จะเป็นยังไงถ้าน้ำเปล่ามีรสชาติคล้ายค็อกเทล น้ำขุ่นๆ สามารถูกกรองให้ใสสะอาดพร้อมดื่มรวดเร็ว หรือถ้าอยากกินข้าวก็ไม่ต้องไปตามร้าน เพราะซื้อได้จากตู้ขายที่ไม่จำเป็นต้องหยอดเหรียญ
ปัจจุบัน โลกเราไปไกล มีนวัตกรรม เทคโนโลยีล้ำๆ ใหม่ๆ มากมาย จนบางทีเราก็ตามกันไม่ทัน ไม่ว่าจะใช้ระบบ AI เข้ามาช่วย หรืออะไรก็กลายเป็นเพิ่งพิงระบบดิจิทัล ทั้งยังมีแนวโน้มว่าจะไปไกล รวดเร็ว เหมือนหนังไซไฟ ในอนาคตข้างหน้า ที่มีเครื่องมือ นวัตกรรมเพียบพร้อมให้เราใช้ชีวิตกันได้สะดวกสบาย
The MATTER ได้มีโอกาสไปชมงาน Innovfest Unbound ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งบริษัท สตาร์ทอัพต่างๆ ได้มารวมตัวกันเสนอผลงานนวัตกรรมโดดเด่นมากมาย จนเราพบเห็นแล้วก็เกือบเผลอตัวนึกว่า กำลังอยู่ในโลกอนาคตจริงๆ
Wateroam เครื่องกรองน้ำดื่ม แปลงน้ำสกปรกให้ใสสะอาด
Wateroam สตาร์ทอัพของคนรุ่นใหม่ ได้ผลิตเครื่องกรองน้ำแบบพกพา ที่สามารถกรองน้ำขุ่น สีน้ำตาล อย่างน้ำคลองหรือน้ำสกปรก ให้สามารถดื่มได้จริง (ดื่มได้จริงๆ นะแก คือไปลองมาแล้ว) โดยมันสามารถพกพาสะดวก เพราะมีขนาดเพียงแค่ 3 กิโลกรัม ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า ใช้งานง่ายโดยปั๊มน้ำได้เลย ส่วนในเรื่องของความสะอาดนั้น ทางผู้ผลิตระบุว่าสะอาด ปลอดภัยแน่นอน เพราะสามารถกำจัดแบคทีเรีย ได้ถึง 99.9999% และไวรัสถึง 99.99% ในอัตราการปั๊มน้ำด้วยมือ 200 ลิตรต่อชั่วโมง
ตอนนี้ มีการใช้ Wateroam แล้ว ในหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนา อย่างเช่น บังกลาเทศ ขเมร เนปาล ซีเรีย รวมถึงในไทยด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นในชนบทที่ขาดแคลนน้ำสะอาด ในโรงเรียน และศูนย์สุขภาพ หรือในพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติ ทั้งยังชนะรางวัล Best Innovation ของอาเซียนในปี 2016 และ UN Young Leader Representative ในปี 2017 ด้วย
Vitual Cocktail แก้วชิมค็อกเทลทิพย์
จะชิมไวน์ ชิมค็อกเทลแต่ละครั้ง ชิมไปนานๆ ก็อาจจะมีมึนเมาได้ แต่ตอนนี้ มีนวัตกรรมแก้วชิมไวน์ทิพย์ ที่เทน้ำเปล่าก็กำหนดรสชาติที่อยากได้ได้ ด้วยแก้ว Vitual Cocktail ซึ่งเป็นงานวิจัยของนักเรียนมหาวิทยาลัย National University of Singapore (NUS)
ตัวแก้วนี้ มีระบบที่สามารถนำรส กลิ่น และกระตุ้นให้เรารับรู้รสชาติ ที่จะให้รู้สึกเหมือนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จริงๆ แม้แท้จริงแล้วเราจะดื่มน้ำเปล่าอยู่ โดยในการชิมด้วยแก้วนี้ เราจะต้องวางลิ้นของเราบนขั้วไฟฟ้าสีเงินขณะดื่ม ซึ่งมันจะส่งกลิ่นอาหารธรรมชาติ และความแปลกใหม่ในรสชาติเหมือนชิมค็อกเทล ที่ควบคุมด้วยแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อผ่านบลูทูธ
โดยสำหรับกลิ่น จะสามารถเลือกได้ตามกลิ่นธรรมชาติที่เราเติมลงในช่องฐานของแก้ว ส่วนตัวรสชาติ สามารถปรับได้สลับไปมาในรสเค็ม ขม และเปรี้ยว ซึ่งปรับระดับรสชาติต่างๆ ได้ ซึ่งแก้วนี้จะทำให้ผู้ลองดื่ม สามารถเลือกรสชาติ และทดลองรสใหม่ๆ ได้ โดยไม่ต้องลองให้เมา แต่ดื่มน้ำเปล่าแทน
Carbolight ขนมปังม่วงสุดยอดอาหารดีต่อสุขภาพ
นี่คือสิ่งที่ CNN เคยให้คำนิยามว่าเป็น ‘Super Food’ หรือสุดยอดของอาหาร
