หากพูดถึงตัวละครการ์ตูนที่เป็นหนู เชื่อเหลือเกินว่าหลายคนจะต้องนึกถึง มิกกี้ เมาส์ (Mickey Mouse) ขึ้นมาก่อนเป็นตัวแรกๆ ด้วยเหตุที่ตัวละครดังกล่าว ได้ทำการเปิดตัวในอนิเมชั่นเรื่อง Steamboat Willie ซึ่งออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนปี 1928 ซึ่งนั่นก็หมายความว่า มิกกี้ เมาส์ มีอายุครบ 90 ปี ในปี 2018 นั่นเอง
มิกกี้ เมาส์เป็นผลงานการรังสรรค์ของ วอลต์ ดิสนีย์ (Walt Disney) กับ อับ ไอเวิร์กส (Ub Iwerks) ซึ่งตัวการ์ตูนนี้ ได้รับความนิยมจากคอการ์ตูนทั้งผู้ใหญ่และเด็ก อย่างรวดเร็วและยืนนาน ซึ่งหลังจากสร้างตัวละครตัวแรกของตัวเองให้กับ บริษัท Disney Brothers Cartoon Studio ซึ่งภายหลังได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อ The Walt Disney Company ก็กลายเป็นผู้ผลิตสื่อบันเทิงที่โด่งดังในฮอลลีวูด โดย วอลต์ กับ รอย ดิสนีย์ (Roy Disney) ก็ได้พัฒนาการสร้างผลงานอนิเมชั่นและสร้างตัวละครการ์ตูนอีกหลายตัว ก่อนจะข้ามมาสร้างภาพยนตร์คนแสดงกับรายการอื่นๆ ในเวลาต่อมา
เวลาล่วงเลยผ่านไป วอลต์ ดิสนีย์ กับบริษัทที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย ก็มีเรื่องเล่าว่า วอลต์ ดิสนีย์ ได้เดินทางไปเที่ยวกับลูกสาวของเขาที่ Griffith Park ในวันอาทิตย์ แล้วเขาก็นั่งบนเก้าอี้เฝ้ามองลูกสาวที่นั่งเล่นม้าหมุน เขาก็ได้ไอเดียที่อยากจะสร้างสถานที่ที่คนในครอบครัวสามารถใช้เวลาหาความสุขร่วมกันได้ขึ้นมา แต่ในขณะเดียวกัน ลูกสาวคนโตของวอลต์ก็ได้บอกกับสื่อบางเจ้าว่า การสร้างสวนสนุกนี้เป็นความฝันของผู้เป็นพ่อมาตั้งแต่วัยเยาว์แล้ว
จุดนั้นเองที่ทำให้ วอลต์ ดิสนีย์ คิดที่จะสร้างสวนสนุก Disney Land ที่ปัจจุบัน มีอายุอานามมากกว่า 60 ปี และได้ขยายอาณาเขต จนถึงขั้นที่ขยายไปก่อตั้งในประเทศอื่นๆ และเราคิดว่า เรื่องราวการกำเนิดและขยายตัวของสวนสนุกที่โด่งดังแห่งนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กับตัวละครที่ วอลต์ ดิสนีย์ เคยสร้างขึ้นมาเลย
พื้นที่สร้างดินแดนในฝัน
นอกจากไอเดียที่ปิ๊งขึ้นมาตามที่เรากล่าวไว้ข้างต้นแล้ว วอลต์ ดิสนีย์ ยังสังเกตได้ว่า เมื่อแฟนๆ ภาพยนตร์เดินทางมาที่ฮอลลีวูดเพื่อรับชมเบื้องหลังการทำงาน พวกเขาก็อยากจะได้รับชมอะไรที่บันเทิงด้วยเหมือนกัน กระนั้นการจะสร้างแหล่งบันเทิงขึ้นในโซนคนทำงานแบบจริงจังก็อาจไม่ใช่คำตอบที่ดีเท่าไหร่นัก รวมถึงการที่นักท่องเที่ยวเดินทางมารับชมคนทำงานอนิเมชั่นเขียนงานหลังขดหลังแข็งก็ไม่ถือเป็นสิ่งบันเทิงเช่นกัน
สิ่งที่ วอลต์ ต้องการจึงเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่เพื่อสร้างอุปกรณ์ที่นำพาความบันเทิงได้หลายแบบ ทว่าการขยายฝันของ วอลท์ ได้ถูกชะลอลงด้วยการมาถึงของสงครามโลกครั้งที่สอง
เวลาผ่านไปหลายปี วอลต์ ได้แรงบันดาลใจในการสร้างสวนสนุกอีกครั้งเมื่อเขาได้ไปเยี่ยมบ้านของ วอร์ด คิมบอลล์ (Ward Kimball) และพบว่าที่บ้านของวอร์ด มีรถไฟขนาดเล็กที่ผู้ใหญ่สามารถสนุกกับเด็กๆ ได้ จึงทำให้ วอลต์ แสวงหาที่ดินที่เหมาะเจาะอีกครั้ง และเขาก็ได้ที่ดินในเมืองอนาไฮม์ ของรัฐแคลิฟอร์เนีย พร้อมทั้งทาบทาม เฮิร์บ ไรแมน (Herb Ryman) ศิลปินมือดีในบริษัทมาช่วยกันออกแบบแผนร่างแรกของ Disneyland ในช่วงเดือนกันยายนของปี 1953
เมื่อได้ทั้งแบบ และที่ดินแล้ว วอลต์ ก็ต้องกลับมาหาเงินทุนเพื่อสร้างสวนสนุกต่ออีกครั้งหนึ่ง ทว่าไม่มีธนาคารเจ้าไหนกล้าให้เงินกู้สูงระดับที่วอลต์ต้องการ จนกระทั่งมีนายทุนเจ้าหนึ่งสนใจเข้ามาร่วมงานด้วย นั่นก็คือสถานีโทรทัศน์หน้าใหม่อย่าง ABC ที่ตอนนั้นยังไม่มีรายการดึงดูดคนดูแบบช่องอื่น ABC ได้ตกลงจะให้เงินทุนสนับสนุน แลกกับการที่ตำนานของอนิเมชั่นโลกอย่าง วอลต์ ดิสนีย์ จะต้องมาทำรายการ ‘Disneyland’ ให้กับทางช่อง ซึ่งเรื่องนี้กลายเป็นผลประโยชน์ในเชิง Win-Win เพราะช่อง ABC ได้เรตติ้ง ส่วน วอลต์ได้โฆษณายั่วเย้าคนทั่วประเทศให้เตรียมพบกับสวนสนุกแห่งใหม่ที่จะมีตัวละครดังอย่าง มิกกี้ เมาส์ และผองเพื่อนอยู่ที่นั่น
