“เขาแชตกับแฟนเก่าอีกแล้ว กังวลจัง นี่เขากำลังแอบนอกใจเรารึเปล่านะ…”
เรื่องราวในความสัมพันธ์มักมองได้จากหลายแง่มุม และกับเรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน…
แพรว (อายุ 21, นามสมมติ)
เรารักแฟนของเรามากๆ ถึงวันนี้ก็คบกันมาได้ปีครึ่งแล้ว ก็ดูแลกันดี ไม่ได้มีปัญหาอะไร ติดตรงที่ช่วงหลังๆ เราเริ่มไม่แน่ใจว่าเขานอกใจเราหรือเปล่า เมื่อคืนเราเห็นไลน์แฟนเก่าเขาเด้งมา เรารู้นะว่าทุกวันนี้เขาเป็นแค่เพื่อนกันแล้ว แต่เห็นแบบนี้เราก็ไม่ค่อยสบายใจ รู้สึก insecure แปลกๆ หรืออย่างวันก่อน ตอนไปดูหนังด้วยกัน เราก็เห็นเขาแชตกับรุ่นน้องคณะข้างๆ ที่ไม่น่าจะไปสนิทกันได้ ใช่ แฟนเราเป็นคนเฟรนด์ลี่ แต่เท่าที่สัมผัส เขาก็ไม่ใช่คนเจ้าชู้อะไร เราเลยไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เขาทำมันโอเคหรือเปล่า เขากำลังแอบนอกใจเรามั้ย หรือเป็นเราที่งี่เง่าไปเอง เพื่อนบอกให้ลองคุย แต่ถ้าคุยก็กลัวว่าจริงๆ เรื่องมันจะไม่มีอะไรมาตั้งแต่ต้น
เฮ้อ กลุ้มใจจัง…
บุ๊ค (แฟนแพรว, อายุ 22, นามสมมติ)
รักแฟนมั้ยเหรอ รักดิ ก็เป็นแฟนกันจะไม่รักได้ไงล่ะ อยู่ด้วยกันก็แฮปปี้สุดๆ นี่ชอบเล่นมุกให้เขาหัวเราะ ขำบ้าง แป้กบ้าง ปนๆ กันไป แต่แค่ได้เห็นเขายิ้มมุมปากก็ดีใจแล้ว เรามันเป็นคนขี้เล่นอยู่แล้วน่ะ…
มีเรื่องกังวลบ้างมั้ยเหรอ เอาจริง พักหลังๆ ก็มีบ้าง อย่างล่าสุด แฟนเก่าทักมาปรึกษาเรื่องงาน เราก็แนะนำไปตามเรื่อง ไม่ได้คิดอะไร แต่ก็แอบกลัวๆ เหมือนกันว่าแฟนเราเขาจะคิดมากหรือเปล่า หรือมีทีหนึ่งตอนที่คุยเล่นกับรุ่นน้องที่สนิทกัน คือเราคุยแบบพี่น้องจริงๆ นะ แต่เพื่อนเราที่ผ่านมาเห็นโดยบังเอิญก็บอกว่าแบบนี้แอบไม่โอเค เรามีแฟนอยู่แล้ว ไม่น่าคุยกับคนอื่นแบบนี้ ซึ่งเราบริสุทธิ์ใจอะ ไม่ได้ปิดบังใครด้วย แต่พอมีคนเตือน เราก็เริ่มคิดเหมือนกันว่าหรือที่ตัวเองทำอยู่มันแย่ ดูเหมือนเรากำลังนอกใจแฟน…
เฮ้ย หรือที่เราทำอาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการนอกใจกันนะ ทำยังไงดีล่ะเนี่ย!
