หมายเหตุ : อาจมีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของเกม
เก็บเลเวลกันไปถึงไหน สิ้นหวังกับการสุ่มตัวละครจนเค็มปี๋ หรือได้น้องคลีมาวิ่งเล่นไล่ปาระเบิดกันจนสมใจ
เกนชิน อิมแพ็ค (Genshin Impact) เป็นเกมระดับปรากฏการณ์ ที่โอเค ตัวเกมเองเป็นเกมแนวกาชาปอง คือเปิดให้เล่นฟรี และมีระบบเติมเงินเพื่อสุ่มกาชาปองเพื่อให้ได้มาทั้งตัวละครและไอเทมเพื่อใช้ในตัวเกม ด้วยการออกแบบเกมที่น่าสนใจ(และอาจจะมีดราม่าบ้าง) ทำให้หลายเว็บชื่นชมว่าเกนชิน อิมแพ็คเป็นเกมที่มาเปลี่ยนเกมแนวกาชาปอง ในระดับของผู้เล่น เกมเล่นฟรีนี้ในที่สุดก็ทำให้เราติดหนึบ และหลายคนที่ไม่เคยเติม ก็ยินดีเติม
ล่าสุด เกมก็เพิ่งแย้มอัพเดทแพชต่อไป แน่นอนว่านอกจากตัวละครใหม่ๆ ที่น่าจะทำกระเป๋าตังระเบิดกันแน่นอนแล้ว เราก็จะเริ่มมองเห็นเรื่องราวปริศนาต่างๆ ความเป็นไปของอาณาจักรทั้ง 7 โดยเฉพาะเหตุการณ์ในเมืองลิหยู ดินแดนที่เราเหมือนได้กลับไปท่องแผ่นดินจีนโบราณ ได้รู้สึกถึงผืนแผ่นดินอันมั่งคั่ง และกลิ่นอายของเทพเจ้าที่เคียงคู่อยู่กับผู้คน
ภายใต้โฉมหน้าของเกมกาชาปอง และสไตล์เกมที่ดูเป็นอนิเมะใสๆ เล่นน่ารักๆ แต่เล่นไปเล่นมากลายเป็นว่า เนื้อเรื่องของอาณาจักรทั้งเจ็ดกลับเต็มไปด้วยมนต์สเน่ห์บางอย่าง จนทำให้รู้สึกว่า เนื้อเรื่องของเกมนี่ไม่ธรรมดา เนื้อเรื่องเท่าที่เปิดเผยมา จากการเอาองค์ประกอบของธาตุทั้งเจ็ด โยงเข้ากับลักษณะเฉพาะของแต่ละเมือง ซึ่งแต่ละเมืองก็ดูจะอิงกับวัฒนธรรมที่เราคุ้นเคย
ในระยะแรกที่เผยเมืองออกมาสองพื้นที่ให้ได้เล่น เราก็เริ่มเห็นทั้งลักษณะเฉพาะ และการเมืองที่อยู่ในอาณาจักรทั้งสอง ‘มอนสตัดด์’ เป็นดินแดนแห่งอิสรภาพ มีความเป็นตะวันตก มีประวัติศาสตร์การเมืองที่สอดคล้องกับดินแดนแห่งสายลม มี ‘ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ’ เช่นความสัมพันธ์ของดินแดนแห่งผืนดินและดินแดนแห่งสายลมที่ต่างที่มีรากฐานและมีอุดมการณ์แตกต่างกัน และยิ่งเล่นๆ ไป ตัวละครและเนื้อเรื่องรองๆ ก็ทำให้เราต้องขมวดคิ้ว บางเรื่องทำให้เราดำดิ่งไปสู่ความดาร์ก ทั้งหุบเขาที่เต็มไปด้วยวิญญาณ เรื่องราวของคนรุ่นต่อมาที่แบกบาดแผลสงครามและความรุนแรงเช่น ‘ทิมมี่’ เด็กชายที่ยืนรอพ่อ หรือ ‘เจียงน้อย’ กับเกมเล่นซ่อนแอบที่ซุกโศกนาฏกรรมเอาไว้
พันธสัญญาของผืนแผ่นดิน และคำมั่นสัญญาของสายลม
เกนชิน อิมแพ็ค มีลักษณะของตัวเกมที่ค่อนข้างร่วมสมัย คือเราบอกไม่ได้ว่านี่เป็นเกมจีน เกมญี่ปุ่น และอีกด้านคือเราก็ยังตอบไม่ได้ว่าตัวเกมหรือตัวเรื่องค่อนข้างยืนอยู่ในฝั่งความคิดแบบไหน ยิ่งเนื้อเรื่องในพาร์ทแรก ในเมืองสองเมืองคือมอนสตัตด์และลีหยู สองเมืองนี้ค่อนข้างพูดได้ว่าถูกวางให้เป็นเหมือนคู่ตรงข้ามซึ่งกันและกัน ของโลกสองฝั่งที่มีความคู่ตรงข้าม(แต่ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง)แบบคลาสสิกคือโลกตะวันตกและโลกตะวันออก ซึ่งสำหรับโลกตะวันออกเช่นลีหยู ก็ดูจะนำเสนอโดยมิติทางความคิดและวัฒนธรรมแบบจีนเป็นศูนย์กลาง