Disneyland ได้ทำการเปิดตัวในวันที่ 17 กรกฎาคม 1955 ระยะเวลาที่รวดเร็วนี้ มาจากการที่ วอลต์ ดิสนีย์ ออกแบบสวนสนุกนี้ไว้นานหลายปี แถมยังมีการเปิดบริษัทเพิ่มเติมเพื่อดูแลการสร้างสวนสนุกโดยตรง รวมถึงเทคนิคการสร้างอาคารของฝั่งวงการภาพยนตร์ที่ย่นระยะเวลา ก็ทำให้การสร้างสวนสนุกเป็นไปได้อย่างรวดเร็ ซึ่งตัว วอลต์ เคยแซวไว้ในอวกาศของตัวเองว่า ถ้านำทีมสร้างสวนสนุกทีมนี้ไปสร้างกรุงโรม ก็อาจเสร็จได้ในวันเดียว
Disneyland – สวนสนุกแห่งแรกของ วอลต์ ดิสนีย์
แขกกลุ่มแรกที่เดินทางมาถึง Disneyland ในวันเปิดทำการมีมากถึง 28,000 คน ผลพวงที่แขกเยอะขนาดนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากกระแสตอบรับที่ดีของ วอลต์ ดิสนีย์ ผ่านรายการของตัวเอง แต่อีกส่วนก็มาจากการที่มีคนปลอมตั๋วของ Disneyland เยอะมาก ทำให้มีคนใช้บริการเยอะเกินไปจนห้องน้ำกับของกินไม่เพียงพอ มีขยะเกลื่อนทุกพื้นที่ รวมถึงมีเครื่องเล่นหลายอย่างเสียหาย
ความวุ่นวายอีกอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นคือ ในวันเปิดตัวมีการถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์ ที่แม้ว่าจะได้กระแสตอบรับที่ดี แต่ก็มีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้นหลายประการในระหว่างที่ถ่ายทอดสด เช่นการพูดผิดคิว หรือการที่การแสดงออกมาแล้วเกิดภาวะเดดแอร์ถี่ๆ เป็นต้น
แม้วันเปิดตัววันแรกสุดนั้นจะวุ่นวายอลหม่านเป็นอย่างมาก แต่ก็พิสูจน์ได้ว่าแนวคิดของ วอลต์ ดิสนีย์ นั้นถูกต้อง ผู้คนต้องการที่จะสนุกสนานกับครอบครัวและตัวละครที่พวกเขารัก
Disneyland เปิดตัวด้วยเครื่องเล่น 20 ชนิด และแบ่งพื้นที่แต่ละเขตเป็น ‘ธีมของดินแดน’ (Themed Land) ต่างๆ ซึ่งสวนสนุกแห่งนี้เป็นเจ้าแรกที่ทำการแบ่งธีมของสวนสนุกอีกด้วย ในช่วงเปิดตัวระยะแรก Disneyland ได้ทำการเปิดดินแดนไว้ 5 แห่งประกอบด้วย
– Main Street, U.S.A. ทำหน้าที่เป็นถนนที่ต้อนรับผู้คนก่อนจะส่งต่อไปยังพื้นที่ส่วนอื่น
– Fantasyland ดินแดนเวทมนตร์ที่มักมีปราสาทกับเครื่องเล่นสไตล์ชิลๆ ที่เล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่
– Adventureland ดินแดนแห่งการผจญภัย ที่แรกเริ่มเดิมที วอลต์ ดิสนีย์ อยากนำเอาสัตว์ป่าของจริงมาอาศัยอยู่ แต่ถูกคัดค้านว่าสัตว์ป่าจริงนั้นไม่เวิร์ก เลยปรับมาใช้หุ่นยนต์สัตว์และเครื่องเล่นที่มีกลิ่นของการผจญภัยมาติดตั้งไว้แทน
– Frontierland ดินแดนแห่งการบุกเบิก จำลองช่วงการบุกเบิกอเมริกา เดิมทีแล้วไม่มีเครื่องเล่นใดติดตั้งไว้ แต่จะมี เรือ, ลา, ม้า หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่ให้อรรถรสของยุคบุกเบิกในอเมริกา
– Tomorrowland ดินแดนแห่งอนาคต เป้าหมายแรกคือดินแดนที่จำลองภาพอนาคตที่สดใสตามวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้งสวนสนุก แต่เนื่องจากการตีความโลกอนาคตนั้นยากเย็นเกินไปเลยทำให้ในช่วงขวบปีแรกๆ ของ Disneyland ที่อนาไฮม์ เป็นสถานที่ให้บริษัทในยุคสมัยนั้นมาลงนิทรรศการหรือจัดเครื่องเล่นที่สอดคล้องกับสินค้าของบริษัทไป
ดินแดนทั้ง 5 นี้ นอกจาก Tomorrowland ที่บริษัทใหญ่ๆ มาลงเครื่องเล่นหรือจัดนิทรรศการแล้ว ในส่วนอื่นๆ จะพยายามอิงบรรยากาศจากผลงานของ The Walt Disney Company ในช่วงนั้น อย่างเช่น Fantasyland จะมีปราสาทเจ้าหญิงนิทรา (Sleeping Beauty Castle) ที่รูปทรงในสวนสนุกแห่งนี้จะไม่ตรงกับปราสาทในหนัง , Frontierland จะมีเรือจากซีรีส์ทีวีเรื่อง Davy Crockett พร้อมให้ขึ้นไปจำลองบทบาทพระเอกของเรื่อง หรือ Tomorrowland ที่มีนิทรรศการของภาพยนตร์เรื่อง 20,000 Leagues Under The Sea (ใต้ทะเลลึกสองหมื่นโยชน์) เป็นอาทิ