เชื่อว่าความรู้สึกลึกๆ ภายในจิตใจของทั้งบุ๊คและแพรว น่าจะเป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับคู่รักหลายคู่ ดูไกลๆ ก็เหมือนมันจะไม่ใช่ปัญหา แต่พอดูใกล้ๆ ก็คงเห็นว่า นี่คือจุดหักเหทางความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นคง นอกใจจริงๆ หรือแค่คุยเล่นๆ การไม่สบายใจของเราสมเหตุสมผลไหมหรือมันงี่เง่านะ แล้วเราควรเริ่มต้นคุยกันอย่างไรดี…
สิ่งที่น่าจะใช้อธิบายสภาวะที่เกิดขึ้นนี้ได้เรียกว่า Micro Cheating
นอกใจเล็กน้อย?
ถ้าลองถอดความคำว่า ‘Micro Cheating’ เป็นภาษาไทยก็จะแปลได้ว่า ‘การนอกใจเล็กๆ น้อยๆ’ เป็นพฤติกรรมซึ่ง Forbes.com อธิบายว่าคือการที่แฟนหรือคนคุยของเรา ทำอะไรบางอย่างที่แม้ไม่ร้ายแรงถึงขั้นคบซ้อน แต่ก็มากพอจะก่อให้เกิดความรู้สึกกังวลใจ เราเริ่มตั้งคำถามต่อความสัมพันธ์ที่ดำเนินอยู่ทั้งในเชิงความรู้สึกและการปฏิบัติ ซึ่งการกระทำที่ว่ามักอยู่ในรูปแบบของการติดต่อกับแฟนเก่า พูดคุยกับใครบางคนมากจนผิดปกติ หรืออาจเลวร้ายถึงขั้นตั้งสถานะโสดในแอปพลิเคชั่นหาคู่
ลำพังการพิจารณาจากคำ เชื่อว่าทุกคนน่าจะคิดเห็นตรงกันว่าพฤติกรรมนี้มีความไม่ชัดเจนสูงมาก เช่น คำว่า ‘เล็กๆ น้อยๆ’ นี่คือมากน้อยแค่ไหน แล้วในเมื่อมีคำว่า ‘นอกใจ’ มันก็สรุปได้แล้วไม่ใช่เหรอว่านี่เป็นเรื่องผิด หรือจริงๆ เรายังไม่สามารถเหมารวมเจตนาของแฟนตัวเองได้ขนาดนั้น เพราะเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกไม่ได้มีเส้นแบ่งแน่ชัด เขาหรือเธออาจจะไม่ได้นอกใจจริงๆ ก็ได้
มาร์ติน กราฟฟ์ (Martin Graff) อาจารย์ด้านจิตวิทยา มหาวิทยาลัยเซาท์เวลส์ อธิบายว่า แม้การนอกใจเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้จะไม่ใช่การทำผิดต่อคู่รักในแบบที่เรียกว่า ‘การมีชู้’ แต่ก็ถือเป็นพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่ความไม่ซื่อสัตย์ต่อคู่รักของเรา หรืออาจเปรียบได้กับการ ‘อุ่นเครื่อง’ สู่การนอกใจอย่างเต็มรูปแบบ
สรุปง่ายๆ คือมีความเป็นไปได้ที่การคุยเล็กคุยน้อยแบบไม่ได้ตั้งใจ จะนำไปสู่ปัญหาความสัมพันธ์ที่ยากต่อการฟื้นฟู
ที่จริง Micro Cheating ไม่ใช่สิ่งใหม่
“เราอาจต้องย้อนกลับไปไกลถึงศตวรรษที่ 18 ยุคนั้นผู้คนจีบกันผ่านจดหมายลับที่เต็มไปด้วยข้อความไม่เหมาะสม หรือบางคนก็จดเรื่องทะลึ่งต่างๆ นานาลงในสมุดบันทึกส่วนตัว เพราะการติดต่อสื่อสารทำได้ยาก ทว่าสิ่งที่เปลี่ยนไปในวันนี้ คือเรามีเครื่องมือที่ช่วยให้การนอกใจเล็กๆ น้อยๆ ทำได้ง่ายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน”
