เคยร้องคาราโอเกะกับเพื่อนมากสุดกี่คนนะ?
เกิน 10 นี่ก็อาจจะถือว่าเยอะมากแล้ว แต่ช้าก่อน ถ้าคุณเป็น ‘NCTzensไทย’ จำนวนหลัก 10 นั้นถือว่าน้อยไปมาก เพราะเมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ 22-23 กุมภาพันธ์ผ่านมา ณ ธันเดอร์โดม สเตเดียม เรามีคาราโอเกะที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งถือกำเนิดขึ้น
นั่นคือคาราโอเกะในคราบของคอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์ ‘NCT 127 4TH TOUR ‘NEO CITY : BANGKOK THE MOMENTUM’
เป็นอีกครั้งที่เวิลด์ทัวร์ของ NCT 127 ได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามจากแฟนคลับชาวไทย เพราะบัตรกว่า 36,000 ใบ 2 รอบการแสดง ขายหมดเกลี้ยง จนคว้าตำแหน่งศิลปินวงแรกของค่าย S.M. ENTERTAINMENT ที่สามารถจัดคอนเสิร์ตยิ่งใหญ่สเกลสเตเดียมในไทย ติดต่อกันได้เป็นครั้งที่ 2 ไปครอง

ภาพจาก SM True
ไร้ข้อกังขาว่าทำไม พวกเขาถึงคว้าตำแหน่ง God of perfomance ไปครอง แม้อายุวงกำลังก้าวจะเข้าขวบปีที่ 9 ก็ตาม คำตอบทุกอย่างถูกเฉลยผ่านการแสดงบนเวที ถึงในคอนเสิร์ตครั้งนี้จะมีสมาชิกเพียงแค่ 6 คน คือจอห์นนี่ ยูตะ โดยอง จองอู มาร์ค และแฮชาน (แทยงและแจฮยอนอยู่ในช่วงเข้ารับราชการทหาร) แต่ความสนุก ความสุดเหวี่ยงที่เคยเกิดขึ้น ไม่ได้ลดน้อยลงไป แถมยังทวีคูณขึ้นในทุกรอบที่ขึ้นแสดง สมกับที่ได้รับรางวัล Best Concert จากงาน 11th Edaily Culture Awards ไปเมื่อปีก่อน
ไม่ใช่แค่ NCT 127 ที่ได้ระเบิดความสนุกออกมาผ่านโชว์ แต่ NCTzensไทย ก็ระเบิดความสุขออกมา เพราะได้เจอพวกเขาเหมือนกัน ราวกับว่าทุกอย่างที่เราเก็บกักไว้ ถูกปลดปล่อยออกมาแล้วในพื้นที่สเตเดียมนี้
เพราะทันทีที่ก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ NCTzens ชาวไทย ก็ไม่เป็นอันทำอะไร โฟกัสถูกจำกัดอยู่แค่คอนเสิร์ตในครั้งนี้ ตลอด 2 เดือนจวบจนวันคอนเสิร์ต จิตใจกระสับกระส่ายวนเวียนอยู่กับการเลือกชุดนั้น แมตช์ชุดนี้ แต่งหน้าลุคนั้น ซ้อมร้องเพลย์ลิสต์เพลงนี้ ยังไม่รวมไปถึงการนัดแนะทำโปรเจ็กต์ เพื่อสร้างความประทับใจให้ NCT 127 ที่เกิดขึ้นแบบไม่รู้จบ
ยิ่งในช่วงสัปดาห์ก่อนที่วันคอนเสิร์ต เรียกได้ว่ามีทีมรายงานสถานการณ์สดเป็นรายชั่วโมง เริ่มตั้งแต่ตระเตรียมพื้นสนาม ตั้งโครงเวที เทสแสงสีเสียง คือไม่ต้องให้ใครมาบิ้ว เพราะเส้นไทยเริ่มบิ้วกันเองในทุกนาทีอยู่แล้ว