อีกส่วนหนึ่งที่ในช่วงแรกของการเปิดสวนสนุก Disneyland มีให้บริการ แต่ไม่ค่อยเวิร์กเท่าไหร่นัก นั่นก็คือชุดมาสคอตของ มิกกี้ เมาส์, มินนี่ เมาส์ (Minnie Mouse) และตัวละครอื่นๆ ที่หลายๆ คนในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยว หรือ บุคลากรของ Disneyland ต่างก็พูดตรงกันว่า ชุดนั้นเหมือนเอาไว้ใส่ในวันฮาโลวีนมากกว่าจะเป็นตัวละครที่น่ารักสำหรับครอบครัว
กระนั้น สวนสนุกแห่งนี้ก็ได้รับความนิยมอย่างมาก ระดับที่สามารถทำยอดผู้เข้าใช้บริการแตะหนึ่งล้านคนได้ในหนึ่งเดือนของการเปิดให้บริการเท่านั้น และด้วยการพยายามจำลองภาพในหัวของตัว วอลต์ ดิสนีย์ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้จึงมีการพัฒนาสวนสนุกแห่งนี้อยู่เกือบตลอดเวลา ทำให้เทคโนโลยีบางอย่างที่เกิดขึ้นจากการพยายามสร้างสิ่งของในสวนสนุกแห่งนี้ ได้ถูกนำไปใช้ในวงการอื่นๆ เช่นกลุ่มเทคโนโลยี อนิมาโทรนิกส์ (Animatronics) หรือเทคโนโลยีหุ่นยนต์ขยับได้ก้าวหน้าไปอย่างมาก จนกลายเป็นเทรนด์ในวงการภาพยนตร์ก่อนที่ยุคกราฟิกคอมพิวเตอร์จะมาถึง หรือ การพัฒนาเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมหลายอันก็มีจุดเริ่มต้นจากการที่พยายามสร้างเครื่องเล่นรุ่นใหม่ให้ Disneyland เป็นต้น
การปรับปรุงครั้งใหญ่สำหรับ Disneyland ในช่วงยุค 1950s – 1960s ก็คงต้องยกให้การเปิดดินแดนใหม่ที่เรียกว่า New Orleans Square พื้นที่ส่วนขยายแห่งแรกของ Disneyland ที่มีธีมเป็นเมืองท่าชายทะเล ดินแดนส่วนนี้เปิดทำการในวันที่ 24 กรกฎาคม 1966 และในพื้นที่นี้ยังเป็นที่ตั้งเครื่องเล่น The Pirates Of Caribbean ที่เปิดให้บริการในเดือนมีนาคม ปี 1967 และเครื่องเล่นดังกล่าวยังเปิดให้บริการจนถึงทุกวันนี้ แต่ก็มีการอัพเดทรายละเอียดกับหุ่นให้สอดคล้องกับยุคสมัยรวมถึงปรับเรื่องในเครื่องเล่นให้เข้ากับภาพยนตร์ชุดที่เริ่มฉายในปี 2003 ด้วย จากนั้นก็มีการปรับเปลี่ยนเครื่องเล่นกับธีมของแต่ละดินแดนไปตามยุคสมัย
ถึงจะมีอายุผ่านเลยเลข 60 มาหลายปีแล้ว แต่ผู้คนก็ยังเดินทางมาท่องเที่ยวที่นี่อยู่มากเป็นประจำทุกปี อย่างในปี 2017 ที่ผ่านมาทาง Themed Entertainment Association องค์กรสวนสนุกนานาชาติ ระบุว่ามีนักท่องเที่ยวมากถึง 18,300,000 คน เข้ามาเที่ยวในสวนสนุกแห่งนี้
อีกส่วนที่เราควรกล่าวถึงก็คงเป็นส่วนของ Disneyland Hotel ที่ตัว วอลต์ ดิสนีย์ ได้เจรจาให้คู่ค้าของเขามาสร้างโรงแรมในพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อให้ลูกค้าที่เดินทางไกลๆ มาพักผ่อนได้โดยสะดวก แต่โรงแรมดังกล่าวเปิดทำการช้ากว่าตัวสวนสนุกถึงสามเดือน กล่าวกันว่าเรื่องนี้เป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ วอลต์ ดิสนีย์ ได้วางแผนขยายที่จะสร้างอะไรยิ่งใหญ่กว่าสวนสนุกแห่งแรกเอาไว้ในใจ
Walt Disney World – ร่าง (เกือบ) สมบูรณ์ ที่วอลต์ ดิสนีย์ไม่ได้อยู่รับชม
ด้วยความสำเร็จกับปัญหาต่างๆ ของสวนสนุกแห่งแรก ทำให้ วอลต์ ดิสนีย์ อยากสร้างสวนสนุกที่ดีกว่า มีอาคารสถานที่เพียบพร้อมกว่า และทำให้ผู้มาเยือนมีความสุขยิ่งกว่าเก่า เขาจึงวางแผนการขยายสวนสนุกมาตั้งแต่ปี 1959 แล้วค่อยๆ หาที่ดินที่โดนใจ ก่อนจะทำการซื้อที่ดินในรัฐฟลอริด้าแบบลับๆ เพื่อไม่ให้คนรู้ตัวว่าบริษัทของเขากำลังจะสร้างอะไรออกมา จนกระทั่งมีนักข่าวมือดีจับได้ว่าบริษัทลึกลับเหล่านี้เป็นโครงการของ วอลต์ ดิสนีย์ เขาจึงต้องออกแถลงการณ์เกี่ยวกับ ‘Florida Project’ ในปี 1965 ทว่าวอลต์ ดิสนีย์ ได้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดในช่วงปลายปี 1966 ทำให้แผนการพัฒนาพื้นที่หลายอย่างต้องเปลี่ยนแปลงไป โดยมี รอย ดิสนีย์ เข้ามาดูแลต่อ และโครงการนี้ก็เป็นมากกว่าสวนสนุก เพราะพื้นที่ของ Walt Disney World นั้น ถูกวางแผนให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวครบวงจร มีทั้งส่วนของสวนสนุก, โรงแรม และ สนามกอล์ฟ
