อยากขอพรเรื่องนู้น อยากขอโชคด้านนี้ ไปขอที่ไหนดี เทพองค์ไหนพร้อมช่วยเราบ้าง
ในประเทศไทยมีเหล่าบรรดาเทพเจ้าจีนสถิตอยู่ตามศาลเจ้าต่างๆ แทบทุกสารทิศให้เราได้เลือกสักการบูชา แต่เรื่องของเรื่องคือ พออยากลองหันมาเป็นสายมู กลับไม่รู้ว่าควรไปขอเรื่องใดกับเทพองค์ไหนดี ถ้าขอพรผิดองค์ขึ้นมา กว่าเรื่องจะสัมฤทธิ์ผล คงจะนานน่าดู
เพื่อให้พรที่ขอไปถึงเหล่าองค์เทพโดยตรง เหมือนต่อแถว fast track The MATTER เลยขอรวบรวม 8 เหล่าเทพเจ้าจีนในไทยมาให้ทุกคนตรงนี้ แต่ใครจะเด่นเรื่องไหนบ้าง ต้องมาดูกัน
เทพเจ้ากวนอวี่ หรือ เทพเจ้ากวนอู
เทพเจ้ากวนอวี่ หรือ เทพเจ้ากวนอู หลายคนคงคุ้นชื่อนี้จากวรรณกรรมอิงประวัติศาสตร์จีน ‘สามก๊ก’ โดยกวนอวี่เป็นบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริงในช่วงปลายสมัยราชวงศ์ฮั่นหรือยุคสามก๊ก เป็นยอดขุนพลผู้ห้าวหาญแห่งจ๊กก๊ก และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการผลักดันให้เล่าปี่ (หนึ่งในพี่น้องร่วมสาบานของตน) ได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์แห่งแคว้นดังกล่าว
วีรกรรมของกวนอวี่ถูกเล่าขานจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้ชาวจีนจำนวนไม่น้อยเริ่มศรัทธาและบูชาในตัวท่าน จนต่อมาผู้คนก็ได้เริ่มนับถือกวนอวี่ในฐานะเทพเจ้าแห่งสงคราม ผู้เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้และชัยชนะ ทำให้หลายคนมักมาขอพรกับท่าน ในเรื่อง การงาน การทำมาค้าขาย และโชคลาภเงินทอง ให้ทุกอย่างราบรื่น ผ่านพ้นทุกอุปสรรคไปได้ด้วยดี
หากกำลังจะเริ่มทำอะไร แล้วกังวลเรื่องอุปสรรคขัดขวาง ก็ลองมาขอให้เทพเจ้ากวนอวี่ช่วยปัดเป่าให้พ้นทางได้ ให้อย่างน้อยก็มีแรงใจว่าไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่กำลังต่อสู้ แต่มีเทพเจ้าอยู่เคียงข้างไปด้วย ซึ่งศาลเจ้าพ่อกวนอวี่ หรือศาลเจ้าพ่อกวนอูนี้ ก็มีอยู่หลายแห่งในประเทศไทย เช่น ศาลเจ้าพ่อกวนอู (ตลาดสมเด็จเจ้าพระยา, กรุงเทพฯ), ศาลเจ้ากวนอู (ตึกสมาคมฮากกาแห่งประเทศไทย, กรุงเทพฯ), ศาลเทพเจ้ากวนอู (จ.นครปฐม)
เทพเจ้าไฉ่เสินเหย่ หรือ เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย
เทพเจ้าไฉ่เสินเหย่ หรือ เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย ผู้เป็นเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย ตามหนังสือหลากเรื่องวัฒนธรรมผีสางเทวดาของจีน (中国古代鬼神文化大覌) อธิบายเอาไว้ว่า แรกเริ่มเดิมที ตัวของเทพเจ้าไฉ่เสินเหย่ มีที่มาจากเทพแห่งทางเดิน พอเริ่มมีการค้าขายเกิดขึ้น เทพแห่งทางเดินก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นเทพแห่งทรัพย์สิน เพราะผู้คนมักเดินทางเพื่อทำมาหากิน
