หลายคนอาจจะตกใจ ร้องเสียงหลง หรืออยากยกมือทาบอก เมื่อรัฐมนตรีมหาดไทยออกมาพูดถึงกรณีค่ายมือถือหนึ่งทำข้อมูลลูกค้านับหมื่นคนรั่วไหล ว่า “มีเพียงข้อมูลหน้าบัตรประชาชน” (ย้ำคำว่า ‘เพียง’) ไม่ใช่ข้อมูลเขิงลึกอะไร
ทั้งๆ ที่สิ่งที่ปรากฎในหน้าบัตรประชาชน ก็มีข้อมูลเชิงลึกอยู่ตั้งหลายอย่างแล้ว!
ถ้าคุณมีอายุเกินเจ็ดขวบ เราเชื่อว่าทุกคนมีบัตรประชาชนอยู่ในกระเป๋าสตางค์ ลองหยิบขึ้นมาพินิจพิจารณากันดูว่า บนหน้าบัตรมีข้อมูลอะไรปรากฎอยู่บ้าง เลขบัตรประชาชน 13 หนัก ชื่อตัว-ชื่อสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด ที่อยู่ วันออกบัตร ผู้ออกบัตร วันที่บัตรหมดอายุ และรูปถ่าย
ซึ่งแค่ ‘ข้อมูล 8 อย่าง’ นี้ก็เอาไปทำอะไรได้ตั้งหลายอย่าง
The MATTER จะเล่าให้ฟังว่ามีอะไรบ้าง เพียงข้อมูลหน้าบัตรประชาชนนี่แหล่ะ ไม่ต้องไปใช้เครื่องดูข้อมูลอะไรในชิปที่แปะมากับบัตรเลย
- เปิดบัญชีธนาคาร
- สมัครบัตรเครดิต
- เปิดใช้งานโทรศัพท์มือถือ
- ขอสินเชื่อ/กู้เงิน
- เช็คข้อมูลภาษี
- ใช้สมัครงาน
- ใช้สมัครสมาชิกสินค้า/บริการบางประเภท
- ใช้ทำธุรกรรม
- ใช้ยืนยันตัวตน
- ใช้รับเงิน
- ใช้เข้าถึงข้อมูลอื่นๆ ในระบบคอมพิวเตอร์
- ฯลฯ
ด้วยความหลากหลายของการใช้งาน เพียงหน้าบัตรประชาชนนี่แหล่ะ ทำให้มีการรณรงค์ว่าเมื่อนำสำเนาไปใช้ทำอะไรแล้ว นอกจากเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง เจ้าของบัตรจำเป็นจะต้องขีดคร่อมด้วยว่าเอาไปใช้ทำอะไร และบัตรหายก็ควรจะไปลงบันทึกประจำวันกับตำรวจไว้ แม้ว่าการทำบัตรใหม่ในปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องใช้ใบแจ้งความแล้วก็ตาม (แม้ต้องเสียค่าธรรมเนียม 100 บาท) แต่เพื่อความสบายใจ เพราะมีกรณีการขโมยบัตรไปก่ออาชญากรรมอยู่เนืองๆ เจ้าของบัตรจะได้นอนหลับได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องสะดุ้งตื่นขวัญผวา
สำหรับต้นทุนการผลิตบัตรประชาชนต่อใบ จะมีราคาเฉลี่ย 19 บาท 58 สตางค์ โดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ต้องจัดทำคำสั่งซื้อทุกๆ ปี เป็นเงินปีละหลายร้อยล้านบาท
– ปี 2560 จัดซื้อ 12.51 ล้านใบ ใช้งบประมาณ 246 ล้านบาทเศษ
– ปี 2559 จัดซื้อ 19.59 ล้านใบ ใช้งบประมาณ 387 ล้านบาทเศษ
– ปี 2558 จัดซื้อ 9.89 ล้านใบ ใช้งบประมาณ 204 ล้านบาทเศษ
[ ทุกสัญญามี บริษัท ดาต้าโปรดักส์ ทอปปัง ฟอร์ม จำกัด เป็นคู่สัญญา ]
และไม่เพียงบัตรประชาชนเท่านั้นที่มีข้อมูลสำคัญปรากฎอยู่บนหน้าบัตร กระทั่ง ‘ใบขับขี่’ หรือ ‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ(บัตรคนจน)’ ก็ยังมีข้อมูลสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเลขบัตรประชาชนและวัด/เดือน/ปีเกิด
การที่ข้อมูลบนหน้าบัตรประชาชนรั่วออกมา จึงไม่ต่างจาก ‘ข้อมูลสำคัญ’ หลุดมาแทบจะทั้งยวงเลยต่างหาก (กระทั่งถ่ายรูปบัตรประชาชนแชร์ลงในโซเชียลมีเดีย ปัจจุบันเขายังห้ามเลย อย่าว่าแต่ให้จับบัตรตัวจริง)
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ!