“ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะไม่รู้ว่าคนรักจะจากไปเมื่อไหร่”
“อย่าประมาท มีวินัยในการเก็บเงิน”
“ทำงานหนักบ้างพักบ้าง อย่าทำเยอะเกินไปถ้าเจ็บป่วยจะลำบาก”
หลายคนอาจใช้เวลาช่วงปลายปีมองย้อนกลับไปสำรวจว่าที่ผ่านมาเราทำอะไรสำเร็จไปแล้วบ้าง แต่ยิ่งกลับไปดูเป้าหมายที่ตั้งเป้าไว้ตอนต้นปีก็ยิ่งช้ำใจ เพราะเราไม่ได้ติ๊กถูกหน้าข้อไหนเลยนี่นา แพลนที่วางไว้ดันล่มไม่เป็นท่าอยู่เรื่อย
การมองสิ่งที่สำเร็จแบบเป็นชิ้นเป็นอันอาจทำให้เรารู้สึกผิดหวังกับตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้ลงทำอะไรเลยนี่นา เพราะยังมีอีกหลายความพยายามในปี ที่เราอาจกำลังมองข้าม ไม่ถูกนับเป็นความสำเร็จแบบที่เราคุ้นเคย การเริ่มต้นทำสิ่งที่ดีกับตัวเอง อย่างดูแลสุขภาพ ใส่ใจคนรอบข้าง ปล่อยให้ตัวเองทำสิ่งที่ชอบ หรือการพาตัวเองให้ผ่านพ้นไปได้อีกปี ก็อาจถือเป็นความสำเร็จที่ควรค่าแก่การชื่นชมได้เช่นกัน
แม้ไม่ได้เป็นปีที่ได้อะไรกลับมาเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ปีนี้ก็เป็นปีที่ใครหลายคนใช้ปีนี้เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่ๆ ในชีวิต ช่วงสิ้นปี เราจึงถือโอกาสนี้ถามความเห็นของผู้คนรอบออฟฟิศ The MATTER ว่ามีอะไรบ้างที่เขาเริ่มต้นทำในปีนี้แล้วรู้สึกดีกับตัวเอง อาจจไม่ต้องยิ่งใหญ่ แค่พวกเขาได้ลงมือทำแล้วยิ้มให้ตัวเองได้ก็พอ
ส่วนใครที่นึกไม่ออกว่าปีนี้ได้ทำอะไรสำเร็จไปแล้วบ้างก็ไม่เป็นไร เพราะเพียงแค่ใช้ชีวิตให้ผ่านพ้นไปแต่ละวันได้ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองแล้ว
พี่ไฝ – พนักงานขับรถ
“ลดน้ำหนักได้ 10 กิโล”
“ปีนี้ตรวจเจอไขมันและตับ เพราะชอบกินของหวานหลังทานอาหารทุกมื้อเลย ของมัน ของทอด ตอนอายุน้อยๆ ยังไม่รู้สึกเท่าไหร่ แต่พออายุมากขึ้นมันจะเริ่มมา พอตรวจเจอหมอก็บอกให้งดของมัน ของหวาน ของทอด ช่วงแรกๆ มันก็ยากนะ มันจะโหย แต่ถ้าอยากอยู่อีกนานๆ เราก็ต้องเปลี่ยน ข้าวก็กินน้อยลง เปลี่ยนมาเป็นข้าวไรซ์เบอร์รี่ ใช้น้ำมันมะกอกทำอาหารแทน ประมาณ 2-3 เดือนแรกกางเกงก็หลวมหมด จนตอนนี้ 5 เดือนลดได้ 10 กิโลแล้ว”
พี่สำรอง – พนักงานรักษาความปลอดภัย
“กลับมากินยาลดความดัน”
