‘ตุ๊กตา’ ถ้าหากอิงความหมายตามพจนานุกรมของราชบัณฑิตยสถานจะได้ใจความว่า “ของเล่นของเด็กซึ่งทำเป็นรูปคนหรือสัตว์ เป็นต้น มักมีขนาดเล็กกว่าตัวจริง ลักษณนามว่า ตัว” ของเล่นประเภทนี้ถือว่าเป็นของเล่นที่มีอยู่ในวัฒนธรรมของมนุษย์มาตั้งแต่อดีต และส่งบทบาทกับวัยเด็กของมนุษย์มาอย่างนาวนาน และหน้าที่ของ ตุ๊กตา ก็ไม่ได้จบแค่การเป็นของเล่นเท่านั้น ตุ๊กตา ยังถือว่าเป็นงานศิลปะ, งานสะสมมีมูลค่า, เป็นบันทึกประวัติศาสตร์แบบหนึ่ง เพราะตุ๊กตาในยุคต่างๆ มักจะพัฒนาออกมาให้สอดคล้องกับค่านิยมของยุคนั้น
และในหลายๆ ครั้ง ด้วยความที่ตุ๊กตาเป็นการจำลอง ‘สิ่งมีชีวิต’ ทำให้ในการสร้างสื่อบันเทิง โดยเฉพาะในกลุ่มภาพยนตร์ มักจะจับเอาประเด็นว่า ตุ๊กตานั้นมีชีวิตของตัวเอง ก่อนจะกลายเป็นตัวเอกของภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่อง และก็มีตุ๊กตาหลายตัวที่โดดเด่นจนกลายเป็นตัวละครหลักของภาพยนตร์
แต่ก่อนจะพูดถึงตัวละคร เราขอออกตัวสักหน่อยว่า ภาพยนตร์ที่เราเอามากล่าวถึง ณ ที่นี้เป็นตัวภาพยนตร์ที่ออกฉายในโรงภาพยนตร์เป็นหลัก ส่วนภาพยนตร์ที่ลงแผ่นหรือลงฉายออนไลน์โดยตรงอย่าง Barbie จะไม่ถูกกล่าวถึง และเราสปอยล์เนื้อหาบางส่วนของภาพยนตร์แต่ละเรื่องด้วย
ตุ๊กตาที่เกิดมาเพื่อสร้างความสุขให้เจ้าของ Woody และผองเพื่อน จากภาพยนตร์ชุด Toy Story
พูดถึงตุ๊กตาทั้งที หลายคนอาจจะลืมไปว่าในภาพยนตร์ชุด Toy Story มีตุ๊กตาหลายแบบเลย อย่าง วู้ดดี้ (Woody) ก็เป็นตุ๊กตาชักรอก, โบ ปี๊ป (Bo Peep) เป็นตุ๊กตาเครื่องถ้วยเปลือกไข่, สลิงกี้ (Slinky) ตุ๊กตาหมาดัชชุนด์ที่มีลำตัวเป็นสปริง ฯลฯ
เรื่องราวของภาพยนตร์จากทางพิกซาร์ชุดนี้ หลายคนน่าจะจำกันได้ดีว่าเป็นเรื่องของกลุ่มของเล่นที่ใช้ชีวิตอยู่เพื่อสร้างความสุขให้กับเจ้าของ แต่ของเล่นทุกชิ้นต่างต้องเคารพกฎข้อหนึ่งก็คือ ห้ามไม่ให้คนรับรู้ว่าพวกเขานั้นมีความรู้สึกนึกคิด และเป็นหน้าที่ของเหล่าของเล่นที่ควรจะมีคุณค่ากับเด็กสักคนหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เราจึงได้เห็นของเล่น อย่าง วู้ดดี้ กับ บัซ ไลท์เยียร์ (Buzz Lightyear) ออกผจญภัยเพื่อเจ้าของของพวกเขา หรือไม่ก็เพื่อเพื่อนพ้องของเล่น