ตัวของสวนสนุกแห่งที่สองนั้นถูกตั้งชื่อว่า Magic Kingdom ที่นอกจากจะมีดินแดน 5 แห่งเหมือนกับทาง Disneyland ในสวนสนุกแห่งที่สองนี้ ได้ใส่ดินแดนใหม่ Liberty Square ที่เน้นการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของอเมริกาตั้งแต่ยุคสร้างประเทศมาจนถึงช่วงประกาศอิสรภาพ และมีเครื่องเล่นที่ย้อนยุคเล็กๆ อย่าง Haunted Mansion ให้บริการอยู่ ส่วนปราสาทที่ตั้งในสวนสนุกแห่งนี้เป็น ปราสาทซินเดอเรลล่า (Cinderella Castle) และคราวนี้เป็นการจำลองปราสาทให้ตรงกับในภาพยนตร์แล้ว
และในฝั่งของโรงแรมนั้นทาง The Walt Disney Company ก็ได้พัฒนาที่พักไว้สามแบบสามสไตล์ ทั้งโรงแรมแบบทันสมัย, โรงแรมสไตล์รีสอร์ท ที่เปิดให้บริการในวันที่ 1 ตุลาคม ปี 1971 พร้อมๆ กับสวนสนุก Magic Kingdom ก่อนที่จะมีการเปิดโรงแรมแบบค่ายพักแรมตามมาในช่วงปลายปีเดียวกันนั่นเอง
ด้วยความที่มีพื้นที่ใหญ่โตมากกว่าสวนสนุกแห่งแรก ทำให้พื้นที่ของ Walt Disney World สามารถเปิดสวนสนุกเพิ่มเติมได้อีกหลายแห่ง หลายธีม อาทิ
– EPCOT Center สวนสนุกแนวโลกอนาคตที่สวยงามตามความฝันของ วอลต์ ดิสนีย์ ที่ภายในมีทั้งส่วนที่จำลองฉากอนาคตจริงๆ, นิทรรศการของบริษัทต่างๆ และการจำลองของประเทศต่างๆ ในโลก เปิดให้ทำการครั้งแรกในวันที่ 1 ตุลาคม 1982
– Disney-MGM Studios Theme Park หรือ Disney’s Hollywood Studios ในปัจจุบัน เป็นส่วสสวนสนุกที่จำลองพื้นที่ของฮอลลีวูดและมีเครื่องเล่นหวือหวาที่เกี่ยวข้องกับสื่อบันเทิงของแต่ละยุค เปิดให้ทำการครั้งแรกในวันที่ 1 พฤษภาคม 1989
– Disney’s Animal Kingdom สวนสนุกธีมสวนสัตว์ ซึ่งจะมีทั้งส่วนที่สัตว์จริงๆ อาศัยอยู่ กับส่วนที่เป็นสวนสนุกซึ่งจำลองสถานที่กับบรรยากาศจากสื่อบันเทิงที่มีสัตว์ป่าเป็นตัวละครเด่น
– Disney’s Typhoon Lagoon สวนน้ำของ Walt Disney World ที่ใช้ธีมเป็นเกาะฤดูร้อน (ในช่วงหน้าหนาวน้ำในสวนน้ำแห่งนี้จะถูกปรับให้เป็นน้ำอุ่น) เปิดให้บริการครั้งแรกในวันที่ 1 มิถุนายน ปี 1989
– Disney’s Blizzard Beach – สวนน้ำอีกแห่งใน Walt Disney World ที่ใช้ธีมเป็นเกาะฤดูหนาว (น้ำไม่ได้ปรับให้เย็นจัด แต่จะปรับให้อุณหภูมิเท่ากันทั้งปี) เปิดให้บริการ 1 เมษายน ปี 1995
การที่มีพื้นที่เยอะและสวนสนุกหลายหลายรวมตัวกันอยู่ในที่เดียว ทำให้มีการทดลองอะไรใหม่ๆ ในพื้นที่ Walt Disney World อยู่บ่อยครั้ง ยกตัวอย่างเช่นภายใน Magic Kingdom เคยมีการเปิดให้บริการดินแดน Mickey’s Toontown Fair ที่ดินแดนแห่งนี้จำลองเมือง Toontown จากภาพยนตร์เรื่อง Who Framed Roger Rabbit แต่ด้วยปัญหาเรื่องสิทธิ์การใช้งานตัวละครกับการที่พื้นที่ไม่ได้รับความนิยมนัก ทำให้มีการปิดพื้นที่ส่วนนี้เพื่อขยายพื้นที่ให้เครื่องเล่นแบบอื่นไป เป็นต้น
และด้วยความมากมายหลายวาไรตี้นี้เองที่ทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่นี้เป็นจำนวนมากซึ่งทาง Themed Entertainment Association องค์กรสวนสนุกนานาชาติได้เคยรวบรวมตัวเลขผู้เข้าชมในพื้นที่สวนสนุกหลักๆ 4 แห่ง (Magic Kingdom, EPCOT, Disney’s Hollywood Studios, Disney’s Animal Kingdom) ในปี 2017 นั้นมียอดสูงถึง 55,872,000 คน
แต่ตอนนี้ในอเมริกามีสวนสนุกของ Disney ครองพื้นที่แล้วถึงสองแห่ง สิ่งที่พวกเขาจะทำต่อไป จะมีอะไรดีไปกว่าการออกไปสู่โลกกว้างเพื่อหาลูกค้าใหม่ๆ ล่ะ?
Tokyo Disneyland – รุ่งเรืองในแดนอาทิตย์อุทัย
น่าแปลกใจเล็กๆ ที่การพยายามก้าวเข้าสู่โลกกว้างนั้น มาจากประเทศญี่ปุ่น และคนที่ติดต่อเพื่อจะสร้าง Disneyland ในญี่ปุ่นเจ้าแรกก็ไม่ใช่เจ้าเดียวกันกับที่เปิดให้บริการอยู่ในตอนนี้ด้วย ชาวญี่ปุ่นคนแรกที่พยายามติดต่อ Disneyland คือ มัตสึโอะ คุนิโซะ (Matsuo Kunizo) ประธานบริษัทของ Matsuo Entertainment Company ได้ไปเที่ยว Disneyland แล้วติดต่อ วอลท์ ดิสนีย์ เพื่อสร้างสวนสนุกในญี่ปุ่น และ วอลท์ ดิสนีย์ ก็ตกลงในการสร้างนี้แถมยังช่วยวางแผนการสร้างสวนสนุกในจังหวัดนาระ (Nara) อีกด้วย
ทว่า ในช่วงที่สวนสนุกใกล้จะสร้างเสร็จ กลับมีปัญหาในด้านลิขสิทธิ์ตัวละครขึ้นทำให้ วอลต์ ดิสนีย์ ถอนตัวจากโปรเจกต์ สวนสนุกในจังหวัดนาระจึงเปลี่ยนแผนงานแล้วเปิดตัวในชื่อ Nara Dreamland ที่ภายหลังโลกอินเทอร์เน็ตจะคุ้นเคยในฐานะสวนสนุกร้างที่มีบรรยากาศสยองขวัญ
แต่ก็ใช่ว่าชาวญี่ปุ่นจะถอดใจไปเลย เพราะในปี 1979 บริษัท Oriental Land Company จากญี่ปุ่นได้ทำการติดต่อไปทาง The Walt Disney Company ในการรวมมือกันสร้างสวนสนุก Disneyland แห่งใหม่ ความแปลกจากปกติของสวนสนุกแห่งนี้ก็คือ Tokyo Disneyland เป็นสวนสุนก Disneyland แห่งแรกที่ทาง The Walt Disney Company ไม่ใช่เจ้าของโดยตรง แต่พวกเขายังได้รับค่าสิทธิ์ในการใช้งานตัวละครรวมถึงว่าทางบริษัทแม่ยังมีสิทธิ์ในการออกแบบปรับปรุงสวนสนุกอยู่
ด้วยเหตุนี้ Tokyo Disney Resort จึงถูกสร้างขึ้นโดยยึดเอา Walt Disney World เป็นแม่แบบ ซึ่งภายนอกเป็นโรงแรมที่แต่งธีมให้เข้ากับตัวละครของดิสนีย์ ส่วนพื้นที่สวนสนุก Tokyo Disneyland ก็มีปราสาทเป็นปราสาทซินเดอเรลล่า (Cinderella Castle) ที่ตกแต่งสีให้สมเป็นปราสาทมากกว่าจะทำสีสันให้เป็นการ์ตูนแบบในอเมริกา
ส่วนดินแดนต่างๆ ที่สร้างขึ้นเมื่อครั้งที่สวนสนุกนี้เปิดตัว มีทั้งหมด 7 แห่ง ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนชื่อบางพื้นที่ให้เป็น ‘อเมริกันชน’ น้อยลง ประกอบไปด้วย World Bazaar ที่ทำหน้าที่เป็นทางเข้าไปดินแดนอื่นๆ, Adventureland, Westernland ที่ปรับชื่อจาก Frontierland ของอเมริกา, Critter Country มีธีมเป็นป่ากับสรรพสัตว์จากการ์ตูนดัง ซึ่งตั้งตามแบบของดินแดนเดียวกันที่ใน Disneyland (ดินแดนนี้เปิดทำการใน Disneyland ครั้งแรก ปี1972), Fantasyland, Toontown และ Tomorrowland
Tokyo Disney Resort กับ Tokyo Disneyland เปิดทำการวันแรกเมื่อวันที่ 15 เมษายน ปี 1983 และถึงจะใช้ชื่อ ‘โตเกียว’ สถานที่ตั้งของสวนสนุกแห่งนี้ จริงๆ แล้วอยู่ในจังหวัดจิบะ (ลักษณะเดียวกับ คอนเสิร์ต Live In Bangkok ที่จัดในเมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรีอะไรแบบนั้น) ภายในสวนสนุกเปิดตัวพร้อมกับเครื่องเล่นที่ได้รับความนิยมในอเมริกาอย่าง Big Thunder Mountain, Haunted Mansion, Pirates Of The Caribbean, Space Mountain เป็นอาทิ
กล่าวกันว่า Tokyo Disney Resort กับ Tokyo Disneyland ได้รับความนิยมกับรายได้อย่างมากระดับที่ บริษัท Oriental Land Company สามารถชำระหนี้เงินกู้เพื่อสร้างสวนสนุกที่มีมูลค่าสูงได้ในช่วงเวลาเพียงแค่ 3 ปีหลังเปิดทำการเท่านั้น ทำให้นักประวัติศาสตร์ Disneyland บางคนถึงกับเคยแซวแบบประชดประชันว่า Disneyland ที่ทำกำไรได้มากที่สุด กลับไม่ใช่ของบริษัทผู้สร้างเอง
และสวนสนุกธีมตัวละครจาก The Walt Disney Company ก็ไม่หยุดแค่นั้น ทาง บริษัท Oriental Land Company ได้ลงทุนเพื่อสร้างส่วนขยายเพิ่มเติม และเป็นการหยิบเอาแผนงานของบริษัทในอเมริกาที่เคยถูกวางไว้แต่ไม่สามารถทำได้ในอดีต มารังสวรรค์ให้กลายเป็นจริงในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสวนสนุกส่วนที่กล่าวถึงนี้ก็คือ Tokyo Disney Sea สวนสนุกที่โฟกัสเรื่องราวของเมืองที่อยู่ริมฝั่งทะเลทั้งหลาย ที่เปิดทำการครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 กันยายน ปี 2017
ตามสถิติของ Themed Entertainment Association องค์กรสวนสนุกนานาชาติ ได้ระบุว่าสวนสนุกทั้งสองแห่งในญี่ปุ่นนี้ มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากถึง 30,100,000 คนในปี 2017
Euro Disneyland / Disneyland Paris – ร่อแร่ก่อนฟื้นตัวในแดนน้ำหอม
ความจริงแล้วทาง The Walt Disney Company พยายามขยายตัวไปเปิดในฝั่งยุโรปมาตั้งแต่ช่วงปี 1970s แต่กว่าที่จะเริ่มอย่างจริงจังก็ก้าวล่วงเข้าในช่วงปี 1985 ที่ตอนนั้น The Walt Disney Company อยู่ภายใต้การนำทัพของ CEO ที่ชื่อ ไมเคิล ไอสเนอร์ (Michael Eisner) ที่พยายามขยายสายงานสวนสนุกให้มากขึ้นกว่าเดิม
การเร่งรีบผลักดันนี้เองที่กลายเป็นก้าวแรกของปัญหาที่ตามมา แม้ว่าพวกเขาจะได้พื้นที่ดีๆ เหมาะสมกับการสร้างสวนสนุกในประเทศฝรั่งเศสและทางรัฐบาลท้องถิ่นก็ตอบรับดีที่มีบริษัทต่างชาติมาลงทุน แต่การตั้งชื่อขั้นต้นเป็น Euro Disney ก็เป็นการกระทบจิตใจคนฝรั่งเศสส่วนหนึ่ง และเมื่อลงรายละเอียดในการสร้างไปเรื่อยๆ ก็มีกฎกติกาหลายอย่างที่คนฝรั่งเศสมองว่าเป็นการพยายามเอาทุนนิยมแนวอเมริกามากลบวัฒนธรรมท้องถิ่น อาทิ การออกกฎให้คนที่จะสมัครเป็น Cast Members (พนักงานของ Euro Disney) จะต้องไว้ทรงผม ทรงหนวดตามข้อบังคับที่เข้มงวด (ซึ่งข้อบังคับนี้ยังผิดกฎหมายของประเทศฝรั่งเศสด้วย)
สำหรับท่านที่ติดตามข่าวการเมืองบ่อยๆ น่าจะพอทราบว่าประเทศฝรั่งเศสถือว่าเป็น ‘เจ้าพ่อแห่งการประท้วง’ เมื่อมีอะไรขัดใจในการสร้าง Euro Disney ขนาดนี้ เราจึงมีโอกาสได้เห็นกลุ่มคนที่ไม่พอใจไปประท้วง ไมเคิล ไอสเนอร์ ที่มักจะออกหน้าสื่อในโครงการสำคัญๆ อยู่ ระดับที่เคยมีการปาไข่ปามะเขือเทศใส่ CEO คนดังกล่าวระหว่างการถ่ายทอดสดมาแล้ว
ถ้าไม่นับดราม่าจากผู้คนแล้ว ก่อนหน้าที่สวนสนุกของ The Walt Disney Company จะมาเปิด ก็มีสวนสนุกอีกหลายแห่งที่ปิดตัวไปก่อนแล้ว ซึ่งนี่อาจเป็นผลพวงของการรีบบุกตลาดยุโรปจนไม่ได้เช็คสภาพตลาดของฝรั่งเศสในยุคนั้น
แต่แล้ว Euro Disney ก็เปิดทำการในวันที่ 12 เมษายน ปี 1992 ที่น่าแปลกใจเล็กๆ ก็คือ หากเทียบกับการเปิดทำการของสวนสนุกในเครือ The Walt Disney Company ประเทศอื่นๆ Euro Disney กลับมีคนมาเข้าชมอยู่ประมาณ 25,000 คน หรือราวๆ ครึ่งหนึ่งที่ทางทีมงานสวนสนุกแห่งนี้กะไว้ ปัญหานี้ส่วนหนึ่งมาจากการประท้วงของพนักงานรถไฟเส้นที่เดินทางมาจากกรุงปารีสไปยัง Euro Disney ที่มองว่างานเร่งเร้าพวกเขามากไป (…ครับ เจ้าพ่อประท้วง ) แต่อีกส่วนหนึ่งก็มาจากการโปรโมตผ่านสื่อในฝรั่งเศสระบุว่า วันแรกคนจะเยอะ เลยทำให้คนส่วนมากตัดสินใจไม่ไปวันแรกแบบจริงจัง
แม้ว่าดราม่าจะเยอะ กระนั้นตัวสวนสนุก Euro Disneyland Park นั้นกลับถูกออกแบบมารองรับคนฝรั่งเศสเสียมาก ด้วยเหตุที่ว่า ผลงานของ วอลต์ ดิสนีย์ ก่อนหน้านี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก จูลส์ เวิร์น (Jules Verne) กับ เอช จี เวลส์ (HG Wells) นักเขียนนิยายชาวยุโรปอยู่แล้ว จึงมีการเปิดพื้นที่ Discoveryland ที่ตกแต่งเป็นธีมตามนักคิด นักสำรวจ หรือ ศิลปินชาวยุโรป ส่วนดินแดนอื่นๆ ที่เปิดตัวในวันทำการวันแรกประกอบด้วย Main Street, U.S.A. (ที่ไม่ยอมปรับชื่อแบบฝั่งของญี่ปุ่น, Frontierland, Adventureland และ Fantasyland ที่มี ปราสาทเจ้าหญิงนิทรา (Le Château De La Belle Au Bois Dormant) ที่เป็นการถอดจากภาพยนตร์อนิเมชั่นแบบเป๊ะๆ ไม่ว่าจะสีสัน ตัวปราสาท หรือแม้แต่ต้นไม้เหลี่ยมบล็อกที่รายล้อมก็ตามที
ถึงข้างในจะตื่นตา แต่ด้วยปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนหน้ากับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้ Euro Disney หวิดจะเจ๊ง และช่วงเวลาแค่ 2 ปี ดินแดนแห่งความสุขบนทวีปยุโรปแห่งนี้ก็ติดหนี้ไปแล้วมากกว่า 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ระดับที่ต้องยอมขายหุ้นของ Euro Disney ส่วนหนึ่งให้นายทุนคนอื่น และการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้มีแค่ฝั่งผู้บริหารระดับบนของ The Walt Disney Company เท่านั้น กล่าวกันว่า Imagineer หรือกลุ่มวิศวกรที่ออกแบบเครื่องเล่นของ The Walt Disney Company ก็พยายามหาทางออกให้กับสวนสนุกด้วย ซึ่งแผนการของพวกเขาคือการนำเอาเครื่องเล่นที่คนคุ้นเคย มาปรับแต่งใส่ภาพลักษณ์ที่ไม่ซ้ำใคร
และสิ่งที่เหล่า Imagineer สร้างขึ้นให้กับ Euro Disney ในปี 1995 ก็คือ Space Mountain: De la Terre à la Lune เครื่องเล่นที่โดดเด่นตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอกที่ถูกตกแต่งให้เหมือนกับงานศิลปะยุโรป แต่ยังคงเก็บความสนุกของเครื่องเล่นต้นฉบับเอาไว้อย่างครบครัน และมีจุดเด่นกว่าสวนสนุก Disneyland แห่งอื่น ด้วยการทำฉากทะยานขึ้นให้กลายเป็นเหมือนการยิงปืนใหญ่ไปดวงจันทร์ตามที่เกิดขึ้นในนิยายของ จูลส์ เวิร์น
ความพยายามของหลายภาคส่วนในปี 1995 ประสบความสำเร็จ เมื่อมีการประกาศว่าหลังจากเครื่องเล่นใหม่เปิดได้ไม่นานนัก Euro Disney ก็ทำกำไรเป็นครั้งแรกในรอบหลายๆ ปี และหลายๆ คนน่าจะให้อภัยสวนสนุกแห่งนี้บ้างแล้ว ทำให้ยอดรายได้กระเตื้องขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะเวลา และสวนสนุกกับโรงแรมในพื้นที่ก็ค่อยๆ ฟื้นสภาพ ปรับตัวไปตามยุคสมัย อย่างเช่นตอนนี้ที่ตัว Space Mountain: De la Terre à la Lune ก็ถูกปรับให้กลายเป็น Star Wars Hyperspace Mountain เป็นอาทิ
แต่ก็เหมือนว่าชื่อเก่าที่เคยเสียหายนั้นยังหลอกหลอนอยู่ จึงมีการพยายามปรับเปลี่ยนชื่อในส่วนของโรงแรมอยู่หลายครั้ง นับตั้งแต่ การเปลี่ยนเป็น Euro Disney Resort ในช่วงปี 1994 ก่อนจะปรับมาใช้ชื่อ Disneyland Paris ในช่วงปี 1994-2002 แล้วก็ปรับมาใช้ชื่อ Disneyland Resort Paris ในช่วงปี 2002-2009 ก่อนจะปรับมาเป็น Disneyland Paris อีกครั้งตั้งแต่ปี 2009 จนถึงทุกวันนี้
ส่วนชื่อของส่วนสนุกนั้นมีการปรับจาก Euro Disneyland Park เหลือแค่ Disneyland Park และปัจจุบันในส่วนสวนสนุกก็น่าจะปลอดภัยจากการเจ๊งในอดีตแล้วเพราะ Themed Entertainment Association ระบุว่า ปี 2017 ที่ผ่านมา สวนสนุกแห่งนี้มีผู้เข้าชมมากถึง 9,600,000 คน
Hong Kong Disneyland – งานเล็กที่แอบเป็นงานไม่ง่าย
หลังจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในการเปิด Euro Disney รวมถึงการพยายามขยายกิจการในส่วนอื่นๆ จนทำให้เกิดปัญหาทางการเงินใน The Walt Disney Company ไประยะหนึ่ง แผนการขยายสวนสนุกไปในประเทศอื่นๆ จึงต้องรอบคอบ และเน้นความปลอดภัยต่อการลงทุนมากขึ้น แล้วก็เป็นจังหวะดีในปี 1998 ที่ทาง The Walt Disney Company ได้ทำการเจรจากับรัฐบาลท้องถิ่นของเกาะฮ่องกง และร่วมกันก่อตั้งบริษัท Hong Kong International Theme Parks ขึ้นในปี 1999 และเริ่มพัฒนาพื้นที่ซึ่งเคยเป็นท่าเรือบนเกาะลันเตา (Lantau Island) ในการสร้าง Disneyland แห่งใหม่ ก่อนจะได้สร้างสวนสนุกจริงในปี 2003
นอกที่ The Walt Disney Company จะร่วมลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงในการเจ๊งกระทันหัน คราวนี้พวกเขาปรับทุกอย่างให้เข้ากับคนจีนนับตั้งแต่งานแถลงข่าวเปิดตัว ร้านอาหารที่มีอาหารจีนจำหน่าย แม้แต่การสร้างพื้นที่ต่างๆ ของสวนสนุกตามหลักฮวงจุ้ยที่คนจีนเชื่อถืออีกต่างหาก
Hong Kong Disneyland เปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 12 กันยายน ปี 2006 พื้นที่ต่างๆ ในสวนสนุกก็ยกเอาดินแดนตามพื้นฐานของฝั่ง Disneyland ในอเมริกา ทั้ง Main Street, U.S.A., Adventureland, Tomorrowland และ Fantasyland ของที่นี่ก็มี ปราสาทเจ้าหญิงนิทรา (Sleeping Beauty Castle) ที่ใช้สีในลักษณะสมจริงแบบญี่ปุ่น และตัวปราสาทถูกดีไซน์ให้รองรับการแสดงพลุไฟมาตั้งแต่เริ่ม แตกต่างจากปราสาทใน Disneyland หลายแห่งที่ไม่ได้ออกแบบเผื่อเล่นกับแสงไฟมาตั้งแต่เริ่ม
ถึงการสร้างจะเป็นไปด้วยดี งบดุลก็ไม่มีขาดตก แต่ Hongkong Disneyland ประสบปัญหาใหญ่อย่างหนึ่ง อันเป็นผลพวงจากการพยายามลดความเสี่ยง สิ่งนั้นก็คือ ณ ตอนที่เปิดตัว ไม่มีเครื่องเล่นหรือจุดเด่นของตัวเองแบบที่ Disneyland อื่นๆ มี ข้อเสียเล็กๆ นี้เองทำให้คนท้องถิ่นเกิดภาพจำอยู่หลายปีว่า สวนสนุกในบ้านเกิดของเขานั้นเป็นแค่สวนขนาดเล็กจิ๋วแล้วก็กระจอกกว่าที่อื่น แต่สวนสนุกก็ยังได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวหลายๆ ประเทศ ที่เดินทางไปเกาะฮ่องกงสะดวกกว่าประเทศอื่น
ปัญหานี้ค่อยๆ ถูกแก้ไขไปตามกาลเวลา โดยเฉพาะในช่วงปี 2009 ขึ้นไป หลังจากที่ทางรัฐบาลท้องถิ่นของเกาะฮ่องกงได้อนุมัติในการสร้างส่วนขยายของ Disneyland เพิ่มเติม จนกระทั่งมีการเปิด Toy Story Land ในปี 2011, Grizzly Gulch ในปี 2012 และ Mystic Point ที่ถือว่าเป็นดินแดนพิเศษที่เล่าเรื่องราวลี้ลับ และเป็นดินแดนที่ ณ ตอนนี้ก็ยังเปิดให้บริการเฉพาะในเกาะฮ่องกงเท่านั้น
นอกจากส่วนขยายที่กล่าวถึงแล้วในขั้นต้น Hong Kong Disneyland ก็ยังมีแผนจะขยายพื้นที่ในอนาคต ซึ่งส่วนที่ประกาศมาตอนนี้คือ Frozen Land กับ Marvel Land ที่เป็นการปรับเปลี่ยนดินแดนให้สอดคล้องกับภาพยนตร์ดังของทางบริษัทแม่ตามรอยสวนสนุกรุ่นพี่นั่นเอง
