“อย่า กลับ บ้าน!”
ประโยคดังกล่าวยังคงดังก้องอยู่ในหัว หลังจากดูซีรีส์เรื่อง ‘อย่า กลับ บ้าน’ จบ ซึ่งเป็นประโยคที่คอยตอกย้ำผู้ชมอย่างเราให้รับรู้ว่า บ้านหลังนี้ไม่ควรจะกลับไปย่างเหยียบ เพราะอะไรก็ตามที่รอคอยอยู่หลังประตูทางเข้า คงไม่ใช่การเชื้อเชิญให้เราอยากกลับมาบ้านหลังนี้อย่างแน่นอน
ทว่า วารี (รับบทโดย นุ่น—วรนุช ภิรมย์ภักดี) กลับตัดสินใจพา มิน (รับบทโดย เจแปน—พลอยปภัส ฝนแก้วศิวพร) ลูกสาวคนเดียวของเธอ กลับไปยัง ‘บ้านจารึกอนันต์’ บ้านเก่าของครอบครัวที่เธอเคยอาศัยอยู่เมื่อ 30 ปีก่อน จากนั้นทั้งคู่ก็ได้เผชิญกับเรื่องราวประหลาด อันยากจะหาคำตอบได้
ทั้งนี้ ในโลกของซีรีส์ยังมีบ้านอีกหลายหลังที่ไม่น่ากลับไปหา วันนี้ The MATTER จึงขอพาทุกคนมาเผยสาเหตุ ซึ่งทำให้บ้านหลังต่างๆ ในซีรีส์เหล่านี้ ไม่ใช่สถานที่อันน่าอภิรมย์สำหรับเดินทางมาเยี่ยมเยือน โดยบ้านแต่ละหลัง ต่างก็มีเรื่องราวและจุดเชื่อมโยงกับซีรีส์ อย่า กลับ บ้าน อย่างมีนัยสำคัญ
House of Dragon บ้านที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง
พูดถึงบ้านไม่น่ากลับ คงขาดบ้านมังกรไปไม่ได้ ‘House of the Dragon’ ซีรีส์มหากาพย์ศึกสายเลือดบ้านดำบ้านเขียว ที่พาเราเข้าสู่สงครามและการแย่งชิงสิทธิในการครองบัลลังก์ โดยมีฉากหลังเป็นบ้านของตระกูลทาร์แกเรียน ณ คิงส์แลนดิง อันเต็มไปด้วยความขัดแย้งกันระหว่างคนในตระกูล
ซึ่งแต่ละฝ่ายต่างก็ชิงดีชิงเด่นกันเผื่อผลประโยชน์ของฝั่งตนเอง จนทำให้ ‘เรนีรา ทาร์แกเรียน’ ผู้ได้สิทธิครองบัลลังก์อย่างชอบธรรมจากพ่อผู้เป็นกษัตริย์คนก่อนของเธอ ต้องระหกระเหินไปอยู่ดราก้อนสโตน เพื่อใช้เป็นฐานตั้งมั่นและสถานที่ปลอดภัย เพื่อเตรียมตัวชิงบัลลังก์ของเธอกลับคืนมา
คล้ายกับวารีตัวเอกจากซีรีส์อย่า กลับ บ้าน ผู้ต้องหนีออกมาจากความขัดแย้งไม่ลงรอยกันระหว่างตัวเธอกับสามี ที่มักใช้ความรุนแรงและทำร้ายร่างกายเธออยู่เสมอ จนเธอเริ่มทนไม่ได้ จึงหลบหนีออกมา พร้อมกับพาลูกสาวกลับมาอยู่บ้านเก่าของเธอ เพื่อหวังให้สถานที่แห่งนี้เป็นที่หลบภัยให้เธอกับลูกได้อยู่อย่างปลอดภัย
Big Little Lies บ้านที่ต้องเผชิญหน้ากับปิตาธิปไตย
ประเด็นเรื่องปิตาธิปไตย ถูกใส่มาอย่างแยบยลในซีรีส์ ‘อย่า กลับ บ้าน’ กับภาพของวารีที่ต้องก้มหัวต่ออำนาจอันเหนือกว่าของสามี นี่จึงเป็นตัวสะท้อนให้เราเห็นถึงผู้หญิงกับการถูกกดทับด้วยระบบชายเป็นใหญ่ ซึ่งเป็นต้นตอสำคัญของความรุนแรงและการทำร้ายร่างกายภายในเรื่อง