นักวิทยาศาสตร์ด้านอาหาร ได้คิดค้น Carbolight ขนมปังสีม่วง ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสุดยอดอาหาร เหมาะกับคนรักสุขภาพ โดยมันจะเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ต่อสู้กับมะเร็ง แถมยังอยู่ท้อง เพราะมันย่อยช้ากว่าขนมปังทั่วไป ทั้งยังทำจากสารธรรมชาติทั้งหมดด้วย ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้เปลี่ยนสูตรของขนมปัง โดยที่ไม่เปลี่ยนเนื้อสัมผัสอันนุ่มนวลของขนมปังขาว แต่ได้สกัด anthocyanins จากข้าวสีดำ ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระมาใส่ในขนมปัง
การใส่ anthocyanins จึงได้เปลี่ยนขนมปังจากสีขาว ไปเป็นสีม่วง และยังทำให้มันทำปฏิกิริยาทางเคมีกับเอนไซม์แป้ง ทำให้มันย่อยช้ากว่าขนมปังทั่วไปถึง 20% และนักวิทยาศาสตร์ ยังระบุว่าขนมปังนี้จะลดการดูดซึมของน้ำตาล ลดการดูดกลูโคส ยับยั้งการทำลาย DNA ยับยั้งการอักเสบของยีนส์
CryoWerx ตู้ขายอาหารแบบไม่ต้องมีคนขาย
เรามักคุ้นชินกับตู้ขายของอัตโนมัติแบบหยอดเหรียญ แต่นวัตกรรมนี้ดูก้าวไปอีกขั้น เพราะไม่ต้องใช้เหรียญหยอดแต่อย่างใด เพราะมันจะเชื่อมโยงกับแอพฯ กดตัดเงินอัตโนมัติได้เลย
ตู้ CryoWerx มีการทำงานแบบระบบ ‘Grab & Go’ คือหยิบของแล้วก็ไป แต่ตู้นี้ไม่ใช่ว่าใครจะเปิดออก หยิบของไปได้ ถ้าไม่ลงทะเบียนและเชื่อมต่อกับแอพฯ ไว้ โดยแอพฯ จะเป็นตัวปลดล็อกตู้ให้เปิดออกเมื่อแสกน QR code ที่หน้าตู้ และสินค้าในตู้ จะมีการติดป้าย ‘Smart Tag’ ที่เชื่อมต่อกับแอพฯ ว่าสินค้าไหนออกจากตู้ไป ซึ่งจะขึ้นที่หน้าแอพฯ และให้เรากดตัดเงินได้เลย เมื่อประตูตู้ปิด
ผู้ผลิต CryoWerx มองว่า ใครๆ ก็สามารถเริ่มธุรกิจขายของได้ ถ้ามีตู้นี้ เพราะมันสามารถตั้งได้ และขายอาหารตลอด 24 ชั่วโมง และไม่ต้องจ้างคนงานด้วย ทั้งระบบข้อมูลของสินค้าที่ขายได้ จะทำให้เรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภคด้วย
แม้ว่าตอนนี้ เจ้าตู้ CryoWerx ยังไม่ได้มีวางขายสินค้าจริง ตามถนนทั่วไป แต่ในอนาคต โดยเฉพาะในสิงคโปร์เราอาจจะเห็นตู้ขายของแบบนี้เพิ่มขึ้นตามถนน สะดวกให้เราหยิบ ซื้อสินค้า และจ่ายเงินได้ง่ายด้วย
From Molecules to Medicine แอพฯ เกมเรียนรู้โมเลกุลและการแพทย์
ป่วย ไม่สบาย ปวดท้อง เป็นไข้ เริ่มมีอาการผิดแปลก ไม่สบายยังไง ก็ขอกินยาดักไว้ก่อน แต่กว่าจะมาเป็นยาแต่ละเม็ด ในการรักษาแต่ละโรคนั้น ไม่ได้ง่ายดาย แต่มีขั้นตอนซับซ้อน ต้องดูไปถึงเซลล์, DNA ทั้งต้องวิจัย และต้องผ่านขั้นตอนสุดท้ายได้รับการอนุมัติให้ออกเป็นยาได้
Bayer บริษัทเภสัชกรรมรายใหญ่ของโลก ก็ได้เปิดตัวแอพเกมฯ ใหม่ล่าสุด ‘From Molecules to Medicine’ ในงานนี้ โดยตัวแอพฯ จะมีเกมถึง 4 เกม ที่จะไม่ทำให้ผู้เล่นแค่สนุกกับเกม แต่ยังได้เรียนรู้กระบวนการในการวิจัย และผลิตยาเบื้องต้น ไม่ว่าจะเป็นเกมหาคู่ผิดของ DNA ที่เกมต้องการให้เรียนรู้ว่าในการผลิตยา ต้องมีการหาโมเลกุลที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับโรค และโปรตีนระหว่างผู้ป่วย และคนที่สุขภาพดีก็จะแตกต่างกันด้วย
หรือเกมที่ต้องส่งผู้ป่วย เข้าห้องรักษาในขั้นตอนที่ต่างกัน 4 สเตป และทำเวลาให้ดีที่สุด ซึ่งเป็นเหมือนขึ้นตอนทดลองทางคลีนิกกับผู้ป่วย ที่คุณหมอจะตรวจสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยของยา โดยจะต้องผ่านการยินยอมสเตปแรก และกลับมาทดสอบอีกถึง 3 ครั้งเหมือนอย่างในเกม
ถึงแม้เกมทั้ง 4 จะเป็นเกมเชิงวิทยาศาสตร์ แต่ Bayer ก็ต้องการให้ความรู้ง่ายๆ เกี่ยวกับขั้นตอนการผลิตยาไปในเกมต่างๆ เหล่านี้ด้วย ซึ่งตอนนี้เกมนี้มีให้ดาวน์โหลดในระบบ iOS แล้ว ส่วน Android ก็กำลังจะตามมาให้ได้เล่นกันเร็วๆ นี้ด้วย