สำหรับวงการมังงะในไทยช่วงปีสองปีที่ผ่านมา ประเด็นร้อนแรงคงเป็นราคาที่สูงขึ้นทุกที การ์ตูนราคาต่ำกว่า 100 บาทกลายเป็นของหายาก ไหนจะการขายแบบกระดาษพิเศษเอย ลิมิตเต็ดอิดิชั่นเอย จนอัพราคาไปสองร้อยสามร้อย ล่าสุดเห็นการ์ตูนดังเรื่องหนึ่งรีปรินท์ใหม่ในราคามหัศจรรย์ 600 กว่าบาทแล้วแทบจะเป็นลม
ถึงกระนั้นเรื่องดีก็ยังมีอยู่ สำนักพิมพ์มีแนวโน้มซื้อลิขสิทธิ์มังงะที่หลากหลายขึ้น หลายเรื่องก็ถือว่าไม่ใช่การ์ตูนกระแสหลัก อาทิ ผลงานสุดปวดตับของ ชูโซะ โอชิมิอย่าง ‘สายเลือดวิปริต’ (Blood on the Tracks) และ ‘การกลับมาของอลิซ’ (Welcome Back Alice), เรื่องราวน่ารักของหนุ่มสาววัยมัธยม ‘ถ้านอนไม่หลับไปนับดาวกันไหม’ (Insomniacs After School) ที่ลายเส้นต่างจากมังงะที่เราคุ้นชิน รวมถึงการ์ตูนชื่อประหลาด Dead Dead Demon’s Dededede Destruction ของ อินิโอะ อาซาโนะ นักเขียนที่ชาวไทยโอดครวญกันมาหลายปีว่าทำไมถึงไม่ค่อยมีแปลไทยงานของเขา
นี่จึงเป็นเวลาเหมาะสมที่เราจะมาทำความรู้จักกับอาซาโนะ แม้หลายเสียงจะพูดตรงกันว่าผลงานของเขามันช่างหดหู่ซึมเศร้า ทำให้รู้สึกราวกับโดนลากลงหลุมดำเลยทีเดียว
อาซาโนะเกิดเมื่อปี ค.ศ.1980 พื้นเพเป็นคนเมืองอิชิโอกะ จังหวัดอิบารากิ เขาเล่าว่าตอนเด็กไม่ชอบเรียนหนังสือ แต่ชอบวาดรูปและคิดว่าอยากทำงานเกี่ยวกับสิ่งนี้ อาซาโนะเริ่มวาดมังงะตั้งแต่ปี ค.ศ.2000 ทว่าผลงานที่ทำให้เขาเริ่มมีชื่อเสียงคือ Solanin (2005-2006) ว่าด้วยความสัมพันธ์ของสาวออฟฟิศกับหนุ่มนักดนตรี เมื่อฝ่ายหลังเสียชีวิต นางเอกก็ตัดสินใจเล่นกีต้าร์ในวงของพระเอกทั้งที่เธอเล่นดนตรีไม่เป็นเลย (Solanin ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 2010 นำแสดงโดย อาโออิ มิยาซากิ)
Solanin เป็นผลงานที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของอาซาโนะได้อย่างครบถ้วน เรื่องราวมักเน้นถึงชีวิตประจำวันอันเรื่อยเปื่อยของหนุ่มสาว พวกเขาเหมือนคนหลงทางและรู้สึกแปลกแยกกับมาตรฐานสังคม นางเอกถึงขั้นพูดว่าการใช้ชีวิตของเธอแต่ละวันเหมือนการกินยาพิษ ส่วนสไตล์การวาด อาซาโนะมักเน้นถึงรายละเอียดยิบย่อย โดยเฉพาะห้องของตัวละครที่ข้าวของแน่นขนัด ซึ่งสามารถบอกถึงคาแรกเตอร์ของพวกเขาได้อย่างดี รวมถึงบ้านเรือนหรือภูมิทัศน์แวดล้อมที่เป็นอีกตัวละครสำคัญ อาซาโนะไม่ปิดบังว่าเขาใช้วิธีการถ่ายรูปจากสถานที่จริงแล้วแปลงเป็นดิจิตอล บางครั้งเขาก็ออกไปถ่ายรูปเป็นร้อยเป็นพันเพื่อนำมาใช้ในผลงาน