ถึงอย่างนั้นตัวของนางเอก ก็ไม่ได้ยอมต่อระบบดังกล่าว เธอเองก็ได้ลุกขึ้นต่อต้านและขัดขืนต่อระบบความไม่เท่าเทียมทางเพศนี้ด้วยเช่นกัน ผ่านการแสดงออกเชิงขัดขืน อย่าง การหนีออกมาพร้อมกับลูกสาวของเธอนั่นเอง
ซึ่งเหล่าบรรดาแม่ๆ จาก ‘Big Little Lies’ ต่างก็ต้องเผชิญกับการถูกกดทับของระบบปิตาธิปไตยเช่นเดียวกัน แม้ว่าฉากหน้าของพวกเธอจะถูกฉาบไปด้วยความสมบูรณ์แบบและความสุขในครอบครัวที่ดูดีตามแบบฉบับครอบครัวตัวอย่าง ทว่าภายใต้เปลือกดังกล่าวกลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ความกลัว และความขัดแย้ง ซึ่งล้วนมีต้นตอมาจากระบบปิตาธิปไตย ที่ค่อยๆ บีบรัดตัวตนของพวกเธอ นำไปสู่ความรุนแรง อันยากจะหาทางรับมือ
ตัวอย่างเช่น บ้านของ ‘เซเลสเต้ ไรท์’ ซึ่งภายนอกดูเหมือนเป็นบ้านตามอุดมคติของใครหลายคน แต่แท้จริงแล้ว เธอต้องเผชิญกับสามีผู้ชอบใช้ความรุนแรง และมักจะทำร้ายร่างกายเธอเวลาโมโหอยู่เสมอ บ้านสำหรับเธอจึงไม่ต่างอะไรกับกรง ที่คอยคุมขังเธอ ด้วยการกดขี่ทางอำนาจจากความไม่เป็นธรรม อันเป็นผลพวงจากระบบปิตาธิปไตย
The Umbrella Academy บ้านที่พ่อผู้ไม่เคยมอบความอบอุ่นให้กับใคร
ในซีรีส์ ‘อย่า กลับ บ้าน’ ผู้ชมอย่างเราจะเห็นการตั้งแง่ของ ‘ยุทธชัย’ ต่อลูกสาวอย่าง ‘มิน’ เนื่องจากตัวเขาไม่เชื่อว่าเธอคือลูกสาวแท้ๆ ของตน นั่นจึงทำให้เราจะไม่เห็นการดูแลเอาใจใส่หรือการทำหน้าที่พ่อของยุทธชัยเลย ซึ่งแน่นอนว่า ฉากการแสดงความรักอันแสนอบอุ่นจากพ่อสู่ลูก ก็ไม่มีให้เราได้ชมเช่นกัน
สถานการณ์คล้ายคลึงกับเหล่าฮีโร่ทั้ง 7 จาก ‘The Umbrella Academy’ ที่ต้องอาศัยอยู่ในบ้านร่วมกับพ่อ ผู้ไม่ค่อยใส่ใจและมอบความอบอุ่นให้พวกเขาเท่าไหร่นัก เนื่องจากพวกเขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ อีกทั้งผู้เป็นพ่อยังเข้มงวดกวดขันพวกเขาเป็นพิเศษ นั่นจึงส่งผลต่อจิตใจ ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาและผู้เป็นพ่อ นำไปสู่การแยกย้ายไปคนละทิศคนละทาง จนพวกเขาแทบไม่ได้กลับมาเหยียบบ้านหลังนี้อีกเลย
Marcella บ้านที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด
ถ้าจะบอกว่า วารี คือตัวละครสาวแกร่งใจสู้ ก็คงไม่ผิดเสียทีเดียว เพราะเธอต้องแบกรับความเจ็บปวดทั้งทางกายและจิตใจ พร้อมกับทำหน้าที่แม่ในการพาลูกมาเลี้ยงดู โดยไม่มีใครช่วยเหลือ
