‘สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ’ สำนวนไทยที่บอกว่า ใจเราสำคัญ ความสุขจากการทำดี หรือความทุกข์ที่เกิดจากการทำชั่วในย่อมขึ้นอยู่กับใจของเราเอง
*คำเตือน : บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาที่สำคัญมากๆ ของซีรีส์
แต่ในความเป็นจริง สวรรค์หรือนรกก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ในใจของเรา เพราะในหลายครั้ง สภาพแวดล้อม หรือคนรอบตัวก็กลายเป็นนรกสำหรับเราได้เหมือนกัน ซึ่งซีรีส์เกาหลี ‘นรกคือคนอื่น’ หรือในชื่อ Strangers From Hell ที่เพิ่งออนแอร์จบผ่านช่องเคเบิ้ล OCN ไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็เป็นหนึ่งเรื่องที่สะท้อนให้เห็นถึง ‘นรก’ ที่ไม่ต้องรอชีวิตหลังความตายถึงจะได้เจอ แต่ก็พร้อมวนเวียนอยู่ในชีวิตของเราทุกคน
‘นรกคือคนอื่น’ เป็นซีรีส์ที่สร้างมาจากเว็บตูนในชื่อเดียวกัน โดยเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมทั้งในไทย และเกาหลีใต้ โดยเรื่องย่อเกี่ยวกับ ‘ยุน จงอู’ หนุ่มที่ย้ายเข้ามาทำงานในเมืองหลวงอย่างโซล โดยเริ่มจากการเป็นเด็กฝึกงานในบริษัทของรุ่นพี่ก่อน แต่ด้วยความที่เริ่มต้นตั้งตัว และมีเงินอย่างจำกัด จึงต้องเลือกอยู่ในหอพักราคาถูก เรียกได้ว่าแคบเหมือนรูหนู แถมยังต้องอาบน้ำแบบรวม และใช้ห้องครัวส่วนกลาง ร่วมกับเพื่อนร่วมหอที่มีคาแรคเตอร์แปลกๆ
‘คิมยงกิ’ ผู้เขียนเล่าว่าเขาได้แต่งเรื่องนี้ มาจากแรงบันดาลใจในชีวิตจริงของตัวเอง ที่คล้ายกับตัวเอกของเรื่องคือ จงอู ซึ่งหลังเรียนจบเขาเองก็เข้ามาทำงานในบริษัทในโซล แถมยังต้องอยู่ให้หอพักราคาประหยัดแบบนี้ด้วย
*คำเตือนอีกครั้ง : บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาที่สำคัญมากๆ ของซีรีส์
เอเดน หอพักนี้มีแต่คนดี
แม้ว่าหอพักเอเดน หอราคาถูกที่จงอูเลือกไปเช่าอยู่จะมีหน้าตาไม่ค่อยน่าเข้าพัก อยู่บนเนิน เดินก็ไกล แต่ตัวอาคารนั้น ก็มีโบสถ์อยู่ชั้นล่าง มีภาพของไม้กางเขนสัญลักษณ์ของศาสนาคริสต์อยู่บนดาดฟ้า ทั้งคนในหอพักที่ดูมีลักษณะนิสัยประหลาดๆ เองก็ยังมักไปร่วมงานอาสาสมัครของโบสถ์ แถมมักยังเสนอภาพว่าตัวเองเป็น ‘คนดี’ ผ่านกิจกรรมเหล่านี้
เหล่าสมาชิกหอเอง ยังมักพูดถึงคุณป้าเจ้าของหอ ‘ออม บกซุน’ ที่มักทำอาหารไว้ให้สมาชิกหอทาน ไม่ว่าจะทอดไข่ ต้มไข่ ทำเนื้อหมัก หรือว่าเครื่องดื่มชูกำลังว่า เป็นความดี และความมีน้ำใจของคุณป้า ที่มีให้กับสมาชิกด้วย หรือแม้แต่ประโยคของคุณป้า ที่มักพูดย้ำๆ กับจงอูทุกครั้ง ที่มีคนหาย หรือออกไปจากหอว่า “ตอนนี้ ที่นี่ก็เหลือแต่คนดีๆ แล้วนะ”