ภาพยนตร์ชุดนี้ มีภาคหลักอยู่ 4 ภาค และมีภาคยิบย่อยอีกจำนวนมาก และหลายๆ คนก็คงอยากจะได้ตุ๊กตาสักตัวในเรื่องนี้กลับมาไว้ที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ตามที
ตุ๊กตาที่อยากได้ความรัก กลุ่มตุ๊กตา จากภาพยนตร์ UglyDolls
ผ่านตุ๊กตาชวนขนหัวลุกมาเยอะแล้ว เราขอมาพูดถึงถึงตุ๊กตาน่ารักๆ กันบ้าง กับกลุ่มตุ๊กตาจากภาพยนตร์อนิเมชั่น ‘UglyDolls’ ที่เล่าเรื่องของกลุ่มตุ๊กตาที่อาศัยอยู่ใน อั๊กลี่วิลล์ (Uglyville) ที่ปรารถนาอยากได้เด็กที่เหมาะสมมาเป็นเจ้าของ แต่ทว่าตุ๊กตาเหล่านี้หน้าตาผิดแผกจากเทรนด์ตุ๊กตาหน้าตาดีที่เป็นที่นิยมของผู้คน จนกระทั่งวันหนึ่งกลุ่มตุ๊กตาที่ดูไม่น่ารักกลุ่มหนึ่งอยากจะเดินทางไปในโลกกว้าง และได้เดินทางไปยังสถาบันความเพอร์เฟกต์ แล้วต้องเผชิญกับแนวคิดของตุ๊กตาที่จะมีเจ้าของต้องเพอร์เฟกต์สุดๆ เท่านั้น
แม้พวกตุ๊กตาหน้าตาแปลกๆ จะโดนกดดันจากกลุ่มตุ๊กตาหน้าตาดี แต่สุดท้ายกลุ่มตุ๊กตาจากอั๊กลี่วิลล์ก็กลับมาท้าแข่งขันกับเหล่าตุ๊กตาเพอร์เฟกต์ โดยที่ ม็อกซี่ หนึ่งในกลุ่มตุ๊กตาจากอั๊กลี่วิลล์ เลือกที่จะปลอบใจเด็กที่ร้องไห้จากการแข่งขัน และทำให้เธอกับเพื่อนชนะการแข่ง เพราะหน้าที่ของตุ๊กตานั้น คือการทำให้เด็กๆ มีความสุข และสุดท้าย ตุ๊กตาจากอั๊กลี่วิลล์และสถาบันเพอร์เฟกต์ ก็อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข และตุ๊กตาแต่ละตัวจะได้ไปอยู่กับเด็กที่เหมาะสมกับตัวเอง อย่าง ม็อกซี่ ที่มีรูปทรงฟันแปลก ก็ได้ไปอยู่กับเด็กหญิงที่ฟันหลอ ซึ่งดีใจที่เห็นตุ๊กตาไม่ได้มีหน้าตาสวยงามแต่เข้ากันกับเธอในตอนนี้เป็นอย่างดี
เดิมทีแล้วตัว Uglydolls เป็นของเล่นที่เกิดขึ้นจากของขวัญที่ เดวิด ฮอร์วัทห์ (David Horvath) กับ ซันมินคิม (Sun-Min Kim) คิดขึ้นมาระหว่างที่เรียนมหาวิทยาลัย และในช่วงเขียนจดหมายติดต่อกันข้ามประเทศ เดวิด ก็เขียนรูปตุ๊กตาที่หน้าตาดูบื้อๆ ก่อนที่ ซันมินคิม ที่กลายเป็นภรรยาของ เดวิด ในภายหลังก็ถักตุ๊กตาส่งกลับมา ที่สุดท้ายจากตุ๊กตาที่แฟนส่งให้กัน ก็ไปเข้าตาบริษัทของเล่น และทั้งสองก็ก่อตั้งบริษัทผลิตตุ๊กตาชุดนี้ขึ้นมา จนโด่งดังกลายเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นขึ้นมาในที่สุด