จุดเด่นอีกอย่างของอาซาโนะคือการต่อต้านแบบแผนมังงะที่เราคุ้นเคย มองเผินๆ อาจคิดว่า Solanin เป็นเรื่องโรแมนติกว่าด้วยแฟนสาวที่สานต่อความฝันของแฟนหนุ่มผู้จากไป แต่แท้จริงแล้วนางเอกอาจเล่นกีต้าร์เพื่อบำบัดตัวเองและปล่อยวางจากคนรักเสียมากกว่า ส่วนการตายของพระเอกทุกวันนี้ก็ยังเป็นที่ถกเถียงว่าเป็นอุบัติเหตุหรือฆ่าตัวตาย ด้านอาซาโนะเลือกที่จะไม่ฟันธง แต่กลับให้คำตอบสุดเรียลว่า “ทุกวันนี้ผมนึกถึงพระเอก Solanin น้อยลงทุกที นั่นคงเป็นความรู้สึกปกติที่เรามีต่อคนตาย”
ผลงานต่อมาของอาซาโนะคือ Goodnight Punpun (2007-2013) เล่าถึงชีวิตของเด็กชายปุนปุนตั้งแต่ช่วงประถมจนถึงอายุยี่สิบ มันกลายเป็นความ ‘ที่สุด’ หลายด้านในบรรดาผลงานของอาซาโนะ ทั้งยาวที่สุด (13 เล่มจบ), ดาร์คที่สุด รวมไปถึงเซอร์ที่สุด เนื่องจากอาซาโนะตั้งใจทำลายขนบของมังงะให้สิ้นซาก เขาจึงวาดปุนปุนและครอบครัวให้เป็นลายเส้นเขี่ยๆ ที่รูปร่างเหมือนนก ซึ่งช่วยขับเน้นความโดดเดี่ยวและไม่เข้าพวกของปุนปุนได้อย่างดี (ตอนแรกเขาตั้งใจจะวาดทุกตัวละครแบบนั้น แต่บรรณาธิการค้านหัวชนฝา)
Goodnight Punpun เริ่มต้นอย่างคลิเช่ด้วยการที่ปุนปุนตกหลุมรักนักเรียนหญิงคนใหม่ที่เพิ่งย้ายมา หากแต่เมื่อปุนปุนเติบโตขึ้น สถานการณ์ทุกอย่างก็ยิ่งเลวร้ายและโหดร้ายมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายของ Goodnight Punpun ยิ่งลดลง ถึงกระนั้นก็ยังมีนักอ่านอีกฝั่งที่ชอบในความดำมืดนี้ และปฏิเสธไม่ได้ว่างานด้านภาพของเรื่องยังคงสุดยอด โดยเฉพาะภาพหน้าคู่จำนวนมากที่สุดแสนจะทรงพลัง นอกจากนั้นอาซาโนะยังเน้นเรื่องสภาพอากาศเป็นพิเศษ ฤดูร้อนเหนียวเหนอะหนะ หิมะโปรยปรายแสนเย็นชา รวมถึงห่าฝนที่มักจะซัดลงมาในช่วงเหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยน
อาซาโนะทำให้คนอ่านอึ้งได้จนถึงช่วงสุดท้ายของ Goodnight Punpun เมื่ออยู่ดีๆ มังงะก็เลือกไปเล่าด้วยมุมมองของตัวละครอื่นที่ไม่ใช่ปุนปุน หากแต่เป็นตัวละครที่มีชีวิตสามัญที่สุด ราวกับอาซาโนะพยายามจะตั้งคำถามว่าความปกติถือเป็นสิ่งที่เราควรโอบรัดไว้หรือที่จริงมันคือความสงบสุขแสนน่ารังเกียจ แต่สิ่งที่ทุกคนล้วนเห็นตรงกันคือนี่ไม่ใช่ตอนจบแฮปปี้เอนดิ้งแบบดาษดื่นแน่นอน