แต่เมื่อเราดูซีรีส์เรื่องนี้ เราจะเห็นได้ว่าพฤติกรรมของเหล่าสมาชิกหอคนอื่นๆ และคุณป้าเจ้าของ ห่างไกลจากคำว่าคนดี ในบริบทที่สังคมทั่วไป หรือศาสนาตีความ เพราะพวกเขาทั้งสนุกกับการจับคนในหอไปทรมาน ฆ่าโดยวิธีโหดเหี้ยม เสียเลือดกันให้กระจาย ทั้งยังทำเป็นขบวนการ เป็นขั้นเป็นตอน และไม่ได้เพิ่งมาทำเมื่อพบจงอู แต่อาจเรียกได้ว่า ฆ่าคน หรือสัตว์ (แมวรอบๆ หอ) เป็นงานอดิเรกในชีวิตประจำวันเลยก็ว่าได้
และเมื่อดูพฤติกรรมของคุณป้าออมเอง ผู้เลี้ยงดูสมาชิกในหอ 3 คนตั้งแต่สมัยอยู่บ้านเด็กกำพร้า ก็จะเห็นว่าข้อสงสัยในตัวแก ก็มีแต่เรื่องที่เสี่ยงคุก เสี่ยงตาราง ไม่ว่าจะต้องสงสัยว่าฆ่าสามี 2 คนของตัวเอง รวมไปถึงพ่อ-แม่ และเผาสถานที่เพื่อเอาเงินประกัน ถึงอย่างนั้น คุณป้าออมเองก็ย้ำซ้ำๆ ตลอดว่าหอพักนี้มีแต่คนดีๆ จริงๆ
คำว่า ‘คนดี’ ที่เหล่าสมาชิกหอเอเดนพูดกันอยู่ตลอดในเรื่อง จึงอาจไม่ได้หมายความว่า คนดี แบบที่สังคมทั่วๆ ไปกำหนดแน่นอน แต่อาจเป็นความคิดที่พวกเขาเลือกจะมอง และตัดสินกันและกันว่า พวกเขาต่างก็ล้วนเป็นคนดี และทำสิ่งที่ดี เพื่อสร้างคุณธรรมให้กับสิ่งที่พวกเขากำลังทำ
ซึ่งในซีรีส์ก็สื่อให้เห็นว่า เราเลือกจะตัดสินคน ว่าเป็นคนดี ไม่ใช่เพราะพฤติกรรมของเขา แต่เพราะเป็นความเชื่อของเรา อย่างในฉากที่ตำรวจสาวจองฮวา ถามคุณย่าของเธอว่า คุณปู่เป็นคนยังไง และคุณย่าก็ตอบกลับมาว่า เป็นคนดี ดีมากๆ เพราะ “ถ้าเราเชื่อว่าคนนั้นเป็นคนเป็นคนดี มีจิตใจงดงาม เขาก็จะเป็นคนดี และจิตใจงดงามได้มากกว่า ที่เราเชื่อเสียอีก”
นรกคือคนอื่น
“ก่อนจะย้ายมาอยู่หอพักนี้ ผมเคยคิดว่าโลกที่ผมอยู่ ไม่นับที่นี่ คือนรกดีๆ นี่เอง ความยากจนข้นแค้น พี่ชายที่ทำตัวเป็นภาระ แม่ผู้น่าสงสาร รวมทั้งค่ายทหารกับมหาฯ ลัย แต่นรกที่แท้จริงคือที่นี่ต่างหาก นรกที่สร้างโดยคนอื่น” – ยุน จงอู
จากหนุ่มบ้านนอกปูซาน เข้ามาหางานในเมืองกรุงโซล แม้การเปลี่ยนที่อยู่ เปลี่ยนงาน จะต้องใช้เวลาปรับตัว แต่เราก็เห็นพัฒนาการตัวละครของจงอู ที่นานวัน ยิ่งปรับตัวไม่ได้ ประสาทแดกมากขึ้นเรื่อยๆ สภาพจิตใจย่ำแย่ สติไม่ค่อยอยู่กับเนื้อตัว ซึ่งการเปลี่ยนไปของจงอู และเหตุการณ์ทั้งหมดในซีรีส์ เกิดขึ้นเพียงในระยะเวลาเพียงแค่สัปดาห์กว่าๆ เท่านั้น โดยสิ่งที่ขับเคลื่อนให้เขาเป็นขนาดนี้ได้ ก็เพราะ ‘คนอื่น’ รอบตัวเขา เหมือนอย่างที่แม่ของเขาได้บอกในตอนจะเข้ากรุงว่า “ระวังคนให้ดี คนน่ากลัวยิ่งกว่าอะไร”
ด้วยสภาพห้องที่คับแคบอยู่แล้ว ในหอพัก เขายังต้องพบเจอเพื่อนบ้านแปลกๆ ที่มีนิสัยประหลาดๆ หัวเราะตลอดเวลา พูดติดอ่าง หรือคนที่ดูหื่นกาม ชอบดูหนังโป๊ไม่ปิดประตูห้อง และเหล่าคนที่มักจ้องมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ กลุ่มคนเหล่านี้ยังดูมีพฤติกรรมแปลกๆ แอบทำตัวลับๆ ล่อๆ เหมือนจะแอบเข้าห้องของเขาเวลาที่ไม่อยู่ แถมบางครั้งยังเหมือนพยายามจะปองร้ายเขาด้วย
