มีคนในออฟฟิศเป็นชาวอินโทรเวิร์ต (Introvert) กันบ้างไหม? หรือคุณเองเป็นอินโทรเวิร์ตในออฟฟิศหรือเปล่า? ชาวอินโทรเวิร์ต คำคุ้นเคยที่เอาไว้นิยามคนรักสันโดษ ไม่นิยมการเข้าสังคม พวกเขามักถูกแปะป้ายด้วยนิสัยรักสันโดษอยู่บ่อยครั้ง เช่น ทำอะไรเชื่องช้า ไม่เก่งด้านทำงานเป็นทีม ไม่พูดไม่จา เข้าสังคมไม่เก่ง แล้วในการทำงาน พวกเขาเป็นแบบนั้นจริงหรือเปล่า? หากต้องอยู่ในสายงานที่ค่อนข้างเอื้ออำนวยให้เอ็กโทรเวิร์ตมากกว่า พวกเขาจะสามารถเติบโตในสายงานนั้นๆ ได้ไหม?
แม้จะได้ยินสองคำนี้อยู่บ่อยครั้ง แต่หากยังนึกภาพไม่ออก มาจำลองเหตุการณ์ไปพร้อมกัน หากเราพาอินโทรเวิร์ตไปนั่งทำงานในร้านกาแฟยอดฮิต ผู้คนล้นหลาม แวะเวียนถ่ายรูปมุมเก่งในร้าน อย่าหวังว่าชาวอินโทรเวิร์ตจะนั่งยิ้ม อินกับบรรยากาศอันครื้นเครง พวกเขาจะเลือกมุมเงียบที่สุด หรืออาจจะพับคอมพิวเตอร์ กลับไปตั้งแต่สิบห้านาทีแรก แต่กลับกัน ถ้าพาชาวเอ็กซ์โทรเวิร์ต ออกไปทำงานนอกสถานที่ พบปะผู้คน ระดมสมองกันครบทีม พวกเขาจะพลังล้นเหลือ เหมือน HP เด้งมาเต็มหลอด
หากบอกว่าคนแบบไหนดีกับงานมากกว่า ดูจะใจร้ายไปหน่อยที่ตัดสินกันแค่ในสถานการณ์เดียว เพราะตัวอย่างที่กล่าวมา เป็นเพียงลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันของคนสองแบบที่อยู่ขั้วตรงข้ามกันเท่านั้น ถึงอย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นชาวอินโทรเวิร์ต ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องนั่งเงียบอยู่ในมุมห้อง เป็นคนขี้อาย พูดจาไม่ฉะฉาน หรือบุคลิกเหมือนแอล จากเรื่องเดธโน๊ตกันไปเสียหมด เรายังมีอินโทรเวิร์ตที่คุยสนุกในกลุ่มเพื่อน เล่นมุกถูกจังหวะ พรีเซนต์งานเป็นเลิศ เขาอาจจะเป็นคนที่เข้าสังคมแล้วดูไม่ผิดแปลกจากใคร เพียงแต่พวกเขาไม่ได้มีการเข้าสังคมเป็นที่พึ่งทางจิตใจเหมือนเอ็กโทรเวิร์ตนั่นเอง
ด้วยลักษณะนิสัยที่ค่อนข้างต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ระหว่างเอ็กซ์โทรเวิร์ตและอินโทรเวิร์ต จึงไม่แปลกที่คนเรามักจะเลือกงานที่เหมาะกับตัวเอง หากรู้ว่าเราไม่เก่งในเรื่องปฏิสัมพันธ์กับผู้คน เราคงไม่เลือกไปเป็น ผู้ประสานงานที่ต้องคุยกับคนนั้นทีคนนี้ที ฝ่ายขาย หรือ AE มือทองนักขายอันดับหนึ่ง แล้วถ้าแทนที่ตำแหน่งเหล่านี้ด้วยชาวเอ็กซ์โทรเวิร์ตล่ะ พวกเขาอาจมีความสุขและไปได้ดีกับเนื้องานแบบนี้มากกว่า
ด้วยเหตุผลเดียวกันที่เรามักจะเลือกงานที่เหมาะกับตัวเอง หากเราเป็นชาวเอ็กซ์โทรเวิร์ตก็คงเลือกงานที่มีโอกาสได้พบปะผู้คน ใช้พลัง friend of the world ให้เป็นประโยชน์ เราไม่ได้กำลังจะแปะป้ายว่า อินโทรเวิร์ตต้องทำงานแบบนี้เท่านั้น ทำงานแบบนั้นได้ไม่ดี แต่เรากำลังจะพูดในเชิงความสุขและความไปได้ดี ได้ลื่นไหล ในสายงานของตัวเองมากกว่าพูดถึงความเก่งกาจในการทำงาน ว่าแต่ละลักษณะนิสัย จะมีสิ่งที่ตัวเองถนัดต่างกัน เช่น เราอาจได้เห็นอินโทรเวิร์ตอาจคิดกลยุทธในการขายเก่งมาก แต่ไม่ชอบที่จะต้องออกไปขายด้วยตัวเอง หรือผู้ประสานงานอินโทรเวิร์ต ที่ต้องคุยกับผู้คนทุกแผนก ยิ้มแย้มจนเป็นที่รัก แต่ช่วงเวลาชาร์จพลังที่ดีที่สุด คือการอยู่เงียบๆ ใต้ผ้าห่มเท่านั้น
หากทุกคนเลือกงานตามความเหมาะสมต่อนิสัยของตัวเองแล้ว ลองมาคิดกันเล่นๆ ว่าอินโทรเวิร์ตจะสามารถเติบโตในสายงานที่เอื้ออำนวยต่อลักษณะนิสัยของเอ็กซ์โทรเวิร์ตได้หรือเปล่า?
