ถึงจะต้องต่อสู้กับบรรดาซีรีส์มากมายจากต่างประเทศ ละครไทยก็ยังเป็นสื่อที่ให้ความบันเทิงคู่บ้าน ยังมีฐานคนดู และยังอยู่ในท็อปปิกยามเมาท์มอยไม่ขาดสาย ถึงขั้นว่าเช้าเข้าออฟฟิศอย่าเพิ่งพูดเรื่องงาน แต่ขอถามก่อนว่า “เมื่อคืนเธอดูหรือยัง…?”
ด้วยความสงสัยถึงจุดเด่นเฉพาะตัวของ ‘ละครไทย’ ทีมงาน The MATTER จึงไปเก็บข้อมูล หรือจะเรียกว่า นั่งดูกันจนตาแฉะก็ได้ ตามมาด้วยการอ่านบทสรุปยาวหลายบรรทัด จาก 6 ช่องทีวี รวมแล้ว 53 เรื่อง ในช่วงไพร์มไทม์ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 25 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2019 (ไม่นับเรื่องที่ยังออกอากาศอยู่ และยังไม่ได้ฉาย)
ผลที่ได้ออกมาโดยรวมแล้วประเภทของละครไทย (genre) ยังทำออกมาในแนว เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ด้วยกันเอง (drama) และเกี่ยวกับความรัก (romantic) เป็นหลัก อาจมีแนวอื่นบ้างแต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าช่องไหนเด่นอะไร เช่นช่อง 7 ที่มีละครแอ็กชั่นหลายเรื่อง
จำนวนเรื่องและจำนวนตอนก็แตกต่างกันไปในแต่ช่อง ที่เห็นคือเจ้าใหญ่ๆ อย่างช่อง 3 และ 7 จะมีจำนวนตอนเฉลี่ยประมาณ 14.71 ตอน และ 14.29 ตอน (ตามลำดับ) เพราะมีละครที่ต้องฉายหลายเรื่องตลอดทั้งปี กลับกันช่องขนาดกลางกับขนาดเล็กที่มีขอบเขตเวลาฉายต่างไป ก็จะมีจำนวนตอนเฉลี่ยมากกว่า
ที่น่าสนใจที่สุดคงจะเป็นตอนจบ ส่วนใหญ่ละครไทยมักให้คู่หลักได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข โดยเฉพาะช่อง 7 ที่ละครทั้งหมด 16 เรื่อง มีถึง 14 เรื่อง (87.5%) ที่จบแบบแฮปปี้ มีน้อยมากที่จะไม่ได้คู่กันหรือถึงขั้นตาย สำหรับฝั่งตัวร้ายก็แน่นอน…ถูกจับ บาดเจ็บสาหัส เสียสติ หรือไม่ก็ตาย เป็นตัวร้ายหนิเนอะ
ช่อง 3
เริ่มกันที่ช่องหลักช่องใหญ่ ด้วยความเป็นเจ้าใหญ่นี่แหละทำให้ช่อง 3 มีละครหลายเรื่องต้องฉายในปีนี้ จาก 21 เรื่องที่ได้เก็บข้อมูลมา เห็นชัดเลยว่าจำนวนเรื่องส่งผลกับจำนวนตอน คือยิ่งมีละครต้องฉายมาก จำนวนตอนที่แต่ละเรื่องจะฉายได้ก็น้อยลง ละครช่อง 3 มีจำนวนตอนเฉลี่ยอยู่ที่ 14.71 เรื่อง (14-15 เรื่องนั่นแหละ) ซึ่งถ้าไปเทียบกับช่องอื่นแล้วถือว่าน้อยกว่า
สำหรับเรื่องประเภทของละคร แน่นอนว่าละครช่อง 3 มีส่วนผสมของ drama และ romantic อยู่เยอะ แต่ของถนัดเลยจะเป็น period หรือสไตล์ย้อนยุค ข้ามภพข้ามชาติ ไม่มีแนวละครเพลง (musical)
ละครช่อง 3 กว่า 16 เรื่อง จาก 21 เรื่อง (76.2%) จะจบที่คู่ตัวเอกพระนางได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ที่ตามมาคือตัวละครหลักประสบความสำเร็จในชีวิต (14.76%) รองลงมาคือไม่ได้คู่กันและปมต่างๆ คลี่คลาย แต่ไม่มีเรื่องไหนคู่พระนางตาย ด้านตัวร้ายถือว่ามีจุดจบหลากหลาย เยอะที่สุดคือเสียสติ/ความทรงจำเลอะเลือน และตาย (19.05% ทั้งคู่) นอกนั้นก็จะมีถูกจับ ตกงาน/ล้มละลาย ฯลฯ ที่แปลกคือมี ‘หลุดพ้น’ ด้วยนะ
ช่อง 7
