กว่า 2.3 ล้านคนที่ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ต่างก็มีความตั้งใจเดียวกัน ที่จะทำหน้าที่ในฐานะพลเมืองไทย ถึงได้น่าเสียดายถ้าเสียงเหล่านั้นจะไปไม่ถึงคูหาในวันนับคะแนน ด้วยเหตุผลนานาประการ
อีกอึดใจเดียว ก็จะได้เห็นโฉมหน้าของรัฐบาลชุดใหม่ที่จะมาทำหน้าที่กันแล้ว โดยจะเริ่มเปิดคูหาเลือกตั้งล่วงหน้าในช่วงเช้าของวันที่ 7 พฤษภาคมนี้ ให้กับประชาชนที่ลงทะเบียนไว้แล้ว ขณะที่บัตรเลือกตั้งของคนไทยในต่างแดน ซึ่งใช้สิทธิออกเสียงไปตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายน ก็กำลังทยอยส่งกลับมาให้ทันวันนับคะแนนพร้อมกัน
ทั้งนี้ตามข้อมูลของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถึงวันที่ 9 เมษายน ได้เปิดเผยจำนวนผู้ที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ทั้งแบบนอกเขต ในเขต รวมถึงนอกราชอาณาจักร รวมกันแล้วถึง 2,350,969 คน แต่คงต้องรอดูว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิจริงมากน้อยเพียงใด
ที่หลายคนเฝ้าจำตาเป็นพิเศษ คงหนีไม่พ้นหลากปัญหาของการเลือกตั้งล่วงหน้า ที่เคยมีบทเรียนมาแล้วครั้งการเลือกตั้งปี 2562 ตั้งแต่เรื่องบัตรเลือกตั้งในต่างแดนที่ส่งไปล่าช้า บ้างถูกตีกลับ และกรณีร้ายแรงสุดอย่างการส่งกลับมาไม่ทันจนหมดสิทธิใช้นับคะแนน และอีกสารพัดเหตุการณ์ความวุ่นวายในวันเลือกตั้งล่วงหน้าในประเทศ
ว่าแต่ลงคะแนนไปแล้ว ก็ใช่ว่าจะนับคะแนนเลย บัตรทั้งหมดจะได้รับการเปิดนับคะแนนพร้อมกันที่หน่วยเลือกตั้งตามถิ่นที่อยู่ หลังปิดหีบเวลา 17.00 น. ของวันที่ 14 พฤษภาคม แล้วบัตรเลือกตั้งเหล่านั้นเดินทางกันมายังไง The MATTER จะไล่เรียงมาให้ดูกัน
บัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร
ขอเริ่มต้นพูดถึงบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าที่ต้องเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลกันก่อน สำหรับบรรดาคนไทยที่พำนักในต่างประเทศ หรือเดินทางไปยังต่างประเทศแล้วได้ยืนเจตจำนงในการใช้สิทธิที่นั่น ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ ที่จะรับผิดชอบภารกิจนี้ให้สำเร็จ ตามกำหนดการตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน – 5 พฤษภาคม
โดยใช้สถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลใหญ่ทั้ง 94 แห่งทั่วโลก เป็นเสมือนคูหาเลือกตั้ง ซึ่งรูปแบบการเลือกก็จะถูกปรับให้เหมาะสมกับบริบทของชุมชนคนไทยในแต่ละประเทศ ทั้งการเปิดแบบคูหาในพื้นที่ของสถานกงสุล สถานเอกอัครราชทูต รวมถึงจัดคูหาเคลื่อนที่สำหรับกลุ่มคนไทยที่อาจสะดวกในวันหยุดสุดสัปดาห์ และอยู่ในพื้นที่ห่างไกล
อีกวิธีซึ่งเป็นที่นิยมคือ การเลือกตั้งผ่านทางไปรษณีย์ ที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะได้รับบัตรส่งตรงถึงบ้าน เมื่อลงคะแนนแล้วเสร็จก็นำบัตรบรรจุลงซองที่ได้รับไปพร้อมกัน เพื่อส่งกลับมายังหน่วยงานที่รับผิดชอบ
