เนื่องในโอกาสที่วันหยุดยาวกำลังจะมาถึงอีกครั้ง และทศวรรษที่ 2010 กำลังจะผ่านพ้นไป เราเลยพยายามรวบรวมรายชื่อซีรีส์ที่น่าจดจำสำหรับผู้ชมชาวไทย เผื่อว่าหลายๆ ท่านจะใช้เวลาช่วงวันหยุดแล้วหยิบจับเอาซีรีส์เหล่านี้กลับมารับชมอีกครั้ง และเผื่อสำหรับหลายๆ ท่านที่ยังไม่ได้ลองรับชมซีรีส์เหล่านี้จะได้ใช้โอกาสวันหยุดในการลิ้มลองเรื่องราวที่อาจจะหลุดหูหลุดตาไปก่อนนี้บ้าง
และยังเหมือนทุกๆ ครั้ง เราจะขอนับเวลาเฉลี่ยในการรับชมซีรีส์แต่ละเรื่องเฉพาะในส่วนที่ฉายจบ (หรือประกาศซีซั่นจบอันใกล้นี้) นะ
Game Of Thrones
ความยาว 8 ซีซั่น กินเวลารับชมราว 3 วัน 1 ชั่วโมง
ไม่ว่าคุณจะชอบฉากจบของซีรีส์เกมชิงบัลลังก์นี้หรือไม่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าก่อนที่เรื่องราวจะมาถึงจุดจบนั้นเป็นอะไรที่คนติดตามกันอย่างต่อเนื่องหลายปี กับเรื่องราวบนดินแดนเวสเทอรอสและเอสซอส ที่มีบุคคลจำนวนมากพยายามครอบครองบัลลังก์เหล็กที่แสดงความเป็นใหญ่ของแผ่นดินนี้ ในขณะเดียวกันต้องระวังภัยจากเหล่าไวท์วอล์คเกอร์ที่พร้อมจะรุกรานมาจากทางตอนเหนือของดินแดน และอาจจะมีใครสักคนบนแผ่นดินนี้สามารถสยบเหตุร้ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้
ด้วยสเกลเรื่องขนาดใหญ่ การจัดฉากเลยมีความอลังการด้วยการเดินทางไปถ่ายทำในหลายๆ ทวีป ส่วนตัวละครก็มีมากมาย อย่างในซีซั่นแรกๆ เราจะได้เห็นดาราชื่อดังมาตายโชว์มากมาย และในซีซั่นหลังๆ ตัวละครหลักก็กลายเป็นดารามีชื่อมากขึ้น และเอฟเฟกต์ก็จัดเต็มเหมือนกับการสร้างภาพยนตร์ ความยิ่งใหญ่ในหลายๆ หัวข้อนี้ทำให้ซีรีส์จากทาง HBO ที่เริ่มออกอากาศให้รับชมในช่วงปี ค.ศ.2011 จนถึง ปี ค.ศ.2019 กวาดความนิยมจากผู้ชมทั่วโลก อย่างในบ้านเรานั้นก็ถูกชูเป็นแคมเปญของค่ายโทรศัพท์มือถือเจ้าหนึ่งที่ดึงดูดคนให้มารับชม GoT ผ่านระบบของพวกเขา และการลงทุนในซีรีส์แบบมหาศาลนี้ก็ยังทำให้คู่แข่งในตลาดซีรีส์เจ้าอื่นๆ ต้องยอมเทงบให้กับซีรีส์เรื่องใหม่ๆ ตาม ซึ่งผลประโยชน์จากเรื่องนี้ก็ตกมาอยู่ที่คนดูที่ได้มีอะไรให้ Binge-Watch กันอีกยาว
The Walking Dead
ความยาว 9 ซีซั่น กินเวลารับชมราว 5 วัน 10 ชั่วโมง
ถึงฟอร์มช่วงหลังจะแผ่วเบาลงมากเหลือเกิน แต่จะให้ผ่านพ้นทศวรรษ 2010 โดยไม่พูดถึงซีรีส์โลกที่โดนซอมบี้ครอบครอง แต่มนุษย์กลับอันตรายกว่าเรื่องนี้ก็ไม่ได้ จากเดิมทีที่เป็นการ์ตูนคอมิกทซึ่งเล่าชีวิตของ ริค ไกรมส์ (Rick Grimes) กับครอบครัวและเพื่อนพ้องที่ต้องฝ่าดงผีดิบ มาสู่ซีรีส์ของทาง AMC ที่ยึดโครงเลือกหลังจากคอมิค แต่ก็มีการปรับเปลี่ยนอะไรใหม่เข้ามา เช่นการใช้ตัวละคร แดริล ดิกซัน (Daryl Dixon) ที่ตอนแรกก็เป็นแค่ตัวละครสมทบ แต่ได้รับความนิยมจนเป็นตัวละครหลักไปในที่สุด
