แม้ว่าเราจะก้าวเข้าสู่วันทำงานอย่างเป็นทางการ แต่ในช่วงปีใหม่แบบนี้ เราเองก็จะยังมีความรู้สึกทั้งความรู้สึกของเทศกาล ความรู้สึกสดใหม่ และการอยากลงมือทำอะไรใหม่ๆ เพื่อก้าวต่อไปพร้อมๆ กับการได้ทบทวนสิ่งที่สิ้นสุดไปในปีที่ผ่านมา
ในบรรยากาศของการเริ่มต้นใหม่และการมองย้อนกลับไป The MATTER จึงชวนย้อนไปดูการส่งโปสต์การ์ดในช่วงวันปีใหม่ ตามธรรมเนียมปฏิบัติเก่าแก่ของญี่ปุ่น จากยุคสมัยที่ผู้คนยังอาจใช้ชีวิตห่างไกลกัน และใช้ปีใหม่รวมถึงโปสการ์ดในการเชื่อมโยงถึงกัน
การส่งโปสต์การ์ด สุดท้ายอาจไม่ใช่แค่การส่งหาคนอื่น แต่ในปัจุบันแม้แต่กิจกรรมการส่งโปสต์การ์ดของญี่ปุ่นเอง ก็เฟื่องฟูขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ในอีกด้านการส่งโปสต์การ์ดซึ่งรวมถึงการลงมือเขียน และการส่งตัวหนังสือที่เป็นกระดาษหาตัวเราเอง ก็อาจเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เรากลับมาทำ ไม่ใช่แค่ความโรแมนติก แต่อาจเป็นอีกหนึ่งวิธีที่เราจะได้สื่อสารกับตัวเองในอนาคต โดยเมื่อถึงวันนั้น การมีข้อความบางอย่างย้อนกลับมา ก็อาจเป็นจังหวะทบทวนตัวตนของเราในช่วงปีได้
Nengajo โปสต์การ์ดปีใหม่ของญี่ปุ่น
ธรรมเนียมการส่งโปสต์การ์ดในวันปีใหม่ ญี่ปุ่นเรียกตัวโปสต์การ์ดปีใหม่ว่า “Nengajo” (年賀状) ความหมายตรงตัวคือ การแสดงความปรารถนาดีในช่วงวันปีใหม่ การส่งโปสต์การ์ดแม้ฟังดูเป็นกิจกรรมธรรมดา แต่การในธรรมเนียมญี่ปุ่น การส่งโปสต์การ์ดวันปีใหม่จะคล้ายกับการส่งการ์ดวันคริสต์มาสหรือการ์ดอวยพร ซึ่งถือว่าเป็นธรรมเนียมเก่าแก่และมีความท้าทายในตัวเอง
ธรรมเนียมการส่งโปสต์การ์ดอวยพรปีใหม่ของญี่ปุ่น มีการสันนิษฐานว่าเก่าแก่ตั้งแต่สมัยเฮอัน (ศตวรรษที่ 8-12) เชื่อกันว่า ในยุคนั้นชนชั้นสูงของญี่ปุ่นเริ่มเขียนจดหมายแล้วส่งไปให้กับญาติมิตรที่อยู่ไกลและไม่ได้พบเจอกัน ธรรมเนียมดังกล่าวสืบทอดกันมาจนถึงยุคที่ญี่ปุ่นมีระบบไปรษณีย์แบบตะวันตก รวมถึงได้รับอิทธิพลการผลิตและส่งโปสต์การ์ดแบบตะวันตก ด้วยโปสต์การ์ดที่มีราคาถูกและส่งได้ในราคาประหยัด ทำให้การส่งความรู้สึก หรือการย้ำเตือนถึงความสัมพันธ์โดยเฉพาะการไม่ได้พบเจอกัน ผ่านโปสต์การ์ดสวยๆ พร้อมข้อความอวยพรสั้นๆ กลายมาเป็นธรรมเนียมสำคัญประจำชาติ
ในการส่งโปสต์การ์ดปีใหม่ของญี่ปุ่น ก็ยังคงเป็นญี่ปุ่นเหมือนเดิม คือไม่ใช่ว่าจะส่งยังไงก็ได้ แต่โปสต์การ์ดอวยพรปีใหม่ของชาวญี่ปุ่นจะต้องส่งถึงมือผู้รับในวันสุดท้ายของปีเท่านั้น ตัวโปสต์การ์ดต้องถึงมือเราและได้เปิดอ่านในจังหวะที่เข้าสู่ปีใหม่ (คือตอนเที่ยงคืน) ซึ่งส่วนใหญ่จะถึงมือในช่วงเช้าของวันที่ 31 ธันวาคม โดยคะเนว่าผู้รับจะมีเวลาเปิดอ่านในเที่ยงคืนของวันเดียวกัน