ภาพจาก SM Entertainment
NCT 127 feat.Thai NCTzens
และวันคอนเสิร์ตที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง
แม้ว่าสถานที่จะไม่เอื้ออำนวย ด้วยภูมิทัศน์ อากาศร้อนระอุ ฟ้าฝนที่เกือบจะไม่เป็นใจ แต่ก็ไม่มีอะไรมาขวางการประกาศศักดาความยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ของ NCT 127 และ NCTzensไทย ได้
“ขอต้อนรับทุกคนเข้าสู่คาราโอเกะที่ใหญ่ที่สุดเลยนะครับ” – จอห์นนี่ซอ
ในทุกๆ การแสดง NCTzensไทย ไม่มีน้อยหน้า ทั้งร้อง ทั้งแรป ขึ้นถึงยันไฮไน้ตไม่มีพลาดสักช่วง ราวกับว่าทุกคนไม่ได้มาคอนเสิร์ตเพื่อดูศิลปินแสดง แต่เรามาเพื่อแสดงไปพร้อมกับศิลปิน
เพราะฉะนั้นคำว่า ‘ชีวิตแลกชีวิต’ เลยอาจเป็นคำอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในคอนเสิร์ต THE MOMENTUM นี้ได้ดีที่สุด ลมหายใจถูกกลืนหาย กลายเป็นเสียงร้องดังกระหึ่ม NCTzensไทย เปลี่ยนทุกความรัก ความคิดถึงเป็นเสียงเชียร์ เพื่อให้ NCT 127 ทุกคน ทั้งที่กำลังอยู่ตรงหน้าพวกเรา และที่กำลังทำภารกิจของชาติ ได้รับรู้ว่าพวกเรายังอยู่ตรงนี้
และเหมือนยิ่งดัง ยิ่งได้ใจ เห็นศิลปินขอเพิ่มเสียงไมค์แล้วรู้สึกชนะ นี่สินะที่เราพูดกันว่า ไม่ได้ชอบเอาชนะ แต่เรื่องอะไรต้องแพ้ โดยเฉพาะกับศิลปินที่อยู่ตรงหน้า รักมากแค่ไหน ก็ร้องให้ดังมากเท่านั้นชีวิตนี้ขอชนะแค่ 127 ก็พอ
จนเสียงเพลงจากคาราโอเกะนับหมื่นชีวิตดังทะลุนอกสเตเดียม ไปถึงตึกระฟ้าที่ตั้งอยู่รอบข้าง ไม่แน่ว่าใครที่ขับรถผ่านทางด่วนในช่วงเวลานั้น ก็อาจจะได้ยินเสียง ‘Check the facts, go check that, check the facts, go check that’ ดังเข้าไปในรถด้วยก็ได้
ยังไม่นับรวมความพิเศษที่ NCTzensไทย ซุ่มพูดคุยกันว่าในเพลง Walk เราจะหยิบเราผ้าโพกหัวที่เป็นกิมมิกของเพลง มาโบกสะบัดไปพร้อมกับ 127 จนเกิดเป็น magic moment ขึ้นระหว่างพวกเรา
การได้ร้องเพลง ทำโปรเจ็กต์เล็กๆ หรือแค่โบกแท่งไฟในมือไปมา ทำให้เรารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของคอนเสิร์ตมากยิ่งขึ้น ประหนึ่งว่าเราไม่ได้มาอยู่ในตรงนี้ในฐานะคนดูเพียงอย่างเดียว แต่เราเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การแสดงตรงหน้าสมบูรณ์แบบและเป็นตำนาน มันไม่ใช่แค่คอนเสิร์ตที่จะถูกจนจำในใจเรา แต่มันจะถูกจดจำอยู่ในใจของศิลปินด้วยเช่นกัน
