‘ความดัง’ เป็นสิ่งที่หลายคนแสวงหา เพราะไม่ว่าอาชีพใดก็ตาม ไม่มีใครทำงานแล้วอยากถูกลืมหรอก นักเขียนการ์ตูนเองก็เช่นกัน หลายคนแปรสภาพจากบุคคลไร้ชื่อกลายเป็นเซเลปในเวลาไม่นานนัก จนทำให้นักเขียนการ์ตูนบางคนได้ออกสื่อบ่อย
นักเขียนการ์ตูนที่ออกสื่อให้เห็นหน้าตาบ่อยก็อย่างเช่น กลุ่มนักเขียน CLAMP / อาจารย์นาโอโกะ ทาเคอุจิ ผู้เขียนการ์ตูนเซเลอร์มูน หรืออย่าง อาจารย์โคโนมิ ทาเคชิ เจ้าของการ์ตูนเรื่อง The Prince Of Tennis ที่ไม่ได้แค่ออกสื่อธรรมดา แต่ถึงขั้นออกคอนเสิร์ตโซโล่กันเลยทีเดียวเชียว
ในทางกลับกัน นักเขียนการ์ตูนคนดังอย่าง อ.เออิจิโร่ โอดะ ก็เลือกที่จะไม่แสดงหน้าตาปัจจุบัน ในการสัมภาษณ์ทางทีวีครั้งล่าสุด หรือถ้าพูดให้ถูกต้องก็คือ นักเขียนการ์ตูนส่วนมากเลือกที่จะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อเท่าไรนัก The MATTER จึงจะพาไปรู้จักกับนักเขียนกลุ่มที่ว่านี้กัน
อ. อาราคาวะ ฮิโรมุ ผู้วาด Full Metal Alchemist แขนกลคนแปรธาตุ / Silver Spoon / รากหญ้าบรรดาศักดิ์
นักเขียนที่สร้างชื่อด้วยการ์ตูนแอคชั่นแฟนตาซี แต่เพิ่งมารู้ความหมายที่แท้จริงของการใช้ชีวิตในโรงเรียนเกษตรกรรม ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้ก็โด่งดังจนถูกนำไปสร้างอนิเมชั่นและภาพยนตร์คนแสดงอีกด้วย
ก่อนอื่นเลย ชื่อจริงๆ ของเธอไม่ใช่ ฮิโรมุ แต่เป็น ฮิโรมิ (ใช้อักษรคันจิตัวเดียวกัน) ปัจจุบันเธอเป็นคุณแม่ลูกสาม ด้วยความที่เธอเป็นลูกสาวในครอบครัวเกษตรกร ทำให้เธอนำเอาเรื่องราวเหล่านั้นมาปรับใช้ในงานอยู่หลายครั้ง รวมถึงการเขียนแซวชีวิตของตัวเองโดยสมบูรณ์ ในเรื่อง รากหญ้าบรรดาศักดิ์
ถึงจะดังขนาดนี้ แต่เธอกลับออกสื่อน้อยครั้งและรูปของเธอก็หาได้ค่อนข้างยาก หลายคนอาจจะค้านว่า เคยเห็นสาวผมสั้นไปรับรางวัลออกจะบ่อย จริงๆ แล้วอาจจะไม่ใช่ครับ เพราะท่านที่ไปรับรางวัลจากหลายครั้งเป็นคุณ คุณปาร์ค โรมิ นักพากย์ชาวญี่ปุ่นที่รับบท เอ็ดเวิร์ด เอลริค ตัวละครเอกของเรื่อง แขนกลคนแปรธาตุ ที่ไปเป็นตัวแทนของผู้เขียนในงานต่างๆ จนทำให้หลายคนเข้าใจว่า เธอคือ อาราคาว่า ฮิโรมุ ตัวจริง
ส่วนตัวจริงของอาราคาวะนั้น ถูกถ่ายรูปไว้น้อยครั้ง และมักจะเป็นภาพความละเอียดต่ำ ส่วนภาพที่เราพยายามค้นมาตามที่เห็นด้านบนนี้ แต่เราก็ต้องบอกไว้ก่อนว่า นี่ก็อาจจะไม่ใช่ภาพของ อาราคาว่า ฮิโรมุ แต่อาจจะเป็นพี่น้องในบ้านอาราคาว่าคนอื่นๆ ก็ได้นะ
อ. กาโม่ ฮิโรชิ ผู้วาด Lucky Man และ ผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นคนแต่งเรื่อง Bakuman / Death Note
นักอ่านที่เคยซื้อนิตยสาร BOOM สักราวๆ 15-16 ปีก่อนน่าจะคุ้นชื่อกับนักวาดคนนี้ ที่แม้จะมีลายเส้นไม่เนี้ยบนักแต่กลับเขียนมุกตลกระดับที่ไม่รู้ว่าได้มาจากยอดเขาอัลไตหรือเปล่า แม้ว่าการ์ตูนจะสนุกจนได้รับความนิยมมากพอจะนำไปสร้างอนิเมชั่น แต่เพราะผลงานที่ดังก็มีอยู่เรื่องเดียวแถมยังเป็นยุคก่อนอินเทอร์เน็ตจะรุ่งเรือง เลยไม่แปลกนักหากแทบจะไม่มีใครเคยพบหน้าเขา
นอกจากที่จะหาหน้าค่าตายากเย็นแล้ว นักเขียนคนนี้ยังมีตำนานอีกหนึ่งอย่างคือ เขา ‘อาจจะ’ เป็นคนเดียวกันกับ อาจารย์โอบะ สึกุมิ ผู้แต่งเรื่อง Bakuman และ Death Note ที่โด่งดัง เพราะมีหลายอย่างที่บอกใบ้อยู่เป็นเนื่องๆ ไม่ว่าจะเป็นนามสกุลของ อ. โอบะ ที่แปลว่า ทุ่งขนาดใหญ่ จนดูเหมือนจะล้อเลียน อาจารย์โอบาตะ ทาเคชิ ผู้วาดภาพที่มีนามสกุลแปลได้ว่า นาขนาดเล็ก หรือที่ชัดเจนที่สุดก็จะเป็นส่วนของการ์ตูนแถมในฉบับรวมเล่มของเรื่อง Bakuman ที่มีการลงตัวต้นฉบับที่ลายเส้นชัดเจนเหลือเกินว่า “นี่มันคนเขียน Lucky Man ชัดช้าด!”
