ฮัลโหล มีใครยังไปเช่าแผ่นหนังแถวบ้านอยู่หรือเปล่า? เชื่อว่าคำตอบน่าจะมาในลักษณะ “แถวบ้านไม่เหลือร้านแล้ว” ไม่ก็ “จะเช่าไปทำไม ดูออนไลน์ดีกว่าไหม”
อืม อันหลังนี่ค่อนข้างจริงเลย เพราะยุคนี้ช่องทางการดูภาพยนตร์หรือซีรีส์แบบถูกกฎหมายผ่านโลกออนไลน์นั้นมีแอพพลิเคชั่นให้เลือกมากขึ้นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น iflix, Primetime, HOOQ หรือ Hollywood HDTV ซึ่งแต่ละเจ้าก็จะมีจุดดีจุดเด่นที่หยิบยกขึ้นมาโปรโมทต่างๆ กัน ถ้าเป็นที่ต่างประเทศ เจ้าตลาดของเรื่องนี้คงไม่พ้น Netflix แน่นอน
เรื่องมีอยู่ว่าเดิมที Netflix เปิดบริการให้เช่าแผ่นดีวีดีผ่านไปรษณีย์ ก่อนจะปรับธุรกิจตัวเองเป็นการเช่าภาพยนตร์ออนไลน์ ตามด้วยทีวีซีรีส์ แล้วอัพเกรดตัวเองขึ้นอีกระดับด้วยการเป็นนายทุนสร้างซีรีส์, อนิเมชั่น และลือกันว่ากำลังจะสร้างภาพยนตร์เพื่อฉายใน Netflix เองซะด้วย
ทางฝั่งอเมริกาก็มีข่าวว่า Netflix ได้รับความนิยมอย่างมากจนบริษัทยักษ์ใหญ่ต้องยอมมาจับมือเลยอ่ะเพราะเพิ่งเซ็นสัญญากับทางดิสนีย์ไปว่า วะ ฮ่า ฮ่า ข้านี่แหละจะเป็นที่เดียวที่เปิดให้ดูหนังของดิสนีย์ผ่านระบบออนไลน์ (โห)
แต่ฝั่งยุโรปกลับไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่ดีเท่าใดนัก เพราะเห็นว่าสหภาพยุโรปอาจจะมีการออกกฏหมายเพื่อบังคับให้ทาง Netflix ต้องมีเนื้อหาที่ผลิตเองในทวีปยุโรปเป็นจำนวน 20% เพื่อเป็นการสนับสนุนวงการ นัยว่านอกจากจะทำให้มีรายได้เข้าสู่ประเทศในยุโรป ยังเป็นการป้องกันการผูกขาดตลาดด้วยภาพยนตร์และซีรีส์ของอเมริกาไปโดยปริยาย แม้ Netflix จะทัดทานแล้วว่าตอนนี้ก็มีผลิตผลจากยุโรปหลายเรื่อง ทั้งยังจัดทำซีรีส์เฉพาะสำหรับโซนยุโรปไปแล้วแต่ก็เชื่อว่าคำค้านนี้จะตกไป
แล้วมันเกี่ยวข้องกับประเทศไทยอย่างไร?
เรื่องการผูกขาดแบบนี้บนแอพปรากฏขึ้นแล้วในไทย อย่างในแอพพลิเคชั่น Hollywood HD จะเน้นหนักไปทางภาพยนตร์ใหม่ชนแผ่น iFlix และ HOOQ จะมีซีรีส์ที่ลงเฉพาะแอพพลิเคชั่นของตน เป็นอาทิ แต่การผูกขาดนั้นดูยังไม่ดุดันมากนัก อย่างว่าล่ะธุรกิจแนวนี้เพิ่งอยู่ในช่วงตั้งไข่สำหรับไทย
ลองสมมตินะ มีแอพใดแอพหนึ่งประกาศว่า นับจากนี้ละครและภาพยนตร์ที่อาหลองกำกับอย่าง อังกอร์ จะฉายลงเฉพาะที่แอพของเขาเท่านั้น ฉากปิ้งไก่ในตำนานจะไม่สามารถหาชมได้ตามจอโทรทัศน์อีกต่อไป แบบนี้คงเป็นเรื่องใหญ่อยู่ไม่น้อยเลยล่ะ
ใช่ว่ารูปแบบเหล่านี้จะเป็นไปไม่ได้เสียทีเดียว อย่าง Line TV ที่ตอนนี้มีซีรีส์ของ GDH และ GTH เดิม เปิดให้ชมย้อนหลังกันเป็นเจ้าแรก ก่อนที่ทาง GDH จะนำลงในช่องทางอื่นของตัวเองด้วยเวลาที่ช้ากว่าพอสมควร และใน Line TV ก็ยังมีรายการที่ตัวเองทำขึ้นเฉพาะฉายบนแอพพลิเคชั่นแล้วด้วย
คดีพลิกจนเห็นได้ว่ามันไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกแล้วล่ะ เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่ได้มีการเก็บค่าบริการเพิ่มเท่านั้น
แล้วทีวีจะยังมีละครหนุกๆ อยู่ไหม หรือย้ายไปออนไลน์กันหมดแล้ว?
สำหรับกลุ่มคนที่ยังดูทีวีเป็นหลักตอนนี้คงไม่มีปัญหามากนัก เพราะรายการที่ฉายอยู่บนโลกออนไลน์หลายรายการก็ค่อนข้างจะเป็นรายการเฉพาะกลุ่ม ส่วนค่ายละครรวมถึงสถานีโทรทัศน์เองก็ปรับตัวกันก่อนไปพอสมควรละ
ค่ายละครใหญ่ๆ อย่างกันตนา ก็ขยายช่องทางของตัวเองโดยการฉายละครบางส่วนบนช่องทางฟรีอย่าง Youtube แล้ว แถมมีอัพเดทละครคลาสสิคไว้บ้าง ส่วนช่อง 3 ลงไฟล์ไว้แบบไม่ละเอียดมาก คาดว่าเผื่อไว้สำหรับการขายแผ่น DVD แบบที่เคยทำกับละครบางเรื่อง บางค่ายก็แตกบริษัทใหม่เพื่อให้สามารถทำละครป้อนช่องอื่นที่เคยติดล็อกเพื่อหารายได้เข้ามามากขึ้นไปเลย
เป็นอันว่าเรื่องราวของแอพพลิเคชั่นดูหนังดูละครบนโลกออนไลน์ก็วกเข้ามาใกล้ตัวเรามากขึ้นเนอะ เหลือแค่ว่าเราพร้อมจะปรับตัวกันตอนไหนเท่านั้นเอง ซึ่งสุดท้ายก็เรา ผู้บริโภคนี่แหละที่ได้ผลประโยชน์เต็มๆ อย่าง Netflix เนี่ยที่ทำซีรีส์เองแต่ละเรื่องก็บันเทิงสุด
อ้อ แล้วก็อย่าลืมอุดหนุนช่องทางถูกกฎหมายกันนะ คงไม่ได้ดูแต่ ‘โค้ดฮิท’ ที่เดียวหรอกเนอะ
อ้างอิงข้อมูลจาก