[มีการเปิดเผยบางส่วนของซีรีส์ Game of Thrones, The Walking Dead]
เมื่อวาน The Walking Dead ซีซั่นใหม่ (ซีซั่นเจ็ด) ฉายที่สหรัฐ แฟนๆ ชาวไทยบางส่วนก็คงได้ดูกันไปบ้างแล้ว (ผ่านทางสิ่งที่ถูกลิขสิทธิ์บ้าง ผิดลิขสิทธิ์บ้าง ตามแต่โชคชะตาของแต่ละคน) สำหรับคนที่ได้ดูแล้วก็คงประจักษ์แก่สายตาแล้วว่าตัวละครสำคัญอย่างน้อยหนึ่งตัวได้ตายจากไปด้วยวิธีท่ีโหดเหี้ยม (นี่ไม่ถือเป็นการสปอยล์ เพราะซีซั่นที่แล้วก็ฉายไปแล้วว่ามีตัวไหนตายแน่ๆ)
The Walking Dead เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่มีตัวละครตายบนหน้าจอเป็นอันดับต้นๆ ของซีรีส์ทั้งมวล แต่การตายครั้งนี้พิเศษตรงที่ผู้ตายมีความสัมพันธ์ทางใจกับคนที่ติดตามซีรีส์มาอย่างยาวนาน การตายของเขา (หรือเธอ) จึงส่งผลให้ผู้ชม The Walking Dead บางส่วนปฏิญาณตนว่าจะเลิกดูมันไปตลอดกาล จนเป็นข่าวรายงานออกมาในหลายสำนัก เช่น The Verge รายงานพาดหัวว่า “The Walking Dead Quitter’s Club: goodbye for real” (ชมรมคนเลิกดูวอล์กกิ้งเดด ลาก่อน ลาขาด)
คำถามสำคัญที่อาจอยู่ในใจของนักดูทีวีหลายคนก็คือ ทำไมซีรีส์ทีวีปัจจุบันจึงชอบฆ่าตัวละครกันมากนัก มันเป็นแค่วิธีเรียกเรตติ้งที่ใช้แล้วใช้อีกจนเฝือหรือเปล่า หรือมันสำคัญต่อการดำเนินเรื่องจริงๆ
ในรายงานเรื่อง “TV is killing off so many characters that death is losing its punch.” (ทีวีซีรีส์ฆ่าตัวละครมากเกินไปจนไม่ตื่นเต้นแล้ว) ของ Vox บอกว่า ความนิยมในการฆ่าตัวละครหลักออกจากทีวีซีรีส์ในยุคใหม่นั้นเริ่มต้นจากเน็ด สตาร์ก (Game of Thrones) ที่เป็นตัวละครหลักในการดำเนินเรื่องมาตลอดทั้งซีซั่น 1 แต่กลับต้องมาตายตอนจบซีซั่น การตายครั้งนั้นส่งผลกระทบไม่เพียงในจักรวาลของ Game of Thrones เท่านั้น แต่มันยังส่งผลกระทบต่อจักรวาลของการสร้างทีวีซีรีส์ทั้งหลายด้วย เพราะน่าจะเป็นครั้งแรกๆ ในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ ที่ตัวละครหลักตายเร็วขนาดนี้ จนทำให้เป็นปรากฏการณ์สร้างความสั่นสะเทือนไปทั้งวงการ และทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบจากผู้สร้างซีรีส์อื่นๆ (ถึงแม้เน็ด สตาร์ก จะต้องตายอยู่แล้วเพราะดำเนินเรื่องตามหนังสือชุด A Song of Ice and Fire ก็ตาม)
“ในยุคนี้คุณต้องกล้าเสี่ยง แต่บางทีฉันก็สงสัยว่าการที่เราฆ่าตัวละครมากเกินไปนี้ทำให้ผู้ชมชินชา (desensitize) กับการตายของตัวละครต่อๆ ไปหรือเปล่า” เทอร์รี่ มาตาลาส ผู้สร้างซีรีส์ 12 Monkeys บอก
การตายของตัวละครในทีวีซีรีส์ยังถูกใช้เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในหลายต่อหลายครั้งด้วย เช่น เมื่อนักแสดงของ Grey’s Anatomy เกิดไม่ลงรอยกับทีมผู้สร้าง ทีมผู้สร้างก็เลือกที่จะให้ตัวละครของเขาตายเพื่อจะได้ไม่ต้องทำงานกับเขาอีก (แทนที่จะเขียนบทให้ย้ายบ้านหรืออื่นๆ) หรือนักแสดงของ Seinfield ก็ถูกเขียนบทให้ตายเพราะว่า “แสดงไม่ตลกอย่างที่ผู้สร้างอยากได้”
Vox ทำสถิติเพิ่มเติมและพบว่าในซีซั่น 2015-2016 นั้นมีตัวละครในทีวีซีรีส์ตายมากถึง 230 ตัวละคร บางครั้งเป็นการตายที่สร้างเสียงลือลั่น แต่บางตัวละครก็ตายไปอย่างเงียบๆ
การตายที่มากเป็นประวัติการณ์ของตัวละครในซีซั่น 2015-2016 นั้นมักถูกวิจารณ์ว่าส่วนใหญ่ก็ทำไปเพื่อเรียกเสียงฮือฮาเท่านั้น แต่ไม่ได้มีการวางแผนอย่างจริงจัง ผู้ชมยังไม่ทันจะได้มีอารมณ์ร่วมกับตัวละคร ก็ดันตายเสียแล้ว และเป็นการตายที่ไม่ได้ส่งให้พล็อตดำเนินต่อไปได้อย่างแท้จริง
“จริงๆ แล้ว The Walking Dead นี่เป็นซีรีส์ที่เหมาะที่สุดกับการตายของตัวละครเลยนะ [เพราะมันถูกเซ็ตอยู่ในโลกที่มีซอมบี้เพ่นพ่าน – ผู้เขียน] เพราะการตายแต่ละครั้งก็เป็นการผลัดใบตัวละครออกไปให้ไดนามิกของกลุ่มมันเปลี่ยนแปลงไปด้วย แต่ปัญหาก็คือตอนนี้เหมือนกับว่า The Walking Dead นั้นฆ่าเฉพาะตัวละครรองๆ เพราะกลัวว่าถ้าฆ่าตัวละครหลักแล้วจะเสียกลุ่มผู้ดูไป” นักวิจารณ์จาก The Atlantic บอก (ก่อนที่ตัวละครหลักตัวหนึ่งของ The Walking Dead จะถูกฆ่าเมื่อวาน)
แล้วอะไรล่ะที่ทำให้การตายของตัวละครหนึ่งเป็นการตายที่ดี? ส่วนใหญ่แล้ว ผู้สร้างมักจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า การตายที่ดีของตัวละคร คือการตายโดยที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ (inevitable) ในทางการเล่าเรื่อง หมายถึงว่า ตัวละครตัวนั้นได้ดำเนินเรื่องมาจนถึงจุดที่การตายเมกเซนส์แล้ว จึงจะนับว่าเป็นการตายที่ดี
“ในฐานะคนดูแล้วผมไม่อยากให้การตายของตัวละครเป็นแค่การฆ่าเพื่อฆ่าทิ้งไปงั้นๆ เพราะถึงแม้คุณจะทำให้คนดูช็อคได้ แต่ว่าถ้าคุณไม่ได้ทำให้คนดูรู้สึกร่วมไปด้วยกับการตายนั้น ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องดี” ดามอน ลินดอลอฟ ผู้สร้าง Lost ให้สัมภาษณ์
สำหรับ The Walking Dead ที่ฉายไปเมื่อวานนั้น ถึงแม้ว่าคนที่ตายจะต้องตายอยู่แล้ว [ตามเนื้อเรื่องในการ์ตูน] แต่แฟนๆ ส่วนใหญ่ ไม่พอใจในวิธีที่ตัวละครนี้ตายมากกว่า โดยบอกว่า มันเป็นการทรมานคนดูที่ลากยาวการตายจากตอนสุดท้ายของซีซั่นที่แล้ว มาถึงตอนต้นของซีซั่นนี้ ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่แล้วว่าตัวละครนี้ต้องตาย และก็มีบางส่วนบอกว่า การดู The Walking Dead นั้นไม่ได้ให้ความสุขกับพวกเขาอีกแล้ว พวกเขาเหนื่อยเกินที่จะต้องสิ้นหวัง หมดหวังกับชะตากรรมของตัวละครแต่ละตัว และการฆ่า การตายในช่วงหลังๆ ก็ดูไม่ได้จะตอบอะไรต่อพล็อตไปนอกเสียจากสื่อถึงความรุนแรง จนเกือบจะเป็น Torture Porn เท่านั้น พวกเขาบางส่วนจึงตัดสินใจเลิกดูไป
[สปอยล์]
และบางส่วนก็ไม่พอใจกับการ ‘ตายปลอม’ ของตัวละครนี้ในซีซั่นที่แล้วด้วย พวกเขารู้สึกเหมือนถูกเหยียบย่ำใจซ้ำแล้วซ้ำอีก
[จบสปอยล์]
การตายของตัวละครในเรื่องแต่งนั้น หากนับเป็นเครื่องมือในการเล่าเรื่องก็เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังมากราวกับระเบิด แต่เมื่อไรก็ตาม หากระเบิดอยู่ในมือผู้ไม่ชำนาญการ มันก็จะเป็นเพียงประทัด ที่ไม่เคยทำอะไรใครได้ นอกจากจุดไปให้เกิดเสียงรำคาญแก่คนรอบข้างเท่านั้น
อ้างอิงข้อมูลจาก