“เรามีหลายโรค ส่วนหนึ่งก็เพราะบางวันก็ควงหลายกะ ทำตรงนี้เสร็จ ก็ไปรับต่ออีกที่ บางทีนอนไม่พอก็ทำให้ความดันสูงได้ แต่เพราะทำหลายกะเราก็ได้เงินเพิ่มก็เลยทำ พอความดันสูงช่วงนี้เลยกลับมากินยาลดความดันอีกหลังจากที่หยุดไปนาน และตั้งใจกลับมากินยาประจำอีกครั้งให้ร่างกายดีขึ้น”
พี่รุ่ง – เจ้าของร้านโตเกียว
“ไม่ประมาท มีวินัยในการเก็บเงิน”
“นอกจากขายขนมโตเกียวแล้วเดือนก็กลับไปช่วยที่บ้านทำนา ถ้าปีไหนไม่ได้ไปก็จะส่งเงินกลับไป ที่ผ่านมาตั้งแต่ช่วงโควิด ทำให้เราไม่ประมาท ช่วงนั้นเกือบไม่มีเงินส่งค่าเทอมลูก แต่สุดท้ายก็ส่งจนจบ การไม่ประมาทและมีวินัยทางการเงินสำคัญที่สุด เราจะแบ่งเก็บส่วนนี้ใช้จ่าย ส่วนนี้เก็บ ส่วนนี้ส่งให้ที่บ้าน มันดูเหมือนง่ายนะ แต่จริงๆ แล้วยาก เพราะเราจะเพลิน ใช้จ่ายเกินที่เราตั้งไว้ ตอนเย็นเพื่อนชวนไปกินละ ก็จะเก็บได้ยาก แต่การมีวินัยจะช่วยเราได้ดีที่สุด”
พี่ปุ้ย – รับจ้างรายวัน
“เด็กยังไงก็ต้องงอแงอยู่แล้ว…แต่เราไม่ตี เขาก็ฟังเราเหมือนกัน”
“เราตัดสินใจไม่นานก็มาทำงานรับจ้างเฝ้าร้านรายวัน เพราะเป็นงานที่เลี้ยงหลานไปด้วยได้ ก่อนหน้านี้ก็เลี้ยงอยู่ที่บ้านเฉยๆ พอมาทำงานนี้ก็พอมีรายได้ใช้จ่ายค่านม ค่าแพมเพิร์สได้ ถ้าวันไหนเราหรือหลานไม่สบายก็หยุดได้ ไม่เสียอะไร ปกติหลานชายก็จะดื้อบ้าง เพราะเราไม่ค่อยให้ดูจอ แต่เด็กยังไงก็ต้องงอแงอยู่แล้ว เพราะเขายังไม่รู้เรื่องอะไร เราก็แค่ปล่อยเขา อาจจะดุบ้างนิดหน่อย เพราะยังไงเด็กก็กลัวโดนดุ แต่เราไม่ตี เขาก็ฟังเราเหมือนกัน”
พี่วีระพงศ์ – เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว
“ทำงานหนักบ้าง พักบ้าง อย่าทำเยอะเกินไปถ้าเจ็บป่วยจะลำบาก”
“นอกจากขายก๋วยเตี๋ยว ช่วงเทศกาลเราก็กลับบ้านไปปลูกผักบ้าง แต่เราจะบอกพ่อแม่หรือพี่น้องเราบ่อยๆ ว่าทำงานหนักบ้าง พักบ้าง อย่าทำเยอะเกินไปถ้าเจ็บป่วยจะลำบาก ที่เรายังต้องทำงานเพราะมีลูกเนี่ยแหละ ก่อนจะมีเราควรวางแผนก่อนมีลูก เพราะการเลี้ยงเด็กต้องใช้เงินเยอะ เจ็บป่วยบ่อย ถ้ามีงานและเงินที่มั่นคงก็จะได้ซัปพอร์ตเขาได้”
ป้าต่าย – เจ้าของร้านตามสั่ง
“ทำวันนี้ให้ดีที่สุด คิดเยอะๆ ก่อนจะทำอะไร”