ตุ๊กตาหมีปากมอม Ted จากภาพยนตร์ชุด Ted
ไม่ใช่ตุ๊กตาผี แต่นี่คือตุ๊กตาหมี เท็ด (Ted) ที่พร้อมพล่ามมุกใต้สะดือ อ่อยหญิงไปทั่ว แถมยังนิยมกัญชาอีกต่างหาก
เท็ด เป็นตุ๊กตาหมีเท็ดดี้แบร์ ของเด็กชาย จอห์น เบ็นเนต์ (John Bennett) ที่ขอพรให้หมีคู่ใจมีชีวิต แล้วพรนั้นก็กลายเป็นจริง และทำให้หมีเท็ดกลายเป็นเซเลปขึ้นมา แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายสิบปี เท็ด ก็กลายเป็นหมีวัยเฉี่ยว 30 ขวบ ที่ยังติดนิสัยเหมือนเด็กๆ ติดสูบบ้อง และกลายเป็นปมสำคัญที่รั้งให้ จอห์น ไม่โตเต็มตัวเสียที แถมยังทำให้แฟนสาวของจอห์นขอเลิกรากันอีกต่างหาก แต่เหตุการณ์ต่างๆ ก็ทำให้ทั้ง เท็ด และ จอห์น ต้องเติบโตขึ้น ก่อนที่ทั้งคนและตุ๊กตาหมีจะแยกย้ายกันไปมีครอบครัวของตัวเอง จนกระทั่ง เท็ด พยายามจะขอมีบุตร จึงเข้าสู่การต่อสู้แบบป่วนๆ ในชั้นศาลกันต่อ
เท็ด เป็นผลงานการสร้างและกำกับของ เซตฮ์ แมคฟาร์เลน (Seth MacFarlane) ที่เคยสร้างอนิเมชั่นสำหรับผู้ใหญ่อย่าง Family Guy, American Dad! และ The Cleveland Show โดยภาพยนตร์เรื่อง ‘Ted’ นั้นยังมีความทะลึ่งตึงตังจนติดเรต R ไม่แพ้กับงานอนิเมชั่น ตัวภาพยนตร์ภาคแรกได้รับความสำเร็จอย่างล้มหลาม แต่ ‘Ted 2’ กลับกระแสแผ่วกว่า แม้ว่าจะเคยมีข่าวว่ายังมีโอกาสสร้างภาคต่ออยู่ แต่ก็อาจจะลุ้นได้ไม่มากเท่าใดนัก เพราะหนังสองเรื่องหลังของ เซตฮ์ แมคฟาร์เลน รายได้ไม่ดีเนี่ยล่ะ
ตุ๊กตาผี หรือ คนเพี้ยน กันแน่? Fats จากภาพยนตร์ Magic
ภาพยนตร์ที่ฉายในปี ค.ศ. 1978 ซึ่งเล่าเรื่องของ ชาร์ลส์ คอร์กี้ วิเธอร์ส (Charles ‘Corky’ Withers) นักมายากลที่โด่งดังขึ้นมาด้วยการแสดงกลพร้อมกับ ตุ๊กตาหุ่นเชิดดัดเสียง (ventriloquism) ที่ชื่อ แฟตส์ (Fats) โดยที่เจ้าแฟตส์จะรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยชาร์ลส์บนเวทีมายากล
ถึงจะมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้น ชาร์ลส์พยายามควบคุมความโด่งดังของตัวเองให้อยู่บนเวทีการแสดงเท่านั้น และปฏิเสธโอกาสแสดงมายากลในรายการโทรทัศน์ นั่นก็เพราะเขาเชื่อว่าถ้าต้องทำรายการโทรทัศน์เขาต้องตรวจสุขภาพจิต ซึ่งอาจจะเป็นการทำลายตัวตนของแฟตส์ ที่จริงๆ แล้วอาจจะไม่ใช่หุ่นเชิดแต่เป็นอีกตัวตนหนึ่งของเขา หรืออาจหมายถึง อิด (Id) ที่คอยพูดสิ่งที่อยู่ในจิตใต้สำนึกของเขา และยิ่งนานวันขึ้น แฟตส์ ก็ยิ่งควบคุมชีวิตของชาร์ลส์ จนนำพาไปสู่คดีฆาตกรรม
