คนเรามักจะมีเรื่องที่เกลียด ที่ไม่ชอบ
ส่วนใหญ่เราไม่ชอบอะไร ก็มักจะเลี่ยงสิ่งนั้น ไม่ชอบกินก็อย่าไปกิน เกลียดแมลงสาบก็วิ่งหนีหรือหาทางกำจัดมันซะ
แต่ถ้าเราถูกทำให้เกลียดตัวเองล่ะ? เราจะทำยังไง? มันจะเลวร้ายได้ขนาดไหน?
เหตุโศกนาฏกรรมที่ออร์แลนโดเป็นการสังหารหมู่ครั้งเลวร้ายและก่อให้เกิดความสนใจและความสงสัยทั้งในประเด็นเรื่องความเกลียดชัง การก่อการร้ายสากลไปจนถึงเรื่องการอาวุธปืนในสหรัฐ สื่อต่างๆ รวมถึงบุคคลสำคัญของโลกต่างตื่นตัวและหันมาให้ความสำคัญกับประเด็นเรื่องความหลากหลายทางเพศ อันเป็นความพยายามในการลดความเกลียดชังและเสริมสร้างความเข้าใจกันของผู้คนที่มีความหลากหลายในสังคม ไม่ให้ฆ่ากัน
อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้นายโอมาร์ มาทีน (Omar Mateen) ลงมือสังหารหมู่ผู้คนกว่าครึ่งร้อยได้ เพียงเพราะเขารู้สึกโกรธแค้นที่เห็นภาพชายจูบกับผู้ชายด้วยกันเท่านั้นหรือ?
มาร์ทีนอาจจะเป็นเกย์?
แน่นอนว่าเราทุกคนรวมถึงสารพัดสื่อต่างก็สงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับชายคนหนึ่ง มีการสัมภาษณ์คนรอบข้างรวมไปถึงพยานในผับมากมาย ผลออกมาอาจจะทำให้เรารู้สึกแปลกใจ ว่าสรุปแล้ว นายมาทีนที่เรียกว่าเป็นโฮโมโฟเบียร์ หรือคนที่เกลียดเกย์เข้าไส้ เกลียดชังถึงขนาดต้องกำจัดทิ้ง กลายเป็นว่าเขากลับมีแนวโน้มที่จะเป็นเกย์ด้วย
สื่อต่างๆ เริ่มนำเสนอรายละเอียดของนายมาทีนจากคนรอบๆ ข้าง รวมไปถึงเจ้าของบาร์เกย์อันเป็นที่เกิดเหตุ ภูมิหลังของนายมาทีนกลับมีความซับซ้อนและมีความขัดแย้งในตัวเอง ถึงมาทีนดูเป็นชายวัยกลางคนที่แต่งงานมีภรรยา แต่ระยะหลังภรรยาก็กล่าวว่ามาทีนเริ่มใช้ความรุนแรงและชอบออกไปเที่ยวกลางคืนบ่อยขึ้น คำสัมภาษณ์ทั้งเพื่อนฝูงก็แสดงให้เห็นว่ามาทีนเองอาจเป็นเกย์ แถมมีผู้คนในผับ Pulse ยืนยันว่าเคนเห็นเขามาที่ผับและมีการออกจากผับไปพร้อมกับชายหนุ่มอยู่บ้าง แต่ในอีกด้านก็ดูเหมือนว่ามาทีนจะเป็นคนที่เคร่งศาสนาถึงขนาดเคยควักมีดขึ้นจะแทงเพื่อนที่เล่นมุกตลกเกี่ยวกับศาสนาด้วย
กรณีตัวตนที่ขัดแย้งเช่นมาทีนไม่ใช่เรื่องตลก และแน่นอนว่าเป็นเรื่องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
ตัวตนของคนเรามีความซับซ้อน แต่มาตรฐานที่สังคมกำหนดขึ้นกลับไม่ซับซ้อนเท่า
สังคมบอกนายมาทีนว่าเขาเป็นผู้ชาย ต้องแต่งงาน ต้องรักเพศตรงข้าม มีครอบครัว เขาต้องเป็นพ่อและผัว และโลกก็บอกว่าคนที่ไม่ได้มาตรฐานนี้ถือว่าน่ารังเกียจ แน่นอนว่าศาสนาก็ประณามความรักของเพศเดียวกันว่าเป็นบาปที่น่ารังเกียจด้วยเช่นกัน
สิ่งที่สังคมกำลังบอกให้เขาเกลียด คือตัวของเขาเอง นำไปสู่การยอมรับตัวเองไม่ได้ จึงไม่แปลกที่สิ่งเหล่านี้จะกลายมาเป็นความรุนแรง และการฆ่าฟัน
โฮโมโฟเบียร์มีแนวโน้มที่จะเป็นโฮโมเซ็กชวล
ริชาร์ด ไรอัน (Richard Ryan) ศาสตราจารย์ทางจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยโรเชสเตอร์กล่าวถึงงานศึกษาร่วมที่ตีพิมพ์ในปี 2012 ว่า บางครั้งการที่คนทำร้ายเกย์ก็เพราะว่ากลัวความปรารถนาลึกๆ ของตัวเองที่ต้องกดข่มเอาไว้ การที่พวกเกลียดเกย์รับเกย์ไม่ได้ ลึกๆ แล้วอาจเกิดจากการที่ยอมรับตัวเองไม่ได้นั่นเอง
ฟังดูเหมือนว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง และน่าหัวเราะเยาะ แต่ไม่ใช่เลย ประเด็นตัวตนและการถูกกดทับจากสังคมเป็นเรื่องที่รุนแรง และตัวมันเองก็เป็นความรุนแรงอย่างหนึ่ง
การล้อเลียนและการส่งเสริมอคติต่างๆ (ภาษา การล้อเลียน ไปจนถึงการสร้างภาพซ้ำๆ ของคนที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานของสังคม) อันเป็นกระบวนการที่เราทุกคนอาจเคยร่วมทำกัน ล้วนเป็นสิ่งเสริมสร้างความรุนแรงในสังคม การเหยียดและอคติ ในระดับที่น้อยที่สุดคือส่งผลรุนแรงต่อความรู้สึกของคนกลุ่มที่ถูกเหยียด แบ่งแยก และล้อเลียน ซึ่งในที่สุดแล้ว จากความรุนแรงในเชิงความหมาย
สุดท้าย มันจึงมีความเป็นไปได้ ที่ความรุนนั้นจะระเบิดออกมา จนกลายเป็นความรุนแรงที่เป็นรูปธรรม