A Girl on the Shore (2009-2013 / ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี ค.ศ.2021) เป็นผลงานอีกเรื่องที่ทำให้คนอ่านช็อกพอสมควร เรื่องราวของเด็กชายหญิงอายุ 14 ปีที่อาศัยอยู่ในเมืองติดทะเล ลายเซ็นของอาซาโนะยังมาครบ ทั้งห้องอันยุ่งเหยิงของตัวละคร ฉากตัวเอกนอนหายใจทิ้งไปวันๆ บนเตียง ภาพของเมืองที่ผู้คนไม่รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวด้วย รวมถึงฉากพายุฝนถล่มที่ขับเน้นสภาพจิตดิ่งเหวของตัวละคร ทว่าสิ่งอื้อฉาวของ A Girl on the Shore คือฉากเซ็กซ์ของเด็กมัธยมต้นชนิดถึงลูกถึงคน และบางฉากก็ทำเอาผู้อ่านอ้าปากค้าง
อาซาโนะพูดถึง A Girl on the Shore ว่าเดิมทีเขาตั้งใจจะเล่าถึงความรักอันใสซื่อ แต่หาทางพัฒนาเรื่องต่อไม่ได้ เลยตัดสินใจให้มันกลายเป็นความรักแบบ ‘สวนทาง’ ส่วนเรื่องฉากเซ็กซ์นั้นเขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจะวาดมันไม่ได้ ในเมื่อเซ็กซ์คือสิ่งที่ธรรมดาและเป็นธรรมชาติที่สุด เขาเกลียดการแปะป้ายว่าการ์ตูนแอ็คชั่นต้องมีแต่ฉากต่อยตี ส่วนการ์ตูนอีโรติกจะต้องโป๊ตั้งแต่หน้าปก ดังนั้นเขาเลยพยายามใส่ฉากเซ็กซ์ลงไปในการ์ตูนที่เกี่ยวกับความสามัญธรรมดาของชีวิต เพราะนั่นคือสิ่งปกติที่สุดของโลกนี้
มังงะส่วนใหญ่ของอาซาโนะมักพูดถึงคนหนุ่มสาว หากแต่ Downfall (2017) ต่างออกไปตรงที่ตัวเอกเป็นนักเขียนการ์ตูนวัยสี่สิบที่กำลังตีบตัน ขอหย่ากับภรรยา เกลียดเพื่อนร่วมงาน เกลียดสังคม เกลียดทุกคนบนโลกใบนี้ และที่สำคัญคือเกลียดกระทั่งตัวเอง เป็นตัวละครที่ไม่น่าแปลกใจหากคนอ่านจะรู้สึกขยะแขยง เพราะเขาคือผู้ใหญ่กร้านโลก ไม่ใช่คนหนุ่มสาวที่ยังมีโอกาสพลาดพลั้งและเปลี่ยนแปลงตัวเองได้
มีความเป็นไปได้สูงว่าอาซาโนะวาด Downfall จากชีวิตของเขาเอง อย่างที่เขาพูดเสมอว่าผลงานแต่ละเรื่องคือการสะท้อนช่วงวัยของเขา การวาดมังงะคือการหาทางจัดการความสงสัยและความกลัวส่วนตัว ต้องสารภาพว่าหลังจากอ่าน Downfall ผู้เขียนก็อดห่วงสภาพจิตของอาซาโนะไม่ได้ แต่หลังจากไปตามข่าวสารก็ดูเหมือนว่าชีวิตเขาตอนนี้จะมีความสุขดี เมื่อปี ค.