เมื่อการก่อเหตุครั้งแรกสำเร็จ แฟตส์ ที่ต้องการจะควบคุมชีวิตของชาร์ลส์จึงสั่งการให้ออกไปฆ่าหญิงสาวที่ชาร์ลส์สนใจ แต่สุดท้ายชาร์ลส์ที่ต้องการใช้ชีวิตของตัวเองก็ยอมแทงตัวเอง และทำให้สติของแฟตส์ค่อยๆ จางหายไปพร้อมๆ กับสติของชาร์ลส์เอง ปัญหาก็คือแม้ว่า ชาร์ลส์ กับ แฟตส์ นั้นน่าจะมีปัญหาทางจิต แต่ตัวหญิงสาวที่ชาร์ลส์สนใจนั้นก็มีเสียงคล้ายคลึงกับแฟตส์ หรือจริงๆ แล้ว…นี่เป็นเรื่องของตุ๊กตาเชิดที่มีสิ่งลี้ลับสถิตอยู่กันแน่?
ภาพยนตร์ได้ ท่านเซอร์แอนโธนี ฮอปกินส์ (Anthony Hopkins) มารับบท เป็นชาร์ลส์ และพากย์เสียง แฟตส์ ด้วย จึงทำให้ตัวละครทั้งสองตัว ดูน่าเชื่อถือ แต่ในขณะเดียวกันก็มีความลึกลับชวนฉงนฉาบอยู่บนตัวละคร จนทำให้มุมหนึ่งของคนดูเผลอคิดไปว่า…สรุปแล้วนี่คนเพี้ยนหรือผีคลั่งกันแน่
ตุ๊กตาชวนหลอน Brahms จากภาพยนตร์ชุด The Boy
บราห์ม (Brahms) ตุ๊กตาเด็กผู้ชาย ที่หลอนคนดูจากภาพยนตร์ชุด ‘The Boy’ ซึ่งเคยเป็นลูกชายของตระกูลฮีลเซียร์ (Heelshire) และกลายเป็นอีกหนึ่งตุ๊กตาที่สร้างความหลอนให้กับคนที่แวะเวียนมายังคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูล
ที่มาที่ไปของตุ๊กตาตัวนี้ตามท้องเรื่องมาจากการที่ บราห์ม ลูกชายของตระกูลฮีลเชียร์ ได้เสียชีวิตไปจากเหตุการณ์ไฟไหม้เมื่อยังเด็ก โดยไฟไหม้ในครั้งนั้นยังคร่าเด็กผู้หญิงที่เป็นเพื่อนของเด็กชายไปด้วย นับจากนั้นมา พ่อแม่ของเด็กชายก็ได้สร้างตุ๊กตาเครื่องถ้วยเปลือกไข่ (Porcelain Doll) ขนาดเท่าเด็กตัวเล็กมาเลี้ยงดู และพวกเขาได้จ้างพี่เลี้ยงเด็ก ซึ่งพ่อแม่ของบราห์มก็มีกฎให้ปฏิบัติตามหลายข้อ อาทิ ห้ามพาแขกมา, ห้ามทิ้งบราห์มไว้คนเดียว, ต้องเปิดเพลงเสียงดัง, ต้องอ่านนิทานก่อนนอน, ต้องเก็บกับดักหนูที่อยู่รอบปราสาท, จุมพิตราตรีสวัสดิ์ ฯลฯ
