หุ้นตก ทะเลาะกับนักดำน้ำ ทำงานเหนื่อยๆ ท้อๆ ถึงขั้นนอนพื้นโรงงาน เวลาชีวิตคนเราเจอดราม่า มันก็ดูเหมือนว่าหลายๆ อย่างจะถาโถมเข้ามาจนรับมือแทบไม่ไหว
ชีวิตคนเรา มีขึ้นก็มีลง แม้แต่อีลอน มัสก์ เจ้าพ่อวงการเทคโนโลยี ที่ใครๆ ต่างก็มองว่าเขาเป็นเหมือนโทนี่ สตาร์ค หรือไอรอนแมนในโลกแห่งความจริง ที่ชีวิตดูเหมือนประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดในด้านการงาน เป็น CEO บริษัทใหญ่ถึง 3 แห่ง ที่ทำธุรกิจครอบคลุมทั้งอวกาศ การเดินทางบนท้องถนน และอุโมงค์ใต้ดิน
แต่ถึงอย่างนั้น ปีนี้กลับเป็นเหมือนปีดราม่า พร้อมเรื่องราวยากลำบากมากมายของเขา ที่ทั้งผลิตรถตามเป้าหมายการผลิตไม่ทัน บริษัทหุ้นตก ขาดทุนหลายล้านดอลลาร์ ทั้งยังอาจจะโดนคดีความ และการฟ้องร้อง จนไปถึงภาพการดูดกัญชา ควันคลุ้งระหว่างออกรายการ
The MATTER ได้สรุปไทม์ไลน์ ยกตัวอย่าง ‘ส่วนหนึ่ง’ ของชีวิตขึ้นๆ ลงๆ ของมัสก์ในปีนี้ พร้อมเหตุการณ์สถาณการณ์ต่างๆ ที่เขาเจอ ที่เรียกได้ว่าเป็นปีหนึ่งที่ดราม่าแทบที่สุดของมัสก์เลยก็ว่าได้
27 มกราคม 2018
เริ่มต้นปีมาด้วยเรื่องดีๆ ของมัสก์ เมื่อบริษัทขุดอุโมงค์ใต้ดิน The Boring Company บริษัทล่าสุดของเขา ประกาศขายปืนพ่นไฟ หรือ flamethrower เพื่อระดมทุนให้บริษัท ซึ่งหมดเกลี้ยง 20,000 ชิ้น กวาดเงิน 10 ล้านดอลล่าร์ให้บริษัทภายในไม่กี่วัน แต่ถึงอย่างนั้นก็มีคำวิจารณ์ว่าปืนนี้เหมือนปืนไฟฉายมากกว่าปืนพ่นไฟมากกว่า
6 กุมภาพันธ์ 2018
เป็นเหตุการณ์น่าตื่นเต้น ที่ SpaceX อีกหนึ่งบริษัทของมัสก์ได้ปล่อยรถยนต์ Tesla สีแดงไปกับจรวด Falcon Heavy ให้ไปโคจรรอบดาวอังคาร พร้อมด้วยหุ่นคนขับ และเปิดเพลง Space Oddity ของเดวิด โบวี่ไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้นรถกลับออกจากวงโคจรดาวอังคารไป ลอยอยู่กลางอวกาศแทน และคาดการณ์ว่าจะลอยอยู่อีกหลายล้านปีเลย
27 มีนาคม 2018
บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Moody’s ปรับลดระดับเครดิตหนี้ของ Tesla ลงอยู่ในระดับแย่ จากปัญหาอัตราการผลิต และสถานการณ์ทางการเงินของบริษัท ทำให้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อต้นทุนทางการเงินของ Tesla ที่จะต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ผู้ถือหุ้นมากขึ้น แลกกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น
โดยถือเป็นขาลงของบริษัท Tesla เลยก็ว่าได้ จากการถูกปรับลดความน่าเชื่อถือ หลังบริษัทประกาศขาดทุนจำนวน 675 ล้านดอลล่าสหรัฐฯ ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2017 ที่มีค่าใช้จ่ายมากทั้งการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ รถซีดาน Tesla Model 3 รถกึ่งบรรทุก และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ซึ่งเมื่อเทียบไตรมาสเดียวกันของปี 2016 ขาดทุนไปเพียง 121 ล้านดอลล่าสหรัฐฯ เท่านั้น
