อีกแป๊บเดียวก็หมดปี มาสรุปสิ่งที่ผ่านไปในปีนี้กันเถอะ!
จอห์น ดิววีย์ (John Dewey) นักปรัชญาและนักจิตวิทยาชาวอเมริกันเคยกล่าวไว้ว่า “เราไม่ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ แต่เราเรียนรู้จาก ‘การทบทวน’ ประสบการณ์ต่างหาก”
ถ้ามีนักจิตวิทยากล่าวไว้แบบนี้ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เรามาลองทบทวนกันดูบ้างดีกว่า ลองคิดดูซิว่าหนึ่งปีที่ผ่านมามีอะไรเกิดขึ้นกับเราบ้างนะ…
เริ่มปีมาก็เปลี่ยนงานใหม่ เดือนเมษาไปเที่ยวต่างประเทศ เฮ้ย! ช่วงกลางปี เรากลายเป็นคนที่สนใจข่าวการเมืองมากขึ้น สิงหามีเข้าโรงพยาบาล 1 รอบ ปลายปีค่อนข้างติดซีรีส์เป็นพิเศษ
อืม…จะว่าไปก็เป็นอีกปีที่มีอะไรเกิดขึ้นเยอะแยะเหมือนกันแฮะ
แต่นอกจากนั่งย้อนเวลาไปในเหตุการณ์ต่างๆ แล้ว ในวาระส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่แบบนี้ The MATTER ก็อยากชวนทุกคนมารีแคปหนึ่งปีที่ผ่านไปด้วย 4 วิธีสุดเก๋ที่น่าจะช่วยให้ทุกคนเห็นภาพรายละเอียดของชีวิตตัวเองได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ทบทวนด้วยการเขียน
โดยเจ้าของเพจ Mind Memo – เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการออกแบบชีวิตและจิตใจโดยนักจิตวิทยา
พี่ปัง—ดร.เพิ่มสิทธิ์ นำประสิทธิผล นักจิตวิทยาที่ปรึกษา ผู้เป็นตัวแทนหลักสูตร Designing Your Life Coach โดยตรงจากบิลล์ เบอร์เน็ตต์ (Bill Burnett) และเดฟ อีแวนส์ (Dave Evans) ผู้แต่งและต้นตำรับคอร์ส Designing Your Life ได้ฝาก 1 วิธีเก๋ๆ ให้ทุกคนได้ลองปรับใช้
โดยพี่ปังนำกระดาษหนึ่งแผ่นมาแบ่งออกเป็น 3 ช่อง แบ่งเป็น
- ช่องที่ 1 การงาน – เขียนภาระหน้าที่ กิจกรรม และผลงานที่เราทำในหนึ่งปีที่ผ่านมา
- ช่องที่ 2 ครอบครัว – จดช่วงเวลาที่ได้ใช้ร่วมกับคนที่รัก มื้ออาหาร การท่องเที่ยว ความทรงจำที่ประทับใจ ฯลฯ
- ช่องที่ 3 ตัวเอง – บันทึกความสุขส่วนตัว งานอดิเรก กิจกรรมยามว่าง ฯลฯ
จากนั้น พี่ปังจะทำการทวนไดอารี่ ไล่ดูรูปภาพ และย้อนนึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหนึ่งปี นำเหตุการณ์ต่างๆ มาประมวล แล้วจัดวางลงในแต่ละช่อง เพื่อให้เห็นภาพทั้ง 3 ด้านหลักที่เราให้ความสำคัญ และถ้าหากทุกคนมีด้านอื่นๆ ที่มากกว่าแค่การงาน ครอบครัว และตัวเอง ก็สามารถแยกย่อยกระดาษได้มากกว่า 3 ช่อง โดยอาจเพิ่มช่องเพื่อน การเงิน ความฝัน หรือช่องใดก็ตามที่แต่ละคนให้ความสำคัญนั่นเอง
“นอกจากนี้ พี่ก็ลองทบทวนตัวเองด้วยการเขียนครับ จาก 3 ช่องพวกนั้น พี่ก็เขียนว่าชอบอะไร ขอบคุณอะไร และปีหน้าอยากทำอะไร”
คำถามทิ้งท้ายของพี่ปังชวนให้เราตั้งคำถามกับตัวเองเหมือนกันว่า แล้วปีที่ผ่านมา เราชอบอะไรและอยากขอบคุณอะไรบ้าง บางคนอาจจะอยากขอบคุณตัวเองที่สู้กับความกดดันและอุปสรรคต่างๆ มาได้เป็นอย่างดี บางคนอาจจะอยากขอบคุณเพื่อน แฟน หรือครอบครัวที่อยู่ให้กำลังใจกันมาตลอด หรือบางคนอาจจะแค่อยากขอบคุณอ้อมกอดอุ่นๆ จากน้องแมวตัวโปรดที่กำลังรอเราอยู่ที่บ้าน
ส่วนคำถามที่ว่าปีหน้าอยากทำอะไร ก็ลองเขียนตามสไตล์ของแต่ละคนดูได้เลย!
