลๆ อย่างชิวๆ ซึ่งก็มีทั้งกลุ่มเพื่อน คู่รัก หรือแม้แต่ครอบครัว ที่พาลูกๆ มานั่งชิวฟังเพลงฮิปฮอปกันไป และมีคนที่จริงจัง ถึงขั้นเอาโซฟาเป่าลม มานั่งดูกันเลยด้วย
ทั้งตารางการเล่นยังเริ่มตั้งแต่ บ่ายโมงตรง ลากยาวไปถึง สามทุ่ม ซึ่งในวันแรก แร็ปเปอร์ที่เปิดงานเป็นรุคกี้หน้าใหม่นาม ‘A$HIROO’ ที่เราเองก็ยังงงว่าเขาคือใคร ไม่รู้จักมาก่อน แต่สำหรับสเตจแรกที่มีเวลา 10 นาทีเท่านั้น เขาก็ทำให้เราสนุกได้ กับเพลงที่เราไม่เคยได้ยินมาก่อน
ไฮไลท์วันแรกสำหรับเรา อยู่ที่ช่วงบ่าย ของ nafla และ loopy จาก MKIT RAIN crewที่พ่วงตำแหน่งแชมป์และรองแชมป์คนล่าสุดของ Show Me The Money 777 ซีซั่นล่าสุด และเมื่อได้ดู nafla แร็ปสดๆ แล้ว เราก็เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้แชมป์ เพราะแร็ปรวดๆ 3-4 เพลง ก็ยังเสียงดี มั่นคง ไม่มีตก ไม่มีเหนื่อย แถมยังเข้าขากับ loopy เป็นอย่างดี
ต่อด้วย VMC หรือค่าย Vismajor Company ที่ขนแร็ปเปอร์กันมาเกือบทั้งค่าย มีทั้งสเตจแร็ปเดี่ยว แร็ปคู่ แร็ปกันทั้งค่าย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งช่วงที่เรายกให้ว่าสนุกที่สุดของวันนี้ โดยเฉพาะ jakdu เพลงยอดฮิตของ Deepflow CEO ของค่าย ที่ทำเวทีลุกเป็นไฟ (มีไฟจริงๆ นะ จากเอฟเฟ็กต์บนเวที)
หลังจากนั้น ก็เป็นสเตจของเหล่าแร็ปเปอร์หนุ่มหล่อที่มีทั้ง woo wonjae, colde, penomeco, pH-1 และ DPR Live ซึ่งช่วงนี้ จะเป็นช่วงที่เรายืนอยู่ในหลุมด้วยความเบียดเสียด เพราะเหล่าแฟนเกิร์ลจะพรั่งพรูเข้ามาชมศิลปินคนโปรด แถมยังเริ่มปวดเท้าเพราะยืนมานาน และจากการยืนในหลุมมาเกือบตลอดทั้งวัน เราขอยกตำแหน่งแฟนเกิร์ลที่เบียดแรงที่สุดให้กับ แฟนคลับ ‘DPR Live’ ที่มาจากมาเลเซีย ซึ่งตระโกนแอ๊ว บอกรักศิลปินของเธอเกือบทั้งการแสดง
แต่ความรักก็ทำให้เรามีความสุข เมื่อ pH-1 แร็ปเปอร์คนโปรดของเราขึ้นมาพร้อมเพลง ‘Malibu’ ในอัลบั้มใหม่ เรียกได้ว่าเป็น 40 นาทีที่ทำให้ลืมไปเลยว่ายืนมานานแค่ไหน และต้องเบียดกับใครอยู่
ยืนมาตลอดเกือบทั้งบ่าย เราตัดสินใจออกมาจากหลุม มานั่งตรงโซนปิกนิกกินต็อกโบกี มองเวทีจากตรงนี้แทน เพราะเห็นว่าการแสดงต่อไปของ Crush, Dean และ Zico อีกเกือบ 3 ชั่วโมง เราจะไม่สามารถต้านทานพลังแฟนคลับและความฮอตของพวกเขาได้ ซึ่งแม้จะอยู่ห่างๆ แต่ Crush ที่ปกติเป็นนักร้องR&B กลับโชว์สเตจในวันนี้ได้สนุกมากๆ แม้บางเพลงของเขาจะเป็นเพลงจังหวะช้าๆ แต่เขาก็ดัดแปลง เล่นกับแบนด์จนแต่ละเพลงน่าตื่นเต้น
ต่อด้วยคุณ Dean ชายผู้ได้เวลาในการแสดงเยอะกว่าทุกคนในงานนี้ ที่ไม่ได้มาคนเดียว แต่ยังพาเพื่อนๆ อย่าง นักร้องสาว MISO และ Rad Museum มาร่วมโชว์ด้วย ก่อนจะจบวันนี้ด้วยการแสดงของ Zico ที่ปิดวันแรกไปด้วยเวทีที่ได้เอ็ฟเฟกต์เยอะมากๆ ทั้งแสง สีไฟ สายรุ้ง แต่ Zico เองก็แสดงได้ดี และมันมากๆ เหมือนกัน โดยเฉพาะเพลงฮิตอย่าง Turtle ship และ Okey Dokey จากรายการ Show Me The Money ที่เขาไปเป็นโปรดิวเซอร์ และยังมีอังกอร์แถมให้ในเพลงสุดท้ายกับ Say yes or no
วันที่ 2 เป็นวันที่เราเห็นตารางแล้ว ได้แต่คิดกันว่า วันนี้เราน่าจะต้องยืนในหลุมนานกว่าเมื่อวาน เพราะมีแต่ศิลปินที่เราอยากดู อยากใกล้ชิดและวันนี้ยังมีแฟนบอยเยอะกว่าเมื่อวานมาก เพราะศิลปินในวันนี้ล้วนเป็นขวัญใจชายหนุ่ม เราจึงต้องเขย่งสู้ความสูงกับชายหนุ่มเหล่านั้น เราเริ่มจากการเข้าหลุมไปดู MBA Crew แร็ปเปอร์ที่เรียกได้ว่ารวมคนหล่อที่สุด แถมยังเต้นเก่งที่สุดด้วย
ช่วงที่สนุกและมันมากของวันนี้ คือช่วงเย็น ไปจนถึงค่ำ ตั้งแต่สเตจของซีเนียร์ในวงการอย่าง Paloalto & Huckleberry P, 2 CEO หน้าใหม่ อย่าง Superbee และ Uneducated Kid ที่ต่างเด็กๆ ในค่าย และเพื่อนๆ มาร่วมแจมด้วย รวมไปถึง Changmo ที่เตรียมขึ้นสเตจต่อไปก็ยังมาฟีทด้วย ก่อนที่จะแสดงเพลงของตัวเอง ที่มีทั้งเพลงช้า เพลงเร็ว และเพลงแร็ปที่เขาร้องพร้อมกับการเล่นคีย์บอร์ดไปด้วย
ต่อด้วย 1 ชั่วโมงของ5 แร็ปเปอร์ของค่าย Indigo Music ที่มีแฟนคลับรุ่นเยาว์เยอะติดขอบเวทีเป็นพิเศษ ซึ่งแร็ปเปอร์แต่ละคนขึ้นมาพร้อมเพลงของตัวเอง ในสไตล์ของตัวเอง เช่น Young B ที่มาพร้อมขวดที่แปะยี่ห้อเบียร์ Cass เดินดื่มไปแร็ปไป หรือ Jvcki Wai แร็ปเปอร์สาวคนเดียวของงาน แม้จะมาพร้อมเสียงแหบๆ แต่ก็เรียกเสียงจากหนุ่มได้เป็นพิเศษ ก่อนทั้ง 5 จะมารวมกัน จบด้วยเพลงฮิตของค่ายอย่าง indigo
และแล้วก็มาถึงสเตจของ Bewhy แชมป์ Show Me The Money 5 แร็ปเปอร์เพื่อศาสนา ที่เปิดตัวมาด้วยแร็ปที่แทบจะไม่มีช่องไฟหยุดหายใจ แร็ปไป ฮาเลลูยาไป จนแฟนๆ ต้องตะโกนตอบกลับว่า ‘อาเมน’ ในช่วงนี้ เราถูกเบียดจนเกือบติดขอบเวทีมาก จนสามารถได้รับน้ำที่ Bewhy สาดมาช่วงแร็ป ซึ่งเสมือนเราได้รับน้ำศักดิ์สิทธิ์จากตัวแทนของพระเจ้าแล้ว
ตกกลางคืนอากาศเริ่มเย็น แต่เราไม่หวั่น ตั้งใจรอดูเวทีสุดท้ายของพี่ Beenzino ซึ่งเป็นการกลับมาในรอบ2 ปี หลังจากไปเข้ากรม รับใช้ชาติมา และพี่ก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง เพราะทุกเพลงพี่ยังคงมาตรฐานแร็ปเปอร์ที่ดี เอนเตอร์เทนอย่างสนุก ร้องเหนื่อยก็ขอน้ำ และยังแจกน้ำให้แฟนๆ ด้วย ทั้งยังมีสเตจที่ชวนน้องๆ อย่าง Changmo และชาว Indigo กลับมาแจมด้วยกัน ก่อนจะจบด้วยการจุดพลุปิดงานอย่างยิ่งใหญ่
แม้ว่าจะเป็น 2 วันที่ยืนนาน และเบียดเสียดกับผู้คน แต่ความประทับใจในงานนี้ นอกจากตัวแร็ปเปอร์และการแสดงบนเสตจแล้ว การจัดการงานต่างๆ ของทีมงานยังดีมากๆ ตั้งแต่การมีรถชัตเตอร์บัสรับ-ส่งไปยังรถไฟฟ้าใต้ดิน มีรถสม่ำเสมอคอยรับตลอด ซึ่งขากลับแม้คนจะเยอะ มีความชุลมุน แต่ทีมงานเองก็คอยจัดแถว จัดคิว ให้ขึ้นรถได้อย่างเป็นระเบียนเฉกเช่นนักเรียนเดินขึ้นรถไปทัศนศึกษา
ทั้งยังมีระบบ Lost&Found ในเว็ปไซต์และเพจเฟซบุ๊ก คอยเช็กของหาย ของได้คืน ไปถึงระบบที่ให้ผู้เข้าร่วมงาน ได้รีวิว ส่งความคิดเห็นไปเพื่อพัฒนา และปรับปรุง รวมไปถึงยังมีการรวม setlist เพลงของทุกศิลปินในโชว์ครั้งนี้ด้วย
เรียกได้ว่า งานดี ราคาคุ้ม โชว์สนุกสุดมัน ประทับใจการบริการจัดการของผู้จัด จนกลับมาแล้ว ต้องขอมารีวิวแม้ไม่ได้ค่าโฆษณา พร้อมทำงานเก็บตังค์ เพื่อรอไปงานในปีหน้าอย่างใจจดใจจ่ออีกครั้ง
photo by. Asadawut Boonlitsak