และการเดินทางของ ริค นับตั้งแต่การเป็นผู้รอดชีวิตที่ยังสับสนกับสถานการณ์จนกลายเป็นผู้นำที่คนวางใจ ก่อนที่จะต้องเผชิญหน้ากับภัยต่างๆ ทั้ง ซอมบี้ หรือแม้แต่กลุ่มผู้รอดชีวิตกลุ่มอื่น ทำให้คนดูคอยติดตามและลุ้นว่า กลุ่มตัวเอกจะเอาตัวรอดอย่างไรจากสถานการณ์เลวร้ายแบบนี้
ในช่วงแรก The Walking Dead ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม จนทำให้มีการสร้างภาคแยกและตัวเกมจากฉบับซีรีส์ แถมยังทำให้ผู้สร้างซีรีส์หลายเรื่อง เลือกจะหยิบจับ ซอมบี้ มาบอกเล่าใหม่ตาม กระนั้นเมื่อเนื้อเรื่องเริ่มยาวเกินไป ก็เกิดภาวะพายเรือในอ่าง ผสมกับการจับตัวละครหลักที่คนดูค่อนข้างแฮปปี้ให้หมดบทกันดื้อๆ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของทีมงาน และนักแสดงหลายคนเองก็อยากจะขยับตัวไปทำอย่างอื่นแล้ว เรตติ้งของ The Walking Dead จึงลดลงอย่างเห็นได้ชั้นตั้งแต่ซีซั่นที่ 7 ขึ้นไป
และปัจจุบันในซีซั่นที่ 10 ที่กำลังออกอากาศยังไม่จบดีนั้น ก็ไม่มีตัวละคร ริค ไกรมส์ ในเรื่องอีกแล้ว รวมถึงข่าวว่านักแสดงที่รับบท มิโชน (Michonne) ก็อยากจะเกษียนตัวเองจากซีรีส์เช่นกัน บางทีปี ค.ศ.2020 อาจจะเป็นซีซั่นสุดท้ายของ The Walking Dead ก็ได้นะ เว้นแต่ซีรีส์จะฆ่าไม่ตายเหมือนกับเหล่าผีดิบในเรื่อง
Black Mirror
ความยาว 5 ซีซั่น + 1 อินเตอร์แอ็กทีฟฟิล์ม กินเวลารับชมราว 21 ชั่วโมง + 1 ชั่วโมง 30 นาที เป็นอย่างน้อย
ซีรีส์จากเกาะอังกฤษ กับเรื่องเล่าแนวไซไฟ และเนื้อหาแต่ละตอนที่มีความแรงจนชวนคนดูตกใจ ปนเปกับการวิพากษ์สังคม ด้วยความที่เรื่องราวของซีรีส์นี้เป็นการจบตอนสั้นๆ ทำให้หลายคนสามารถติดพันกับซีรีส์นี้ได้ไม่ว่าจะเริ่มต้นดูที่ซีซั่นไหนก็ตามที อีกส่วนที่ทำให้ซีรีส์น่าจดจำในช่วงทศวรรษ 2010 ก็เพราะสไตล์เรื่องที่ต้องล้ำยุค นักแสดงหลายคนก็มาฉายแสงในซีรีส์นี้ จนในซีรีส์หลังๆ นักแสดงที่พอมีชื่อแล้วก็กลับมาเล่นซีรีส์นี้เช่นกัน จากความละเอียดในการถ่ายทำและแสดง เลยทำให้ต้นทุนสูงกว่าซีรีส์ปกติ และทำให้ Black Mirror ได้มีโอกาสโยกย้ายจากสถานีโทรทัศน์ Channel 4 ของสหราชอาณาจักร มาเป็นรายการเฉพาะของ Netflix นับตั้งแต่ปี ค.ศ.2016 เป็นต้นมา