ทั้งช่วงต้นเดือนนี้ ยังเกิดอุบัติเหตุของรถยนต์ Tesla Model X ชนแนวกั้นถนน จนเกิดไฟไหม้ ต้องปิดเลนส์มอเตอร์เวย์ และคนขับเสียชีวิต ขณะเปิดระบบ Autopilot ซึ่งแม้ Tesla จะแถลงว่าขณะเกิดเหตุได้แจ้งเตือนไปยังคนขับแล้ว แต่ด้านครอบครัวผู้เสียชีวิตก็อ้างว่าคนขับเคยแจ้งกับบริษัทว่าระบบ Autopilot มีอาการผิดปกติ จนเกิดประเด็นถกเถียงเรื่องความเชื่อถือได้ในระบบนี้ของ Tesla รวมถึงปลายเดือนนั้นเอง Tesla ยังเรียกรถยนต์ Model S จำนวน 123,000 คน จากปัญหาพวงมาลัยผิดพลาดด้วย
1 เมษายน 2018
ในวัน April Fool’s day นี้เอง มัสก์ก็ได้ล้อเล่นด้วยการทวีตว่า ‘เราเสียใจที่ต้องแจ้งให้ทุกคนทราบว่า Tesla ได้ล้มละลายแล้วจริงๆ’ ซึ่งจริงๆ ก็เป็นการล้อเล่นที่ไม่เล่นซะทีเดียว เพราะบริษัทกำลังอยู่ในช่วงขาดทุนอย่างหนัก ราคหุ้นตกต่ำลง ทั้งยังโดนปรับลดความน่าเชื่อถือ จนหลายคนก็เกือบเชื่อมุกของเขาไปแล้วจริงๆ
10 เมษายน 2018
มัสก์ให้สัมภาษณ์กับรายกา This Morning ของช่อง CBS ว่า ช่วงนี้ เขานอนบนพื้นโรงงานของ Tesla เพราะว่ายุ่งมาก จนไม่มีเวลากลับบ้าน และอาบน้ำ เพื่อเร่งผลิตรถยนต์ Model 3 ให้บรรลุเป้าหมาย และทันเวลา ซึ่งมัสก์ยอมรับว่าเป็นช่วงที่เครียด กดดัน และยากลำบากมากในฐานะ CEO ของบริษัท
3 พฤษภาคม 2018
หลังจากขาดทุนหลายล้านดอลลาร์ หุ้นตก สถานการณ์การเงินน่าเป็นห่วง นักวิเคราะห์ทางการเงินของบริษัท Bernstein ได้โทรหามัสก์เพื่อสอบถามถึงรายได้ของบริษัท และการเงิน แต่กลับถูกมัสก์โต้ตอบ และปฏิเสธการตอบคำถามโดยบอกว่า ‘เป็นคำถามที่น่าเบื่อ’ ทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์กันว่าเป็นสัญญาณที่น่าเป็นห่วงของบริษัท โดยในวันนั้นหุ้น Tesla ตกอีกกว่า 5% หลังการเปิดขาย
7 พฤษภาคม 2018
แม้เรื่องงานจะเครียด แต่ในปีนี้ก็มีเรื่องความรักอยู่เหมือนกัน เมื่อมัสก์ เปิดตัวความสัมพันธ์กับนักร้องสาวไกรมส์ อย่างเป็นทางการในการร่วมเดินพรมแดงงาน Met Gala ด้วยกัน ทั้งยังเป็นคนออกแบบชุดในวันงานให้ไกรมส์ด้วย โดยทั้งคู่เจอกันผ่านโซเชียล และส่งข้อความหากันไปมาผ่านทวิตเตอร์ ซึ่งถือเป็นความสัมพันธ์ล่าสุดหลังจากเลิกกับนักแสดงสาว Amber Heard เมื่อช่วงต้นปีนี้
10 มิถุนายน 2018
กลายเป็นที่ฮือฮา จากที่มีคนทวีตไปหามัสก์เพื่อขอให้ช่วยเหลือในเหตุการณ์ถ้ำหลวง ซึ่งมัสก์ก็ตอบกลับว่ายินดีที่จะให้ SpaceX และ The Boring Company ที่เชี่ยวชาญเรื่องขุดเจาะใต้ดินมาช่วยเหลือ และไม่ใช่เพียงทวีตเท่านั้น แต่มัสก์ก็ยังอัพรูปภาพว่ามาลงพื้นที่อุทยานถ้ำหลวงจริงๆ พร้อมทีมและเสนอไอเดียสร้างเรือดำน้ำจิ๋ว พาทีมหมูป่าออกจากถ้ำ แต่ก่อนที่ไอเดียนั้นจะเกิดขึ้นจริง ทีมช่วยเหลือก็ได้พาน้องๆ หมูป่าออกมาจากถ้ำแล้ว
15 มิถุนายน 2018
ถึงไม่ได้ช่วยน้องๆ ทีมหมูป่า แต่มัสก์ได้ปะทะวาจา โต้เถียงกับเวอร์นอน อันสเวิร์ท นักดำน้ำชาวอังกฤษ หนึ่งในทีมช่วยเหลือหมูป่า ด้วยการทวีตว่าอันสเวิร์ทเป็นโรคจิตชอบเด็ก (Pedo) หลังเขาให้สัมภาษณ์ว่าแนวคิดเรือดำน้ำของมัสก์ใช้ไม่ได้ และเขาน่าจะมาเพื่อโปรโมทบริษัท ซึ่งภายหลังมัสก์ก็ได้ลบทวีตนี้ และออกมาขอโทษ หลังอันสเวิร์ทบอกว่าจะฟ้องร้องมัสก์
7 สิงหาคม 2018
มัสก์ทวีตว่าจะพิจารณานำ Tesla ออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และซื้อหุ้นคืนจ้างสาธารณะด้วยราคา 420 ดอลลาร์ โดยเขาอธิบายเหตุผลว่าต้องการนำบริษัทกลับมาบริหารเอง สร้างสภาพแวดล้อมที่ดี เพื่อให้นักลงทุนเชื่อมั่นในบริษัท ซึ่งผลจากทวีตนั้นทำให้ราคาหุ้นของ Tesla พุ่งขึ้นสูงกว่า 11%
10 มิถุนายน 2018
หลังจากหุ้นขึ้นได้เพียง 2 วัน ราคาหุ้นของ Tesla ตกกลับมาอยู่ที่เดิม และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) จะตรวจสอบและอาจฟ้องร้อง Tesla และมัสก์ 2 คดีในข้อหากล่าวเท็จเพื่อเพิ่มราคาหุ้น และหลอกลวงนักลงทุน เพราะจากที่เขาทวีตว่าจะซื้อหุ้นคืนเขาจำเป็นต้องมีเงินมากถึง 8.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งแม้เขาจะบอกว่าหาทุนได้แล้ว แต่ก็ไม่ได้แจ้งว่าหามากไหน และได้เต็มจำนวนหรือไม่
4 กันยายน 2018
เรื่องหุ้นก็ปั่นป่วน เรื่องถ้ำหลวงก็ยังไม่จบ เมื่อสำนักข่าว Buzzfeed รายงานอีเมล์ 2 ฉบับที่ได้รับจากมัสก์ว่า มัสก์โจมตีอันสเวิร์ท นักดำน้ำชาวอังกฤษ อีกครั้งว่าเป็น ‘คนข่มขืนเด็ก’ และไปรับเด็กอายุ 12 ปีเป็นเจ้าสาวโดยไม่มีหลักฐาน ซึ่งทนายของอันสเวิร์ทยืนยันว่าจะฟ้องมัสก์ใน 3 ศาล ทั้งสหรัฐฯ อังกฤษ และไทยจากการกล่าวความเท็จครั้งนี้แน่นอน
7 กันยายน 2018
มัสก์สูบบุหรี่สอดไส้กัญชาออกรายการ The Joe Rogan Experience ที่ออกอากาศผ่านระบบ podcast ทาง Youtube โดยเป็นกัญชาที่พิธีกรยื่นให้ ทั้งยังกล่าวในรายการด้วยว่า ‘เป็นไปได้ที่มนุษย์อาจกำลังอยู่ในโลกจำลองสถานการณ์ เป็นเหมือนตัวละครในเกมที่มีอารยธรรมสูงกว่า’ ซึ่งการสูบกัญชาผ่านรายการนั้น ไม่ถือเป็นความผิดเพราะรัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่งออกกฎหมายเสรีกัญชา โดยนอกจากการสูญชาแล้ว มัสก์ยังดื่มวิสกี้ และแกว่งดาบซามูไรในรายการด้วย
หลังจากการไลฟ์ครั้งนั้น หุ้นของ Tesla ตกลง 6% และถือว่าตกลงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2017 รวมถึงผู้บริหารระดับสูงของ Tesla ยังประกาศลาออกถึง 2 คน คือ เดฟ มอร์ทัน หัวหน้าแผนกบัญชีของบริษัท ที่ลาออกหลังจากเข้ารับตำแหน่งเพียงเดือนเดียวเท่านั้น และแกบี โทเลดาโน หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคลด้วย
ชีวิตสุดดราม่าของอีลอน มัสก์ในปีนี้จะขึ้นๆ ลงๆ หรือเป็นอย่างไรต่อไป และสถานกาณ์ของบริษัททั้งหลายของเขาจะดีขึ้นมาไหม เราคงต้องติดตามดูเรื่องราวของเขากันต่อไป
อ้างอิงจาก
.theguardian.com/
Illustration by Naruemon Yimchavee