อาชีพที่ต้องพึ่งพาการสัญจรถึงได้รับเงินทอง อย่างเช่น พ่อค้า จึงนิยมบูชา เพื่อให้ทำมาค้าขึ้น พร้อมทั้งคุ้มของและทรัพย์สินจากการเดินทาง ผู้คนในยุคสมัยต่อมาจึงเริ่มนับถือไฉ่เสินเหย่ในฐานะ เทพเจ้าความเจริญรุ่งเรืองและความมั่งคั่ง
คนไทยเชื้อสายจีนมักบูชาเทพเจ้าไฉ่เสินเหย่ในช่วงวันตรุษจีน เพราะเชื่อกันว่าพระองค์จะเสด็จลงมาในวันเปลี่ยนปีนักษัตรเพียงวันเดียว ทำให้ในวันปีใหม่ของชาวจีน ผู้คนจะตั้งโต๊ะบูชาไฉ่เสินเหย่เป็นองค์แรก โดยจัดโต๊ะไหว้หันไปทางทิศต่างๆ ที่เชื่อว่าเทพเจ้าจะเสด็จลงมา ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละปี
ใครอยากร่ำรวยเงินทองและทำมาค้าขึ้น มาลองขอกับเทพเจ้าไฉ่เสินเหย่ได้เลย ที่เด่นๆ ก็มีเช่นที่วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ (กรุงเทพฯ), วัดโลกานุเคราะห์ (กรุงเทพฯ), พุทธสถาน จีเต็กลิ้ม (จ.นครนายก)
กวนยินผูซ่า หรือ เจ้าแม่กวนอิม
กวนยินผูซ่า หรือที่หลายคนรู้จักกันดีในชื่อ เจ้าแม่กวนอิม มาจากการผสมผสานกันระหว่างความเชื่อทางพุทธศาสนามหายานกับตำนานเจ้าหญิงเมี่ยวซ่าน ผู้ถูกบิดาบังคับให้ไปบวชเป็นภิกษุณี ระหว่างนั้น พระองค์ได้บำเพ็ญบารมี ทำทาน และโปรดสัตว์ จนเจริญญาณขั้นสูง เวลาต่อมาผู้เป็นพ่อก็ได้เข้าทำลายวัดที่เจ้าหญิงประทับอยู่ พร้อมทั้งประหารลูกสาวของตนเอง หลังจากสิ้นพระชนม์ พระองค์จึงจุติเป็น ‘พระโพธิสัตว์กวนอิม’
กวนยินผูซ่าเป็นสัญลักษณ์ของความเมตตากรุณา พระองค์มักชอบช่วยเหลือมนุษย์ ผู้คนที่ประสบกับความทุกข์ยากหรือมีปัญหาไม่สบายใจจึงมาบูชาและขอพรกับพระองค์ในด้านต่างๆ โดยเรื่องเด่นที่ผู้คนมักมาขอจะเป็นเรื่องของการทำธุรกิจและการขอลูก โดยผู้นับถือเจ้าแม่กวนอิมส่วนใหญ่ มักไม่ทานเนื้อวัวร่วมด้วย เพราะมีความเชื่อว่าครั้งหนึ่งพระแม่กวนอิมเคยกลับชาติไปเกิดเป็นวัว
หากกำลังมีเรื่องทุกข์ใจ อยากเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ หรือวางแผนจะมีลูกแล้ว ก็ลองมาขอพรกับเจ้าแม่ได้ที่ศาลเจ้าแม่กวนอิมที่เราพบเห็นอยู่ทั่วไป หรือถ้าขึ้นชื่อก็มีศาลเจ้ากวนอิม (มูลนิธิเทียนฟ้า, กรุงเทพฯ) วัดห้วยปลากั้ง (จ.เชียงราย), วัดสมานรัตนาราม (จ.ฉะเชิงเทรา)
ซุนอู้คง หรือ เทพเจ้าเห้งเจีย
เมื่อพูดถึงซุนอู้คง หรือเห้งเจีย หลายคนคงรู้จักในฐานะตัวละครหนึ่งในวรรณกรรมไซอิ๋ว มีพื้นฐานมาจากเรื่องราวการเดินทางไปอาราธนาพระไตรปิฎกจากประเทศอินเดียของพระถังซัมจั๋ง ราวๆ สมัยราชวงศ์ซ่งของจีน อ้างอิงจากวรรณกรรม ซุนอู้คงเป็นลิงผู้มีพลังวิเศษและอิทธิฤทธิ์ เทียมฟ้าสวรรค์ จนเง็กเซียนฮ่องเต้ ยอมให้ยอมให้เห้งเจียขึ้นเป็นใหญ่ พร้อมตั้งให้เป็น มหาเทพ ในฉายา ‘ฉีเทียนต้าเซิ้น’ (หรือแปลตรงตัวได้ว่า ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดิน)
ในวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวจีนมีการบูชาลิงมาเป็นเวลานานแล้ว เมื่อมีตำนานซุนอู้คงเกิดขึ้นมา จึงเกิดการผสมผสานความเชื่อดั้งเดิมกับตำนานสมัยใหม่ ผู้คนจึงเริ่มหันมานับถือซุนอู้คงในฐานะเทพเจ้าองค์หนึ่งเช่นเดียวกัน
ผู้คนเชื่อกันว่าการบูชาเทพเจ้าลิงผู้นี้จะช่วยให้ปราศจากภัยอันตรายเข้ามารบกวน มีไหวพริบที่ดี และฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับใครที่ประกอบธุรกิจส่วนตัวหรือจะเริ่มทำธุรกิจ จึงมักมากราบไหว้บูชากัน
ใครพร้อมเริ่มธุรกิจ แต่ยังไม่มีที่พึ่งทางใจ ก็สามารถมาขอพรจากเทพเจ้าซุนอู้คงให้อุ่นใจได้ เช่นที่ ศาลเจ้าพ่อเห้งเจีย (กรุงเทพฯ), ศาลเจ้าพ่อเห้งเจีย ไต่เซี้ยฮุ้กโจ้ว (จ.ราชบุรี), ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ (จ.ชลบุรี)
มาจู่ หรือ เจ้าแม่ทับทิม
เจ้าแม่มาจู่ หรือ เจ้าแม่ทับทิม คือเทพีแห่งท้องทะเลองค์แรกของจีน และเป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่คนไทยจำนวนไม่น้อยศรัทธา เจ้าแม่มาจู่ได้รับการนับถือในฐานะเทพีแห่งการเดินเรือและการประมง เมื่อต้องอพยพหรือเดินทางทางทะเล ผู้คนจึงกราบไหว้เพื่อขอให้พระองค์คุ้มครองการเดินทาง ทำให้พระแม่มาจู่กลายเป็นเทพองค์สำคัญของชาวจีนชายทะเลและชาวจีนโพ้นทะเล
ดังนั้นแล้ว เมื่อชาวจีนโพ้นทะเลอพยพไปตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก ก็จะกราบไหว้บูชาเจ้าแม่ อย่างในไทยเอง ก็มักมีการตั้งศาลเจ้าสำหรับสักการะบูชาพระองค์กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในบริเวณที่ตั้งของชุมชนจีนในไทย โดยผู้ศรัทธาสามารถขอพรกับพระองค์ได้ในทุกๆ เรื่อง ตั้งแต่ การงาน การเงิน ความรัก ไปจนถึงการเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล แต่ยกเว้นการพนันและการเสี่ยงโชค
ใครเบื่องาน อยากหางานใหม่ หรือกำลังมีแพลนจะเดินทาง สามารถมาขอพรกับเจ้าแม่กันได้ ที่กำลังดังในตอนนี้ก็จะมี ศาลเจ้าแม่ทับทิม สะพานเหลือง (กรุงเทพฯ), ศาลเจ้าแม่ทับทิม คลองสาน (กรุงเทพฯ), ศาลเจ้าแม่ทับทิมทอง (จ.ประจวบคีรีขันธ์)
เทพเจ้าเยว่เหล่า หรือ เทพเจ้าด้ายแดง
หากใครยังโสด และกำลังมองหาคู่ชีวิตที่จริงใจ ขอเชิญมารู้จักกับเทพเจ้าเยว่เหล่า หรือ เทพเจ้าด้ายแดง ผู้พร้อมมองหาและจับคู่เราให้ได้เจอกับคนที่ใช่ โดยเทพเจ้าเยว่เหล่า เป็นที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่า ผู้เฒ่าจันทรา เนื่องจากวันเกิดของท่านตรงกับวันไหว้พระจันทร์ แถมยังมีตำนานการปรากฏตัวของท่านที่เล่าขานเอาไว้ว่า เทพเจ้าเยว่เหล่ามักปรากฏกายให้ผู้คนเห็นใต้แสงจันทร์ยามค่ำคืนเท่านั้น
มือซ้ายของเทพเจ้าเยว่เหล่า ถือสมุดจดเนื้อคู่ ส่วนมือขวาถือไม้เท้าที่มีด้ายแดงผูกไว้ ท่านจะนำด้ายแดงไปผูกให้ชายหญิงที่เป็นเนื้อคู่กัน เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ทั้ง 2 จะได้พบและครองคู่กันอย่างไม่แคล้วคลาด ด้วยเหตุนี้ คนโสดผู้หวังจะพบเนื้อคู่จึงมักบูชาเทพองค์นี้ เพื่อขอให้ท่านช่วยผูกด้ายแดงนำพาความรักมาให้
