กลับมาอีกครั้งกับเซเลอร์มูน หนึ่งในไอคอนและไอดอลของเด็กๆ ในยุค 90s ถ้าเราดูเผินๆ เซเลอร์มูนบางครั้งก็มีความน่าหยิก บ้าผู้ชาย ทำตัวงี่เง่าน่ารำคาญบ้าง แต่ในทางกลับกันเซเลอร์มูนก็ถือว่ามีความเป็นเฟมินิสม์อยู่พอสมควร ยิ่งถ้าเรามองว่าเซเลอร์มูนเป็นการ์ตูนที่ออกมาตั้งแต่ต้นยุค 90s โน่น การ์ตูนที่อยู่ๆ ก็หันมาเล่าเรื่องราวของผู้หญิง เป็นการ์ตูนแนวฮีโร่ชุดแรกๆ ที่มีผู้หญิงเป็นศูนย์กลางของเรื่องทั้งตัวเอกและตัวร้าย เป็นเรื่องของผู้หญิงแทบจะทั้งหมด
ทำไมเซเลอร์มูนถึงเป็นอีกหนึ่งสุดยอดไอดอลที่แม้ว่าวันนี้คนที่กลับไปนั่งดูผ่าน Netflix จะอายุ 30 กันหมดแล้ว แต่เราก็ยังจำความฝันบางอย่างที่แฝงอยู่ในเรื่องราวอัศวินประจำดวงดาว และเรื่องโก๊ะกังของอุซางิ ส่วนหนึ่งนั้นอาจเป็นเพราะเรื่องราวในเซเลอร์มูนได้เคยเป็นส่วนหนึ่งของความฝันและแรงบันดาลใจที่มีนัยเรื่องเพศทั้งต่อผู้หญิงและเหล่าเพศทางเลือกทั้งหลาย
ด้วยพลังแห่งดวงจันทร์ The MATTER จึงชวนไปสำรวจการเมืองเรื่องเพศในเซเลอร์มูน เรื่องราวที่ส่งมอบพลังให้กับเหล่าเด็กน้อย โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงและเพศทางเลือกที่ถือว่าเป็นรองเชิงอำนาจในชีวิตจริง ให้ได้มองเห็นอำนาจและสถานะของตัวเองในมิติใหม่ๆ
เรื่องเล่าที่ผู้หญิงเป็นฮีโร่
แน่นอนว่าเซเลอร์มูนอาจจะดูเป็นการ์ตูนที่ติดกับอคติเรื่องเพศบางประการ เช่น เรื่องการพึ่งพาผู้ชาย หรือความสวยงามอยู่บ้าง แต่การ์ตูนที่พัฒนาขึ้นและออกฉายตั้งแต่ปี ค.ศ.1992 นี้ก้าวหน้าพอสมควรในแง่การนำเสนอภาพของผู้หญิงในฐานะวีรสตรี เป็นเรื่องราวกลุ่มผู้หญิงที่รวมตัวและลุกขึ้นยืนบนส้นสูงเพื่อปกป้องเมือง ปกป้องความฝันและเพื่อนพ้องของตนเอง
พลังความเป็นหญิงในชุดเสมอหู
จงสำแดงฤทธา! ประเด็นเรื่องความเป็นหญิงอาจจะดูน่าสงสัยว่า ในภาพของอัศวินเซเลอร์ขาเรียวสวย ชุดกระโปรงสั้นที่อาจจะรู้สึกว่าทำให้ผู้หญิงกลายเป็นเป้าสายตา หรือการแปลงร่างเหมือนกับการถูกจ้องมองนั้นลดทอนอำนาจของผู้หญิงไหม แต่กลับกัน เราจะเห็นว่าเสื้อผ้าและร่างกายแบบผู้หญิงในเซเลอร์มูนนั้นถือเป็น ‘อาวุธ’ และตัวแทนของอำนาจ ความเป็นหญิงในเซเลอร์มูนจึงดูจะเป็นตัวแทนของพลังในรูปแบบของตัวเอง เป็นวิธีการที่ผู้หญิงใช้ต่อสู้ ในเรื่องที่ว่าแม้อัศวินเช่นยูเรนัสจะมีความเป็นผู้ชายในโลกจริง เมื่อแปลงร่างแล้วเธอเองก็ยังใช้พลังของความเป็นผู้หญิงต่อสู้ด้วยเช่นกัน