ช่อง 7 สี ทีวีเพื่อคุณ ช่องนี้มาด้วยจำนวนตอนเฉลี่ยที่ไม่ห่างจากช่อง 3 มาก เพราะเป็นช่องใหญ่เหมือนกัน คือ 14.29 ตอน ละครทั้ง 16 เรื่องที่เก็บข้อมูลมา แม้ช่อง 7 จะเน้นไปที่ drama และ romantic แต่ก็ไม่ทำให้ผิดหวังกับคำว่า “ระเบิดภูเขา เผากระท่อม” เพราะอีกแนวหลักที่ทำให้ช่องนี้ไม่เหมือนใครคือสายบู๊ หรือ action
ในด้านตอนจบของเรื่อง 87.5% ของทั้งหมดจบลงแบบแฮปปี้ มีเรื่องที่จบโดยคลี่คลาย (6.25%) แม้จะไม่มีใครรักกัน แต่ตัวละครเอกตายก็มีนะ (6.25%) ไปดูตัวร้ายกันบ้าง บอกเลยว่าช่อง 7 ถือเป็นช่องที่มีสัดส่วนตัวร้ายตายเยอะที่สุดถึง 68.75% รองลงมาคือบาดเจ็บ/ป่วย (12.5%) ถูกจับ (6.25%) กลับตัวกลับใจ (6.25%) และล้มละลาย/ตกงาน (6.25%)
ช่อง 8
มากันที่ช่อง 8 ที่ฉายไปแล้ว 2 เรื่อง ซึ่งละครมีจำนวนตอนเฉลี่ยอยู่ที่ 32.5 ตอน ถือว่าจำนวนเรื่องน้อยแต่ฉายได้นาน ด้านส่วนผสมของประเภทละครก็ยังคงเน้น drama และ romantic เหมือนกัน แต่ที่พิเศษคือช่อง 8 มีละครที่ใช้เพลงเป็นตัวเล่าเรื่อง และบอกความรู้สึกของตัวเอกด้วย (musical)
จากละครช่อง 8 ทั้ง 2 เรื่อง มีเรื่องหนึ่งที่คู่หลักจบที่ได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ส่วนอีกเรื่องจบที่เรื่องราวทุกอย่างคลี่คลาย ตัวร้ายก็จะมีถูกจับหนึ่งเรื่อง ตายหนึ่งเรื่อง
ช่อง one
ช่อง one ถือว่ามีส่วนผสมของประเภทละครหลากหลาย ที่โดดเด่นนอกจาก drama และ romantic ก็จะเป็นแนว fantasy รองลงมาคือ action, period, horror และ musical ปีนี้ช่อง one ฉายละครไปแล้ว 8 เรื่อง คิดออกมาแล้วละครช่องนี้มีจำนวนตอนเฉลี่ย 21.56 ตอน
ครึ่งหนึ่งของละครช่อง one จบแบบคู่พระนางได้รักและอยู่ด้วยกัน มีไม่ได้คู่กัน 25% ที่เหลือคือปมปัญหาคลี่คลาย (12.5%) และมีเรื่องที่ตัวหลักตายด้วย (12.5%) ส่วนตัวร้ายจะจบลงด้วยการตายเป็นหลัก 62.5% ตามมาด้วยการกลับตัวกลับใจ ถูกสังคมลงโทษ และถ้าเป็นผีปีศาจก็คือไม่ได้ผุดได้เกิด คือ 12.5% เท่ากัน
ช่อง GMM
ยังคงตามสูตรละครไทยในหลายๆ ช่องที่ผ่านมา เพราะ drama และ romantic เป็นส่วนผสมสำคัญของละครช่อง GMM ที่เด่นกว่าชาวบ้านคือมีความตลก (comedy) รวมเข้าไปในหลายเรื่อง ด้านจำนวนตอนเฉลี่ยของละครช่องนี้จะอยู่ที่ 18.27 ตอน คำนวณจากที่ฉายไปแล้วในปีนี้ 10 เรื่อง
60% ของละครช่อง GMM จบที่ตัวละครหลักได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข จะมีไม่คู่กันด้วยถึง 30% อีก 10% คือตัวละครหลักตาย ด้านจุดจบตัวร้ายนับว่าไม่กระจุกไปที่การตายมาก (30%) จะมีกลับตัวกลับใจ หลบหนี เสียสติ บาดเจ็บสาหัส/ป่วย รวมไปถึงไม่สมหวัง/ไม่ได้รับรักจากตัวละครเอกด้วย
ช่อง PPTV
มากันที่ช่องสุดท้าย แม้จะฉายไปได้ 2 เรื่อง แต่ใน 2 เรื่องนี้ก็ทำให้ภาพรวมของละครช่อง PPTV มีทั้ง drama fantasy action และ period จำนวนตอนเฉลี่ยอยู่ที่ 28 ตอน ถ้าลองเทียบกัน ละครของช่อง PPTV จะฉายยาวช่อง 3 หรือช่อง 7 สองเท่า คือในช่วงเวลาเท่ากัน PPTV ฉายได้หนึ่งเรื่อง ช่อง 3 และช่อง 7 ฉายได้สองเรื่อง
ละครทั้ง 2 เรื่องของช่อง PPTV มีหนึ่งเรื่องที่สุดท้ายตัวละครหลักอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข แต่อีกเรื่องไม่ได้คู่กัน ฝั่งตัวร้ายก็ไม่หนีไปจากการถูกจับและตาย