ซีรีส์ Black Mirror ยังถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์กึ่งเกมที่ใช้ชื่อตอนว่า Bandersnatch ในปี ค.ศ.2018 ซึ่งนั่นทำให้เห็นว่า แม้ในช่วงหลังซีรีส์อาจจะมีความ ‘อ่อนโยน’ ในบางตอน แต่การบอกเล่าเรื่องราวในอนาคตอันใกล้ยังมีอะไรให้บอกเล่าเพื่อให้คนดูขบคิดกันต่อแน่นอน
Modern Family
ความยาว 10 ซีซั่น กินเวลารับชมราว 3 วัน 13 ชั่วโมง 4 นาที
ซีรีส์แนวซิตคอม ผสมกับการพูดคุยกับตัวละครในลักษณะสารคคี ด้วยการเกาะติด ‘ครอบครัวสมัยใหม่’ ที่มีสมาชิกประกอบไปด้วย ครอบครัวใหญ่ 2 พ่อแม่ กับลูกๆ 3 คน ครอบครัวสามีเกย์ที่รับลูกสาวบุญธรรมจากเวียดนามมาเลี้ยง และครอบครัวที่สามีสูงวัยที่แต่งงานใหม่กับสาวโคลัมเบียลูกติด ซึ่งสามีของบ้านนี้ยังเป็นพ่อของคนในสองครอบครัวแรกอีกด้วย กระนั้นต้องออกปากก่อนว่าซีรีส์ไม่ใช่แนวยิงมุกรัวๆ แบบ Friends แต่เป็นแนวตลกจิกกัดเซาะแซะสถานการณ์ทั้งในเรื่องและในโลกจริงไปพร้อมๆ กัน
ด้วยจังหวะมุกที่ไม่โฉ่งฉ่างแต่มีสเต็ปแนบเนียนที่พร้อมรุกคืบเข้าหาคนดู จึงไม่แปลกที่ซีรีส์ชุดนี้จะกวาดรางวัลจำนวนมาก และออกฉายมา 10 ซีซั่นติด โดยมีกำหนดจะอวสานในซีซั่น 11 และช่วงหยุดยาวก็มีจังหวะที่เหมาะสมสำหรับการตาม 10 ซีซั่นแรกก่อนที่ซีซั่น 11 จะออกมาครบทุกตอนในช่วงกลางปี ค.ศ.2020
Brooklyn Nine-Nine
ความยาว 6 ซีซั่น กินเวลารับชมราว 2 วัน 1 ชั่วโมง 50 นาที
เราคิดว่าหลายท่านอาจจะยังไม่เคยดูซีรีส์นี้แบบเต็มๆ ด้วยซ้ำ แต่หลายท่านน่าจะเคยเห็นคลิปที่นายตำรวจ กับ พยาน สอบปากคำคนร้ายอยู่ดีๆ ก็มาร้องเพลง I Want It That Way ของ Backstreet Boys เสียอย่างนั้น และเจ้าคลิปที่ว่าก็เป็นช่วงหนึ่งจากซีรีส์เรื่องนี้นั่นเอง
Brooklyn Nine-Nine เป็นซีรีส์ซิ9คอมที่เล่นมุกแบบโฉ่งฉ่าง แต่ก็มาพร้อมกับการทำตัวตลกหน้าตายของกลุ่มตำรวจและพลเรือนที่ทำงานอยู่ในสถานีตำรวจบรู๊คลิน 99 (ซึ่งไม่มีจริงหรอกนะ) และตำรวจแต่ละคนในสถานีก็ไม่ธรรมดา อย่างสายสืบมือโปรแต่ติดเล่นแบบเด็กๆ, สายสืบหญิงโคตรโหดกระโดดจับคนร้าย, ตำรวจพันธุ์กล้าม, สารวัตรประจำ ส.น. สุดนิ่งที่เป็นเกย์ผิวดำอย่างเปิดเผย ฯลฯ ที่แม้ว่าลักษณะภายนอกจะชวนให้คิดว่าทำงานกันจริงเหรอแต่ปกติแล้วพวกเขามักจะทำงานแข่งขันกันปิดคดีต่างๆ ซึ่งบางครั้งนำพาไปสู่ความโกลาหลระหว่างทาง แต่โดยส่วนใหญ่แล้วประชาชนก็ยังได้รับการปกป้องจากตำรวจ ส.น. นี้ดี
ซีรีส์ชุดนี้กวาดรางวัลไปไม่น้อย และโกงความตายมาแล้วครั้งหนึ่งหลังจากที่ Fox ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์แห่งแรกที่ให้รายการนี้ออกอากาศ ตั้งแต่ปี ค.ศ.2013 ถึง ค.ศ.2018 ตัดสินใจยุติจ่ายเงินทุนสร้างซีซั่นต่อ ก่อนที่ทางช่อง NBC จะประกาศชุบชีวิตให้ซีรีส์นี้ได้ออกอากาศต่ออีกสองซีซั่น เพราะฉะนั้นช่วงหยุดยาวนี้ ก็รับชม 6 ซีซั่นที่ฉายจบไปแล้วกันก่อน แล้วช่วงต้นปี ค.ศ.2021 ค่อยตามซีซั่นที่ 7 กันอีกทีหนึ่ง