ไม่เท่านั้น จงอูยังเจอเหตุการณ์ประหลาดๆ ที่คนที่เคยพักในหอ หายตัวไป คนที่มาตามหาคนในหอ ก็หายตัวไปอีก และไหนจะไดอารี่ของคนที่เคยอยู่ในห้องของเขา ที่เขียนว่า ทั้งกลัว รู้สึกเหมือนจะตาย จะโดนฆ่า ไหนจะอาการฝันร้ายของจงอู เสียงกระซิบ และเสียงตึงตังที่มาจากชั้นบน ที่ไม่มีคนอยู่ ที่ทำเอาแต่ละวัน การพักผ่อนและอาศัยอยู่ในหอ เต็มไปด้วยความหวาดระแวง
นอกจากหอพักแล้ว ออฟฟิศหนึ่งในสถานที่ที่เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวัน ยังมีบรรยากาศของหัวหน้าที่ไม่เป็นมิตร สอนงานอย่างไม่เต็มใจ ทั้งยังดูอิจฉา และมาก่นด่าเขาเป็นประจำ ทั้งรุ่นพี่ เจ้าของบริษัท คนที่เหมือนจะเป็นผู้มอบโอกาสในการทำงานให้ คอยดูแล พาไปเลี้ยงเหล้า แต่ก็กดเขาไว้ด้วยความเป็นรุ่นพี่ พูดเรื่องที่เขาไม่อยากให้พูดต่อหน้าคนอื่นๆ เหมือนอยากจ้างงานเขาเพราะเป็นแรงงานราคาถูก และยังมีพฤติกรรมคล้ายจะตีท้ายครัวเขากับแฟนอีก
รวมไปถึงจีอึน แฟนสาวของจงอู ที่แม้การย้ายมาทำงานในเมืองเดียวกัน เหมือนจะทำให้พวกเขาได้มีเวลาพบกันมากขึ้น แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็ยังคงใช้เวลาด้วยกันผ่านแค่การแชท หรือโทรศัพท์ ซึ่งจีอึน ก็มักจะปฏิเสธการระบาย หรือรับฟังจงอู แต่มักตัดบทว่าเขาคิดมากไปเอง และยังมีท่าทีให้จงอูไม่ไว้ใจด้วย
แต่จริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่คนอื่น ที่เป็นนรกกับจงอู สภาพแวดล้อม และค่านิยมความสำเร็จของสังคมก็ยังเป็นสิ่งที่บีบเขาอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นสภาพการเงินของจงอู ที่มีความคิดจะเก็บเงิน ย้ายออกไปหาหอใหม่ แต่ก็ติดปัญหาการเงิน และไม่วายถูกแม่โทรมาขอเงิน แถมแผนการหาห้องพักที่พอจะมีราคาประหยัด ก็ต้องแข่งขันกับคนอื่นๆ และเสี่ยงกับการเจอหอหลอนๆ อีกครั้ง
หรือค่านิยมที่มีการพูดกันว่า ต้องมีบ้านเป็นของตัวเองถึงจะแต่งงานได้ ต้องประสบความสำเร็จ มีบริษัทของตัวเองอย่างรุ่นพี่ สิ่งเหล่านี้จึงล้วนกลายเป็นนรกสำหรับจงอู ที่กัดกินชีวิตเขาได้ภายในระยะสั้นๆ
ซึ่งในสังคมของเราเอง หลายๆ ครั้งเราก็เจอนรกที่ไม่ต่างจากจงอู ไม่ว่าจะผู้คน สังคม และค่านิยมที่เรียกร้องให้ทุกคนต้องประสบความสำเร็จ และมั่นคง จึงไม่แปลกที่หลายคนเปรียบความทุกข์ในใจเป็นนรก และนรกนั้นก็เหมือนอย่างที่จงอูบอกว่า “สถานที่ไม่ใช่ประเด็น แต่ทุกๆ ที่ที่ผมไป กลับกลายเป็นนรก”
เราที่กลายเป็นนรก