ศ.2018 อาซาโนะได้ประกาศแต่งงานกับ อากาเนะ โทริคาอิ ซึ่งเป็นนักเขียนการ์ตูนเช่นกัน ผลงานดังของเธอคือ Sensei’s Pious Lie (2013-2017) เล่าถึงครูมัธยมสาวที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ แต่เก็บงำเรื่องไว้เพราะคิดว่ามันเป็นความผิดที่เธอเกิดมาเป็นผู้หญิง พอได้อ่านงานของโทริคาอิแล้วก็พบว่าเธอมีมุมมองต่อโลกคล้ายกับอาซาโนะ เขาทั้งสองจึงน่าจะเข้าใจซึ่งกันและกัน
ผลงานของอาซาโนะที่ปัจจุบันยังดำเนินอยู่คือ Dead Dead Demon’s Dededede Destruction (2014- ) หลังจากทำอะไรตามใจมาตลอด คราวนี้อาซาโนะมุ่งมั่นวาดการ์ตูนที่สนุกและน่าจะได้รับความนิยมเพื่อกระตุ้นยอดขายของนิตยสารที่มังงะตีพิมพ์ ฉากหลังของเรื่องคือโลกที่ถูกรุกรานจากมนุษย์ต่างดาว มียานอวกาศลอยคว้างอยู่กลางเมือง ทว่าตัวละครหลักกลับเป็นเด็กสาวมัธยมที่ไปโรงเรียนตามปกติ เม้ามอยกันเรื่องผู้ชาย แล้วก็กลับบ้านไปนอน โดยอาซาโนะอธิบายว่าหนังเรื่อง Independence Day (1996) ทำให้เขาเกลียดฮอลลีวู้ด เขาไม่อินกับเหล่าตัวละครที่ต่อสู้กับเอเลี่ยน แต่เชื่อว่าตัวเองคงเป็นแค่ตัวละครประกอบที่ตายไปอย่างไม่มีใครจดจำ
เช่นนั้นแล้วแม้จะมีกลิ่นอายไซไฟ แต่ Dead Dead Demon’s Dededede Destruction ยังคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณในแบบของอาซาโนะ นั่นคือการบอกเล่าถึงความว่างเปล่าเลื่อนลอยของเหล่าวัยรุ่น อย่างที่เขาเคยเขียนไว้ในคำตามเล่ม Solanin ว่า “มันไม่มีอะไรเท่ในตัวละครของผมเลย พวกเขาก็แค่ปุถุชนที่กลืนหายไปกับสังคม แต่บทเรียนสำคัญในชีวิตของคนเราไม่ได้มาจากศิลปินหรือคนดัง หากแต่มาจากคนธรรมดารอบตัวเรา ผมเชื่อแบบนั้น”
รายชื่อผลงานของ อินิโอะ อาซาโนะ ที่มีแปลเป็นภาษาไทยหรืออังกฤษ
– What a Wonderful World! (โลกแสนวิเศษ) (2002-2004) (แปลอังกฤษ: Viz Media / แปลไทย: TKO Comics)
– Nijigahara Holograph (2004-2005) (แปลอังกฤษ: Fantagraphics Books)
– Solanin (2005-2006) (แปลอังกฤษ: Viz Media)
– Goodnight Punpun (2007-2013) (แปลอังกฤษ: Viz Media)
– A Girl on the Shore (เด็กสาวหาดทราย) (2009-2013) (แปลอังกฤษ: Vertical / แปลไทย: ไพเรท)
– Dead Dead Demon’s Dededede Destruction (2014- ) (แปลอังกฤษ: Viz Media / แปลไทย: NED)
– Downfall (2017) (แปลอังกฤษ: Viz Media)
– Solanin: an epilogue (2017) (แปลอังกฤษ: Viz Media)