ในช่วงเวลากว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง กับเซ็ตลิสต์เกือบ 30 เพลง ถ้าไม่เรียกว่าเอาชีวิตไปแลกชีวิตกับ 127 ก็ไม่รู้จะหาคำไหนมาแทนได้แล้วจริงๆ

ภาพจาก SM Entertainment
NO 127 NO LIFE
รักแล้วได้รักตอบ มันเป็นแบบนี้นี่เอง
โปรเจ็กต์กล่องไฟ อยู่คู่กับคอนเสิร์ตในไทยมานานแสนนาน และแน่นอนว่า กับ NCT 127 ก็ด้วยเช่นกัน ในวันแรกกล่องไฟถูกร้อยเรียงเป็นคำว่า ‘NO 127 NO LIFE’ ที่เรียกรอยยิ้มกว้างมาประทับบนใบหน้าทุกคนแบบไม่รู้ตัว ทำเอา NCT 127 ประทับใจ จนตอบกลับด้วยคำเดียวกันว่า ‘NO Thai NCTzens NO LIFE’
กลายเป็นการโต้กลับที่ไม่รู้ว่าคนให้หรือคนรับยิ้มกว้างได้มากกว่ากัน แถมคำนี้ยิ่งมีความหมายมากขึ้นไปอีก เมื่อจอห์นนี่เลือกใช้คำนี้มาเขียนความในใจผ่านแอ็กเคาต์ NCT 127 โดยแปลงเป็นคำว่า ‘NO Thai NCTzens NO NCT 127’ แถมในคอนเสิร์ตทั้ง 2 วัน ยังตะโกนไฮบ์แฟนคลับด้วยคำว่า ‘NO Thai NCTzens’ และให้เราตอบกลับว่า ‘NO LIFE’ อยู่ตลอด ทำให้รู้ว่าพวกเขาคงชอบคำนี้มากจริงๆ
วันที่ 2 ก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน วันนี้เหมือนเรากำลังประกาศศักดาว่าประเทศไทยนี่แหละที่สุดยอดไม่แพ้ใคร ด้วยการเปิดกล่องไฟเป็นคำว่า และ ‘GOD 127 제일큰 노래방’ แปลเป็นภาษาไทยว่า ‘GOD 127 กับคาราโอเกะที่ใหญ่ที่สุด’
ทำให้คำว่า ‘คาราโอเกะ’ นี้ ยิ่งมีความหมายมากขึ้นไปอีก เพราะแฟนคลับทุกคนรู้ว่า 127 รักการร้องคาราโอเกะมากขนาดไหน ตลอด 2 วันที่เราเนรมิตให้คอนเสิร์ตนี้กลายเป็นคาราโอเกะขนาดใหญ่ เลยเหมือนกับว่าเราได้มาทำสิ่งที่ 127 รัก ไปพร้อมกับพวกเขา
กล่องไฟทั้ง 2 วัน จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่โปรเจ็กต์ที่แปรมาเพื่อให้ 127 ได้รับรู้ถึงความรักที่แฟนไทยมอบให้ แต่มีเพื่อสร้างความทรงจำระหว่างพวกเราชัดเจนมากยิ่งขึ้นเหมือนที่เคยเป็นมา

ภาพจาก NCT 127
จากธันเดอร์โดม สู่ธันเดอร์โดมสเตเดียม
“พวกเราก็เดบิวต์มาประมาณ 10 ปีแล้ว มีคอนเสิร์ตทัวร์มาหลายครั้งแล้ว
แต่ทุกครั้งที่เรามาทุกครั้งที่เรามาประเทศไทย มันจะรู้สึกพิเศษมากๆ
แล้วก็สำคัญมากๆ เลยทุกครั้ง” – มาร์คลี
เรารู้จักกันมาเป็น 10 ปีแล้วจริงๆ ตั้งแต่ก่อนที่พวกเขาจะเดบิวต์เป็น NCT 127 จนถึงวันนี้ที่เหล่าสมาชิกเริ่มทยอยเข้ากรม มาประเทศไทยครั้งแรกในฐานะ sm rookies จนกระทั่งวันนี้ที่มาจัดเวิลด์ทัวร์รอบ 4 ของตัวเองแล้ว เราผ่านช่วงเวลาที่หนักหนากันมามากมาย แต่ NCTzensไทย ก็ยังยืนหยัดอยู่ตรงนี้เสมอมา ระหว่างพวกเรามันเป็นความสัมพันธ์ที่แสนพิเศษจริงๆ