และ เกรตา อีแวนส์ (Greta Evans) คือพี่เลี้ยงคนล่าสุดที่รับงานนี้ โดยที่พ่อแม่ของบราห์มบอกว่า คนอื่นๆ ก่อนหน้านั้นถูกบราห์ม ‘ปฏิเสธ’ และแน่นอนว่า เกรตา ละเมิดกฏของบราห์มไปบางข้อ ทำให้เธอเริ่มพบว่า ตุ๊กตาเด็กชายตัวนี้เคลื่อนไหวไปมาเองได้ เลยทำให้เธอเชื่อว่า มีวิญญาณของเด็กชายสิงสู่อยู่ในตุ๊กตาตัวนี้ จนกระทั่งอดีตสามีของเกรตาบุกมาที่คฤหาสน์ของตระกูลฮีลเซียร์ ทำให้ความลับบางอย่างเปิดเผยขึ้น นั่นก็คือ แท้จริงแล้ว บราห์ม ตัวจริงนั้นยังไม่ตายและอาศัยอยู่ในผนังของตัวคฤหาสน์ และคอย ‘เล่น’ กับพี่เลี้ยงมาโดยตลอด แต่เมื่อพี่เลี้ยงเริ่มขัดขืน บราห์มก็ออกมาทำการสังหารนั่นเอง
สรุปแล้วนี่ไม่ใช่ตุ๊กตาเด็กผี แต่เป็นคนที่หลอกให้คนอื่นคิดว่าเป็นตุ๊กตาผี
เรื่องราวของบราห์มนั้นยังไม่ได้จบลงอยู่เพียงเท่านี้ เพราะมีการประกาศสร้างภาพยนตร์ภาค่ตอมาที่จะได้ เคธี่ โฮลมส์ (Katie Holmes) มารับบทนำ โดยหนังภาคต่อจะเล่าเรื่องของครอบครัวกลุ่มใหม่ที่ย้ายไปอยู่ในคฤหาสน์ของตระกูลฮีลเซียร์โดยไม่รู้ประวัติที่น่ากลัวของสถานที่แห่งนี้
ตุ๊กตาปีศาจสิง Annabelle จากภาพยนตร์ชุด Annabelle และ The Conjuring
ถ้าเทียบอายุในโลกของเหล่าบรรดาตุ๊กตาแล้ว แอนนาเบลล์ (Annabelle) อาจจะมีอายุอานามไม่มากนัก แต่ด้วยความที่ประวัติของตุ๊กตานี้ในโลกแห่งความจริงอ้างอิงว่าเป็นตุ๊กตาที่เฮี้ยนที่สุดเท่าที่ เอ็ด และลอร์เรน วอร์เรน (Ed and Lorraine Warren) เคยรับมือมา
แอนนาเบลล์ ปรากฏตัวครั้งแรกในภาพยนตร์ ‘The Conjuring’ ภาคแรก ที่ไม่ได้มีบทบาทเป็นตัวร้ายหลัก แต่เป็นคดีเกริ่นนำว่าคู่สามีภรรยาวอร์เรนเคยรับมือเรื่องเหนือธรรมชาติมาแล้ว ก่อนที่ตุ๊กตาหน้าตาน่ากลัวตัวนี้จะมีภาพยนตร์ของตัวเองในภายหลัง
ในภาพยนตร์ชุด ‘Annabelle’ มีการระบุว่าตุ๊กตาตัวใหญ่ตัวนี้ถูกสร้างขึ้นมาโดยครอบครัวมูลลินส์ (Mullins) ที่เสียลูกสาวไป ก่อนจะถูกล่อลวงโดยปีศาจที่หลอกว่าจะสามารถพา แอนนาเบลล์ ลูกสาวของพวกเขาคืนสู่โลกแห่งคนเป็นได้ แต่สุดท้ายปีศาจก็เข้าสิงตุ๊กตาและทำร้ายครอบครัวมูลลินส์ ก่อนที่ปีศาจในตุ๊กตาจะทำร้ายคนอื่นๆ และย้ายร่างไปสิงยังร่างมนุษย์ แล้วออกอาละวาดอีกครั้ง ต่อมาก็ถูกสะกดให้ฤทธิ์อ่อนลง และกลับมาอาศัยในร่างตุ๊กตาเช่นเดิม จนกระทั่งตกมาอยู่ในการครอบครองของคู่สามีภรรยาวอร์เรนในที่สุด