The Untamed
ความยาว 1 ซีซั่น กินเวลารับชมราว 1 วัน 8 ชั่วโมง 40 นาที
ซีรีส์วายกลายเป็นรายการที่หาชมได้ง่ายกว่ายุคก่อนหน้าเหตุหลักเพราะกลุ่มลูกค้าขยายตัว หรือบางทีบางครั้งตัวซีรีส์ใดๆ อาจจะไม่ได้วายแต่มี ส่วนประกอบบางอย่างที่สะกิดใจ สาววายหนุ่มวายให้จิ้นเรื่องราวต่างๆ ได้ และหลายๆ เรื่องก็ได้รับความสนใจจากกระแสหลัก แต่ถ้าถามว่าจะมีเรื่องไหนในช่วงทศวรรษ 2010 ที่ทำให้คนดูหลายคนมูฟออนเป็นวงกลม ก็คงต้องยกให้ซีรีส์จากจีนที่ดัดแปลงมาจากนิยาย ปรมาจารย์ลัทธิมาร นั่นเอง
ปรมาจารย์ลัทธิมาร แรกเริ่มเดิมทีเป็นนิยายบนเว็บไซต์ของประเทศจีน ก่อนจะถูกนำไปสร้างเป็นสื่อผสมอื่นๆ อีกมาก รวมถึงตัวซีรีส์คนแสดง ที่ตอนแรกแฟนนิยายต่างเป็นกังวลว่าเนื้อเรื่องจะถูกปรับเปลี่ยนไปมาก ตามมาตรฐานการเซ็นเซอร์ของประเทศจีนที่ไม่อนุญาตให้เล่าเรื่องความหลากหลายทางเพศ จนหลายคนทำใจแล้วว่าเรื่องจะปรับเปล่ยนเป็นความสัมพันธ์ชาย-หญิงแทน
เมื่อซีรีส์ออกอากาศจริงซีรีส์กลับเปลี่ยนแปลงไปไม่มากเท่าที่แฟนกังวลนัก แม้จะลดความสัมพันธ์ให้ตัวเอกสองคนให้กลายเป็นเพื่อนธรรมดา แต่ก็ยังคงเนื้อหาใกล้เคียงนิยายต้นฉบับ นักแสดงที่นอกจากจะได้ไอดอลดังมาแสดง พวกเขายังปล่อยพลังออกมาได้ดี เอฟเฟกต์ทันยุค ซ้ำยังมีความเป็นซีรีส์กำลังภายในผสมกับการปราบผี จึงทำให้หลายคนที่ไม่เคยรับชมซีรีส์วายก็เข้ามารับชมได้ไม่ยากเย็น เลยกลายเป็นว่าหลายคนได้ ปรมาจารย์ลัทธิมาร เป็นทางเข้าไปรับชมซีรีส์วายหรือ ซีรีส์ที่มีตัวละครหลักหลายทางเพศเรื่องอื่นๆ ที่เคยออกมาก่อนหน้านี้อีกด้วย การมูฟออนของหลายคนจึงไม่จบแค่วงกลมวงเดียว แต่กลายเป็นวงใหญ่หลายพหุภพไปแทน
Descendants Of The Sun
ความยาว 1 ซีซั่น กินเวลารับชมราว 16 ชั่วโมง
ซีรีส์จากประเทศเกาหลีใต้ ไม่ได้กวาดความนิยมแค่ในโซนเอเซียอีกแล้ว แต่ในทศวรรษที่ ค.ศ.2010 ซีรีส์เกาหลีใต้โด่งดังไปทั่วโลก จนหลายประเทศคุ้นเคยกับความดราม่าเรียกน้ำตาของซีรีส์แดนโสมไปแล้ว
และถ้าว่าตามจริง Descendants Of The Sun ก็ยังคงเล่าเรื่องพ่อแง่แม่งอนที่หวานซึ้งไว้เช่นเดิม แต่ที่เพิ่มเติมเข้ามาคือความตึงเครียดของการปฏิบัติการของทหารหน่วยพิเศษที่ออกไปทำภารกิจเพื่อชาตินอกประเทศ เลยทำให้เส้นเรื่องที่คนดูต้องลุ้นมีอย่างน้อยสองเส้น แถมความตึงเครียดของเรื่องก็ไม่หย่อนไปกว่าความรักของคู่พระนางเลย แถมตัวละครที่เป็นพล็อตรองนั้นก็ดึงดูดให้คนดูที่คิดว่านี่จะเป็นแค่เรื่องรักกุ๊กกิ๊กเพียวๆ ต้องดูต่อจนจบ