แน่นอนว่าคนรอบข้างจงอู มีส่วนในการปั่นประสาทเขาเหลือเกิน จนทำให้เขาระแวง รน ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้เขากลายเป็นแบบนี้ ก็เป็นเพราะตัวเขาเองเช่นกัน เหมือนอย่างที่เขาเคยคิดกับตัวเองว่า ‘ที่เขาเปลี่ยนไปเป็นเพราะใครที่ทำให้เปลี่ยนไป หรือจริงๆ เป็นตัวตนของเขาเองอยู่แล้ว’
เรายังสังเกตได้ว่า จงอู เป็นตัวละครที่แม้ภายนอกจะดูนิ่งๆ แต่เขามักถูกรุ่นพี่ บอกว่าเขาเป็นคนใจร้อน หัวร้อน และต้องใจเย็นให้มากกว่านี้ ซึ่งเราก็ได้เห็นจริงๆ ว่า เวลาเมาแล้ว เขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ รวมถึงความคิดในหัวของจงอูเอง ที่ซีรีส์มักฉายภาพสิ่งที่เขาคิดต่อเหตุการณ์ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเขวี้ยงแก้วลงพื้น ต่อยหน้าคน และตัดกลับมาที่ความเป็นจริง ที่เขาได้แต่เก็บสิ่งที่อยากทำไว้ในใจ
และคนที่ดูเหมือนรู้ว่าจงอูคิดอย่างไรในหัวอยู่ตลอด ก็คือ ‘ซอ มุนโจ’ ทันตแพทย์ หนึ่งในผู้ร่วมหอ และผู้ร่วมขบวนการฆ่าอย่างเลือดเย็นเพื่อความสนุก ที่ในแต่ละตอน เขาพยายามพูดกับจงอูเสมอว่า ให้พูดในสิ่งทิ่คิดออกมา ไม่ต้องเก็บมันไว้ ปลดปล่อยแล้วสบายใจจะตาย ซึ่งแม้จงอู จะมีท่าทีหวาดกลัว และขัดขืนมุนโจ แต่อารมณ์ของจงอู ก็ค่อยๆ ปลดปล่อยออกมาเรื่อยๆ อย่างควบคุมไม่ได้ และทวีคูณมากยิ่งขึ้น ตามที่มุนโจเคยพูดจริงๆ
ซึ่งในตอนท้ายๆ เราจะเห็นว่าภาพในความคิดของจงอูก็ไม่ได้ฉายออกมาให้เราเห็นอีกแล้ว แต่กลายเป็นสิ่งที่เขาลงมือทำ อย่างที่ไม่คิดว่าตัวเขาเองจะต้องควบคุมอารมณ์ใดๆ ไว้อีกแล้ว จากการชกต่อยกลุ่มนักเรียนอย่างขาดสติ ไปถึงจุดที่จงอูไม่คิดว่าตัวเองจะลงมือทำ คือ ‘การฆ่าคน’
ในฉากท้ายๆ ของเรื่อง จงอูได้ถามมุนโจว่า ทำไมเขาถึงฆ่าคน ซึ่งมุนโจก็ตอบว่า สิ่งที่เขาทำเป็นสัญชาตญานมนุษย์ที่ชอบกัดกินผู้อ่อนแอ และเพลินเพลินเมื่อผู้อ่อนแอทุกข์ทรมาน “จะไว้ชีวิตใครก็ทำได้ จะฆ่าใครก็ทำได้ เราเหมือนพระเจ้า” แต่จงอูก็ได้ตอบกลับมุนโจว่า “ถ้าเป็นมนุษย์ ต่อให้เป็นมนุษย์ที่ชั่วช้า ก็ไม่ทำแบบแก” ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว จงอูพูดประโยคนี้ หลังเพิ่งลงมือฆ่าคนโดยไม่รู้ตัว (คาดว่าน่าจะไม่มีสติ) อย่างโหดเหี้ยมไปถึง 3 คน
แม้ว่าในเรื่อง เราจะคิดว่ามุนโจ ต้องการฆ่าจงอู แต่จริงๆ แล้ว สิ่งที่มุนโจทำมาตลอด ตั้งแต่เจอจงอู คือการให้จงอูได้ปลดปล่อยอารมณ์ด้านมืด ได้ใช้สัญชาตญาณมนุษย์แบบที่เขาบอก หรือกลายเป็นคนแบบเดียวกับเขา ซึ่งฉากจบของซีรีส์ก็แสดงให้เราเห็นจริงๆ มุนโจได้ทำสำเร็จ อย่างที่เขาได้พูดกับจงอูก่อนถูกฆ่าตายว่า “คราวนี้ที่รักกับผมจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” และ “ที่รักสมเป็นผลงานชิ้นเอกที่ผมเคยสร้างมาจริงๆ”