ทบทวนผ่านคำถาม
สการ์เล็ตต์ คอคราน (Scarlett Cochran) เจ้าของช่องยูทูบ One Big Happy Life ที่มีผู้ติดตามกว่า 2 แสนคน ได้เชิญชวนเพื่อนๆ สรุปปีที่ผ่านมาของตัวเองผ่านคำถามต่อไปนี้
- โมเมนต์ประทับใจแห่งปีคืออะไร
ลองตกตะกอนว่า เหตุการณ์ไหนบ้างที่ส่งผลกับเราในปีนี้ ความทรงจำไหนที่มีอิทธิพลสำคัญ ลองนึกถึงมันดูแล้ววิเคราะห์ว่าเหตุการณ์นั้นๆ ทำให้เรารู้สึกอย่างไร เปลี่ยนเราไปอย่างไร
- ความมั่งคั่ง 7 ด้านของฉันเป็นอย่างไรบ้าง
ความมั่งคั่งในที่นี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงในรูปแบบของเม็ดเงิน แต่รวมไปถึงสุขภาพ เวลา ประสบการณ์ ความสัมพันธ์ ความรู้ และทางเลือก โดยให้ถามถึง 7 ด้านของตัวเองด้วย 3 คำถาม
- การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคืออะไร เพราะอะไร – ยกตัวอย่าง ในด้านสุขภาพ การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดอาจจะเป็นการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพราะเมื่อทำแล้วพบว่าร่างกายดีขึ้น สุขภาพจิตดีขึ้น จึงถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า หรืออาจจะเป็นการอดทนเรียนหลักสูตร Data Analytics ทั้งที่จริงๆ ก็มีหน้าที่หนักอึ้งมากอยู่แล้ว สิ่งนี้คือการลงทุนด้านความรู้ที่คุ้มค่า เพราะปีหน้าเราอาจนำทักษะนี้ไปประยุกต์ใช้กับงานอื่นๆ ต่อได้
- การลงทุนไหนบ้างที่ไร้ประโยชน์ เพราะอะไร – อาจจะเป็นการฝืนคบกับเพื่อนบางคนที่ทำให้เรามองข้ามคุณค่าในตัวเอง หรืออาจจะเป็นการประสบอุบัติเหตุเพราะความประมาท
- สิ่งที่ให้ความสำคัญมากไป และลืมให้ความสำคัญ – การให้น้ำหนักความสำคัญนับเป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องดีหากเราจะพยายามถามตัวเองว่า สิ่งไหนที่เราควรให้ความสำคัญกับมันมากขึ้น และสิ่งไหนที่เราควรลดสถานะมันลงมา ถ้าสุขภาพแย่ในปีนี้ เราควรเพิ่มเวลาดูแลสุขภาพมั้ย ถ้างานดี แต่เพื่อนเริ่มหาย หรือจะถึงเวลาที่เราต้องโฟกัสกับงานให้น้อยลง แล้วหันมาสนใจเพื่อนให้มากขึ้น
- 5 สิ่งที่ได้เรียนรู้
ถ้าให้สรุปเรื่องราวจากทั้งปีออกมาเป็น 5 บทเรียน ทุกคนได้เข้าใจหรือพบจุดเปลี่ยนอะไรบ้าง ลองพยายามตอบคำถามนี้ให้ได้ จะมากกว่าหรือน้อยกว่า 5 ข้อก็ได้ทั้งนั้น
“บทเรียนส่วนมากจะเข้ามาในช่วงเวลาที่เราเจอเรื่องยากๆ ประสบกับความผิดพลาด เพราะนั่นคือพื้นที่ที่เราจะได้เติบโตและเรียนรู้” — สการ์เล็ตต์ กล่าวทิ้งท้าย
ทบทวนผ่านรูปภาพและวิดีโอ
เขียนก็มา ตั้งคำถามก็มี อีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ที่เริ่มต้นได้จากอุปกรณ์ในมือของทุกคนคือย้อนเวลาผ่านรูปภาพและวิดีโอ
ปีๆ หนึ่งเราลั่นชัตเตอร์และบันทึกภาพเคลื่อนไหวอาจจะมากกว่า 100 คลิปด้วยซ้ำไป บางเหตุการณ์ เราอาจจะจำเรื่องราวได้ ทว่าลืมความรู้สึกในวันนั้นไปหมดแล้ว การหยิบรูปเก่าขึ้นมาดู นำคลิปที่เคยถ่ายมาชมใหม่น่าจะช่วยให้ความรู้สึกในวันนั้นกลับคืนมาอีกครั้ง นอกจากนี้ วิธีที่หลายคนนิยมในการสรุปภาพรวมของทั้งปีให้อยู่ในชิ้นเดียวก็คือการปล่อยกายปล่อยใจ แล้วลองนำภาพและเสียงทั้งหมดมาไล่เรียง จัดทำเป็นคลิปรีวิวปีนี้ของฉัน เป็นภาพของฉันตั้งแต่เดือนแรกจนถึงเดือนสุดท้าย ที่มีทั้งวันที่ยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้ และกระโดดโลดเต้นอย่างเป็นสุข
