นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยวันนี้ (10 ม.ค. 2565) ว่า สำหรับมาตรการทางการแพทย์ที่ สธ. เสนอ ให้ใช้ Home Isolation ก่อนเป็นอันดับแรก เนื่องจากโรคไม่ได้มีความรุนแรง สามารถดูแลที่บ้านได้ และจะสนับสนุนยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ พร้อมกับเชื่อมระบบการรักษาพยาบาลหากมีอาการกำเริบหรือรุนแรงขึ้น เพื่อให้ได้รับการดูแลได้อย่างทันท่วงที แน่นอนว่าจะต้องมีระบบสายด่วนเพื่อรองรับในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ซึ่ง สธ. ก็พัฒนาให้มีทุกจังหวัดแล้ว
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงถึงข้อเสนอแนวทางตรวจวินิจฉัยผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในสถานการณ์ปัจจุบัน ว่า วิธีที่จะตรวจคัดกรองเพื่อเข้าสู่ระบบการรักษาอาจจะต้องปรับเพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรที่คุ้มค่า เพราะการตรวจด้วย RT-PCR ใช้เวลานาน ยุ่งยาก และราคาแพง จึงขอให้ผู้ติดเชื้อที่สงสัยให้เริ่มต้นด้วยการตรวจ ATK
ถ้าตรวจด้วย ATK แล้วพบว่าผลบวก แต่มีอาการน้อยหรือไม่มีอาการ และไม่มีโรคที่มีความเสี่ยงทางการแพทย์ ควรจะได้รับการดูแลโดยระบบ Home Isolation (HI) หรือถ้าสถานที่ไม่สะดวกรับรอง HI ก็จะให้เข้าสู่ Community Isolation (CI) อย่างไรก็ดี ถ้าเป็นผู้ป่วยที่มีอาการหรือมีความเสี่ยงทางการแพทย์ ก็จะต้องตรวจด้วย RT-PCR และนำเข้าสู่การรักษาพยาบาล
กรณีตรวจด้วย ATK แล้วผลเป็นลบ แต่มีประวัติเสี่ยง ให้ Self-Quarantine และตรวจ ATK ทุกๆ 3 วันหรือเมื่อมีอาการ ถ้าตรวจแล้วผลเป็นบวก ก็จะเข้าสู่ระบบเดียวกับข้างต้น ส่วนผู้ที่ไม่มีความเสี่ยงในการรับเชื้อ ให้ปฏิบัติตามมาตรการ DMHT หรือการเว้นระยะห่าง, ใส่หน้ากาก, ล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์ และตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าสถานที่ต่างๆ
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ อธิบายเพิ่มเติมว่า กรณีตรวจด้วย ATK แล้วผลเป็นบวก ผู้ป่วยสามารถโทรศัพท์เข้ามาได้ที่สายด่วน สปสช. 1330 หรือทางไลน์ สปสช. ที่ @nhso เพื่อประเมินอาการ และเข้าสู่ระบบ HI เช่นเดียวกับข้างต้น กรณีผู้ป่วยเดินเข้าไปที่โรงพยาบาลหรือตรวจกับหน่วยตรวจเชิงรุก ให้หน่วยงานดังกล่าวเป็นผู้ประเมินอาการเบื้องต้น
เมื่ออยู่ใน HI หรือ CI แล้วพบว่ามีอาการเปลี่ยนแปลง ก็จะนำเข้าสู่ Hospitel, โรงพยาบาลสนาม หรือ โรงพยาบาลหลัก ปัจจุบันยังคงใช้เวลาในการรักษา 10 วัน ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนหรือไม่ฉีดวัคซีนก็ตาม ถ้าหายดีแล้วก็สามารถกลับบ้านได้
เกณฑ์ในการส่งต่อผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลคือ
- ไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส ระยะเวลานานกว่า 24 ชั่วโมง
- หายใจเร็วกว่า 25 ครั้งต่อนาที สำหรับผู้ใหญ่
- Oxygen saturation ต่ำกว่า 94%
- โรคประจำตัวที่มีการเปลี่ยนแปลง กลุ่ม 608 ที่มีความเสี่ยง หรือผู้ติดเชื้อที่จำเป็นต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิดตามดุลยพินิจของแพทย์
- สำหรับในเด็ก ใช้เกณฑ์คือ อาการหายใจลำบาก ซึมลง ดื่มนม หรือทานอาหารน้อยลง
นพ.สมศักดิ์ ยังเปิดเผยอีกว่า อัตราครองเตียงทั่วประเทศเพิ่มขึ้น ข้อมูลวันที่ 9 ม.ค. พบว่าเพิ่มขึ้นเป็น 22.7% (เปรียบเทียบกับ 11% เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.) ขณะที่ในกรุงเทพฯ วันที่ 9 ม.ค. เพิ่มขึ้นเป็น 30.7% (เปรียบเทียบกับ 12.2% เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.)
การครองเตียงระดับ 2 และ 3 (สีเหลืองและสีแดง) พบว่าอัตราลดลง แต่ไปเพิ่มในส่วนของอัตราการครองเคียงระดับ 1 (สีเขียว) ซึ่งข้อมูลวันที่ 9 ม.ค. ระบุว่า มีอัตรา 34.1% ทั่วประเทศ ขณะที่ในกรุงเทพฯ มีอัตราอยู่ที่ 44.6% จึงขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามนโยบายที่เน้น Home Isolation เป็นหลัก