นิชิ ฮอดจ์สัน (Nichi Hodgson) นักเขียนผู้เคยศึกษาประวัติศาสตร์ของการออกเดตมองว่า Micro Cheating เป็นเพียงชื่อเรียกใหม่ของพฤติกรรมการนอกใจแบบเดิม ซึ่งปัจจัยที่ส่งเสริมให้พฤติกรรมนี้เกิดขึ้นได้ง่ายคือสื่อสังคมออนไลน์ที่ช่วยให้ทุกความรู้สึกนึกคิดสามารถส่งต่อได้เพียงปลายนิ้ว กล่าวคือ หากเป็นในอดีต เราคงไม่สามารถรับรู้ถึงความเป็นไปของรุ่นพี่ผู้ไม่สนิมสนมได้ผ่านแอปพลิเคชั่นรวมรูปภาพ แต่ปัจจุบัน ทุกคนสามารถอัปเดตเรื่องราวชีวิตประจำวันได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านอินสตาแกรม กลายเป็นว่าสภาพแวดล้อมก็เป็นส่วนหนึ่งที่กระตุ้นให้การปฏิสัมพันธ์เกิดขึ้นง่ายขึ้น
แต่ช้าก่อน เราไม่ได้กำลังจะโทษว่าปัญหาทั้งหมดเกิดจากเทคโนโลยี และอันที่จริง มันก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญว่าอะไรคือต้นเหตุ การคบซ้อนหรือนอกใจ ต่อให้แค่เล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่ใช่เรื่องดี จริงอยู่ที่เราไม่สามารถฟันธงได้ ว่าการกระทำไหนคือการนอกใจบ้าง แต่เราคงสรุปได้กลายๆ ว่า มันจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ปัจจุบันไม่มากก็น้อย
เมื่อแพรวเริ่มหวาดระแวงการใช้โซเชียลมีเดียของบุ๊ค ความไม่ไว้วางใจก็จะเริ่มคืบคลานเข้ามาในความสัมพันธ์…
เมื่อบุ๊ครู้สึกว่าตัวเองถูกจ้องจับผิด เขาก็คงอึดอัดและไม่สามารถเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่
พูดง่ายๆ คือ ‘ถึงจะไม่นับเป็นชู้ แต่มันก็อาจนำไปสู่จุดจบของความสัมพันธ์ได้’
ส่วนนิสัยชอบไลก์รูปในอินสตาแกรม นักวิชาการลงความเห็นตรงกันว่าไม่ใช่เรื่องรุนแรง และไม่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าคือการนอกใจ และคนที่ทำไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด แต่ถ้าหากเราตามกดไลก์คนคนเดิมเป็นประจำก็อาจเป็นเรื่องที่น่าห่วงได้เช่นกัน
สุดท้าย การเป็นคนช่างคุยจนถูกมองว่ากำลังกระทำการ Micro Cheating เราไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าพฤติกรรมนี้คือการนอกใจหรือไม่ เพราะมีเพียงคนที่ทำเท่านั้นที่จะรู้อยู่แก่ใจ จึงเป็นเรื่องสำคัญว่าเขาและเธอจะวางตัวอย่างไรให้เหมาะสมและเข้าใจตรงกันครบทุกฝ่าย
บุ๊คควรทำอย่างไร
สิ่งที่บุ๊ค ผู้ซึ่งสุ่มเสี่ยงจะเป็นบุคคลที่กระทำการนอกใจควรทำ คือถามตัวเองอย่างซื่อสัตย์ว่าเราทำสิ่งเหล่านี้ไปเพื่ออะไร ลองสอดส่องอุปนิสัยใจคอและความจำเป็นของการกระทำ เพื่อให้อย่างน้อยจะได้ชัดเจนกับทั้งตัวเองและคนรอบข้างมากขึ้น
