ตู้ห่าว, ผับจิ้นหลิง, 5 ทุนจีนเทา, กลุ่มหมิง, กลุ่มเดวิด …
กลายเป็นคดีที่ลึกลับซับซ้อนและอยู่ในหน้าข่าวมานานหลายสัปดาห์ สำหรับคดีกลุ่มทุนจีนเทา โดยเฉพาะกรณีของ ‘ตู้ห่าว’ นักธุรกิจชาวจีน สัญชาติไทย ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับผับจิ้นหลิง และเจ้าหน้าที่ตรวจพบยาเสพติดภายในร้านเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
สำหรับคนที่ตามคดีนี้ไม่ทัน และงงกับความเชื่อมโยงของบุคคลต่างๆ ในคดีนี้ The MATTER ได้ผังคดีและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับตู้ห่าวไว้ข้างล่างนี้แล้ว
ตัวละครสำคัญ
1. ตู้ห่าว หรือ ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด หลังเจ้าหน้าที่ตรวจค้นผับจินหลิงในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
2. พ.ต.อ.วัทนารีย์ กรณ์ชายานันท์ (ชื่อเดิม วัฒนารี คำนิล) ภรรยาของตู้ห่าว ทั้งคู่แต่งงานกันในปี 2555 ทำให้เขาได้รับสัญชาติไทย ทั้งนี้ เธอมีศักดิ์เป็นหลานสาวของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก
3. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีต ผบ.ตร. ปี 2544-2548 อดีตรองนายกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสมัยรัฐบาลเพื่อไทย
4. 5 ทุนจีนเทา ประกอบไปด้วยกลุ่มตู้ห่าว, กลุ่มเดวิด (ผู้บริหารร้านเบบี้เฟซ), กลุ่มหยู่ฉางเฟ่ย (เจ้าของคลับวัน พัทยา), กลุ่มโทนี (เจ้าของร้านสเปซพลัส แบงค็อก) และกลุ่มหมิง (เจ้าของร้ายท็อปวัน สุทธิสาร)
5. ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง นักธุรกิจ หนึ่งในผู้ให้ข้อมูลสำคัญในคดีนี้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
6. สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจที่ถูกไล่ออกจากราชการ ออกมาตอบโต้ชูวิทย์อยู่เสมอ และมีท่าทีสนิทสนมและปกป้องตู้ห่าวอย่างออกหน้า
ไทม์ไลน์คดี ‘ตู้ห่าว’
1. ‘ตู้ห่าว’ หรือ ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ เดินทางเข้ามาในประเทศไทยและสมรสกับ พ.ต.อ.วัทนารีย์ กรณ์ชายานันท์ ในปี 2555 ทำให้ตามกฎหมายตู้ห่าวมีสิทธิเปลี่ยนสัญชาติเป็นคนไทย
2. เมื่อปี 2560 ตู้ห่าวและภรรยาเคยตกเป็นข่าวหลังบริษัทภูเก็ต เฮลตี้นูทรีเมนต์ จำกัดคู่แข่งธุรกิจเครือทัวร์จีนในภูเก็ตได้ฟ้องร้องว่า ตู้ห่าวมีความเกี่ยวข้องกับการวางเพลิงบริษัท และรุมทำร้าย รปภ. ของบริษัทจนบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นพิการ
อย่างไรก็ตาม หลังใช้เวลาสอบสวน 5 ปี อัยการประจำจังหวัดภูเก็ต (ในขณะนั้น) ใช้เวลาเพียงวันเดียวก่อนที่จะมีคำสั่งไม่ฟ้องคดีดังกล่าว ทั้งที่เอกสารมีมากกว่า 500 แผ่น
3. วันที่ 26 ต.ค. 2565 ตำรวจนครบาลได้สนธิกำลังเข้าตรวจค้น ‘ผับจินหลิง’ ผับลับของนักท่องเที่ยวจีน ในเขตยานนาวา ก่อนตรวจพบว่าในจำนวนผู้ใช้บริการทั้งหมด 266 คน มีปัสสาวะสีม่วงจำนวน 104 คน (เป็นชาวจีน 99 คน) นอกจากนี้ ยังพบยาเสพติดถูกซุกซ่อนไว้ในสถานบันเทิงแห่งนี้อีกเป็นจำนวนมาก ได้แก่ เฮโรอีน 323 ซอง, ยาอี 258 ซอง, ยาอีบรรจุในซองกาแฟ 71 หลอด, ยาเค 16 ซอง และยาเสพติดแฮปปี้วอเตอร์
