งานประจำปีที่บรรดาบริษัทไอทีต่างใช้เป็นเวทีโชว์ของอย่าง Consumer Electronics Show (CES) ปีนี้ แม้จะจัดขึ้นแบบออนไลน์ แต่ก็ยังมีเทรนด์เทคโนโลยีที่น่าสนใจให้เราได้ติดตามกัน ที่ต่างออกไปหน่อยในปีนี้ ก็คือนอกจากจะเป็นการอัพเดทความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทั่วไปแล้ว ยังมีการก้าวกระโดดภาคบังคับ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมาด้วย
โดย 4 เทคโนโลยีหลัก ที่ CES ได้หยิบยกขึ้นมาคาดการณ์ว่าเราจะได้เห็นการพัฒนาอย่างชัดเจนกันมากขึ้นในอนาคตคือ
- Digital Health : แน่นอนว่า ในปี 2021 นี้ นวัตกรรมด้านสุขภาพจะนำทุกเทรนด์เทคโนโลยีอย่างชัดเจน โดยคาดการณ์ว่าพวกอุปกรณ์เชื่อมต่อเพื่อวัดสุขภาพด้านต่างๆ จะเติบโตขึ้นถึง 34% ในปีนี้ และจะเปลี่ยนหน้าตาให้รองรับไลฟ์สไตล์มากขึ้น ขณะที่วงการแพทย์ก็จะมีการนำเทคโนโลยีที่ช่วยดูแลผู้ป่วยทางไกลมาใช้มากขึ้น นับตั้งแต่การใช้หุ่นยนต์และ AI มาช่วยงานอย่างการวินิจฉัยอาการของผู้ป่วยหรือปรับใช้เป็นบุรุษพยาบาลเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัส การใช้ VR มาช่วยในการพบแพทย์ผ่านจอเพื่อสร้างประสบการณ์การพบแพทย์จริง และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ในการตรวจ ที่ทำให้หมอตรวจรักษาได้ละเอียดมากขึ้นกว่าแค่ให้คำปรึกษาแบบสนทนา นอกจากนี้ องค์กรสุขภาพต่างๆ ก็ต้องเปลี่ยนไปใช้ระบบ Cloud และต้องคิดวางแผนถึงโครงสร้างต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพในอนาคตต่อไป
- Robotics, AI & Drones : แม้ว่าเทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์ AI และโดรน จะได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาตลอดอยู่แล้ว แต่ด้วยเงื่อนไขเรื่องการรักษาระยะห่าง (Social Distancing) ในปีที่ผ่านมา ทำให้มีการเร่งพัฒนาและผลิตมากขึ้นในแต่ละประเทศ โดยมีการใช้งานในหลายภารกิจที่ไม่อยากใช้คน ตั้งแต่ทำความสะอาด การฆ่าเชื้อ, ขนส่งสินค้า, จัดเรียงสินค้า, ปรุงอาหาร, การขนย้ายและกำจัดขยะ, เฝ้าระวังและกิจกรรมต่างๆ ในทางการแพทย์ ซึ่งก็ชวนให้คิดว่า ในอนาคตต่อไป เมื่อสถานการณ์โรคระบาดผ่านพ้นไป สิ่งที่เคยใช้คนทำมาตลอด แต่มาค้นพบว่าหุ่นยนต์ AI และโดรน ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน จะเป็นหน้าที่ของใครต่อไป
- Digital Transformation : แม้จะได้ยินคำนี้มาหลายปีจนหลายคนอาจจะเบื่อแล้ว แต่สถานการณ์COVID-19 ช่วยไฮไลต์คำนี้ให้เกิดผลลัพธ์และการปรับตัวเข้าสู่โลกดิจิทัลที่ชัดเจนขึ้นมากในปีที่ผ่านมา รวมถึงในปีต่อๆ ไป ยกตัวอย่างเช่น มีการเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนเป็นออนไลน์หรือระบบ e-learning มากขึ้น (ที่เราเห็นเป็นประเด็นกัน) วงการตุลาการในหลายประเทศ ก็มีการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อรับฟังการพิจารณาของศาล หรือในมุมไลฟ์สไตล์ พบว่ามีการใช้จ่ายกับคลาสฟิตเนสออนไลน์และอุปกรณ์ออกกำลังกายที่วัดผลได้จากบ้านมากขึ้นถึง 30-35% ในอเมริกา ซึ่งนอกจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีแล้ว การปรับตัวเข้าสู่โลกดิจิทัลอาจจะต้องมีประเด็นความพร้อมทางสังคมและความเหลื่อมล้ำที่แต่ละประเทศต้องถกเถียงและใคร่ครวญกันในบริบทต่อไป
