การหาคู่ออนไลน์ผ่านแอพฯ กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวและได้รับการพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันก็มีคู่รักมากมายที่พัฒนาความสัมพันธ์จากแอพฯ เดทติ้งเหล่านี้
แต่จะเป็นอย่างไรหากวัฒนธรรมการหาคู่ผ่านเดทติ้งแอพฯ ถูกอัพเกรดไปอีกขั้น เมื่อมีแอพฯ หนึ่งประกาศว่าอยากจะ empower ‘ผู้หญิง’ ให้เป็นฝ่ายตัดสินใจเริ่มต้นในความสัมพันธ์—ใช่แล้ว วันนี้ The MATTER ขอพูดถึงแอพพลิชันหาคู่ ‘Bumble’ ภายใต้การบริหารของซีอีโอหญิง ‘วิทนีย์ วูล์ฟ เฮิร์ด’ (Whitney Wolfe Herd) ผู้เชื่อว่า หญิงและชาย มีสิทธิเริ่มในความสัมพันธ์อย่างเท่าเทียมกัน
แนวคิดของ ‘วิทนีย์ วูล์ฟ เฮิร์ด’
วูล์ฟ เฮิร์ดออกแบบ Bumble โดยมีแนวคิดว่า สมัยนี้ผู้หญิงเก่งๆ มากมาย พวกเธอเจริญเติบโตในหน้าที่การงาน เป็นหัวหน้าทีมที่นำทีมคนทุกเพศทุกวัย และยังมีที่ยืนในองค์กรอย่างชัดเจน แต่ก็ยังมีกำแพงบางอย่างอยู่ในเรื่องของความสัมพันธ์ และยังมีแนวคิดของคนบางกลุ่มอยู่ว่า ในความสัมพันธ์นั้นผู้หญิงไม่ควรเป็นฝ่ายเริ่มต้นทักทายก่อน
Bumble ได้รับการพัฒนาในปี ค.ศ.2014 และมันได้รับความนิยมมากขึ้นในทุกปี โดยเฉพาะจากสาวๆ อาจจะเพราะก่อนหน้านั้น วูล์ฟ เฮิร์ด เคยทำงานฝ่ายมาร์เก็ตติ้งของ Tinder มาก่อน และเธอพบว่า Tinder ขาดความละเอียดอ่อนบางอย่างไป
ความขาดหายนั้น กลายเป็นความพิเศษของ Bumble ซึ่งทำให้กลายเป็นแอพฯ เดทติ้งที่โตเร็วที่สุดในโลก การ IPO เปิดขาย 50 ล้านหุ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้มูลค่าธุรกิจทะยานขึ้นไปกว่า 13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใน 7 ปีการก่อตั้ง และทำให้วูล์ฟ เฮิร์ด ในวัย 31 ปี ขึ้นทำเนียบเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีหญิงอายุน้อยอีกคน ในหน้าประวัติศาสตร์ และถือเป็นนักธุรกิจอายุน้อยที่พาบริษัทเข้าตลาดหุ้นได้สำเร็จ
ดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้ Bumble ไล่บี้จำนวนผู้ใช้งาน Tinder แบบกระชั้นชิดขึ้นทุกปี มีอะไรบ้าง
แอพฯ ที่ออกแบบมาให้ผู้หญิงทักก่อน
Bumble ถูกออกแบบให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายส่งข้อความหาฝ่ายชายก่อนได้เท่านั้นเมื่อทั้งคู่ปัดขวาและแมตช์กัน ส่วนฝ่ายชายหากต้องการแสดงความรู้สึก จะต้องปัด Like และ Super Like เพื่อให้ฝ่ายหญิงรู้ตัวว่า มีคนนี้แอบอยากรู้จักเธออยู่นะ และหากฝ่ายหญิงไม่ได้เริ่มบทสนทนาภายใน 24 ชั่วโมง การแมตช์นั้นก็จะหายไปทันที
Beehive คอมมูนิตี้สร้างความมั่นใจ
แต่หากใครยังละล้าละลัง ยังไม่มั่นใจในตัวเองนัก เขาก็มี https://bumble.com/the-buzz เป็นคล้ายๆ เว็บบอร์ดให้คนโสดเข้ามาพูดคุย แลกเปลี่ยนทริกการเดต หรือการสร้างกำลังใจให้ตัวเอง ซึ่งทางเว็บก็จะมีบทความลงอยู่เรื่อยๆ เกี่ยวกับเรื่อง Self Improvement ตลอดจนเรื่องราวความสัมพันธ์ และเคล็ดลับความสัมพันธ์ต่างๆ
แยก Categories ความสัมพันธ์ชัดเจน
