เช้าวันทำงาน นอนเพียงพอแค่ไหนมันก็ไม่สดชื่น เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วรู้ว่ามีงานรออยู่ล้นมือ แต่จะไม่ทำก็ไม่ได้ ฝืนขุดตัวเองขึ้นมาจากที่นอน เข้าทำงานอย่างเอื่อยเฉื่อยเหมือนซอมบี้ เอาน่า อย่างน้อยถ้าออฟฟิศไปแล้วคงได้เติมพลังจากเพื่อนในทีมได้บ้าง แต่พอก้าวผ่านประตูไปนั่งประจำที่ นี่มันสมาคมแรงงานซอมบี้หรือเปล่า แต่ละคนเหี่ยวเฉาไม่แพ้กันเลย ต่างคนต่างเฉาขนาดนี้ แล้วเราจะอัปเอเนอจี้ตัวเองยังไงได้นะ
หวังใจไว้ว่าถ้าในวันที่เราเปื่อยๆ คงได้เพื่อนร่วมงานคอยถือปอมปอมเชียร์ ปรบมือเรียกสติ บูสต์ บูสต์ เอเนอจี้ เอเนอจี้ อยู่ข้างโต๊ะ แต่เมื่อบรรยากาศจริงกลับไม่เป็นแบบนั้น เรามีวันเฉาฉันใด เพื่อนเราก็มีวันเฉาได้ฉันนั้น แล้วดันมาเป็นช่วงเดียวกันด้วยนี่สิ บรรยากาศในทีมเลยอ่อมๆ เหมือนเข้าโหมดประหยัดพลังงานกันหมด ทีนี้ก็ยิ่งจมจ่อมกับความอ่อมเข้าไปใหญ่ ราวกับว่าไม่มีใครมีเรี่ยวแรงมากพอที่จะฉุดกันและกันขึ้นมาจากวังวนนี้
หากใครกำลังรู้สึกว่าบรรยากาศแบบนี้มันยิ่งทำให้เราเฉาเข้าไปใหญ่ มัวมานั่งเฉาแบบนี้ในออฟฟิศทำให้เราเป็นพนักงานที่ไม่ได้เรื่องหรือเปล่านะ ไม่ต้องกลัวไป หากจะไม่ได้เรื่อง เราก็มีเพื่อนที่พร้อมจะไม่ได้เรื่องไปพร้อมกันเยอะมากเลยล่ะ ผลสำรวจเหล่าคนทำงานกว่า 15,000 คนจาก mckinsey บริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และให้คำปรึกษาด้านบริหารองค์กร บอกว่า กว่า 50% รู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยโปรดักทีฟสักเท่าไหร่เลย
ใครๆ ต่างก็เคยมีวันเปื่อยๆ กันทั้งนั้น ไม่เป็นไรหรอกนะ แต่ถ้าความเปื่อยนั้นไม่จางหายไปไหนสักที เราเองก็อยากลุกขึ้นมาฮึบ สะบัดตัวขี้เกียจที่เกาะตามแขนขาออกไป แต่บรรยากาศเฉาๆ ในทีมกำลังพาให้เรารู้สึกเหี่ยวเฉาตามไปด้วย ไม่ได้ลุกขึ้นมาฮึบได้สักที อาจถึงเวลาที่เราต้องลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ
หากเราอยากบูสต์เอเนอจี้ในทีมไม่ให้อ่อม เพราะเราเองก็ไม่อยากจะอ่อมตามไปด้วย ในฐานะพนักงานตัวเล็กๆ คนหนึ่ง เราพอจะทำอะไรได้บ้างนะ (นอกจากเลี้ยงน้ำชงเพื่อนในตอนบ่าย) ลองฟังคำแนะนำบางส่วนจาก ลิซ คิสลิก (Liz Kislik) ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการ
- สอดส่องปัญหาเพื่อนรอบตัว
ต่างคนต่างเฉาโดยไม่ได้นัดหมาย ลองสะกิดศอกถามเพื่อน ด้วยมู้ดถามไถ่ความเป็นไป ดินฟ้าอากาศ อัปเดตชีวิตต่างๆ ว่าช่วงนี้แกดูอ่อมจังเลย อาจชี้ให้เห็นบรรยากาศในทีมร่วมด้วยว่าพากันเหี่ยวเป็นต้นไม้ไม่ได้รดน้ำ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า เพราะมันอาจเป็นได้ทั้งปัญหาที่ทุกคนเจอร่วมกันหรือปัญหาส่วนตัว แค่บังเอิญเกิดขึ้นพร้อมกันเฉยๆ หากเป็นปัญหาส่วนรวมที่ส่งผลกระทบทุกภาคส่วนขนาดนี้แล้ว แน่นอนว่ามันส่งผลกับการทำงานระดับทีม อาจจะต้องวางแผนแก้ปัญหาร่วมกัน หรือต่อให้มันเป็นปัญหาส่วนตัวแต่เป็นเรื่องงาน สักวันหนึ่งมันอาจเกิดขึ้นกับเราได้เหมือนกัน สำรวจปัญหาให้รู้แจ้งกันไปเลยว่ามันมาจากจุดไหน - ใช้เวลานอกออฟฟิศด้วยกันมากขึ้น
