เลิกงานมาเหนื่อยๆ แบบนี้ เครื่องดื่มเย็นชื่นใจ มือซ้าย รีโมตคู่กาย มือขวา
เลื่อนหน้าจอสตรีมมิ่งเจ้าดัง เลือกหนังสักเรื่องมาปลอบประโลมให้หายเหนื่อยล้าจากความเหน็ดเหนื่อยที่เจอมาทั้งวัน เลื่อนไปสะดุดตากับหนังเรื่องหนึ่ง จึงใช้เวลากว่าชั่วโมงครึ่งไปกับเรื่องราวของหมีสีน้ำตาลตัวยักษ์ จับพลัดจับผลูไปแทะถุงโค้กที่เอเย่นต์ทิ้งไว้ในป่า จนกลายเป็นหมีคลั่งออกอาละวาดไปทั่ว พัวพันไปยังแก๊งค้ายาที่อยากตามของล็อตใหญ่กลับมา แน่นอนว่าพล็อตมันช่างเป็นหนังเกรดบีทุนต่ำ และแน่นอนว่า มันสนุกสุดๆ เลย
ในชีวิตเรามีเรื่องให้ตัดสินใจนับไม่ถ้วน ตั้งแต่เรื่องใหญ่อย่างการเรียน การงาน ไปจนถึงเรื่องจิ๋วหลิวในชีวิตประจำวันอย่าง กินอะไรดี ฟังเพลงไหนดี ใส่เสื้อสีไหนดีนะ ขับไปทางเดิมหรือทางลัด เราหวังใจว่าเราจะเลือกตัวเลือกที่ดีให้กับตัวเองเสมอ
ตั้งแต่เลือกเล็กไปจนถึงเรื่องใหญ่นั่นแหละ ถ้าได้กินอะไรดีๆ ก็ดีกว่า ได้แต่งตัวที่ชอบ ฟังเพลงที่ใช่ มันก็ดีกว่าทั้งนั้น แต่ใจเจ้ากรรมของเรา อาจจะเบื่อความเรียบง่ายของชีวิตในอุดมคติ ปีศาจบนไหล่ซ้ายได้เวลาทำงาน เลือกตัวเลือกดีๆ ไปทำไมกันล่ะ ในเมื่อตัวเลือกแย่ๆ มันฟินขนาดนี้
หนังเกรดบีพล็อตห่วย เบียร์นายทุนรสไม่ได้เรื่อง อาหารฟาสต์ฟู้ดอุดมไปด้วยแป้งและไขมัน คอมโบนี้ฟังเผินๆ ช่างดูเป็นชีวิตที่เลี้ยวหักหลบตัวเลือกดีๆ ไปเสียหมด เราจะเสียเวลาไปกับหนังห่วยๆ ทำไมกัน อุตส่าห์มีเวลาดูหนังทั้งที ทำไมไม่เลือกหนังดีมีรางวัลการันตีกันนะ อาหารมีให้เลือกตั้งมากมาย แต่ทำไมมาเลือกอะไรที่ไม่มีประโยชน์เสียได้ล่ะ แต่พอได้ลองใช้ชีวิตตามตัวเลือกห่วยๆ นี้ มันกลายเป็นช่วงเวลาแสนสุข ที่เราไม่ต้องคำนึงถึงความถูกต้องใดๆ แล้วทำไมตัวเลือกแย่ๆ กลับมอบความฟินให้เราได้ขนาดนี้นะ?
เกิดอะไรกับใจเรา ถึงเอาแต่ฟินกับตัวเลือกแย่ๆ
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ตัวเลือกแย่ๆ ที่เรากำลังพูดถึงนี้ ไม่ใช่แค่เพราะเราไม่มีตัวเลือก เลยต้องเลือกตัวเลือกแย่ๆ อย่างเลือกเดินทางด้วยรถเมล์ที่เสียเวลามากกว่า เพราะขนส่งสาธารณะอื่นมันแพงเกินเอื้อม เลือกกินแต่อาหารโภชนาการต่ำ เพราะอาหารดีๆ มันราคาสูงเกินจะคำนึงถึงเรื่องสุขภาพก่อนปากท้องได้ อะไรเหล่านี้เราเข้าใจดีว่ามันคือการไม่มีตัวเลือกอยู่กลายๆ นั่นแหละ
แต่ที่เรากำลังคุยกันในตอนนี้ หมายถึงในสถานการณ์ที่เรามีตัวเลือกมากมายที่เลือกได้จริงๆ แต่แล้วใจเราก็ยังอยากเลือกตัวเลือกแย่ๆ อยู่ดี เราเลือกได้ว่าจะดูหนังเรื่องไหน แต่ทำไมเราถึงเอ็นจอยกับหนังปล่อยสมอง มากกว่าดื่มด่ำหนังรางวัล อะไรทำนองนั้น ความห่วยในที่นี้ หมายถึงตัวเลือกที่มันช่าง ‘ล้มเหลวในเป้าหมาย’ อย่างมุกตลกแสนฝืด หนังไล่ฆ่าที่มีแต่เสียงฮา ไม่มีความน่ากลัวอยู่เลย ไม่ใช่เรื่องของความพอใจ ที่ค่อนข้างเป็นเรื่องปัจเจก และแน่นอนว่ามันแทบเอามาวัดกันไม่ได้เลยล่ะ
งั้นเราลองมาเริ่มกันที่งานวิจัยหัวข้อ ‘So bad it’s good: When and why consumers prefer bad options’ ตีพิมพ์บน the Journal of Consumer Psychology มีผู้เข้าร่วมทดลอง 5,393 คน โดยเน้นไปที่วิธีการตัดสินใจของมนุษย์