ผู้หญิงทุกคนมีความฝัน
ไม่ใช่แค่ โจรูโน่ โจบาน่า จาก โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ ที่บอกกับเราว่าความฝันเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ เซเลอร์มูนเองก็เน้นพูดถึงความฝันและการรักษาความฝันอันสวยงาม อันเป็นกระบวนการสำคัญในการใช้ชีวิต ในภาค Pretty Guardian Sailor Moon Eternal The Movie เนื้อเรื่องหลักก็จะเน้นไปที่การรักษาความฝันไว้ ประเด็นเรื่องความฝันถือเป็นประเด็นสำคัญ เมื่อผู้หญิงสามารถมีความฝันและเชื่อว่าจะรักษาความฝันของตัวเองได้ แน่นอนว่าผู้หญิงคนนั้นก็เริ่มที่จะมีอำนาจในการลิขิตชีวิตของตัวเองแล้ว
ความสามารถและเส้นทางเฉพาะตัว
ด้วยความที่ตัวละครเยอะ ภาพแทนของผู้หญิงในเซเลอร์มูนผ่านอัศวินเซเลอร์ รวมถึงครอบครัวของพวกเธอเองที่มักจะเป็นสมาชิกหญิงนั้น ทำให้เราเห็นภาพของ ‘ความหลากหลาย’ ในแง่ตัวตน ความสามารถ และเส้นทางชีวิต อัศวินเซเลอร์หลายคนก็มีเส้นทางอาชีพตามทักษะของตัวเอง เราเห็นภาพของเมอร์คิวรีที่มีความฉลาดรอบรู้และมีเส้นทางอาชีพเป็นหมอเหมือนแม่ เซเลอร์มาร์สที่รับหน้าที่ดูแลศาลเจ้าในฐานะผู้บริหาร เซเลอร์จูปิเตอร์ที่อยากเปิดร้านกาแฟและมีความรักดีๆ เซเลอร์วีนัสที่สวยและมีเส้นทางไปสู่แสงไฟ อย่างไรก็ตามแม้จะยังอยู่ในมิติความหลากหลายเพศ แต่เซเลอร์มูนมักถูกวิจารณ์เรื่องการนำเสนอภาพผู้หญิงที่สวยและผอมอยู่บ้าง
บาดแผลและผู้หญิงที่ดูแลกันและกัน
โลกของผู้หญิงเป็นโลกแม้จะดูสวยงามแต่จริงๆ ไม่ได้สวยงาม ในเซเลอร์มูนเราจะเห็นภาพของผู้หญิงที่มีบาดแผล และในบาดแผลนั้นผู้หญิงก็รวมตัวร่วมมือดูแลกันและกัน บาดแผลและการดูแลกันนี้ไม่ได้หมายถึงแค่การต่อสู้เหล่าร้ายเท่านั้น เราจะเห็นภาพของตัวละครที่มีร่องรอยบางอย่าง เห็นเด็กผู้หญิงที่เป็นเด็กกำพร้า เห็นเด็กสาวที่อาจจะไม่ได้ปรารถนาความรักแต่มองเห็นตัวเองในเส้นทางอาชีพ ซึ่งผู้หญิงหรือเด็กสาวจากหลากภูมิหลังนี้ต่างก็ร่วมดูแลปกป้องและเยียวยาซึ่งกันและกันทั้งในโลกจริงและโลกแห่งการต่อสู้
