ตอนสัมภาษณ์งานคุยไว้แบบหนึ่ง แต่ทำไมเข้ามาทำงานจริงแล้วเป็นอีกแบบหนึ่งล่ะเนี่ย ได้งานนอกเหนือจากหน้าที่เต็มไปหมด จะปฏิเสธก็ไม่ได้เพราะยังเป็นน้องใหม่ ทนไม่ไหวแล้ว อยากลาออก แต่มันจะเร็วไปไหมนะ เพิ่งเข้ามาทำงานได้แป๊บเดียวเอง
ปัญหาโลกแตกของคนที่เพิ่งเริ่มงานใหม่ คือพบว่าตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์เลี้ยวกลับก็ไม่ได้ แต่จะให้ไปต่อก็มองแทบไม่เห็นทาง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม โดนสั่งงานนอกเหนือจากหน้าที่ ที่ทำงานมีคัลเจอร์อยู่กันแบบ ‘ครอบครัว’ แต่เป็นครอบครัวกาสะลองซ้องปีบ มุนินมุตา เจอเพื่อนร่วมงานนิสัยไม่ดี งานไม่โดนใจ หรือเหตุผลอื่นใดที่ทำให้ไม่อยากทำงานนี้อีกต่อไป แต่ก็ไม่แน่ใจว่ามันเร็วเกินไปหรือเปล่าที่จะลาออกในตอนนี้
จากการสำรวจในปี 2022 พบว่า 30% ของพนักงานใหม่ตัดสินใจลาออกตั้งแต่ 90 วันแรกของการทำงาน โดยเหตุผลอันดับหนึ่ง คือ งานที่ต้องทำไม่ใช่อย่างที่คาดหวังไว้ อันดับสอง คือ เหตุการณ์หรือประสบการณ์ไม่ดีที่ได้พบเจอมา อันดับสาม คือ วัฒนธรรมองค์กรไม่เข้ากับตัวเอง
เราไม่ชอบการทำงาน หรือไม่ชอบที่ทำงานกันนะ?
เมื่อความคิดอยากลาออกหลังจากเพิ่งเริ่มงานได้ไม่นานแวบเข้ามาในหัว อาจต้องลองใช้เวลาคิดให้ถี่ถ้วนก่อน เพราะบางคนก็ใช้เวลาในการปรับตัวกับงานใหม่ สังคมใหม่เป็นเวลาหลายเดือนอยู่เหมือนกัน และยิ่งถ้านี่เป็นงานแรกในชีวิต ความเศร้า และความเครียดจากการทำงานที่เรียกว่า ‘first-jobber blues’ ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้บ่อย
ก่อนอื่นเราต้องแยกให้ออกว่านี่ไม่ใช่ first-jobber blues ด้วยการถามตัวเองว่าสิ่งที่เราไม่ชอบนั้นคือ‘การทำงาน’ หรือ ‘ที่ทำงาน’ ไม่แปลกที่เราจะ ‘ไม่ชอบการทำงาน’ เพราะเมื่อไม่กี่เดือนก่อนเรายังนั่งเรียนอยู่เลย ว่างก็ไปเที่ยวกับเพื่อน มีเวลาทำอะไรเยอะแยะไปหมด แต่พอมาทำงานชีวิตก็เปลี่ยนไป ต้องทำงานทุกวัน ไม่มีเวลาว่างเหมือนเคย ไปเที่ยวได้แค่วันหยุดเท่านั้น ข้อความในไลน์ก็ไม่ได้มีแค่เพื่อนแล้ว มีกรุ๊ปที่ทำงานเต็มไปหมด เราอาจจะต้องใช้เวลาในการทำความเคยชินกับชีวิตในรูปแบบใหม่
แต่ถ้าเรา ‘ไม่ชอบที่ทำงาน’ ขึ้นมา ก็ต้องเริ่มมานั่งคิดแล้วว่าที่ทำงานทำอะไรให้ใจเราเจ็บแสบ เรายังไหวอยู่ไหม ถ้าไม่ไหว เราอยากลาออกจริงใช่ไหม หรือจะลองคุยกับหัวหน้าดูก่อนดี
แม้จะคนรอบข้างจะบอกว่า ‘อดทนไปก่อน’ แต่ยุคนี้ไม่ใช่ยุคแห่งการอดทนอีกต่อไป เราควรได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากกว่า ถ้าลองคิดให้ถี่ถ้วนดูแล้วว่าจะลาออกเพราะอะไร แล้วมีสามเหตุผลด้านล่างนี้ ลาออกได้เลย ถึงแม้ว่าเราจะเพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นานก็ตาม
บรรยากาศที่ทำงานสุดแสนท็อกซิก
ไม่มีใครอยู่ในบรรยากาศท็อกซิกได้นาน ถ้าเรารู้สึกว่าบรรยากาศในที่ทำงานท็อกซิก หรือต้องเจอกับหัวหน้าท็อกซิกที่จู้จี้จุกจิกจะเอาทุกอย่าง บุกรุกเวลาส่วนตัว มองเราเป็นแค่ฟันเฟืองชิ้นหนึ่ง ไม่เคยมองเราเป็นมนุษย์ การอดทนกับคนแบบนี้นอกจากจะทำให้เราสุขภาพจิตเสียอย่างรวดเร็วแล้ว สุขภาพกายเราก็จะเสียตามมา และสุดท้ายเราจะไม่เหลืออะไรเลยนอกจากแผลใจจำนวนมากที่จะติดตัวเราไปอีกนาน
หน้าที่รับผิดชอบไม่ตรงกับที่คุยไว้ตอนสัมภาษณ์
ถึงตอนสัมภาษณ์งานจะตกลงกันไว้ดีขนาดไหน แต่พอเข้ามาทำงานแล้วมีหน้าที่ที่ไม่ได้ตกลงไว้ตั้งแต่แรกงอกขึ้นมาเพิ่มอีกเพียบ บางครั้งก็จะมาพร้อมกับคำพูดว่า “ดีนะ จะได้ทำเป็นหลายอย่าง” หรือ “คิดซะว่าช่วยกันนะ” ยิ่งเขาเห็นว่าสั่งแล้วเราทำได้ เขายิ่งสั่งเพิ่ม จนบางครั้งงานช่วยกลายเป็นอีกหนึ่งงานประจำ เราอย่าปล่อยให้เขาเคยชินกับการสั่งงานนอกเหนือจากที่เคยตกลงกันไว้ ถ้าคิดว่ายังพอคุยกันได้ ลองคุยดูก่อน แต่ถ้าเกินเยียวยาแล้ว จะลาออกก็ไม่ใช่เรื่องผิด
ได้งานใหม่ที่ตรงกับเป้าหมายที่วางไว้มากกว่า
ถ้าได้งานใหม่ที่ตรงกับเป้าหมายของเรามากกว่าในช่วงเวลาที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นาน ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่หนักแน่นพอที่จะลาออก ในเมื่องานใหม่ตรงกับเป้าหมายมากกว่า จะเสียเวลาอยู่ที่นี่เพราะความเกรงใจก็คงไม่ได้ โอกาสมาแล้ว ต้องรีบคว้าไว้
เมื่อเหตุผลของเราหนักแน่นแล้ว อย่ากลัวที่จะลาออก การลาออกทั้งที่ยังทำงานได้ไม่นานนั้นไม่มีคำว่าเร็วไป องค์กรไม่ใช่คนที่จะตัดสินชีวิตของเรา เราต่างหากที่จะเป็นคนตัดสินชีวิตของตัวเอง
อ้างอิงข้อมูลจาก
Illustration by Krittaporn Tochan