หลายคนอาจจะคิดว่าการตัดต่อเป็นเรื่องยาก แต่เราก็ยังอยากเชียร์ให้ลองทำดู เอารูปนั้นต่อรูปนี้ เอาคลิปนั้นสลับคลิปนู้น นอกจากจะได้ทบทวนความทรงจำแล้ว ยังอาจจะได้อีกหนึ่งผลงานที่เราภาคภูมิใจรับปีใหม่ แถมยังอวดลงโซเชียลมีเดียได้อีกต่างหาก
ทบทวนผ่านการพูดคุย
วิธีสุดท้ายเป็นวิธีที่เราอยากแนะนำ หลังจากทบทวนตัวเองผ่านการเขียน การถาม การไล่เรียงรูปภาพมาแล้ว เราคิดว่าการได้ฟังเสียงสะท้อนจากคนรอบข้างบ้างก็อาจช่วยให้เราเห็นตัวเองได้ชัดกว่าที่เคย เพราะในบางจุด เราก็มองไม่เห็นหรือไม่ได้อยากยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นขนาดนั้น โดยขั้นตอนที่เราแนะนำมีดังต่อไปนี้
- ลิสต์รายชื่อเพื่อน ครอบครัว หรือคนรอบข้างที่ไว้ใจ ลองพิจารณาดีๆ ว่าคนไหนที่น่าจะประเมินตัวเราได้อย่างตรงจุดและตรงไปตรงมา
- ติดต่อไปยังคนเหล่านั้น อาจจะนัดพบกัน โทรคุย หรือพิมพ์สนทนาผ่านโซเชียลมีเดียก็ได้
- ลองเอา 4 เรื่องสนุกๆ ที่เราอยากให้ผลัดกันพูดคุย ไปถามกับคนเหล่านั้น
- ถ้าให้นึกถึงเราในปีนี้ นึกถึงอะไรเป็นสิ่งแรกๆ
- สิ่งไหนที่เราเปลี่ยนแล้วดี สิ่งไหนที่เราเปลี่ยนแล้วแย่
- ถ้าให้เลือกทำอะไรก็ได้ด้วยกันหนึ่งอย่าง เราจะไปทำอะไรกันดี
- คุณสมบัติของเราที่แกรักที่สุด
คำตอบที่ได้รับ อาจเป็นทั้งที่เราเคยได้ยินผ่านหู หรือไม่เคยรับรู้มาก่อนเลยก็เป็นไปได้ เช่น
“ปีนี้ดูแฮปปี้ขึ้นนะ มีความรักอะดิ” เพื่อนมัธยมแซว
“เราว่าโดยรวมเธอดูเครียดๆ แต่การได้ทำโปรเจ็กต์ใหม่ๆ มากขึ้นก็ดูเป็นเธอดี เธอเป็นคนทะเยอทะยานแบบนี้อยู่แล้ว เท่าที่รู้จักกันมา” เพื่อนที่ออฟฟิศบอก
“ปีนี้เราได้ไปเที่ยวกันเยอะขึ้นนะ แล้วเราก็สื่อสารกันมากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น” แฟนของเราบอก
การผลัดกันรับฟังรายละเอียดเหล่านี้อย่างเปิดใจน่าจะช่วยให้เราได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ได้เผชิญกับความจริงบางอย่างที่เราเลือกหนีมาตลอดตั้งแต่ต้นปี ซึ่งจริงๆ แล้ว การจะหนีต่อไปก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่การได้ฟังใครสักคนพูดถึง อย่างน้อยก็เป็นการเตือนสติเราหนึ่งทีว่า ‘หรือมันถึงเวลาที่ฉันจะต้องสู้แล้วล่ะ’
บางครั้งปีปีหนึ่งก็เหมือนจะผ่านไปอย่างเชื่องช้า แต่บางทีมันก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วจนไม่น่าเชื่อ อย่างไรก็ดี เส้นทางตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงธันวาคมย่อมเป็นเส้นด้ายเล็กๆ ที่สั่งสม ถักทอจนเกิดไปผ้าผืนใหญ่ที่เรียกว่าชีวิต ดังนั้น หากเราสามารถเรียนรู้จากเส้นด้ายเหล่านี้ได้ สายใยบนผืนผ้าใบของเราก็คงสวยงามและน่าจดจำ
ลองดู! เพราะการทบทวนหนึ่งปีที่ผ่านไปอาจเป็นวิธีเตรียมตัวรับมือกับปีใหม่ที่ดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ!
อ้างอิงจาก