ศาสตราจารย์คาร์ล มัวร์ (Karl Moore) จาก McGill University และ วิลลิ่ง ลี (Willing Li) นักศึกษา จาก McGill University ได้ลองพูดคุยกับเหล่านักศึกษาจบใหม่จำนวน 15 คน ที่นิยามตัวเองว่าเป็นชาวอินโทรเวิร์ต และได้ทำงานในสายงานที่ต้องพบปะพูดคุยกับผู้คนอยู่ตลอดเวลา แล้วพวกเขาพบว่า ชาวอินโทรเวิร์ตเหล่านี้ มีนิสัยบางอย่างที่ดีต่อการทำงาน และมีแนวโน้มจะพาให้พวกเขาประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก แม้ตอนนี้จะอยู่ในสายงานที่ดูไม่เข้ากับอินโทรเวิร์ตเลยก็ตาม มาดูกันว่า นิสัยเหล่านั้นมีอะไรกันบ้าง
เริ่มจากจุดแข็งข้อแรก การเป็นผู้ฟังที่ดี อาจเพราะไม่ได้เป็นคนช่างจ้อสักเท่าไหร่ พอมีใครมาพูดอะไรให้ฟัง ก็มักจะเลือกฟังอย่างตั้งใจแล้วคอยเสริมความคิดเห็น มากกว่าที่จะเป็นฝ่ายชวนคุย ต่อบทสนทนา แถมยังไม่รู้ว่าจะรวบรัดตัดตอนตรงไหน จึงต้องฟังรายละเอียดทั้งหมดนั้นเพื่อประมวลผลเรื่องราวอีกที เลยทำให้ชาวอินโทรเวิร์ต มีแนวโน้มที่จะเป็นผู้ฟังชั้นเยี่ยม จับรายละเอียดจากข้อมูลตั้งแต่ต้นจนจบ
ต่อมา อินโทรเวิร์ตเป็นผู้สร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ด้วยนิสัยที่ค่อนข้างจะใส่ใจผู้คนที่อยู่รอบตัว เห็นอกเห็นใจ มองในมุมของผู้อื่น คิดแล้วคิดอีกก่อนจะพูดอะไรออกไป เลยทำให้ชาวอินโทรเวิร์ต ค่อนข้างจะใส่ใจในความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้ง
สุดท้าย ปรับตัวเป็นเลิศ สิ่งนี้จะค่อนข้างแตกต่างจากสองข้อแรกเสียหน่อย ตรงที่สองข้อนั้น เป็นนิสัยที่ติดตัวชาวอินโทรเวิร์ตส่วนใหญ่อยู่แล้ว แต่สำหรับการปรับตัวในข้อนี้ เป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝนจากการทำงาน เพื่อให้อยู่รอดในสายงานที่ค่อนข้างจะเอื้ออำนวยให้ชาวเอ็กโทรเวิร์ตมากกว่า การปรับตัวที่ว่านี้ รวมถึงการมองหาจุดแข็งของตัวเอง และปรับตัวให้เป็นเอ็กโทรเวิร์ตมากขึ้น
ข้อนี้จึงเป็นเหมือนกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ชาวอินโทรเวิร์ตเดินทางสายเอ็กโทรเวิร์ตได้ดี ด้วยการเป็นผู้ฟังที่ดี มีความละเอียดลออในความสัมพันธ์ ใส่ใจผู้คนรอบข้าง ที่มีมาแต่ก่อนแล้ว ยิ่งช่วยให้การปรับตัวได้ในหลากหลายสิ่งแวดล้อมเป็นไปได้ดียิ่งขึ้น มันไม่ใช่การกลายร่างเป็นเอ็กโทรเวิร์ตเพื่อให้เดินทางสะดวกในสายงานนี้ เพียงแค่ปรับตัวด้วยการเอาจุดแข็งของตัวเองมาใช้เท่านั้น แม้การปรับตัวนี้จะพาให้ชาวอินโทรเวิร์ตต้องลองก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนก็ตาม
อย่าเพิ่งละทิ้งงานที่เราหมายตาไว้ เพียงเพราะมันอาจจะไม่เหมาะกับนิสัยของเรา เพราะไม่ว่าจะเป็นเอ็กซ์โทรเวิร์ตหรืออินโทรเวิร์ต ต่างก็สามารถอยู่ในสายงานไหนก็ได้เหมือนกัน แม้ทั้งสองอาจจะมีจุดแข็งจุดอ่อนแตกต่างกันไปบ้าง ก็ถือว่าแต่ละฝ่ายมีข้อดีข้อเสียเป็นของตัวเอง แม้เราไม่อาจเปลี่ยนนิสัยเป็นอีกแบบได้ในชั่วข้ามคืน (หรือจะอีกกี่คืนก็ตาม) แต่การรู้จักสวมบทบาทตามหน้าที่ อาจช่วยให้การทำงานของเราลื่นไหลได้มากขึ้น
อ้างอิงข้อมูลจาก