เห็นประชาชนชาวไทยผู้ชื่นชอบการ์ตูนแสบๆ หลายคนตื่นเต้นดีใจกันเป็นแถบๆ เมื่อรู้ข่าวว่า Joan Cornellà ศิลปินชาวสเปน เจ้าของผลงานแนว Dark Humor ที่โด่งดัง จะมีนิทรรศการเดี่ยวเต็มรูปแบบในกรุงเทพฯ ให้เราได้สัมผัสความแสบๆ มันๆ คันๆ กันอย่างใกล้ชิด จากปกติที่ได้แค่ตามกดไลก์กดแชร์จากบนเฟซบุ๊กเท่านั้น
เชื่อว่ามีหลายคนที่อยากจะรู้จักศิลปินคนนี้ให้มากขึ้นอีกสักหน่อย ต้องเป็นคนแบบไหน มีความคิดยังไงกัน ถึงสามารถสร้างผลงานที่ตลกแบบร้ายกาจได้ขนาดนี้ แถมยิ่งนับวันก็ยิ่งจะคมคายขึ้นเรื่อยๆ แถมก่อนที่จะมาจัดแสดง ยังมี ‘ดราม่า’ เล็กๆ (ที่ Joan โพสต์ภาพการ์ตูนพระเผาตัวเอง แล้วต้องลบไป)
ก่อนที่จะถึงงานนิทรรศการจริง เราเลยชวน Joan Cornellà มาคุยกันสักหน่อย ว่ามุมมองต่อสังคม งานศิลปะ และอารมณ์ขันของศิลปินคนนี้เป็นยังไงบ้าง
The MATTER : อะไรที่เป็นแรงผลักดันให้คุณผลิตงานที่โดดเด่นแบบนี้มาได้อยู่ทุกวี่ทุกวัน โดยเฉพาะประเด็นที่เสียดสีสังคมโลกได้ขนาดนี้
Joan : ตอนได้ทำงานศิลปะผมรู้สึกเหมือนได้เมายาเลย มันเป็นยาที่วิเศษมากจริงๆ อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่ผมได้ยินว่าผู้คนรู้สึกแย่กับโลกใบนี้ ผมก็คิดว่านั่นเป็นสัญญาณว่าคุณกำลัง ‘ตื่นขึ้น’ มาพบความจริง หรือไม่อย่างนั้น คุณก็อาจจะเพิ่งพบว่ามีใครพยายามขายความคิดแย่ๆ ให้กับคุณ
นอกจากนั้น แรงผลักดันของผมยังมาจากไลก์ในเฟซบุ๊กด้วย ถ้ามีไลก์ไม่พอนะ ผมจะไม่ยอมลุกขึ้นจากเตียง ไม่ยอมกินข้าวเลย ทุกวันนี้โชคดีหน่อยที่ผมมีไลก์มากพอที่จะทำให้ยอมลุกไปทำอะไรต่อมิอะไร นอกจากไลก์ปกติแล้ว ก็ยังมีไอ้ไลก์หน้า “ฮ่าฮ่า” นั่นด้วย
สำหรับผู้คนที่รู้สึกว่าการใช้ชีวิตบนโลกใบนี้มันยากลำบากเสียเหลือเกิน ผมมีคำแนะนำข้อหนึ่ง คืออยากให้คุณพยายามรำลึกเสมอว่า คุณน่ะสามารถที่จะ ‘ไลก์’ สิ่งต่างๆ บนเฟซบุ๊กได้นะ คุณสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ คุณอาจจะโพสต์รูปผู้หญิงไร้บ้านบนเพจ แล้วเปิดให้คนมาไลก์ หรือไม่ คุณก็อาจจะไปไลก์รูปที่แม่ของคุณโพสต์ก็ยังได้
I derive a real high from my art. The drugs I buy with sales are exceptional. At times, I’ve heard from people feel down about the world though. This is a sign you are sobering up or you’ve been sold phony stuff.
And then I have Facebook Likes. If there is not enough likes on my posts online, I won’t get out of bed or eat. These days I have enough Likes to get by, and even some of those new, “HaHa”-Face Likes.
For people having difficulty with the world, try to remember we have a great capacity to Like the things around us, on Facebook. You can make a difference, you could post a homeless woman’s picture on your page and open up the doorway for Likes. Or Like something your mother posts.
The MATTER : คุณคิดว่างานของคุณเป็นศิลปะไหม
Joan : ผมอยากให้เรียกงานผมว่าเป็นศิลปะมาสเตอร์พีซที่ควรค่าแก่การยกย่องบนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมไรงั้น
I prefer “Facebook-and-Instagram-celebrated Art Masterpiece”.