ในบางครั้ง บางคนใช้แอพฯ หาคู่ ไม่ได้เพื่อหาคู่ พวกเขาอาจจะแค่ต้องการหาเพื่อน หรือหาพาร์ทเนอร์ธุรกิจ Bumble จึงคว้าช่องว่างตรงนี้ และออกแบบแอพฯ เพิ่ม: ‘Bumble BFF’ และ ‘BumbleBizz’ สำหรับหาเพื่อนและหาเพื่อนคุยไอเดียทางธุรกิจตามลำดับ แยกออกมาเฉพาะ ซึ่งถ้าเกิดคุยไปคุยมาแล้วคลิก จะย้ายกลับไปแอพฯ Bumble หลักเพื่อเริ่มต้นเดตจริงจัง ก็ทำได้
นโยบายการสร้าง Bumble ให้เป็นวัฒนธรรม
ไม่ใช่แค่จัดสรรความสัมพันธ์บนออนไลน์เท่านั้น แต่ Bumble สร้างแบรนด์ให้คูลขึ้นด้วยการเข้าไปจัดแคมเปญในมหาวิทยาลัย เพื่อให้คนรุ่นเดียวกันได้เจอ และเริ่มต้นความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเพื่อนหรือแฟนก็ได้ทั้งนั้น ซึ่งบรรดากิจกรรมหรือปาร์ตี้ต่างๆ ถ้าใครอยากเข้าร่วมก็แค่โชว์แอพฯ ที่ติดตั้งอยู่บนสมาร์ทโฟนเท่านั้นเอง นอกจากนี้ยังมีการรับสมัครแบรนด์แอมบาสเดอร์ใน 15 ประเทศด้วย ซึ่งจะแบ่งเป็น ‘Honey’ แบรนด์แอมบาสเดอร์ในมหาวิทยาลัย และ ‘Queen Bee’ แบรนด์แอมบาสเดอร์ประจำเมือง ซึ่งจะทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ Bumble ให้เป็นที่รู้จักในสังคมมากขึ้น
สร้างจุดนัดพบ ไม่ให้ห่างหาย
หลายๆ ครั้งการคุยผ่านแอพฯ มักจะเกิดความรู้สึกว่า ชอบคนนี้จัง แต่สักพักทำไมเราถึงเริ่มเหินห่างกันนะ อาจจะเพราะใครบางคนยุ่งกับการใช้ชีวิตเกินไปหรือเปล่า Bumble เขาเลยสร้าง ‘Bumble Hive’ เป็นจุดนัดพบในหลายเมืองใหญ่ของโลก สำหรับผู้ใช้งานแอพฯ ที่เร่งรีบในการใช้ชีวิต นอกจากนี้ Bumble Hive ยังเป็น โค-เวิร์กกิ้ง สเปซ ที่ผู้ใช้งาน BFF หรือ Bizz ก็มาใช้งานในการจัดกิจกรรม หรือประชุมเชิงธุรกิจได้เหมือนกัน ซึ่งเป็นการเชื่อมโลก Online to Offline ได้อย่างแท้จริง และเป็นกลยุทธ์ที่โดนในนักลงทุนเต็มๆ
มาถึงตรงนี้น่าจะเห็นได้ชัดแล้วว่า ปลายทาง Bumble ภายใต้การนำของวูล์ฟ เฮิร์ด ไม่ใช่แค่การเป็นแอพฯ เดทติ้งเท่านั้น แต่เธอต้องการสร้างเน็ตเวิร์กกิ้งแพลตฟอร์ม สำหรับความสัมพันธ์หลายรูปแบบต่างหาก ซึ่งการ ecosystem ของแอปพลิเคชัน ไม่ว่าจะแอพฯ ออนไลน์ ไปจนถึงจุดนัดพบออฟไลน์ และการจัดแคมเปญในรั้วมหาวิทยาลัย ทั้งหมดนั้นทำให้เกิดความแข็งแกร่งของแบรนด์ภายในระยะเวลาไม่กี่ปีเท่านั้น
เธอให้คำแนะนำถึงผู้ประกอบการหน้าใหม่ด้วยว่า หากอยากประสบความสำเร็จ จงลงมือทำ เริ่มจากเรื่องที่ตัวเองถนัด
“ถ้าคุณถนัดทำอาหาร เริ่มจากบล็อกทำอาหาร จากนั้นเริ่มเก็บรายได้จากสูตรอาหาร” และ “ฉันคิดว่าเราสามารถหารายได้จากสิ่งที่เราถนัดหรือชอบได้”
“ในหน้าประวัติศาสตร์ ผู้หญิงหลายคนถูกทำให้ไม่มั่นใจที่จะริเริ่มลงมือ พวกเราเต็มไปด้วยความหวาดกลัวกับคำว่า ‘ถ้าหาก’ และถูกบอกว่าไม่ให้โดดเด่นเกินไป”
“คุณต้องเริ่มจากอะไรบางอย่าง ลองเขียนไอเดียแปะลงบนกระจกในห้องน้ำ และบอกตัวเอง จงเริ่มทำภายในสองสัปดาห์”
อ้างอิงจาก
https://bumble.com/date
https://en.wikipedia.org/wiki/Whitney_Wolfe_Herd
https://www.cnbc.com/2021/02/15/bumble-ceo-whitney-wolfe-herds-advice-on-starting-a-side-hustle.html
https://www.cnbc.com/2021/02/11/bumble-ceo-whitney-wolfe-herd-on-achieving-success.html
https://techxplore.com/news/2021-02-feminist-dating-app-bumble-wall.html