ดังนั้นการส่งโปสต์การ์ดในช่วงปลายปีของญี่ปุ่น จึงเป็นอีกหนึ่งสุดยอดความท้าทาย หากนึกภาพการบริหารจัดการโปสต์การ์ดจำนวนมหาศาลหลักล้านใบ ที่ต้องการส่งถึงมือในระยะเวลาที่สั้นมากๆ ระบบไปรษณีย์ของญี่ปุ่นเลยค่อนข้างทำตัวเหมือนซานตาคลอส ซึ่งต้องมีการเตรียมตัวในระยะยาว และโดยทั่วไปการรับโปสต์การ์ด Nengajo จะเปิดรับในวันที่ 15-25 ของเดือนธันวาคม
ธรรมเนียมการส่งโปสต์การ์ดในแง่หนึ่งนับเป็นมหกรรม และเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม ด้วยหลายเงื่อนไข การส่งโปสต์การ์ดปีใหม่ของญี่ปุ่น จึงยังคงเป็นธรรมเนียมหลักที่ยังปฏิบัติกันอยู่ อย่างแรกคือโปสต์การ์ดเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการฉลองปีใหม่ ในทุกๆ ปีศูนย์บริการไปรษณีย์ของญี่ปุ่นจะมีพื้นที่พิเศษเพื่อให้บริการ มีโปสต์การ์ดที่ประทับตราแล้วพร้อมส่ง มีการเปิดแถวพิเศษสำหรับการส่ง อีกด้านคือมีบริการรับไปรษณีย์ หรือส่งจดหมายที่ส่งได้ตามร้านสะดวกซื้อ ทำให้การส่งจดหมายหรือโปสต์การ์ดทำได้ง่าย และเป็นอีกหนึ่งช่องทางการสื่อสาร
ปี 2020 การกลับมาของโปสต์การ์ดแบบกายภาพ
แม้เราจะบอกว่าการส่งโปสต์การ์ดของญี่ปุ่นเป็นธรรมเนียมสำคัญ มีบรรยากาศและการเตรียมตัว แต่การส่งการ์ดอวยพรช่วงปีใหม่ก็เป็นธรรมเนียมที่คนรุ่นใหม่ปฏิบัติกันน้อยลง ทว่าในปี 2020 ช่วงเวลาของโควิด-19 กิจกรรมการส่งโปสต์การ์ดปีใหม่ของญี่ปุ่นกลับมาได้รับความนิยมอย่างก้าวกระโดดอีกครั้ง โดยไปรษณีย์ญี่ปุ่นได้รับโปสต์การ์ดมากถึง 2 ล้านฉบับ คือเพิ่มขึ้นถึง 126% จากปีก่อนหน้า แม้ในปี 2021-2022 ตัวเลขการส่งโปสต์การ์ดลดลงเล็กน้อย แต่โดยรวมทางไปรษณีย์ญี่ปุ่นเองก็เตรียมโปสต์การ์ดไว้ประมาณ 1.5-1.6 ล้านใบ
การกลับมาของโปสต์การ์ดสัมพันธ์กับช่วงโรคระบาด เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนเดินทางหากันไม่ได้ ไม่เจอกันเป็นเวลานาน ดังนั้นเป้าหมายดั้งเดิมของโปสต์การ์ดปีใหม่ จึงเป็นความปรารถนาดี และเป็นการบอกว่าตัวเรานั้นมีชีวิตอยู่สุขสบายดี
ที่สำคัญ ในความรู้สึกของชาวญี่ปุ่น การเลือกส่งโปสต์การ์ดที่เป็นกายภาพแทนการส่งข้อความดิจิทัล หรือการโทรหากัน เป็นการส่งความคิด ความรู้สึกที่หนักแน่น และเป็นหลักฐานทางกายภาพว่า ตัวเราหรืออีกฝ่ายนั้นยังดำรงอยู่อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้การส่งโปสต์การ์ดบางส่วนยังเกี่ยวข้องกับการได้ลงมือทำงานฝีมือเล็กๆ น้อยๆ ได้ตั้งใจเขียนด้วยลายมือ การเลือกกระดาษหรือเลือกเทปมาประดับตกแต่ง ก็ยิ่งทำให้เรามีความตั้งใจและมีความสนุกสนานไปกับบรรยากาศปลายปีด้วย
ข้อแนะนำเบื้องต้นของการส่งโปสต์การ์ดหาตัวเอง