การต่อสู้และอำนาจของผู้หญิง
ในแง่ของเส้นเรื่อง เซเลอร์มูนมีเส้นเรื่องที่ค่อนข้างเรียบง่าย ว่าด้วยการต่อสู้ของสีขาวและสีดำ แต่ในด้านหนึ่งนั้นการต่อสู้ในเซเลอร์มูนดูจะเป็นการต่อสู้ของสาวๆ—cat fight ที่แท้จริง ในเรื่องเราจะเห็นการปะทะกันของอำนาจที่ผู้หญิงเป็นใหญ่และเป็นผู้ครอบครอง
เลสเบี้ยนกับครอบครัวทางเลือก
ความเก๋ที่สุดอย่างหนึ่งของเซเลอร์มูนคือการให้ภาพความสัมพันธ์แบบล้ำสมัย คือเราได้เห็นภาพของความสัมพันธ์ของผู้หญิงที่ดันไปจนสุด คือ กลายเป็นความสัมพันธ์แบบคู่รักเลสเบี้ยน ไปจนถึงให้ภาพครอบครัวเควียร์ (queer family) การให้ภาพแทนความลื่นไหลและหลากหลายทางเพศชนิดติดธงรุ้งนี้ปรากฏผ่านเหล่าอัศวินดาวเคราะห์วงนอก ตัวเซเลอร์ยูเรนัสมีความเป็นทอมบอย เป็นคู่รักกับเซเลอร์เนปจูน แถมพลังก็เป็นคู่กันคือมหาสมุทรและผืนดิน
เก๋ขึ้นไปอีกคือเซเลอร์แซตเทิร์นก็ตายเก่ง แล้วกลับมาเกิดใหม่เป็นเด็กอีกครั้ง ทำให้สามคนนี้ต้องช่วยกันเลี้ยงดูเป็นครอบครัว พอเป็นครอบครัวก็มีแม่สองคนคือพลูโตกับเนปจูน ทั้งสามช่วยกันดูแลเลี้ยงดูให้เด็กสาวโตขึ้นอย่างแข็งแรง—เพราะแซตเทิร์นมักจะเป็นจุดพลิกผัน(หรือหายนะ)สำคัญของจักรวาลต่อไป ครอบครัวเควียร์แข็งแรงแค่ไหนก็ดูเอา
บ้าผู้ชาย แต่พวกเธอก็แข็งแรงขึ้น
อาจจะเป็นขนบของตัวเอกการ์ตูนญี่ปุ่นที่พอเทียบกับเพื่อนๆ หรือทีมแล้วตัวเอกต้องเห่ยสุด อุซางิก็เหมือนกัน พอเทียบกับคนอื่นแล้วคือลักษณะนิสัยไม่น่าเก๋สุดในเรื่อง แต่แน่นอนว่าความไม่สมบูรณ์แบบก็เป็นเหมือนหมุดหมายและการเรียนรู้ที่เด็กน้อยสามารถเข้าใจตัวเองได้ผ่านตัวละคร การเป็นคนขี้เกียจตื่น บางทีขี้แย รอเจ้าชายมาช่วยก็เป็นนางเอกได้ นางเอกนั้นมีเพื่อนที่ดี มีจิตใจที่ดี ในที่สุดเธอก็สามารถเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นได้
ในคำวิจารณ์ว่าเรื่องนี้อาจจะยังต้องพึ่งพาผู้ชายอยู่ เราจะเห็นว่าในช่วงหลังๆ เซเลอร์มูนเองก็ใช่จะงอมืองอเท้า แต่มีการเรียนรู้ที่จะเติบโตและยืนหยัดด้วยตัวเอง ในทางกลับกันการที่ผู้หญิงออกมาพูดถึงความรู้และความปรารถนาก็ถือเป็นการให้พลังผู้หญิงด้านหนึ่ง
อ้างอิงข้อมูลจาก