นอกจากเรตติ้งจะดีแบบทะลุทะลวงในบ้านเกิด ซีรีส์เรื่องนี้ยังได้รับความนิยมไปในหลายประเทศทั่วโลก อย่างในไทยเองก็ป๊อประดับที่บิ๊กตู่ยังต้องเอาไปพูดถึง และยังมีผลข้างเคียงตามมาอย่างเช่นพื้นที่ในการถ่ายทำทั้งในเกาหลีใต้และในกรีซที่โดนปรับให้เป็นประเทศสมมติ Uruk ก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวตามรอยอีกด้วย ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้ได้กลับมาพิสูจน์ให้ชาวโลกรู้อีกครั้งว่า ซีรีส์จากเกาหลีใต้นั้นมีดีมากกว่าดราม่าและเรื่องรักหวานซึ้งเท่านั้น
Hormones: The Series
ความยาว 3 ซีซั่น กินเวลารับชมราว 1 วัน 15 ชั่วโมง
ถ้าจะพูดถึงซีรีส์ของไทยในช่วงทศวรรษ ค.ศ. 2010 เราก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะพูดถึง ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น เพราะนอกจากที่ตัวเนื้อหาของเรื่องจะสร้างแรงกระแทกให้กับคนดูและคนที่ไม่ได้ดูด้วยการเล่าเรื่องวัยรุ่นแบบจริงจัง และถึงพริกถึงขิงกว่าละครหรือซีรีส์วัยรุ่นของไทยในยุคเดียวกัน ทั้งเรื่อง เพศสัมพันธ์, เพศสภาพ, เพศวิถี, สุรา, ยาเสพติด, ตัวตนของเยาวชนในสถาบันศึกษา ที่คนดีตั้งใจอาจจะไม่ใช่คนที่ถูกใจเพื่อนนักเรียน ฯลฯ และถ้าย้อนไปดูประวัติการฉายก็ยิ่งน่าสนใจเข้าไปอีกเพราะสองซีซั่นแรกออกฉายผ่านทาง ช่อง GMMOne สำหรับสองซีซั่นแรก และฉายทางช่อง GTH On Air ในซีซั่นที่สาม ที่เป็นสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมไม่ใช่สถานีโทรทัศน์หลัก แต่มีการนำเอาซีรีส์ไปฉายย้อนหลังผ่านทาง YouTube ในภายหลัง
แม้ว่าจะออกอากาศแบบไม่แมส แต่ด้วยบทเข้มข้น นักแสดงที่ตั้งใจ คนดูเลยสัมผัสได้ถึงความตั้งใจทำงานแล้วกลายเป็นกระแสปากต่อปาก ก่อนที่คนดูจะกลับมารับชมบน YouTube โดยบางคนก็ชื่นชมในความสดใหม่ บางคนก็ด่า เพราะรู้สึกว่าซีรีส์ลอก Skins กับ Gossip Girl หรือไม่ก็ด่าที่เรื่องราวดูแรงเกินไป จนเป็นเรื่องถึง กสทช. ที่ทำการเรียกเทปเพื่อตรวจสอบว่าเหมาะสมกับการฉายในบ้านเราหรือไม่ จนซีรีส์ได้ลงข่าวกระแสหลัก และทำให้คนดูที่ไม่ได้ดูสนใจตัวซีรีส์กับเขาด้วย ตัวซีรีส์ยังมีการเปิดแคสต์นักแสดงหน้าใหม่เพื่อเข้ามาเล่าเรื่องราววัยรุ่นเพิ่มเติมทำให้สุดท้าย ซีรีส์วัยรุ่นที่เดิมทีผู้สร้างคิดว่าจะไม่ได้กำไรอะไรเท่าไหร่ กลายเป็นแหล่งกำเนิดดาราฝีมือดี และต่อยอดสู่การสร้างภาพยนตร์กับซีรีส์เรื่องอื่นๆ ในภายหลัง รวมถึงทำให้ผู้สร้างเจ้าอื่นต้องปรับตัวในการทำตลาดบนโลกออนไลน์มากขึ้น