ไม่รู้ว่า NCT 127 จะจำได้ไหม ฮอลล์ที่อยู่ข้างๆ ที่สเตเดียมนี้ คือฮอลล์ที่เคยใช้จัดคอนเสิร์ตแรกของพวกเขามาก่อน ในวันนี้มันเป็นเพียงสถานที่รันคิวของบัตรยืนไม่กี่โซน นี่เป็นเครื่องการันตีได้อย่างดีกว่า 10 ปีแห่งการเติบโตมันงดงามและคุ้มค่ามากขนาดไหน
‘เยี่ยมจริงๆ’ เลยนะ 127
เยี่ยมที่หมายถึง เก่งมากๆ เท่มากๆ ดีมากๆ สุดยอดมากๆ ขอบคุณมากๆ และรักมากๆ ด้วย
อีกหนึ่งในความน่ารักที่ถ้าไม่พูดถึงคงจะเสียดาย คือการที่แฟนไทยพร้อมใจกันเรียกตัวเองว่า ‘ป้าเส้น’ และเรียก NCT 127 ว่า ‘น้าเลข’ แถมทุกคนยังเข้าใจมันได้โดยไม่ต้องมีคำอธิบายใดๆ เพิ่มเติม
ก็เล่นอยู่ด้วยกันเป็น 10 ปีแล้วนี่นา จะเรียกกันว่าน้าเลข ป้าเส้นก็ไม่แปลกหรอกเนอะ

ภาพจาก SM Entertainment
ในราตรีที่ท้องฟ้าไม่ได้ประดับด้วยดวงดาว แต่ประดับด้วยความพร่างพราวของ GOD 127
ภาพที่ NCT 127 ยืนกอดคอกันดูพลุ ยังคงแจ่มชัดเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา และมันจะแจ่มชัดไปแบบนี้จนกว่าเราจะได้ดูพลุด้วยกันอีกครั้งในคอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์รอบที่ 5
ไม่ได้สถาปนาตัวเอง แต่ NCTzensทั่วโลก ต่างเรียกขาน NCTzensไทย ว่าเป็น ‘รักแรก’ ของ 127 มาเสมอ และในคอนเสิร์ตครั้งนี้เรายิ่งตอกย้ำคำว่ารักแรก ด้วยความพิเศษที่มีแค่ในไทย เพราะเราเป็นประเทศเดียวที่ได้ดูพลุในสเตเดียมไปกับพวกเขา
เคล้าเสียงเพลง Promise You ในช่วงเวลาสุดท้ายที่เราต้องโบกมือลากัน พลุถูกจุดขึ้นดุจดั่งสัญญาณแห่งความรุ่งโรจน์ เพื่อประกาศก้องให้ทุกคนรับรู้ว่า ณ ห้วงเวลานี้ NCT 127 ของพวกเรากำลังส่องสว่างพร่างพราวอยู่บนฟากฟ้า และจะคงสุกสกาวต่อไป ตราบนานเท่าที่ NCTzensไทย ยังคงอยู่
ตลอด 2 ค่ำคืน ที่เราได้ใช้ไปร่วมกับ NCT 127 เป็นเสมือนช่วงเวลาแห่งการการขอบคุณ ความรู้สึก appreciate ในความรักของกันและกัน เบ่งบานไปทั่วทุกพื้นที่ของสเตเดียมจริงๆ
คอนเสิร์ตที่จัดเต็มทุกรายละเอียด กับเสียงเชียร์ที่ดังกึกก้อง คือการตอบแทนความรักให้แก่กันและกันอย่างสมศักดิ์ศรี
เพราะการมีอยู่ของศิลปิน ทำให้แฟนคลับได้มีรอยยิ้ม เช่นเดียวกันที่การมีอยู่ของแฟนคลับ ก็คือพลังสำคัญให้ศิลปินได้ก้าวต่อไป
แล้วครั้งหน้ามาดูพลุกับรักแรกอีกนะ 127
ป้าเส้น 💚 น้าเลข
อ้างอิงจาก