เมื่อบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์ทยอยส่งกลับมา เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบเอกสารประกอบ บันทึกข้อมูลการใช้สิทธิ์ แล้วคัดแยกอย่างละเอียดให้ตรงตามเขตเลือกตั้งทั้ง 400 เขตใน 77 จังหวัด ก่อนที่จะถูกบรรจุลงใน ‘ถุงเมล์ทางการทูต’ เพื่อส่งกลับมายังประเทศไทยด้วยสายการบินที่มีการประสานงานไว้ล่วงหน้า
สำหรับถุงเมล์ทางการทูต คือ การจัดส่งที่ได้รับเอกสิทธิ์ และความคุ้มกันทางการทูต ทางเจ้าหน้าที่ศุลกากรหรือบุคคลที่ 3 ไม่สามารถละเมิดหรือเปิดได้ ซึ่งตอนนี้ในหลายประเทศก็เริ่มทยอยส่งบัตรเลือกตั้งกลับมา แต่หากใครที่อยู่ในต่างประเทศแล้วเพิ่งได้รับบัตรลงคะแนนก็อย่างเสียกำลังใจ เจ้าหน้าที่ยังคงรับและรวบรวมบัตรเลือกตั้งจนถึงวินาทีสุดท้าย
ดูเหมือนขั้นตอนจะรัดกุมขนาดนี้แล้ว แต่ยังพบข้อร้องเรียนจากประชาชนทั้งกรณีที่มีการจ่าหน้าซองด้วยเลขไปรษณีย์ที่ไม่ถูกต้อง ด้านผู้สมัครก็ร้องเรียนว่าเอกสารประกาศรายชื่อผู้สมัครสำหรับผู้ใช้สิทธิมีการใส่ภาพผู้สมัครสลับกัน
ทั้งนี้หากดูบทเรียนของการเลือกตั้งปี 2562 ยังคงมีประเด็นที่ได้แต่คาดหวังว่าขออย่าให้เกิดเหตุซ้ำรอย อย่างกรณีบัตรเลือกส่งไม่ถึงผู้ลงทะเบียนหลายร้อยคนในประเทศจีน แคนาดา ทำให้ประชาชนบางส่วนต้องทวงถามจนได้รับบัตรมาอย่างฉิวเฉียด และกรณีบัตรที่ลงคะแนนแล้วถูกตีกลับต้นทางในประเทศญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา บางประเทศร้ายแรงถึงขั้นบัตรเลือกตั้งส่งไปไม่ถึงทันเวลา
และอีกเหตุการณ์ที่ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หนีไม่พ้นบัตรเลือกตั้งจากประเทศนิวซีแลนด์ จำนวน 1,500 ใบ ที่ส่งมาไม่ถึงตามกำหนด เนื่องจากเครื่องบินต้องบินไปอีกประเทศและเกิดการดีเลย์ จนท้ายสุด กกต. ลงมติว่าบัตรดังกล่าวไม่สามารถนำมานับคะแนนได้
ไม่ว่าปัญหาจะเกิดที่ระบบการกระจายบัตร หรือความผิดพลาดของการขนส่งไปรษณีย์ที่เลี่ยงไม่ได้ แต่ผลลัพธ์ที่น่าเสียดายคือ เสียงที่ประชาชนแสดงออกด้วยความตั้งใจ ไม่อาจส่งไปถึงปลายทางหีบเลือกตั้งในถิ่นฐานของพวกเขา
บัตรเลือกตั้งล่วงหน้าในประเทศ
มองกลับมายังสนามซ้อมใหญ่ แต่วัดผลจริงอย่างการเลือกตั้งล่วงหน้าในประเทศ ที่จะเปิดฉากในเช้าวันที่ 7 พฤษภาคมนี้ ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิถึง 2,175,458 คน ทั้งการขอเลือกตั้งนอกเขตของคนที่มีทะเบียนบ้านอยู่ห่างจากที่พักจริง หรือย้ายชื่อแล้วแต่ยังไม่ครบ 90 วัน รวมถึงคนที่ของใช้สิทธิในเขตตามทะเบียนบ้านนั่นแหละ เพียงแต่จำเป็นต้องปฏิบัติภารกิจในวันเลือกตั้งจริง ซึ่งจะต้องแสดงหลักฐานยืนยันได้
โดย กกต.ได้มอบหมายให้ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นหน่วยงานสนับสนุนและรับผิดชอบภารกิจขนส่งทั้งหมด ตั้งแต่การจัดส่งหนังสือแจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิ จำนวน 18.49 ล้านครัวเรือน จัดส่งบัตรและอุปกรณ์อื่นๆ ไปยังหน่วย และจัดส่งบัตรที่ลงคะแนนแล้วกลับไปที่หน่วยเลือกตั้งตามที่ระบุให้ทันวันนับคะแนน
แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้วว่าบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าหลักล้านใบเหล่านี้จะถูกจัดการอย่างไรกันนะ สำหรับผู้ที่เคยมีประสบการณ์เลือกตั้งนอกเขตอาจจะพอนึกภาพได้เลือนๆ ว่าในการใช้สิทธิ์ เราจะได้รับบัตรเลือกตั้งจากเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย พร้อมซองเอกสารที่มีการจ่าหน้าซองด้วยหน่วยเลือกตั้งจริงในจังหวัดของเรา และระบุรหัสไปรษณีย์ไว้
เมื่อเรากาเครื่องหมายแล้วเสร็จในบัตรทั้ง 2 ใบ ก็ให้พับใส่ในซองที่ได้รับมา จากนั้นเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบความเรียบร้อยของซองก่อนที่ปิดผนึก เราถึงจะได้หย่อนซองดังกล่าวลงในกล่องเลือกตั้งที่จัดเตรียมไว้
จนในเวลา 17.00 น. ของวันนั้นคนเลือกจบ แต่เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยยังไม่จบ พวกเขาจะต้องคัดแยกบัตรเลือกตั้งของประชาชนในหน่วยที่ดูแลตามเขตเลือกตั้งจริง เพื่อทำการส่งต่อไปให้หน่วยงานกำกับดูแลการเลือกตั้งในจังหวัดปลายทางเก็บรักษา
ขณะที่บัตรเลือกตั้งล่วงหน้าของคนในเขตนั้นๆ ก็เช่นกัน จะถูกคัดแยกและใส่ตู้ ล็อกกุญแจเอาไว้ การเก็บในขั้นตอนนี่แหละที่ถูกนำมาทำเป็นมีมล้อเลียนกันไม่รู้จบ อย่างไม่นานมานี้ที่มีการเผยแพร่ภาพตู้เก็บบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าของหน่วยเลือกตั้งหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่มีการเก็บในตู้แล้วใช้กระดาษกาวแปะไขว้ ก่อนลงลายมือชื่อกำกับ จนนำมาสู่การตั้งคำถาม ว่าบัตรเหล่านั้นจะถูกเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัยจริงไหม ด้านผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ถึงได้ออกแนวคิดติดกล้องวงจรปิดให้ประชาชนเข้ามาตรวจสอบได้ตลอด 24 ชั่วโมงว่าบัตรจะไม่ถูกแตะต้องจนกว่าจะถึงเวลาปิดหีบในวันเลือกตั้งจริง
อย่างที่เกริ่นไปว่านี่ไม่ต่างกับการซ้อมใหญ่ เพราะตัวอย่างจากการเลือกตั้งล่วงหน้าปี 2562 ก็มีข้อบกพร่องเรื่องการจัดการคนให้เห็นและถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่เนืองๆ เช่นเดียวกันปัญหาของการแจกบัตรเลือกตั้งผิดเขต รวมถึงไม่ปรากฏรายชื่อหน้าหน่วยเลือกตั้ง ทั้งที่ลงทะเบียนไว้แล้วก็มีให้เห็นเช่นกัน
ก่อนจะถึงช่วงเวลาที่รอคอย หลังกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งประกาศปิดหีบลงคะแนน 17.00 น. ของวันที่ 14 พฤษภาคม บัตรเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งหมดที่เดินทางมาถึงทั้งจากทั่วประเทศและต่างประเทศ ก็จะถูกรวมกันเพื่อตัดสินหาผู้ได้รับความไว้วางใจสูงสุดในเขตดังกล่าว
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าความกังวลเหล่านี้ ล้วนแต่ตั้งต้นมาจากเหตุเดียวกัน นั่นคือความไม่เชื่อมั่นต่อ กกต. ที่เจอสารพัดข้อครหา คงต้องรอดูว่าการจัดการบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าปี 2562 นี้ จะเป็นไปอย่างเรียบร้อยหรือไม่