“ปีนี้เป็นปีที่พ่อเสีย เขาก็อายุเยอะแล้ว เราก็คิดอยู่ตลอดว่าเขาอาจจะไปเมื่อไหร่ก็ได้ แต่พอวันนั้นมาถึงจริง ก็รู้สึกเสียดาย คิดว่าน่าจะดูแลเขาได้ดีกว่านี้ ทั้งที่จริงตอนที่เขาอยู่เราก็ดูแลเขาดีที่สุดแล้ว ถ้าทำได้ก็อยากขอให้เขามีเวลาอยู่กับเราอีก 1 ปี เพื่อจะได้ใช้เวลากับเขามากขึ้น พาเขาไปเที่ยว แต่ทำไม่ได้แล้ว เลยอยากบอกให้ทุกคนทำวันนี้ให้ดีที่สุด คิดเยอะๆ ก่อนจะทำอะไร”
แนน – เจ้าของร้านขายน้ำ
“รับลูกอายุ 2 ขวบมาเลี้ยงเอง…พอมาอยู่ด้วยกัน ดูเหมือนเขาจะติดเราและรักเรามากขึ้น”
“ปีนี้เราเพิ่งรับลูกอายุ 2 ขวบมาเลี้ยงเอง ก่อนหน้านี้ลูกอยู่ต่างจังหวัดกับตากับยาย เหตุผลที่รับมาเพราะพ่อแม่เราแก่แล้ว กลัวเขาตามเด็กไม่ไหว เพราะเด็กช่วงนี้ค่อนข้างอยากรู้อยากเห็น ถามว่าเขาดูแลดีไหม ดี แต่บางทีเขาก็จะเลี้ยงแบบคนสมัยก่อน ถ้าได้มาอยู่กับเรา เขาก็ได้รู้จักหรือเห็นอะไรเยอะขึ้น เช่น ได้ไปเที่ยว ได้ไปห้าง หรือร้านอาหารที่เขาไม่เคยไป ถ้าเขาอยากรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษเราก็บอกเขาได้ สำหรับเราถ้ามีเวลา เลี้ยงเองยังไงก็ดีที่สุด พอมาอยู่ด้วยกันเราได้พูดคุย สนิทกันมากขึ้น ดูเหมือนเขาจะติดเราและรักเรามากขึ้น”
กิ๊ฟ – พนักงานเอกชน
“ซื้อรถไฟฟ้า”
“เพิ่งซื้อรถไฟฟ้ามาเมื่อเดือนมิถุนายน รู้สึกตัดสินใจถูกเพราะประหยัดได้เยอะ บ้านเราอยู่ห่างจากที่ทำงาน 30 กิโล ปกติเราใช้รถสาธารณะจ่ายวันละ 200 แต่พอซื้อรถไฟฟ้าเหลือเดือนละ 700 แต่ก่อนซื้อเราก็หาข้อมูลเยอะ แต่เกณฑ์ของเรามีแค่ไม่กี่อย่าง หนึ่งเลยต้องประหยัด รถไฟฟ้าเลยตอบโจทย์ แล้วเราก็เป็นคนรอชาร์จไฟได้ เลยคิดว่าถ้าคนกำลังตัดสินใจซื้อรถไฟฟ้าอาจต้องดูที่ไลฟ์สไตล์เป็นหลัก ถ้าใครไม่ชอบเรื่องจุกจิกรถน้ำมันหรือรถไฮบริดก็อาจจะดีกว่า”
วิว – พนักงานเอกชน
“การได้ไปเที่ยว…เป็นแรงผลักดันให้เรากลับมาทำงานต่อ”
“ปกติเราไม่ค่อยได้ไปไหน แต่จะหาเวลาไปเที่ยวช่วงที่มีวันหยุดยาวติดๆ กัน อย่างปีใหม่หรือสงกรานต์ สงกรานต์ปีนี้เราไปหมู่เกาะอ่างทอง ที่สุราษฎร์ธานี เป็นหมู่เกาะใกล้ๆ สมุย ก็เป็นที่ที่อยากไปด้วย ได้ไปเดินขึ้นเขา สวยดีนะ เราเป็นคนที่เที่ยวได้หมดทั้งภูเขาหรือทะเลอยู่แล้ว การได้ไปเที่ยวมันสำคัญกับเราตรงที่มันเป็นแรงผลักดันให้เรากลับมาทำงานต่อ”