การตรวจค้นวันนั้นทำให้เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถหรูที่จอดอยู่ในร้านจำนวน 35 คัน อาทิ รถปอร์เช่, รถโรลส์รอยซ์, รถตู้อัลพาร์ด และตรวจพบว่าบางคันเป็นรถที่สวมทะเบียน โดยมีเจ้าของส่วนใหญ่เป็นคนจีน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่พบตัวของตู้ห่าวในคืนนั้น
4. ระหว่างนั้น ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นักธุรกิจ อดีตนักการเมือง ได้เปิดเผยว่าผับจิ้นหลิงเป็นผับศูนย์เหรียญ เปิดขึ้นเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจีนและใช้ของที่ส่งมาจากจีนเท่านั้น
ก่อนที่ชูวิทย์จะเปิดเผยในเวลาต่อมาว่า กลุ่มนักธุรกิจชาวจีนกลุ่มนี้เป็นเครือข่าย 5 ทุนจีนเทา ซึ่งประกอบไปด้วย กลุ่มเดวิด, กลุ่มฉางเฟ่ย, กลุ่มโทนี, กลุ่มหมิง และกลุ่มตู้ห่าว และต่อมาได้เข้ามอบข้อมูลดังกล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งเรื่องเครือข่าย, เส้นทางการเงิน ตลอดจนความสัมพันธ์กับผู้มีอำนาจในประเทศ
ระหว่างนั้น สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจที่ถูกออกจากราชการ ได้พยายามออกมาปกป้องกลุ่มทุนจีน โดยเฉพาะต้าห่าว และป้ายสีว่าข้อมูลของชูวิทย์ไม่เป็นความจริง จนนำไปสู่การทะเลาะกันไปมาจนเป็นข่าวรายวัน
5. ระหว่างนั้นได้มีการเปิดเผยว่า ตู้ฮ่าวเคยบริจาคเงินให้พลังพรรคประชารัฐเป็นจำนวน 3 ล้านบาท ซึ่งต่อมา สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมและประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐได้ออกมายอมรับ แต่ระบุว่าตู้ฮ่าวบริจาคเพราะศรัทธาในแนวทางของพรรค
6. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดปฏิบัติการ ‘ล้มไม้ค้ำ ลิดกิ่งก้าน’ ขยายผลการจับกุมจากผับจินหลิง เข้าตรวจค้นสถานที่หลายแห่ง อาทิ บ้านพักในเขตประเวศ, คอนโด ซอยสุขุมวิท 39, คอนโดริมแม่น้ำ ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 17 เขตคลองสาน, คอนโดหรูย่านสาทร ซึ่งกรณีหลังได้พบยาเสพติดจำนวนหนึ่ง และพบว่าเจ้าของห้องคือ หวังเจิ้น หนาน ซึ่งเป็นหลานชายของตู้ห่าว
อย่างไรก็ตามผู้ต้องหาได้หลบหนีออกนอกประเทศก่อนการควบคุมตัว
7. การสืบค้นดำเนินอย่างต่อเนื่อง จนในวันที่ 23 พ.ย. 2565 ตู้ฮ่าวได้ติดต่อเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ แต่ปฏิเสธเรื่องความเชื่อมโยงกับยาเสพติดภายในผับจิ้นหลิง
อย่างไรก็ดี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่มีหลักฐานว่าตู้ห่าวมีความเชื่อมโยงกับผับจินหลิง โดยมีชื่อเป็นผู้เช่าผับ และยังสืบสวนพบว่าตู้ห่าวอยู่ในคืนที่ตำรวจบุกค้นผับจินหลิงด้วยเช่นกัน พร้อมยืมยันว่าตำรวจสามารถเอาผิดตู้ห่าวได้ เนื่องจากคนในผับดังกล่าวรู้ว่านายตู้ห่าวเป็นผู้สั่งการ
8. การขยายผลจับกุมกรณีผับจินหลิงยังดำเนินต่อไป นำไปสู่การตรวจค้นบ้านพัก, คอนโดหรู รวมถึงธุรกิจในเครือตู้ห่าวหลายแห่ง และจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 102 ราย ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายทุนจีนเทา
สำหรับผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้นั้นรวมถึงเครือข่าย 4 จาก 5 ทุนจีนเทา มีเพียง ‘หมิง’ เท่านั้นที่ไหวตัวทันและหลบหนีออกนอกประเทศไปก่อน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอหมายจับสากลเพื่อจับชายคนดังกล่าวแล้ว