ความน่าสนใจของการส่งโปสต์การ์ดปีใหม่ และเทรนด์ที่กลับมาอีกครั้ง ส่วนหนึ่งสัมพันธ์กับกระแสการกลับมาของงานฝีมือ เรื่องกิจกรรมเก่าๆ ก่อนยุคดิจิทัล อีกด้านการส่งโปสต์การ์ดหรือจดหมายปีใหม่ ถือเป็นการอัปเดตชีวิต ณ ขณะนั้น รวมถึงเป็นการมองไปข้างหน้า
ทีนี้ตัวโปสต์การ์ดยังมักพูดถึงการเชื่อมต่อกับคนอื่นๆ กับคนที่เรารัก คู่ค้า หรือเพื่อนร่วมงาน ทว่าในช่วงปีใหม่ เราอาจไม่ต้องส่งโปสต์การ์ดหาใครอื่น แต่เป็นการส่งกลับไปหาตัวเองแทน ก็นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เราทำได้ และเป็นการสื่อสารกับตัวเองในอนาคตด้วย
จริงๆ การส่งเจ้าโปสต์การ์ดถึงตัวเราเอง นับเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมปีใหม่ของเราได้ ส่วนใหญ่ปีใหม่เราจะวางแผนบางอย่างที่หวังว่า ตัวเราในอนาคตจะก้าวหน้าเติบโตไปตามกาลเวลา การเลือกเขียนโปสต์การ์ดถึงตัวเราเองในแง่หนึ่ง ก็เป็นจินตนาการการสื่อสารถึงตัวเราเองในวันข้างหน้า เป็นการวาดภาพตัวเราเองในอนาคตไว้ และเขียนข้อความบางอย่างไปถึงตัวเองในขณะนั้น
ในขั้นตอนการเขียนโปสต์การ์ดถึงตัวเองไม่จำเป็นต้องเป็นช่วงปีใหม่ แต่เป็นช่วงไหนก็ได้ ซึ่งจะมีขั้นตอนที่สัมพันธ์กับการทบทวนสิ่งต่างๆ รวมไปถึงการวาดภาพตัวเราเองในอนาคต ตัวอย่างขั้นตอนที่มีการแนะนำมักเริ่มด้วยการจินตนาการภาพของตัวเราในวันข้างหน้า การลงมือเขียนอาจเป็นการทักทายตัวเองจากตัวตนของเราในปัจจุบัน ทบทวนความสำเร็จในอดีต สิ่งที่เราทำได้ สิ่งที่เราเป็นในตอนนี้ แล้วพูดคุยให้กำลังใจ หรืออาจจะตรวจสอบจุดยืนและมุมมองของเราต่อตัวเราเองในอนาคต
ในกระบวนการนั่งลงและเขียนข้อความถึงตัวเอง ตัวโปสต์การ์ดจึงเป็นเหมือนเสียงของเราที่ผ่านกาลเวลาไป ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งวัตถุที่เชื่อมโยงตัวเราในอดีตเข้ากับตัวตนของเราในปัจจุบัน การได้ลงมือเขียนข้อความถึงตัวเองจึงอาจเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ หรือการใช้เวลาทบทวนและวางเป้าหมายให้กับตัวเอง เป็นเสียงและภาพที่เรานึกถึงชัดเจนขึ้น หรืออาจเป็นเครื่องเตือนใจบางอย่าง เมื่อโปสต์การ์ดนั้นเดินทางมาถึงเราในอีกหลายวัน หรือหลายเดือนข้างหน้า (ถ้าเราตัดสินใจเขียนและเก็บไว้สักพักก่อนแล้วค่อยส่ง)
ในช่วงเวลาขึ้นปีใหม่ ในบรรยากาศของการมองไปข้างหน้า และการเชื่อมต่อกันด้วยความปรารถนาดี ทั้งโปสต์การ์ดจากวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่เชื่อมโยงผู้คนเข้าหากัน การที่เราได้ใช้การเขียนผ่านโปสต์การ์ดที่อาจฟังดูตกสมัยไปแล้ว กลับมาเป็นตัวเชื่อมโยงทั้งตัวเราเองกับคนอื่นๆ ไปจนถึงการเชื่อมโยงตัวเรากับวันพรุ่งนี้ ในโอกาสนี้จึงอาจเป็นช่วงเวลาที่เราได้กลับมาจับปากกา และคิดทบทวนสิ่งต่างๆ พร้อมเขียนอะไรบางอย่างถึงตัวเราเอง
อ้างอิงจาก