ใครอยากสละโสด ก็มาขอพรกับเทพเจ้าเยว่เหล่าได้ ซึ่งปัจจุบันในไทยมีที่วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ (กรุงเทพฯ)
เทพเจ้าต้าเหล่าเหย่ หรือ เจ้าพ่อเสือ
เทพเจ้าต้าเหล่าเหย่ หรือที่คนไทยมักเรียกท่านว่า เจ้าพ่อเสือ ตามตำนานของจีน เดิมทีท่านมีชื่อว่า เสวียนอู่ เป็นเจ้าชายจากเมืองจิงหลี่ ทางตอนเหนือของเหอเป่ย ในสมัยจักรพรรดิเหลือง ครั้งหนึ่งท่านออกมาเห็นถึงความยากลำบากของประชาชน จึงเสด็จออกบำเพ็ญเพียร จนสำเร็จเป็นเซียน ด้วยผลบุญที่ทำมา ส่งผลให้ เง็กเซียนฮ่องเต้ ประทานยศให้เป็น ‘ผู้ตรวจภพทิศเหนือ’
เท้าข้างหนึ่งของต้าเหล่าเหย่จะเหยียบเต่า ส่วนอีกข้างจะเหยียบงู ซึ่งอดีตเป็นสัตว์ทั้ง 2 เคยเป็นศัตรูกับมนุษย์มาก่อน แต่ท่านสามารถปราบลงได้ จึงนำมาเป็นบริวาณ นอกจากนี้ยังมักเสด็จมาพร้อมกับพาหนะคู่ใจอย่าง เสือ ทำให้บางคนมักเรียกว่า เจ้าพ่อเสือ
เทพเจ้าต้าเหล่าเหย่ หรือ เจ้าพ่อเสือ ขึ้นชื่อในเรื่องของอำนาจบารมี จึงทำให้ผู้คนที่เคารพบูชา มักขอพรในเรื่องของการงาน โชคลาภ ขอลูก และแก้ชง โดยเมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว ก็จะนำของมาแก้บน
สำหรับใครกำลังมองหาสถานที่แก้ชงปีนี้หรืออยากขอพรเรื่องโชคลาภจากเทพเจ้าต้าเหล่าเหย่ ก็ลองไปศาลเจ้าพ่อเสือ เสาชิงช้า (กรุงเทพฯ), ศาลเจ้าพ่อเสือ บางหว้า (กรุงเทพฯ), ศาลเจ้าพ่อเสือ ปึงเถ่ากงม่า (จ.กำแพงเพชร) ดูได้
เทพเจ้าหัวถัว หรือ หมอฮัวโต๋, หมอเทวดา
เมื่อพูดถึงวงการแพทย์ หลายคนอาจไม่ได้นึกถึงทางฝั่งจีนสักเท่าไหร่ แต่แท้จริงแล้วยังมีหมออีกหนึ่งคน ผู้ถูกขนานนามว่าหมอเทวดา รักษามาแล้วหลายโรคร้ายแรง คือ เทพเจ้าหัวถัว หรือ หมอฮัวโต๋ เทพเจ้าแห่งการแพทย์ของจีน เดิมทีเกิดในราชวงศ์ฮั่น หลงใหลในศาสตร์แห่งการปรุงยาและการรักษามาตั้งแต่วัยเด็ก ทำให้เมื่อโตขึ้นมากลายหมออัจฉริยะ รักษาโรคภัยไข้เจ็บให้หายขาดได้
ตามบันทึกในหนังสือสามก๊ก ระบุเอาไว้ว่า เทพเจ้าหัวถัวสามารถผ่าตัดกระดูกที่ติดพิษของกวนอูได้ แถมยังสามารถรักษาโรคร้ายแรงมากมายในยุคนั้น คนจีนจึงขนานนามว่าเป็น บรมครูแห่งการแพทย์ ซึ่งต่อมาผู้คนจึงเคารพบูชา เพื่อให้ช่วยปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บให้หมดไป
สำหรับใครกังวลเรื่องสุขภาพ หรือกำลังประสบโรคภัยไข้เจ็บ ก็เข้าไปเคารพบูชาเทพเจ้าหัวถัวได้ที่วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ (กรุงเทพฯ), วัดบรมราชากาญนาภิเษกอนุสรณ์ หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ 2 (จ.นนทบุรี)
ปักหมุดไว้ให้เรียบร้อย บอกเลยปีนี้ ต้องเฮง ต้องปัง สมหวังในทุกด้านแน่นอน!
อ้างอิงจาก