The MATTER : คุณรู้สึกยังไงที่คนจำนวนมากไม่พอใจภาพวาดพระเวียดนามของคุณ จนต้องเปลี่ยนภาพโปรโมตในประเทศไทย
Joan : บางที สิ่งที่คุณตั้งใจสื่อสารก็ไปถูกตีความผิดๆ โดยคนที่ไม่มีความคิดที่จะกลั่นกรอง หรือไม่มีเวลาพอที่จะกลั่นกรองพวกตลกร้าย หรือกระทั่งตลกเสียดสี
รูปนั้นมันไวรัลในแบบที่ไปทำร้ายจิตใจคนอื่น ไปทำร้ายความเชื่อคนอื่น ซึ่งนั่นไม่ใช่ความคิดตั้งต้นของผมเลย ชัวร์อยู่แล้วว่าผมไม่ใช่พวกฟาสซิสต์ที่อยากทำร้ายความรู้สึกคนอื่น แต่ว่าถ้าคุณจะคิดอย่างนั้น ผมก็คงจะทำอะไรไม่ได้
ในรูปที่ว่าเนี่ย คุณจะเห็นว่ามีผู้ชายสองคนที่ผิงไฟที่พระจุดเผาตัวเอง (bonzo = พระชาวพุทธ) ซึ่งคุณอาจจะมองว่านี่เป็นภาพที่วิพากษ์วิจารณ์ความไม่อินังขังขอบของเจ้าสองคนนี้ก็ได้ หรืออาจจะมองในทางตรงกันข้าม (กระทั่งมองระหว่างสองขั้วนี้) ก็ได้ ทั้งหมดนี้มันขึ้นอยู่กับว่าคุณมองโลกอย่างไร
โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าการที่รูปหนึ่งๆ เปิดให้ตีความหลากหลายเนี่ยเป็นเรื่องดีนะ เพราะว่าแปลว่ารูปหนึ่งๆ มีความหมายมากมาย เวลาที่ผมเจอกับพวกโลกแคบ ผมก็เฮิร์ทนะ แต่ยังไง ผมก็จะไม่แบนพวกเขาหรอก
Sometimes the wrong message reaches people who have no filter or time to sort through irony or satire. That painting started having a viral spread in a way that was hurting people in a sensitive area: their spirituality. That’s not at all the intended purpose of my work, to me it’s obvious that I’m not a fascist who wants to hurt everyone’s feelings, but I can’t do anything if you think the opposite.
When you look at this picture you can see two guys getting warmed thanks to a bonzo, wich can be understood as a critic against insensibility or the opposite (or something in between) depending on your way of seeing. Personally I think it’s better for the paintings to have a more open a meaning because it let’s you have more interpretations. It hurts my feelings when I have to deal with closed minded people but I wouldn’t ban them.
The MATTER : คุณรับมือกับความไม่ขำของคนอื่นอย่างไร
Joan : ผมก็โกรธเหี้ยๆ พวกมึงเป็นใครที่จะมาวิจารณ์กู? ไม่รู้เหรอว่ากูเป็นใคร? คิดว่าที่วิจารณ์เนี่ยจะทำให้กูรู้สึกแย่เหรอ? ผมโกรธโคตรๆ เลย โกรธอย่างกับลาวาที่ปะทุอยู่ใต้ภูเขาไฟ พวกมึงไม่รู้หรอกว่ากูเคยเจอ Jay-Z นะโว้ย ตั้งครั้งนึงแน่ะ! ไอ้พวกมืดบอด โง่เง่าเต่าตุ่น ที่กระแดะนั่งกินบรันช์ แล้วก็กระแดะใช้วันหยุดอยู่บ้านแล้วเรียกว่าสเตย์เคชั่น พวกมึงต้องตายยยย
I get very fucking angry. Who are these people to criticize me?! Don’t they know who I am? Do you think it bothers me? I am an angry stone. I am the lava beneath the mountain. I met Jay-Z once! Blind half-wits, with their brunches and their “staycations”. They will all burn.
The MATTER : สำหรับคุณ เส้นคั่นระหว่างความตลกเสียดสี และความรุนแรง อยู่ตรงไหน
Joan : ก็เหมือนกะทุกคนมั้ง ผมก็รอก่อน ดูว่าคนที่ฉลาดกว่าผมจะหัวเราะหรือเปล่า แล้วถ้าเขาหัวเราะค่อยหัวเราะตาม ถ้ามันเป็นตลกร้ายอะนะ
Like everyone else I wait to see if smarter people are laughing and then join in if it’s sarcasm.