ปัจจุบันตุ๊กตาแอนนาเบลล์มีภาพยนตร์ของตัวเองแล้วสามภาค และน่าจะได้กลับมาปล่อยความสยองกันต่ออีกหลายต่อหลายครั้ง
ตุ๊กตาฆาตกร Chucky จากภาพยนตร์ชุด Child’s Play
พอพูดถึงตุ๊กตาที่โดดเด่นในโลกภาพยนตร์ ชัคกี้ (Chucky) น่าจะเป็นตุ๊กตาตัวแรกที่หลายคนนึกถึงกัน แถมยังเป็นการจดจำจากภาพสยองๆ เสียด้วย ชัคกี้ปรากฏตัวครั้งแรกในภาพยนตร์ ‘Child’s Play’ ฉบับปี ค.ศ. 1988 ที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับ ชาร์ลส์ ลี เรย์ (Charles Lee Ray) ฆาตกรต่อเนื่องที่หลบหนีการจับกุม ซึ่งเขาร่ายมนต์วูดูใส่ตุ๊กตารุ่น Good Guys Doll จนทำให้วิญญาณสิงอยู่ในตุ๊กตาดังกล่าว ก่อนที่ตุ๊กตาตัวนั้นจะมีชีวิตแล้วเรียกชื่อว่า ชัคกี้ กลับมาก่อคดีฆาตกรรมและพยายามย้ายวิญญาณตัวเองไปยังร่างของเด็กชาย แอนดี้ บาร์เคลย์ (Andy Barclay) แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว
ชัคกี้ ฉบับดั้งเดิมปรากฏตัวในภาพยนตร์ทั้งหมด 7 ภาค โดยมี แบรด ดูริฟ (Brad Dourif) พากย์เสียง (และรับบทเป็น ชาร์ลส์ ลี เรย์ ร่างเดิมก่อนตายของ ชัคกี้ ด้วย)
ส่วนภาพยนตร์ฉบับปี ค.ศ. 2019 นั้น เป็นการตีความใหม่ ที่ตีความให้ตุ๊กตารุ่น Buddi ซึ่งเป็นตุ๊กตาไฮเทค แต่ตุ๊กตาตัวดังกล่าวตัวหนึ่งถูกเปิดใช้งาน โดยเรียกตัวเองว่า ชัคกี้ และเริ่มออกอาละวาด ซึ่งเหยื่อใกล้มือที่สุดขณะนั้นคือเด็กชาย แอนดี้ บาร์เคลย์
ตุ๊กตาและตัวละครของ ‘Child’s Play’ ฉบับปี ค.ศ. 2019 ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับภาพยนตร์เดิมยกเว้นเพียงแค่ชื่อตัวละครเท่านั้น และ ชัคกี้ ในเวอร์ชั่นนี้ได้ มาร์ค ฮามิลล์ (Mark Hamill) ผู้รับบท Luke Skywalker แห่งจักรวาล Star Wars และเป็นนักพากย์มือโปรมาเป็นผู้ให้เสียงชวนสยองแทน
แต่สำหรับแฟนคลับหนังตุ๊กตาผีฆาตกรต่อเนื่องที่ดำเนินเรื่องมาจากภาพยนตร์ชุดเดิมนั้น ดอน แมนซินี (Don Mancini) ผู้เขียนบทภาพยนตร์ตั้งแต่ภาคแรกได้ทำการซื้อสิทธิ์การสร้างเรื่องต่อ แต่จะเป็นการกลับมาฉายในรูปแบบซีรีส์ทางโทรทัศน์ และมีกำหนดออกฉายในปี ค.ศ. 2020 ที่ตอนนี้มีประกาศชื่อภาคชั่วคราวว่า Chucky และจะได้ แบรด ดูริฟ มาพากย์บท ชัคกี้ ตามฉบับเดิม
อ้างอิงข้อมูลจาก