ยกแรก ให้ผู้เข้าร่วมทดลองเลือกเรื่องตลกที่ชอบมาหนึ่งเรื่อง จากตัวเลือกที่มีให้ โดยตัวเลือกเหล่านั้นมีการให้คะแนนอยู่แล้วตั้งแต่ดีสุดไปจนแย่สุด ปรากฏว่าคนส่วนใหญ่เลือกเรื่องตลกที่คะแนนดีที่สุด ก็ไม่แปลกนี่ ใครๆ ก็ต้องเลือกตัวเลือกดีๆ ทั้งนั้น แต่อันดับ 2 ตามมาติดๆ คือมุกตลกที่ห่วยที่สุด
แพทเทิร์นนี้ก็เกิดขึ้นซ้ำๆ ในการทดลองครั้งต่อไป ผู้เข้าร่วมจะต้องเลือกระหว่างคลิปการแสดงคาราโอเกะ ‘So You Think You Can Dance’ และการออดิชั่น ‘American Idol’ โดยไม่คำนึงถึงเนื้อหา ผู้คนจำนวนมากเลือกการแสดงที่แย่ที่สุดมากกว่าตัวเลือกระดับกลางๆ
ยัง ยังไม่หมด งั้นลองย้ายหมวดมากันที่ความสุนทรี ศิลปะกันบ้าง ตั้งแต่ภาพวาดของศิลปินตัวจริง ศิลปินมือสมัครเล่น ไปจนถึงใครก็ไม่รู้ที่วาดมาส่งๆ ผู้เข้าร่วมทดลองต้องให้คะแนนภาพที่มอบอารมณ์ขันได้มากที่สุด และแน่นอนว่า ภาพจากใครก็ไม่รู้ วาดอะไรไม่เข้าท่า กลายเป็นรูปที่มอบความบันเทิง อารมณ์ขบขันได้มากที่สุด
ผลการทดลองนี้สอดคล้องกับงานวิจัยของ เคเลบ วอร์เรน (Caleb Warren) ศาสตราจารย์ด้านการตลาด จาก University of Arizona ได้ศึกษาปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคที่น่าขัน พบว่าเวลาเราได้เลือกตัวเลือกที่มันขัดกับความคาดหวัง โดยไม่ละเมิดกับสิ่งใด มันสามารถนำมาซึ่งความเอ็นจอยในชีวิตได้
นี่เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงฟินในตอนที่เลือกตัวเลือกห่วยๆ ที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายของมัน อย่างการเดินทางที่อ้อมไกล กินอาหารไม่มีประโยชน์ ก็มันช่างมอบความบันเทิงเริงใจให้เราเต็มแต้มขนาดนี้ แต่นั่นเกิดขึ้นกับสถานการณ์ที่เรารู้ว่า เลือกไปแล้วเราจะไม่เดือดร้อนอะไรนั่นเอง เมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกอะไรจริงจัง ส่งผลกับชีวิต เราจะเลือกสิ่งที่เข้ารูปเข้ารอยมากกว่า
คำตอบของมันมีเพียงเท่านี้นี่แหละ แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้จัดทำวิจัยสรุปไว้ได้อย่างน่าสนใจ คือเรื่องของการเคารพในความพอใจของคนอื่น ผู้คนต่างเลือกสิ่งที่แตกต่างกันด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน จึงอยากให้ทุกคนมีความเข้าอกเข้าใจในเวลาที่เราเห็นใคร เลือกตัวเลือกห่วยๆ นั่นไม่ใช่เพราะเขาช่างรสนิยมตกมาตรฐาน แต่มันเป็นความพึงใจของคนนั้นต่างหาก
และอีกประเด็น คือ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับเราทุกคนตลอดเวลา เรามักเลือกอะไรที่มันไม่เป็นไปตามแบบแผน เพียงเพื่อความพอใจชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น แม้ฟังดูไร้สาระ แต่ตราบใดที่มันมอบความสุขให้เราได้ โดยไม่สร้างผลเสียใดๆ ตามมา ก็ไม่เสียหายอะไรนี่นะ
หากที่ผ่านมาเราใช้ชีวิตตึงเส้นอยู่กับตัวเลือกที่ดีที่สุด ถูกต้องที่สุดตลอดมา ลองปล่อยชีวิตให้หย่อนลง ด้วยตัวเลือกไม่ได้เรื่องเหล่านี้ดูสักครั้ง แล้วเราอาจค้นพบความสุขที่หาไม่ได้ในตัวเลือกอันดับหนึ่งก็ได้ 🙂
อ้างอิงจาก