The MATTER : คุณอธิบายคนอื่นยังไง เวลาที่ถูกถามว่างานของคุณนั้นเกี่ยวกับอะไร หรือเป็นศิลปะแนวไหน
Joan : ผมก็แค่ใช้คำอธิบายแบบว่า ‘มุมมอง’ ‘สังคม’ ‘ความน่าสะพรึง’ หรือ ‘ตลกร้าย’ ไรงี้ พวกเขาก็จะเลิกถามไปเอง
If I include the words “perspective”, “society”, “dread” and “black humor” then I am able to escape from most of these conversations.
The MATTER : คุณคิดยังไงเกี่ยวกับสังคมที่ขาดอารมณ์ขัน
Joan : ขึ้นอยู่กับว่าคุณคิดว่าสังคมที่ขาดอารมณ์ขันเป็นยังไงนะ ถ้าสมมติสังคมที่ขาดอารมณ์ขันหมายความถึงสังคมที่รำคาญง้ายง่าย ตรงไปตรงมาซะเหลือเกิน ถูกต้องทางการเมือง (พีซี) ไปเสียหมด แถมยังเตรียมก่อสงครามอีกต่างหาก ก็แน่แหละที่ผมจะรู้สึกว่าสังคมแบบนี้ไม่ใช่เรื่องดี
ผมว่าการวิพากษ์วิจารณ์ได้เนี่ยเป็นเรื่องที่ดีมากนะ ซึ่งมันก็ดูจะตรงข้ามกับความถูกต้องทางการเมือง และการวิพากษ์วิจารณ์ได้ก็ดูจะสัมพันธ์กับอารมณ์ขันด้วย สำหรับผม อารมณ์ขันคือการต่อสู้กับสถาบัน ต่อสู้กับระบบ เพราะมันทำให้คุณตั้งคำถามกับสิ่งต่างๆ รอบตัวได้
It depends on what do you mean with ‘ill-humoured’ society,but if that means an easily annoyed society, straight, politically correct, prepared to war or something like that, obviously it doesn’t sound good to me. I think that one of the best things you can have is a critical view, which can be the opposite of politically correct and it’s very related to humour. Humour is a subversive act and it lets you question the world
The MATTER : คุณยกย่องผู้นำคนไหนไหม
Joan : ไม่ชอบสักคน จริงๆ ก็ไม่ชอบคำว่า ‘ผู้นำ’ และก็ไม่ชอบคำว่า ‘ยกย่อง’ (admire) ด้วย แค่บอกว่า ‘ชอบ’ เฉยๆ ได้ไหม เพราะว่าถ้าคุณบอกว่าคุณ ‘ยก’ เขาก็แปลว่าคุณกำลังยอมให้ผู้นำคนนั้นขี้บนหัวคุณ
i dont like any world leader. In fact i don’t like the words leader or admire. I would say like instead of admire Because probably while you admire a leader youre letting him/her defecate on your head.
The MATTER : แล้วคุณรู้สึกยังไงกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่บ้าง
Joan : ก็อยากเล่นมุกเรื่องนี้นะ … แต่ทำไม่ได้ เขาเป็นคนโคตรเศร้าเลย โคตรแย่ ถึงโอบาม่าจะมีคุกทรมานนักโทษในกวนตานาโมก็เหอะ แต่เขา (คนใหม่) นี้ก็ยังอันตรายกว่ามากๆ จริงๆ
i’d like to make a joke about this but i can’t. The guy is really sad.it’s terrible. Obama had torture camps in Guantanamo but this guy is really really dangerous.
The MATTER : คุณมีอะไรฝากถึงคนไทย โดยเฉพาะการที่ต้องอยู่ในสังคมที่เอาแน่เอานอนไม่ได้
Joan : เอาล่ะ นี่เป็นทริคเล็กๆ น้อยๆ นะ คุณลองเปลี่ยนชื่อเพื่อนและครอบครัวที่เก็บไว้ในมือถือ เป็นชื่อดาราฮอลลีวู้ดสิ ถ้าคนอื่นๆ เห็นว่าแดนเซล วอชิงตัน ส่งแมสเสจถึงคุณ เขาก็จะรู้ว่าเฮ้ย ไอ้นี่ไม่ธรรมดา คุณอาจจะลองค้นหาตัวเองผ่านเพลงแรกเก้หรืออะไรงี้ก็ได้
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คุณจะได้ประโยชน์มากที่สุด คือการไปร่วมงานของผมในกรุงเทพฯ! 10 มีนาถึง 26 มีนาที่ Future Factory
Here’s a life tip. Change the names of your friends and family as they are stored in your mobile phone to famous Hollywood actors. When you and others see incoming messages from Denzel Washington on your screen, they will know you are important. You can also go through a reggae phase, but the thing that will make you get most of all will be attending my debut exhibition in Bangkok! March 10 to March 26 at Future Factory.
Cover Photo by Adidet Chaiwattanakul