เพลงของแสตมป์—อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข โดดเด่นด้วยน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ เสียงกีต้าร์เพราะๆ และที่สำคัญคือเนื้อร้องที่เขียนมากี่เพลงก็โดนใจไม่ใครก็ใครเสมอ ตั้งแต่ “มันคงเป็นความรัก ที่ทำให้ตัวฉัน ยังยืนอยู่ตรงนี้” “ได้แต่ฝากความคิดของฉันทิ้งไว้ เผื่อวันไหนเธอผ่านมา” หรือ “ขอเป็นมนุษย์ลืม เลือกลืมได้ตามต้องการ” ฯลฯ ด้วยเนื้อเพลงที่เริ่มเกริ่นแบบชวนให้เราคิดตาม แล้วกล่อมเราให้อินหมดใจด้วยพลังของภาษาในท่อนฮุก—แล้วถ้าเขาลองไปเขียนเพลงภาษาอังกฤษล่ะ?
STAMP STH (STAMP SOMETHING) คืออัลบั้มภาษาอังกฤษอัลบั้มแรกในชีวิตของแสตมป์ ภายใต้สังกัด 123 records ความพิเศษของอัลบั้มนี้ก็คือ เขาได้ Christopher Chu แห่งวง POP ETC จากอเมริกา มาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ ซึ่งเขาคนนี้เคยฝากฝีไม้ลายมือมาแล้วจากเพลง Speak Up ที่ประกอบภาพยนตร์เรื่อง The Twilight Saga: Breaking Dawn – Part2 แถมยังได้น้องรักอย่าง นะ-รัตน จันทร์ประสิทธิ์ แห่งวง Polycat มาร่วมด้วย
โดยจุดเริ่มต้นคือ แสตมป์กับนะ ได้ร่วมกันทำเดโมขึ้นมา แล้วส่งไปยัง Christopher จนเขาตอบรับมาเป็นโปรดิวเซอร์ให้
จากความสนุกในตอนต้น ทุกอย่างก็เกิดขึ้น แสตมป์เปิดตัวซิงเกิลแรกไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา กับเพลง Don’t you go หรือที่ใช้ชื่อภาษาไทยว่า ‘วอนน้องอย่าไป’ ที่เป็นเพลงป๊อบฟังเพลิน แถมมีมิวสิกวิดิโอที่ดูจริตฝรั่งเหลือหลาย นับเป็นรสชาติใหม่ๆ ของเพลงไทยที่น่าเข้าไปชมให้รู้รส
และล่าสุดกับเพลง The Devil ที่เพิ่งปล่อยออกมาให้เราฟังกันเมื่อไม่นานนี้ ซึ่งเชื่อว่าใครที่ได้ดูเอ็มวีแล้ว ก็เป็นต้องอยากเห็นหน้าค่าตาของปีศาจสาวคนนี้ให้ได้อย่างแน่นอน (เราก็ด้วย) ด้วยฝีมือกำกับของคุณพงศ์—ฐิติพงศ์ แห่ง Hello Filmmaker ที่เล่นให้พระเอกหนุ่มฮ็อตอย่าง ทู, กรรณ สวัสดิวัตน์ แสตมป์เอง และชายหนุ่มอีกสิบกว่าชีวิต พร้อมใจกับหลงเสน่ห์ผู้หญิงคนนี้อย่างพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมาย
และเช่นเคย นอกจากโปรดิวเซอร์จากอเมริกาแล้ว ก็ยังได้ร่วมงานกับศิลปินจากฝั่งไทย อย่าง มาเรียม เกรย์, คริสโตเฟอร์ เดสแคมป์ นักร้องนำวง Shining Star และ ปกป้อง จิตดี จาก Plastic Plastic และ Gym & Swim มาช่วยร้องคอรัสให้อีกด้วย
ความเก๋อีกขั้นคือ อัลบั้ม STAMP STH (STAMP SOMETHING) นั้น ยังไม่มีขายในประเทศไทยนะจ๊ะ เขาวางขายแค่ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น โดยมีสังกัด Parabolica Records เป็นผู้ดูแล ซึ่งในช่วงที่เปิดตัวอัลบั้มเขาก็ไปเวิลด์ทัวร์มาแล้วด้วย ที่ YOKOHAMA FAD, TOWER RECORDS SHIBUYA, KASHIWA DOME, SHINDAITA FEVER และปิดท้ายที่ SHIMOKITAZAWA SOUND CRUISING ซึ่งผลตอบรับทั้งอัลบั้มและทัวร์ของเขาก็เป็นได้ด้วยดี
ถ้าใครยังงงว่าทำไมต้องญี่ปุ่นก่อน เราต้องบอกว่า ก่อนหน้านี้แสตมป์เคยร่วมงานกับนักร้องชาวญี่ปุ่นมาแล้วหลายคน เช่น ในเพลง Lucky man ที่เขาร่วมงานกับกีตาร์ดูโอชื่อดังอย่าง DEPAPEPE นอกจากนี้ก็ยังเคยร่วมฟีทเจอริ่งกับนั่งแต่งเพลงมือฉมังอย่าง Mayu Wakisaya แถมยังเคยร่วมแจมกับ P.O.P สองพี่น้องดูโอฮิพฮอพในเทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่ที่ประเทศญี่ปุ่น อย่าง Summer Sonic เมื่อปี 2015 ด้วย
น่าดีใจ ในแง่หนึ่งนี่คือความฝันของศิลปินคนหนึ่งที่สนุกกับการทำงานของเขาในทุกอณู แต่อัลบั้มนี้ก็ถือเป็นการเติบโตอีกขั้นของวงการดนตรีไทย ที่ศิลปินได้ร่วมงานกับโปรดิวเซอร์ฝั่งอเมริกา รับเอาคาแรกเตอร์ทางฝั่งตะวันตกมาปรับให้ป๊อปในแบบของเรา แถมไปเจาะตลาดดนตรีญี่ปุ่นที่ว่ากันว่าแข็งหนักหนา เราว่านี่คือก้าวเดินที่น่าสนใจมากทีเดียว
อ้างอิง
billboard-thailand.com