นอกจากนี้ยังมี ‘สารวัตรฟ้า’ ตำรวจสายสืบสาวผู้รับหน้าที่ตามหาลูกสาวของวารี ซึ่ง ณ ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ ตัวของเธอก็ได้อุ้มท้องโย้เย้ไปด้วย สะท้อนให้เห็นถึงความยากลำบากของสารวัตรฟ้าผู้ต้องแบกรับบทบาททั้งความเป็นแม่และตำรวจไปพร้อมๆ กัน
เหมือนกับ ‘มาร์เซลล่า แบ็กแลนด์’ อดีตนักสืบหญิงที่กลับมาทำงานไขคดีอีกครั้ง ใน ‘Marcella’ หลังจากตัวเธอเพิ่งเลิกรากับสามีได้ไม่นาน โดยทั้งคู่มีลูกด้วยกันสองคน ทว่าหน้าที่การดูแลลูกจำต้องตกอยู่กับฝ่ายของมาร์เซลล่า ซึ่งการต้องรับผิดชอบต่อบทบาททั้งสองไม่ว่าจะเป็นนักสืบและแม่ ทำให้บ้านอันควรจะเป็นสถานที่แสนสุข กลับเต็มไปด้วยแรงกดดันและบรรยากาศชวนตึงเครียด จนใครก็ไม่อยากจะกลับมา
Succession บ้านที่มีความรุนแรงในครอบครัว
หากจะมีซีรีส์เรื่องไหน ฉายภาพความรุนแรงในครอบครัวได้ชัดมากสุดเรื่องหนึ่ง คงต้องยกตำแหน่งนั้นให้กับ ‘Succession’ กับ เรื่องราวของ ‘โลแกน รอย’ พ่อใหญ่แห่งตระกูลรอย ครอบครัวมหาเศรษฐีเจ้าของอาณาจักรสื่อระดับโลก ซึ่งมีเหล่าบรรดาลูกๆ ผู้ทะเยอทะยาน ต้องการช่วงชิงเก้าอี้ผู้นำของตระกูลอยู่ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม โลแกนก็ใช่ว่าจะเป็นพ่อผู้แสนดี พร้อมแบ่งปันเคล็ดลับการทำธุรกิจให้กับลูกๆ เสียเมื่อไหร่ เพราะตัวเขาเองเลือกใช้วิธีการควบคุมลูกด้วยความเข้มงวด ซึ่งบางครั้งก็เลยเถิดกลายเป็นความรุนแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจ นำมาสู่รอยร้าวภายในครอบครัว อันยากจะเยียวยาได้
นี่คงไม่ต่างอะไรจากยุทธนาใน ‘อย่า กลับ บ้าน’ ผู้เลือกใช้ความรุนแรงทั้งคำพูดและการกระทำ ในการทำร้ายตัวของวารี ทำให้เธอต้องหนีออกมาอย่างไม่มีทางเลือก จนนำไปสู่เรื่องราวอันแสนหดหู่ทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายในซีรีส์
ถ้าจะบอกว่าตัวของยุทธาคือต้นตอของเหตุการณ์ทั้งหมดภายในเรื่อง คงไม่ผิดเท่าไหร่นัก ถ้าเขาไม่เลือกใช้ความรุนแรงกับคนในครอบครัว และทำหน้าที่สามีอย่างควรจะทำ ก็อาจไม่มีเรื่องราวโศกนาฏกรรม ณ บ้านจารึกอนันต์เกิดขึ้นเลยก็เป็นได้
ท้ายสุดแล้ว บ้าน อาจไม่ใช่เพียงแค่ที่อยู่อาศัย แต่มันคือสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวเบื้องหลังมากมาย บางหลังก็เป็นที่พักพิงอันแสนอบอุ่น ทว่าสำหรับบางหลัง การไม่กลับไปเยือนอีกครั้ง อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด
อ้างอิงจาก