หากค้นใจแล้วพบว่า ไม่ใช่ เราไม่ได้มีเจตนานอกใจแม้แต่นิดเดียว สิ่งที่บุ๊คต้องตามดูต่อคือ การกระทำของเราเป็นการให้ความหวังอีกฝ่ายที่กำลังพูดคุยอยู่ด้วยหรือเปล่า ทั้งๆ ที่มีแฟน แต่บทสนทนาที่พิมพ์คือการโปรยเหยื่อให้รุ่นน้องที่คุยด้วยมั้ย หรือทั้งที่คบแฟนใหม่อยู่ แต่การทำแบบนี้จะกระตุ้นให้แฟนเก่ากลับมามีใจหรือเปล่า ถ้าไม่ได้คิดและยังมั่นคงกับคนปัจจุบัน บุ๊คก็ควรสร้างความชัดเจนให้อีกฝ่าย ตัวเอง รวมถึงแฟนที่กำลังคบด้วย
มากไปกว่านั้น ต่อให้การกระทำของเราจะไม่ได้มีอะไรแอบแฝง แต่หากมันทำให้คู่ของเราเกิดความหวาดระแวง อึดอัด เราก็ควรหาจุดกึ่งกลางในการแสดงออกเพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับแฟนได้โดยที่ทั้งเราและเขาไม่มีใครต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ฝ่ายเดียว หรือก็คือหาทางออกร่วมกันอย่างตรงไปตรงมานั่นเอง
“โอเค แม้เราจะไม่ได้คิดอะไร แต่ถ้าการคุยกับแฟนเก่าทำให้เธอไม่สบายใจ เราก็จะพยายามคุยให้น้อยลง จะไม่ทักไปก่อน แต่อย่างรุ่นน้องคนนี้ เขาทักมาปรึกษาเรื่องงานจริงๆ เราแนะนำเสร็จก็จบ ไม่ได้จะคุยต่อ เพราะงั้นสบายใจได้” ก็อธิบายไปตามเรื่อง
อย่างไรก็ดี ถ้าเรากำลังสับสน คิดว่าตัวเองยังไม่ได้นอกใจ แต่ก็แอบหวั่นไหวแปลกๆ แน่นอน เราอาจจะห้ามความรู้สึกไม่ได้ แต่เราห้ามการกระทำของตัวเองได้ทุกประการ จงถามตัวเองให้แน่ใจว่าเราต้องการอะไร และถ้ารู้แล้วว่าไม่อยากเสียแพรวไป บุ๊คก็ต้องตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลม แต่ถ้าแน่ใจว่าความรู้สึกเปลี่ยนไปแล้ว หากทำแบบนี้ต่อ การคุยเล่นๆ จะเริ่มกลายเป็นการนอกใจอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่ Micro อีกต่อไป บุ๊คก็ควรบอกกับแพรวออกไปตรงๆ เพราะไม่ควรมีใครถูกเอาเปรียบจากความสัมพันธ์ และไม่ควรมีใครทั้งนั้นที่ต้องเสียเวลาเพราะความเห็นแก่ตัวของคนอีกคน
แล้วแพรวล่ะ ทำอะไรได้บ้าง
วิธีแก้ของหลายปัญหาไม่มีทางลัด หากไม่สบายใจก็ต้องบอกออกไปตรงๆ บอกไปว่าการที่เขาหรือเธอคุยเล่นกับคนอื่นมากเกินไป แม้ไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่นั่นก็ทำให้ฉันรู้สึกว้าวุ่นมากๆ เป็นไปได้มั้ยที่เราจะหาทางออกของเรื่องนี้ร่วมกัน…ฉันจะพยายามคิดมากน้อยลง ขณะเดียวกันเมื่อได้รับฟังแล้ว เธออยากปรับเปลี่ยนจุดนี้ยังไงบ้าง
เว็บไซต์ Choosingtherapy ได้แนะนำวิธีกับผู้ที่กำลังรู้สึกเหมือนแพรวไว้ 4 ขั้นตอน ดังนี้