ปี 2017 ที่ผ่านมา Hong Kong Disneyland ทำยอดผู้เข้าชมได้สูงถึง 6,200,00 คน ตามรายงานของ Themed Entertainment Association
เมื่องานในพื้นที่เล็กผ่านไปด้วยดี คราวนี้ The Walt Disney Company ก็มั่นใจพอจะรับงานใหญ่อีกครั้ง ที่ใหญ่จนอาจหาญไปบุกถึงแผ่นดินใหญ่เลยทีเดียวเชียว
Shanghai Disneyland Resort – ตะลุยแผ่นดินใหญ่แดนมังกร
อีกสิ่งที่ทาง The Walt Disney Company ได้รับจากการเดินหมากช้าแต่มั่นคงในการสร้างสวนสนุกบนเกาะฮ่องกง ก็คือการได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลจีนมากขึ้น จนสุดท้ายทาง The Walt Disney Company ก็สามารถเจรจาเปิดดีลสร้างสวนสนุกกับทางรีสอร์ตได้ในปี 2009 ก่อนที่จะมีการประกาศออกมาในปี 2010 ว่าทาง The Walt Disney Company จะร่วมมือกับกลุ่มทุนที่มีรัฐบาลจีนร่วมอยู่ด้วยอย่าง Shanghai Shendi Group ในการสร้าง Disneyland แห่งใหม่ในพื้นที่เมืองเซี่ยงไฮ้
ในดีลครั้งนี้ทาง Shanghai Shendi Group จะทำการดูแลบริหารส่วนโรงแรมกับรีสอร์ท ส่วนทาง The Walt Disney Company จะเป็นคนดูแลบริหารในส่วนของสวนสนุก ซึ่งคล้ายๆ กับที่ Hong Kong Disneyland แต่ด้วยพื้นที่ที่กว้างใหญ่ราว 4 ตารางกิโลเมตร การดีไซน์สวนสนุกแห่งนี้จึงจัดหนักจัดเต็มและหวือหวามากกว่า Disneyland ในประเทศอื่นๆ
ตัวดินแดนที่ยกมาใส่ที่นี่ในวันเปิดตัวมีมากถึง 5+1 ดินแดน ประกอบด้วย Mickey Avenue (เป็นการเปลี่ยนชื่อจาก Main Street, U.S.A. แต่ทำหน้าที่แบบเดียวกัน), Gardens Of Imagination ส่วนนี้จะเรียกว่าดินแดนก็ไม่ถูกนักเพราะจริงๆ คือส่วนเชื่อมต่อของดินแดนต่างๆ แค่เพียงใน Shanghai Disneyland Park นั้นพื้นที่ตรงนี้มีความใหญ่โตถึง 4 เอเคอร์ (หรือราวๆ 10 ไร่), Treasure Cove พื้นที่จำลองชายฝั่งทะเลแคริบเบียน เพื่อให้เข้ากับเครื่องเล่น Pirates Of The Caribbean ที่ดีไซน์เรื่องใหม่สำหรับสวนสนุกแห่งนี้โดยเฉพาะ, Adventure Isle (เป็นการเปลี่ยนชื่อ Adventureland แต่ทำหน้าที่แบบเดียวกัน), Tomorrowland
และ Fantasy Land ที่มาพร้อมกับปราสาท Enchanted Storybook Castle ปราสาทเฉพาะกิจของสวนสนุกแห่งนี้ ซึ่งตีความว่าเป็นปราสาทที่เหล่าเจ้าหญิงของดิสนีย์ (Disney Princesses) ทุกคนมาอาศัยอยู่รวมกัน ตัวปราสาทผสมผสานสไตล์งานของดิสนีย์กับศิลปะจีนร่วมสมัย พื้นที่รอบๆ มีป้ายสิบสองนักษัตรจีน ที่ได้ตัวละครสัตว์ของดิสนีย์มาเป็นนายแบบ/นางแบบให้ และความใหญ่โตของปราสาทก็ทำให้มีเครื่องเล่นซุกซ่อนอยู่รอบๆ ตัวปราสาทอีกด้วย
Shanghai Disneyland Park เปิดทำการครั้งแรกในวันที่ 16 มิถุนายนปี 2016 และมีแผนการอัพเดทพื้นที่ของสวนสนุกเพิ่มในอนาคต อย่างเมื่อวันที่ 26 เมษายน ปี 2018 ที่ผ่านมา ก็ได้เปิดทำการดินแดน Toy Story Land ส่วนจำนวนผู้เข้าชมนั้น ก็สมกับเป็นประเทศที่ประชากรเยอะที่สุดในโลก เพราะปี 2017 ที่ผ่านมาทาง Themed Entertainment Association ระบุว่ามีคนเข้าชมสวนสนุกแห่งนี้มากกว่า 11,000,000 คน
ที่เราบอกเล่าไปแล้วก็คือเรื่องราวโดยคร่าวของการสร้างสวนสนุก Disneyland แต่ละแห่ง ความจริงแล้วยังมีเรื่องราวอีกมาก ที่มีทั้งความรุ่งเรือง และความล้มเหลว แต่หลายๆ อย่างก็พิสูจน์ให้เห็นว่าทีมงาน The Walt Disney Company ก็พยายามปรับสวนสนุก ทั้งตัว Disneyland อันเป็นสวนสนุกหลัก หรือสวนสนุกยิบย่อยแบบอื่นๆ ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนแต่ละยุคอยู่เรื่อยๆ อย่างในช่วงปี 2010s ที่หนังของ Marvel Studios ได้รับความนิยมไปทั่วโลกนั้น ทาง Disneyland หลายๆ แห่งก็เริ่มปรับธีมสวนสนุกให้สอดคล้องกับเทรนด์ดังกล่าว และพวกเขาคงพยายามปรับตัวเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ เพื่อให้สอดคล้องกับคำพูดของ วอลต์ ดิสนีย์ ที่ครั้งหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า
‘ดิสนีย์แลนด์จะไม่มีวันเสร็จสมบูรณ์ มันจะเติบโตต่อไป ตราบเท่าที่ยังมีจินตนาการหลงเหลืออยู่บนโลกนี้’ (Disneyland will never be completed. It willcontinue to grow as long as there is imagination left in the world.)
อ้างอิงข้อมูลจาก
Youtube Channel – Alex the Historian
Youtube Channel – Defunctland
Youtube Channel – Disney Dan
Youtube Channel – Offland Disney
Youtube Channel – ReviewTyme
Themed Entertainment Association