Rick And Morty
ความยาว 3 ซีซั่น กินเวลารับชมราว 11 ชั่วโมง 23 นาที
ซีรีส์สายอนิเมชั่นที่อาจจะเพิ่งมาเริ่มฉายในปี ค.ศ.2013 แต่กลับทำให้คนดูติดหนับด้วยความเวอร์วังอลังการในการเป็นอนิเมชั่นแนวไซไฟ เดินทางทะลุมิติยุ่งเกี่ยวกับหลากจักรวาล แต่ในขณะเดียวกันก็ยังโฟกัสไปเรื่องความซับซ้อนเชิงปรัชญาที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของโลกกับเรื่องต่างๆ และแซะสื่อในกระแสหลักของโลกจริงเป็นระยะๆ
จากตอนแรกการ์ตูนเรื่องนี้ก็เหมือนเป็นเรื่องเพี้ยนๆ ธรรมดาเรื่องหนึ่ง แต่เมื่อเดินเรื่องราวไปเรื่อยๆ คนดูก็พบว่าบทของเรื่องนี้ฉลาด มีสีสัน รวมถึงยังมีความสัมพันธ์ของครอบครัว และในบางครั้งก็กระทบสังคมวงกว้างได้อย่างเช่น ในซีซั่นที่ 3 ของ Rick And Morty พูดถึงซอสเสฉวน ซอสนักเก็ตที่ McDonalds เคยผลิตก่อนจะยกเลิกไป แต่เมื่อซอสปรากฏในซีรีส์ก็ทำให้ McDonalds ตัดสินใจนำเอาสินค้านี้กลับมาขายระยะหนึ่ง
ณ ตอนนี้ที่เขียนบทความนี้ ซีซั่นที่ 4 ยังออกอากาศไม่จบ ในช่วงวันหยุดยาวนี้อาจเป็นเวลาเหมาะสมที่จะเดินทางข้ามมิติไปพร้อมกับอนิเมชั่นเรื่องนี้กัน
Sword Art Online
ความยาว 3 ซีซั่น กินเวลารับชมราว 1 วัน 3 ชั่วโมง 59 นาที
ขอพูดถึงซีรีส์ในรูปแบบอนิเมชั่น หรือ อนิเมะ จากประเทศญี่ปุ่นกันบ้าง ในทศวรรษ 2010 ที่ผ่านมา คงไม่มีอนิเมะเรื่องไหนที่ได้รับความนิยมและทำให้เกิดความคึกคักทั้งฝั่งคนดูและฝั่งคนทำได้มากเท่า Swort Art Online อีกแล้ว แม้ว่า SAO จะไม่ใช่ผลงานเรื่องแรกที่จับประเด็นคนที่อยู่ในเกมออนไลน์เป็นเรื่องแรกก็จริง แต่ด้วยตัวละครที่เข้าถึงได้ง่าย กับระบบในเกมที่ชวนให้คิดถึงเกมดังๆ หลายเกม เนื้อหาที่คนเล่นเกมหรือไม่ได้เล่นเกมทุกคนก็เลยสามารถเข้าใจถึงความเครียด รวมถึงงานอนิเมชั่นที่ตั้งใจสร้างโลกกับฉากแอ็กชั่นที่ดี เลยทำให้ความนิยมของ Swort Art Online มากเพียงพอที่จะถูกสร้างเป็นอนิเมะให้จบกันแล้วสามซีซั่น (จริงๆ แล้วมีภาพยนตร์อีกหนึ่งภาคนั้นที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงเสียทีเดียว)
สำหรับแฟนอนิเมะหรือคนที่ยังไม่เคยดูอนิเมะเรื่องนี้ที่จะหยิบเอา Sword Art Online มารับชมกันในช่วงวันหยุดยาว ก่อนที่จะต่อยอดกับเนื้อหาในซีซั่นที่ 4 ที่ออกอากศมาตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม ปี ค.ศ.2019 และคาดว่าจะอวสานลงในช่วงต้นปี ค.ศ.2020 นี้