- ควบคุมอารมณ์ – จริงอยู่ที่ความรู้สึกเป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นเรื่องที่เข้าใจได้มากๆ หากแพรวจะโกรธหรือไม่พอใจ แต่ถ้าคิดอีกมุม การใช้อารมณ์บอกเล่าปัญหาน่าจะไม่ใช่วิธีการที่อีกฝ่ายอยากฟังขนาดนั้น เราโมโหได้ เพียงแต่ว่าตอนเข้าไปเจรจา การใช้เหตุผลมากกว่าความรู้สึกน่าจะช่วยให้เราทั้งคู่เจอทางออกได้ง่ายและเร็วกว่า
- วางแผนการพูดคุย – เป็นแฟนกันมาสักพัก รู้จักกันมาพอสมควร การเลือกสถานที่ดีๆ จังหวะเหมาะๆ และรูปแบบการพูดที่ผ่อนคลายคงช่วยให้บทสนทนาลื่นไหนและเข้าใจกันได้ง่ายขึ้น
- วางกรอบของความสัมพันธ์ที่สบายใจกันทั้ง 2 ฝ่าย – เรื่องหนึ่งที่แพรวต้องตระหนักคือเป็นไปได้เหมือนกันที่บุ๊คจะไม่รู้ตัวมาก่อนว่าการกระทำของตัวเองเป็นปัญหา เขาเป็นคนขี้เล่นและช่างเจรจามาทั้งชีวิต จู่ๆ จะไปห้ามเขาคุยกับคนอื่นเลยก็อาจจะเกินไป เพราะงั้นการหาจุดกึ่งกลางพร้อมวางกรอบของความสัมพันธ์จึงเป็นสิ่งที่ควรทำ ซึ่งนี่ไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่ทั้ง 2 คน ทั้งบุ๊คและแพรวต้องช่วยกันจัดสรรให้ลุล่วง เป็นไปไม่ได้หรอกที่ทั้งเราและเขาจะไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรเลย สิ่งที่ต้องพูดคุยคือจะปรับอย่างไรที่จะไม่มากเกินไปและทั้ง 2 ฝ่ายยังมีความสุขร่วมกัน
- พิจารณาคู่ของตัวเองใหม่อีกครั้ง – แน่นอนว่าถ้าเขานอกใจ เราจะเลิกไปเลยหรือให้อภัยก็สุดแล้วแต่ แต่อย่างน้อยก็ควรคุยกันสักตั้ง แต่ต่อให้บุ๊คไม่ได้ Micro Cheating เขาไม่เคยมีเจตนาเลยแม้แต่นิด สุดท้าย ถ้าการเป็นแบบนี้ของเขาทำให้เราเศร้าโศกและต้องคอยระแวงตลอดเวลา คุยแล้วไม่เวิร์ก จูนแล้วก็อยู่กันยาก การทบทวนว่าคู่ของเรายังควรไปต่อด้วยกันมั้ยก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ไม่ผิด เราอาจหลงรักหลายสิ่งหลายอย่างในตัวเขา แต่หากสิ่งที่ใจเราต้องเจอนั้นหนักเกินจะรับไหว การเดินออกมาย่อมเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ไม่ยาก และมันไม่เป็นไรเลย
ไม่ว่าทุกคนจะเป็นบุ๊คหรือแพรว หรือมีเพื่อนสักคนที่กำลังเป็นแบบคนคู่นี้ เราก็หวังว่าทุกคนจะทบทวน พูดคุย และช่วยกันจนสามารถผ่านปัญหาเหล่านี้ไปได้ Micro Cheating ไม่ใช่เรื่องใหม่ นี่คือพฤติกรรมที่มนุษย์หลายๆ คู่ต้องช่วยกันแก้ไขมาอย่างยาวนาน เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน ทางแก้ก็คงต้องปรับให้สอดรับกับบริบทที่ไม่เหมือนเดิม
อย่างไรก็ดี ท้ายที่สุด หากเราทั้งคู่ต่างรู้ดีแล้วว่านี่คือการนอกใจแน่ๆ ต่อให้เป็นเพียงเล็กน้อยก็ตาม จงอย่าลืมว่า เมื่อมีคำว่า ‘นอกใจ’ แล้ว มันย่อมไม่สร้างผลดีแก่ใคร ต่อให้เป็นคนที่นอกใจเองก็ตาม
อ้างอิงจาก