- 5G, Smart Cities & Vehicle Technology : เราจะเห็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทำให้การใช้ชีวิตของเราใกล้เคียงกับหนัง Sci-Fi มากขึ้น (ซึ่งแน่นอนว่าหนัง Sci-Fi ในยุคต่อไป คงต้องหาอะไรที่ใหม่กว่ามาให้เราดูต่อไป) นั่นเป็นผลจากเทคโนโลยี 5G ที่ถูกนำมาพัฒนาเมืองให้เป็นเมืองอัจฉริยะ รวมถึงระบบคมนาคมในเมือง โดยยอดการลงทุนในระบบ 5G ในปี ค.ศ.2020 นั้นเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อปี ค.ศ.2019 ถึง 10.8% โดย 5G ที่เอามาใช้กับเมืองที่เราเห็นก็เช่น การเพิ่มเซนเซอร์ในตัวเมืองมากขึ้น เพื่อให้เรามีข้อมูลเกี่ยวกับเมืองและคนในเมืองเพื่อวางแผนพัฒนาเมืองได้ดีขึ้น ป้ายประชาสัมพันธ์/จราจรอัจฉริยะ หรือเทคโนโลยีไร้การสัมผัสในหลายๆ ส่วน อย่าง Smart Kiosk ที่สามารถสั่งงานด้วยเสียงหรือแตะบัตร ในส่วนของการคมนาคมนั้น เราก็จะได้เห็นเทคโนโลยีอย่าง C-V2X Connectivity หรือการที่พาหนะสามารถสื่อสารกับผู้คนและสิ่งแวดล้อมได้ (อย่างเช่นไฟจราจร) ใช้งานเพิ่มมากขึ้น มีการใช้ยานพาหนะขับเคลื่อนด้วยตัวเองได้อย่างแพร่หลาย (Self-Driving Vehicle Fleets) รวมถึงบริการด้านการเดินทางการเช่าจักรยานหรือสกู๊ตเตอร์ (Mobility as a Service) ด้วย
และนี่คือ 6 ตัวอย่างนวัตกรรมที่น่าสนใจที่เราลองเลือกมาให้จากงาน CES 2021
- Razer Project Hazel : เรียกว่าได้ซีนในงานไปไม่น้อยกับหน้ากากอนามัยอัจฉริยะจากแบรนด์เกมมิ่งอย่าง Razer ที่นอกจากจะมีเครื่องช่วยหายใจซึ่งสามารถกรองอากาศระดับ N95 และคัดกรองแบคทีเรียได้ในระดับสูง (BFE) ยังออกแบบให้มีลักษณะโปร่งแสง ทำให้ผู้ใส่แสดงสีหน้าทางอารมณ์ได้ พร้อมฝังไมโครโฟนกับลำโพงไว้ เพื่อช่วยขยายเสียงในการพูดได้อย่างชัดเจน แถมติดตั้งไฟ Chroma RGB LEDs ที่สามารถปรับแต่งสีและการกระพริบได้เอง รวมถึงตั้งให้เปิดอัตโนมัติในที่แสงน้อยได้ด้วย (ดูเพิ่มที่ https://www.razer.com/eu-en/concepts/razer-project-hazel)
- Rollable Phone : ปีที่ผ่านมา เราอาจจะเห็นเทรนด์โทรศัพท์มือถือพับได้ (Flip/Fold) ในหลายๆ รุ่น แต่ในปีนี้ เราจะเห็นมือถือจอ “ม้วน” ได้ ซึ่งในงาน CES 2021 นี้ TCL และ LG ก็ได้โชว์คอนเซ็ปต์ของมือถือม้วนจอได้นี้ โดยชี้ให้เห็นถึงขนาดและน้ำหนักที่เล็กและเบากว่ามือถือแบบพับ และคาดว่าจะปล่อยออกมาให้ได้หาซื้อไปใช้กันได้ภายในปีนี้ (ดูเพิ่มที่ https://youtu.be/CjZoiHw9XU8, https://youtu.be/j1-MOE_oSXs)