แต่ที่สถานะของ อ.กาโม่ ยังตกเป็นเพียงผู้ต้องสงสัยก็เพราะทางฝั่งกองบรรณาธิการของสำนักพิมพ์ Shueisha ไม่เคยยอมรับหรือปฏิเสธตัวตนของอาจารย์ทั้งสองคนว่าเป็นคนเดียวกัน และทั้งสองก็ยังไม่เคยโชว์ตัวออกสื่อในยุคหลังเท่าใดนัก เลยยังฟันธงไม่ได้เท่านั้นเอง
จริงอยู่ที่คุณสามารถพิมพ์ชื่อ Gamo Hiroshi ใน google แล้วจะได้ภาพของชายหนุ่มคนท่าทางตลกๆ คนหนึ่ง ตรงกับ Lucky Man อยู่ไม่น้อย แต่จริงๆ แล้วผู้ชายคนนั้นคือนักแสดงตลกของญี่ปุ่นที่ใช้ชื่อทางการแสดงว่า Neko Hiroshi และปัจจุบันได้เทิร์นตัวเองไปเป็นสัญชาติเวียดนามเพื่อที่จะรับสิทธิ์ลงแข่งวิ่งมาราธอนในฐานะนักกีฬาทีมชาติเวียดนาม
ด้วยเหตุที่หน้าตาหายากจริงจัง …เราเลยไม่มีรูปของเขามาให้ดูกันนะ
อามางิ เซย์มารุ / ยูมะ อันโด้ / อาโอกิ ยูยะ / ริวมอน เรียว
4 ท่านด้านบนนี้ ไม่ใช่นักเขียนการ์ตูน แต่เป็นผู้แต่งของการ์ตูนชื่อดังอย่าง คินดะอิจิกับคดีฆาตกรรมปริศนา, ไซโคเมทเลอร์ เอย์จิ, Get Backers และ Bloody Monday การ์ตูนเรื่องดังจากทางสำนักพิมพ์โคดันฉะของประเทศญี่ปุ่น
การที่นักแต่งการ์ตูนอาจมีพื้นที่ออกสื่อน้อยกว่าจนหารูปไม่ได้นั้นไม่ใช่เรื่องแปลกนัก แต่สำหรับกรณี 4 คนนี้ หากลองเอาชื่อไปค้นใน Google สิ่งที่จะได้พบไม่ใช่ภาพของคน 4 คนนี้แต่อย่างใด แต่คุณจะพบกับรูปของชายคนเดียวกันแทน
เพราะชื่อทั้ง 4 นั้นเป็นนามปากกาของ อาจารย์คิบายาชิ ชิน นักแต่งบทการ์ตูน นักเขียนนิยาย และนักเขียนบทชื่อดังที่พอจะพูดได้ว่าเป็นกำลังหลักสำคัญของการ์ตูนค่ายโคดันฉะเลยทีเดียว อย่าง 4 เรื่องที่กล่าวไว้ข้างต้นก็แทบจะเป็นคนละแนวกันอยู่แล้ว แต่อาจารย์คิบายาชิ ยังเขียนการ์ตูนแนวอื่นอีกอย่าง Knight In The Area ที่เป็นการ์ตูนฟุตบอล และเป็นคนวางผังบทของละครทีวีญี่ปุ่นชื่อดังอย่าง HERO ด้วย
ดังนั้นในกรณีนี้ ไม่ใช่ว่าหารูปยากหรืออะไร แต่เป็นเพราะว่าชื่อทั้ง 4 ไม่ใช่ชื่อจริงนั่นเอง
ทำไมบุคลากรวงการการ์ตูนของญี่ปุ่นถึงเลือกที่จะไม่เปิดเผยตน
คำตอบส่วนหนึ่งก็มาจากค่านิยมของญี่ปุ่นในสมัยก่อน ที่อาชีพนักเขียนการ์ตูนมีภาวะที่ชาวไทยเปรียบเปรยว่า ‘เต้นกินรำกิน’ หรืออย่างในสมัยนี้เองกว่าที่จะก้าวมาถึงฝั่งฝันได้ก็ต้องผ่านเวลามาระดับหนึ่ง ดังนั้นนักเขียนหลายคนจึงพอใจกับการง่วนปั่นต้นฉบับให้ทันเดดไลน์เสียมากกว่า (แน่นอนว่า บ.ก. ก็ไม่อยากให้งานมันเลทหรอก)
ในยุคที่การ์ตูนกลายเป็นธุรกิจ การมีคนอ่านมากมายชื่นชอบ การเปิดตัวต่อสื่ออาจจะทำให้พวกเขาเสียความเป็นส่วนตัวไป ถ้าโชคดี ก็แค่เสียสถานที่ส่วนตัวที่ชอบไป แต่ในยุคหลังที่ความรุนแรงเกิดขึ้นได้ง่าย การทำตัวให้อยู่ต่ำกว่าเรดาร์ก็ช่วยให้หลีกเลี่ยงเรื่องเหล่านี้ได้ไม่น้อย
อ้างอิงข้อมูลจาก
http://topicks.jp/18772