ยิ่งเห็นว่าช่วงนี้ในทีมหมดพลังไปกับการทำงานมากเท่าไหร่ อย่าปล่อยให้เพื่อนๆ แบตหมดไปกลางทางแบบนั้น หากเห็นใครเริ่มโหมงานหนักเกินไป ลองเชื้อเชิญให้เขาใช้เวลาพักผ่อนระหว่างวันเสียหน่อย ออกไปเดินเล่นยืดเส้นยืดสาย และที่สำคัญ ลองใช้เวลานอกออฟฟิศเพื่อการผ่อนคลายด้วยกันให้มากขึ้น แลกเปลี่ยนวิธีผ่อนคลายตัวเองจากวันตึงเครียด ในช่วงเวลาเหล่านี้ อาจช่วยให้ทั้งทีมรู้สึกว่าเหนื่อยแค่ไหนก็ยังมีช่วงเวลาดีๆ ที่หาได้จากในทีมเดียวกันได้บ้าง
- ผ่อนปรนต่อกันมากขึ้น
แน่นอนว่าในในสเกลระดับทีม อาจไม่สามารถไปปรับเปลี่ยนนโยบายบริษัทให้เอื้อต่อทีมเราทีมเดียวได้ แต่พวกกฎที่รู้กันเองในทีมล่ะ คล้ายๆ พวกข้อตกลงเล็กๆ ที่เรารู้ร่วมกันในการทำงาน หากวันหนึ่งที่ทีมอ่อมจนไม่สามารถดึงประสิทธิภาพการทำงานออกมาได้ เราอาจจะต้องผ่อนปรนความเข้มงวดเหล่านั้นลงหน่อย ให้เขามีเวลาจัดการตัวเองมากขึ้น เมื่อทุกคนได้เวลาพักเหนื่อย หายใจหายคอกันคล่องขึ้น อาจช่วยให้บรรยากาศในภาพรวมดีขึ้นได้ - มีเส้นชัยร่วมกัน จับถ้วยรางวัลกันทุกคน
อ่อมขนาดนี้ต้องมีอะไรมาช่วยบูสต์กันหน่อย รางวัลคนเก่งต้องเข้า ลองตกลงกันว่าหากเราผ่านช่วงอ่อมนี้ไปได้ กำหนดเลยว่าเป็นเดือนไหน สัปดาห์ไหน หรืองานโปรเจ็กต์ไหน สร้างเส้นชัยร่วมกัน เรามาให้รางวัลตัวเองเป็นสิ่งนี้กันเถอะ อาจเป็นการเที่ยวพักผ่อน กินข้าวร่วมกันทั้งทีม กิจกรรมง่ายๆ ที่ทุกคนใช้เวลาด้วยกันได้ ให้มันมีเป้าหมาย มีรางวัล อาจช่วยให้ทุกคนเห็นภาพตรงกันมากขึ้น
สำหรับพนักงานตัวจ้อยก็อาจทำได้ในระดับประมาณนี้แหละ ช่วยจับมือพยุงกันไปจนกว่าจะถึงเส้นชัยตลอดรอดฝั่ง หรือถ้าใครเป็นหัวหน้าก็อย่าชะล่าใจว่า พนักงานก็คงฮีลใจกันเองได้แหละมั้ง ขอทิ้งท้ายไว้ด้วยงานวิจัยจาก University of Georgia ที่กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ว่า เหล่าพนักงานที่มีความสัมพันธ์อันดีกับหัวหน้างาน จะเข้าสังคมดีขึ้น เครียดน้อยลง และเผชิญกับภาวะหมดไฟน้อยลงด้วย
ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งไหน หากเห็นเพื่อนร่วมงานอ่อมๆ ไปจนผิดสังเกต การยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเขาในวันนี้ ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ในทีมเข้มแข็งมากขึ้น พอถึงวันที่เราอ่อมจนอยากให้ใครยื่นมือมาบ้าง เอเนอจี้ในทีมอาจย้อนกลับมาช่วยดันหลังให้เรารอดพ้นช่วงอ่อมไปได้เช่นกัน
อ้างอิงจาก