การวางสถานะและความคิดของเมืองทั้งสองก็มีความน่าสนใจ คือทั้งสองเมืองก็มีแง่มุม มีแรงขับเคลื่อนของอาณาจักรที่แตกต่างกันไป- ซึ่งในเนื้อเรื่องก็มีการเล่นกับความเป็นขั้วตรงข้ามอยู่เนืองๆ เมืองมอนสตัตด์ ตัวประวัติศาสตร์และวิธีคิด- ผนวกกับด้วยความที่เป็นเมืองของสายลม ตัวดินแดนเน้นเล่าถึงประวัติศาสตร์ต่อสู้กับการปกครองที่ไม่ชอบธรรม การปฏิวัติ และความตายของวัยรุ่น ในขณะเดียวกันลีหยูเองก็เน้นเรื่องความมั่งคั่ง การเป็นดินแดนเก่าแก่ที่ยังคงมีเทพเจ้าคอยดูแลปกป้อง เป็นดินแดนแห่งพันธสัญญา
สำหรับมอนสตัตด์ ดินแดนแห่งสายลมที่ถือเป็นตัวเปิด เรื่องราวหลักๆ ก็เป็นช่วงที่วิกฤติเทพเจ้าโบราณคลี่คลายไปประมาณหนึ่งแล้ว เราเข้าใจตรงกันว่ามอนสตัตด์กลายเป็นดินแดนที่ปกครองตนเอง เทพเจ้าไม่สอดมือเข้ามายุ่มย่ามกับความเป็นไปของมนุษย์ ซึ่งในเรื่องเราก็อาจจะรู้สึกว่าเทพเจ้าไม่ได้เรื่องได้ราว แต่จริงๆ ดูเหมือนว่าเทพเจ้าแห่งสายลมก็จะมีบาดแผลและมีแรงจูงใจในความขี้เกียจและขี้เมา
แน่นอนพอเรามาถึงลีหยู มันเลยเหมือนเราได้เดินทางจากดินแดนร่วมสมัย กลับไปสู่พื้นที่แห่งอารยธรรม สู่อาณาจักรแห่งประวัติศาสตร์อันยาวนาน ลีหยูเต็มไปด้วยเรื่องราว ขนบธรรมเนียมและภูมิปัญญาที่ยังดำเนินอยู่ ตอนเราเข้าสู่ลีหยูแรกๆ ชาวลีหยูจะบลัฟมอนสตัตด์ตลอดในฐานะดินแดนที่เทพเจ้ายังคงสถิตอยู่บนผืนแผ่นดินและมอบความมั่งคั่งตามคำสัญญาให้กับเมืองอยู่
ในแง่ของธาตุ และลักษณะเด่นของเมือง ลีหยูก็เลยเป็นเมืองที่แตกต่างจากดินแดนแห่งสายลม ลีหยูนิยามตัวเองว่าเป็นดินแดนแห่งพันธสัญญา (contract) ซึ่งธาตุดินนี้ก็ดูจะสัมพันธ์กับวิธีคิดแลปรัชญาแบบจีนหรือกระทั่งความคิดแบบตะวันออก ที่เน้นความสัมพันธ์ การรักษาสถานะผ่านการแลกเปลี่ยน ซึ่งการเซ่นไหว้ การยอมรับนับถือ และการตอบแทนซึ่งกันและกันก็ดูจะเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยจากวัฒนธรรมจีน ที่ล้วนมีความมั่งคั่งและเจริญรุ่งเรืองเป็นหัวใจและเป้าหมายของการใช้ชีวิต
ดังนั้นก็เลยไม่แปลกที่วัฒนธรรมจีนจะถูกโยงเข้ากับผืนแผ่นดิน ดินแดนแห่งรากเหง้า พื้นที่ที่ขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมต่างๆ สถิตอยู่อย่างมั่นคง เป็นที่ที่มนุษย์และเทพเจ้าต่างมีพันธะซึ่งกันและกัน ซึ่งก็ต้องดูกันต่อไปว่าดินแดนแห่งพันธสัญญะนี้ ในที่สุดการสัมพันธ์พึ่งพิงหรือสัญญา (dependency) นั้นจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปเมื่อผู้ปกครองเกิดปัญหา