- 8K TVs : เหมือนว่าเราเพิ่งก้าวเข้าสู่ยุค 4K กันไม่เท่าไหร่ (บริษัทเกมและช่องทีวีหลายเจ้ายังกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์อยู่เลย) แต่ดูเหมือนผู้ผลิตทีวีจะไม่ยอมรออีกต่อไป เพราะในงานนี้ มีการนำเสนอแนวคิดจอภาพที่มีความคมชัดระดับ 8K เข้าไปแล้ว! (ชัดกว่า 4K ถึง 4 เท่า และ 1080p ถึง 16 เท่า) แน่นอนว่า บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Sony และ LG ก็ไม่พลาดที่จะยืนยันว่า พวกเขาจะปล่อยทีวีแบบ 8K อย่าง Sony Z9J Bravia XR และ LG QNED Mini-LED 8K เพื่อโลกจะได้เห็นอะไรที่ชัดยิ่งกว่าที่เคยมีมาในปี 2021 นี้! (ดูเพิ่มที่ https://www.sony.com/electronics/televisions/z9j-series, https://www.lg.com/us/tvs/lg-75qned99upa-mini-led-8k-tv)
- AMD Ryzen 5000 : ในงานนี้ AMD บริษัทที่มีความมุ่งมั่นจะสร้าง ‘โปรเซสเซอร์คอมพิวเตอร์ที่ดีที่สุดในโลก’ ได้เปิดตัว Ryzen 5000 Series CPU สำหรับ Desktop PC ที่เน้นความเร็วสูงเพื่อการเล่นเกมที่ดีขึ้น โดยใช้สถาปัตยกรรมล่าสุด Zen 3 พร้อมกระบวนการผลิตขนาด 7 mm อีกทั้งใช้ไฟน้อยลง ทำให้ใช้งานโน้ตบุ๊กได้นานสูงสุดถึง 21 ชั่วโมง ในปีนี้ AMD คาดว่าจะมีโน้ตบุ๊คที่ใช้ซีพียู Ryzen 5000 Series มากกว่า 150 รุ่น และหลายแบรนด์ตอนนี้ก็เริ่มทยอยเปิดตัวโน้ตบุ๊คที่ใช้ AMD กันมากขึ้นด้วยเช่นกัน (ดูเพิ่มที่ https://youtu.be/iuiO6rqYV4o)
- Toto Wellness Toilet : จริงๆ แล้วในงานนี้ Toto แบรนด์สุขภัณฑ์จากญี่ปุ่น ก็ได้ขนเอาหลายผลิตภัณฑ์ที่จะประกอบเป็น ‘ห้องน้ำแห่งอนาคต’ มาให้ดู อย่าง Washlet รุ่นใหม่ หรืออ่างล้างมือที่ไม่ต้องสัมผัส แต่อย่างหนึ่งที่ปังมาก คือโถส้วมที่สามารถวิเคราะห์อุจจาระของผู้ขับถ่ายและแนะนำอาหารที่ควรกินได้ ซึ่ง Toto ก็บอกว่าได้นำเอา Sensing Technology หลายๆ อันมาร่วมกันเพื่อสร้างสิ่งนี้ (ดูเพิ่มที่ https://www.totousa.com/ces_2021)
- BioMilq : วิถีชีวิตแบบทุกวันนี้ อาจทำให้คุณแม่หลายๆ คนมีอุปสรรคในการให้นมลูก และหันไปพึ่งนมผง BioMilq เลยผลิตน้ำนมแม่ที่ไม่ได้มาจากเต้านม โดยวิธีการคือใช้เซลล์ต้นกำเนิดจากนมแม่แท้ที่ได้รับบริจาคมา จากนั้นก็นำไปใส่ในเครื่องปฏิกรณ์ชีวภาพ เพื่อพยายามสร้างให้กลายเป็นเซลล์ต่อมของเต้านมที่จะผลิตนมออกมา นมสูตรดังกล่าวนี้จะมีส่วนประกอบที่สำคัญทั้งเคซีนและแลคโตส ซึ่งเป็นโปรตีนที่อยู่ในนมแม่จริง ๆ และยังปลอดภัยจากสารปนเปื้อนใด ๆ ทั้งสิ้น ตั้งแต่เริ่มกระบวนการยันสิ้นสุดกระบวนการผลิต (ดูเพิ่มที่ https://www.biomilq.com)
ยังมีนวัตกรรมอีกหลายอย่างที่น่าสนใจ ลองเข้าไปดูกันได้ที่ https://www.ces.tech รวมถึงมีคลิปย้อนหลังจากบนเวทีให้ดูกันด้วย
อ้อ.. อีกอย่างที่น่าสนใจคือ The Verge ยังบอกว่า ‘Best CES Innovation’ หรือสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมของงานนวัตกรรมอย่าง CES ในปีนี้ คือ ‘ The 30-Minute Keynote’ หรือการที่ให้ผู้เข้าร่วมงานพรีเซนต์ไม่เกิน 30 นาทีต่อคน เพราะช่วยให้คนฟังไม่ต้องท่วมท้นด้วยรายละเอียดมากเกินไป และน่าจะเป็นอะไรที่เราเอาไปใช้ได้กับ Virtual Meeting หรือ Virtual Classroom ที่เรายังต้องนั่งอยู่หน้าจอกันต่อไป อย่างน้อยก็ในช่วงต้นปีนี้
อ้างอิงข้อมูลจาก