9. หนึ่งในจุดที่กลายเป็นอีกประเด็นคือ การตรวจค้น บ้านหรู 4 หลัง ในซอยแบริ่ง-ลาซาล จ.สมุทรปราการ หลังการมอบตัวของตู้ฮ่าวคือ โดยเจ้าหน้าที่พบว่าคนจีนได้เข้ามาใช้เงินสดกว้านซื้อบ้านในหมู่บ้านนี้ 50 หลังจากทั้งหมด 16 หลัง โดยราคาอยู่ที่หลังละ 35-50 ล้านบาท ทางตำรวจยังระบุเพิ่มเติมอีกว่ากลุ่มคนจีนที่พักอยู่ที่นี่มีความเชื่อมโยงกับผับจิ้นหลิง และชอบมามั่วสุม เล่นไพ่ จัดงานเลี้ยงเสียงดังในเวลากลางคืน
เจ้าหน้าที่ยังระบุเพิ่มเติมว่า ภายหลังที่เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าของบ้านชาวจีนในย่านนี้ก็มีพฤติกรรมผิดปกติ ขนย้ายสิ่งของสำคัญออกจากบ้าน เหลือทิ้งไว้เพียงแม่บ้านคนไทยเท่านั้น
10. สำนักข่าวบางแห่งได้ออกเปิดเผยถึงบ้านหรูข้างต้นว่า ผู้ที่ลงทุนสร้างหมูบ้านดังกล่าวคือ SC ASSET ซึ่งมี แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุด (ไม่ใช่กรรมการบริษัท) ทำให้สังคมตั้งคำถามว่าแพทองธารและพรรคเพื่อไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับตู้ห่าวอย่างไร
อย่างไรก็ตาม SC ASSET ออกแถลงการณ์ในวันที่ 4 ธ.ค. ว่า
- ทางบริษัทประกอบธุรกิจด้วยความโปร่งใส ยึดหลักกฎหมาย และบ้านทุกหลังขายให้เฉพาะคนไทยและนิติบุคคลเท่านั้น
- ในการซื้อขายบ้านพร้อมที่ดิน บริษัทกำหนดให้ผู้ซื้อต้องชำระเงินผ่านธนาคารเท่านั้น
- ผู้ถือหุ้นบริษัท ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องใดๆ กับการซื้อขายบ้านในทุกกรณี
ทางด้านพรรคเพื่อไทยได้ออกมายืนยันว่า แพทองธารเป็นเพียงผู้ถือหุ้นเท่านั้น ไม่ใช่กรรมการบริษัท และขอให้หยุดการโยงเรื่องนี้เพื่อดิสเครดิตพรรคเพื่อไทยโดยทันที
11. ช่วงเดือนธันวาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดเครื่องบินส่วนตัวของซึ่งเจ้าของเป็นบริษัทหนึ่งในเครือของตู้ห่าว และยืนยันจะทำการตรวจสอบหาดีเอนเอและสารเสพติดในเครื่องต่อไป
12. จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำตัดสินของศาล ดังนั้น ตู้ห่าวยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์
ข้อมูลอื่นเพิ่มเติม
- สำนักข่าวอิศราเปิดเผยว่า ตู้ห่าวและภรรยาเป็นหุ่นใหญ่ในบริษัททั้งหมด 22 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ 5 บริษัท, สมุทรปราการ 5 บริษัท, ภูเก็ต 8 บริษัท และ จ.ชลบุรี 4 บริษัท
- ในบริษัททั้งหมด 22 แห่ง ตู้ห่าวนั่งเป็นกรรมการบริษัท 12 แห่ง ส่วนอีก 9 แห่ง มีสิทธิไพบูลย์ คำนิล ญาติของภรรยาเป็นกรรมการ
- สำนักข่าวอิศรายังเปิดเผยอีกว่า บริษัทเอฟเวอร์ ยูเนียน จำกัด หนึ่งในบริษัทในเครือของตู้ห่าว มีชื่อของ นุดีพร เพชรพนมพร ลูกสาวของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก และภรรยาของ ศราวุธ เพชรพนมพร ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย เข้าร่วมหุ้นด้วยแต่ไม่ได้มีการยื่นบัญชีทรัพย์สินดังกล่าว ซึ่งต่อมาศราวุธได้ยื่นบัญชีเพิ่มเติมแล้ว
- บริษัทโมเดิร์น ลาเท็กซ์ จำกัด บริษัทในเครือเต้าหู่ มี จารุณี พรหมนอก อดีตภรรยาของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ร่วมหุ้นอยู่ด้วย
ต้องขอย้ำอีกครั้งว่าคดีนี้ยังไม่จบ ตู้ห่าวยังคงเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ในทางกลับกัน มันแปลว่าอาจมีผู้มีอำนาจอีกหลายคนที่อยู่หลังม่านและมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้
อ้างอิงจาก
isranews.org (2) (3) (4) (5) (6)