บาดแผลของสงคราม คนเล็กๆ และผลกระทบของความขัดแย้ง
ในเรื่องค่อนข้างมีความขัดแย้งหลักอยู่กับพวกคนป่าและอาณาจักรที่รับบทตัวร้าย แต่ถ้าเรามองว่าด้านหนึ่ง มอนสตัตด์ที่กลายเป็นเมืองเสรีชน เมืองนี้เองก็เคยเจอกับบาดแผลสงคราม การต่อสู้และการกดขี่ทรราชย์มาก่อน ตัวเควสรองรวมไปถึง NPC เล็กๆ นั้นแทนที่จะแค่ให้ข้อมูลหรือเดินประดับ พวกตัวละครและเรื่องราวที่เราเข้าไปแก้ไขปัญหา ก็ดูเหมือนว่า คนเล็กคนน้อยเหล่านั้นก็ต่างประสบกับเหตุ ล้วนได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งที่เราในฐานะพระเอกที่กำลังเข้าไปยุ่งขิงอยู่
เรื่องราวมืดๆ ส่วนใหญ่ในเรื่องมักปรากฏอยู่ตัวละครเด็ก กับอนุชนคนรุ่นต่อมา ตัวละครแรกๆ ที่เราได้เจอและเริ่มทำให้เราขมวดคิ้วก็คือน้องทิมมี่ เด็กชายผู้ยืนดูนกอยู่ที่สะพาน เราผู้ใจร้ายไม่วิ่งวุ่นจนทำให้นกบินหนี ก็ลงมือย่างนกไปต่อหน้าต่อร่วมสร้างบาดแผลให้เด็กน้อย เราไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับทิมมี่ แต่บางคำพูดหรือบางเรื่องทำให้เราพอเข้าใจได้ว่า ทิมมี่มายืนรอใครซักคน ซึ่งน่าจะหมายถึงพ่อ เพราะจะมีบทที่ทิมมี่พูดว่านกมันบินหนีไปเหมือนกับพ่อที่ไม่กลับมา โดยบรรยากาศความขัดแย้งที่มอนสตัตด์กำลังเผชิญก็อนุมานได้ว่าไม่น่าแค่ทิ้งลูกเมีย แต่อาจเกี่ยวข้องกับสงครามหรือความขัดแย้งที่เมืองกำลังเจอ
นอกจากทิมมี่แล้ว ที่ลีหยู จะมีเควสคนแปลกๆ คือ เจียงที่เล่นเป็นเด็ก (childish Jiang) ตัวเควสจริงๆ ค่อนข้างหลอน อยู่ๆ ก็มีผู้ใหญ่คนนึงโผล่มาในป่า แล้วชวนเราเล่นซ่อนหา ซ่อนไปซ่อนมาคุณเจียงก็ค่อยๆ เล่าเรื่องของตัวเอง คือโดยตัวละคร เจียงเองไม่ใช่เด็ก เล่าไปเล่ามาก็เหมือนกับมีปัญหาในเรื่องจิตใจ ทำตามคำสั่งของแม่ที่ให้ซ่อนไปเรื่อยๆ ผลคือดูเหมือนว่าเจียงที่มาเล่นซ่อนหาก็เพราะความทรงจำเลวร้ายที่สูญเสียพ่อแม่ไปจากความขัดแย้งกับพวกโจรป่า
หลายส่วนของเกมที่เราเล่นๆ ไปด้วยความมัน ปาระเบิด เข้าฝักฝ่าย เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง แต่ความดาร์ก บรรยากาศ และเรื่องราวเล็กๆ ก็ทำให้เราฉุกคิดอะไรบางอย่าง เหมืองร้างๆ หรือโศกนาฏกกรรมตายยกครัวจนกลายเป็นผีเฝ้าสมบัติเพราะความโลภและการจัดการทรัพยากรดูเหมือนว่าจะสัมพันธ์กับคำมั่นหรือเป้าหมายเรื่องความมั่งคั่งของลีหยู หรือความขัดแย้งกับคนป่าที่พวกมันก็เต้นๆ นอนๆ ของมันอยู่ดีๆ เราก็ไปปาบึ้มใส่ ก็มีเควสเล็กๆ ที่เราพยายามสื่อสารกับคนป่า ทำให้เราขบคิดถึงความขัดแย้ง ความดีงาม หรือภาระหน้าที่ที่เรากำลังเล่นไปตามเกม ถูกตั้งคำถามถึงจุดยืน ถึงความเป็นไปอยู่บ้าง
อ้างอิงข้อมูลจาก