ช่วงงานสัปดาห์หนังสือหลายคนน่าจะได้เล่มใหม่ติดไม้ติดมือกันกลับบ้าน บางคนอาจจะเน้นซื้อก่อนอ่านทีหลัง แต่บางเล่มกว่าจะได้อ่านก็ผ่านไปเป็นปีๆ ซะแล้ว
เราเลยอยากชวนมาดูแลเหล่า ‘กองดอง’ ให้ยังคงสภาพดีและอยู่กับเราไปนานๆ ในบทความนี้กัน
1. ปัดฝุ่นด้วยแปรงขนนุ่มหรือผ้าแห้ง
ในกองดองที่เก็บไว้นานๆ มีโอกาสที่ฝุ่นจะมาเกาะได้ ดังนั้นเราอาจเริ่มจากการปัดฝุ่นหนังสือด้วยไม้ขนไก่ แปรงขนนุ่มหรือผ้าสะอาด (ไม่ควรใช้ผ้าเปียกหรือผ้าหมาดเพราะจะทำให้หนังสือชื้น) นอกจากฝุ่นแล้ว อีกสิ่งหนึ่งควรสังเกตและทำความสะอาดคือ ไข่แมลงซึ่งหน้าตาเหมือนเม็ดสีดำเล็กๆ ติดค้างอยู่ระหว่างหน้ากระดาษกับสันหนังสือ แต่สำหรับแมลงบางชนิด เช่น มอด ที่อาศัยอยู่ในหนังสือและไม่สามารถปัดฝุ่นออกได้ทันที เราแนะนำให้ห่อหนังสือด้วยพลาสติกแล้วแช่ตู้เย็นเพื่อกำจัดแมลงเหล่านี้แทน
2. จัดการกลิ่นอับ โดยผึ่งลมหรือใส่ในอุปกรณ์ปิดสนิทพร้อมเบคกิ้งโซดา
หากหนังสือชื้นหรือมีกลิ่นเหม็นอับ ควรผึ่งลมในห้องให้แห้งก่อนเก็บเข้าตู้ (แต่ไม่ควรนำไปตากแดด) หรือถ้าหนังสือชื้นจนกระดาษติดกัน ลองใช้วิธีเป่าลมเบาๆ จากด้านบนของหนังสือจนกระดาษเริ่มคลี่ออกจากกัน แล้วนำไปวางไว้ในอุปกรณ์ปิดสนิท พร้อมใส่เบคกิ้งโซดาลงไปเพื่อดูดซับกลิ่น โดยใช้เวลา 2-3 วัน หรือนานกว่านั้นตามความหนาของหนังสือ
3. ห่อปกด้วยกระดาษสาหรือแผ่นไมลาร์ ไม่ควรใช้หนังสือพิมพ์
แน่นอนว่าวิธีนี้ช่วยให้หนังสือไม่เลอะและดูใหม่อยู่เสมอ แต่ควรเลือกวัสดุให้เหมาะสมกับการห่อปกหนังสือ อย่างกระดาษสาหรือแผ่นไมลาร์ (พลาสติกใสที่ไม่มีกรด) แต่ไม่ควรใช้หนังสือพิมพ์ห่อปก เพราะหนังสือพิมพ์มีฤทธิ์เป็นกรดและหมึกพิมพ์อาจจะเลอะหนังสือของเราได้ นอกจากนี้ ควรเลี่ยงการใช้คลิป ลวดเย็บ หรือโลหะหนีบกระดาษเพราะจะทำให้หนังสือจะเป็นรอย แถมเปื้อนสนิมได้ง่ายอีกด้วย
4. หยิบหนังสือจากสันตรงกลาง แทนสันด้านบน
เวลาจะหยิบหนังสือลงจากชั้น หลายคนอาจจะชินกับการดึงสันด้านบนของหนังสือ แต่จริงๆ มีวิธีที่อ่อนโยนขึ้นมาอีกนิด คือการดันหนังสือเล่มข้างๆ เข้าไปเล็กน้อย จากนัั้นดึงสันตรงกลางของเล่มที่จะอ่านออกมาข้างหน้า แล้วค่อยดึงเล่มข้างๆ กลับมาไว้ที่เดิม
5. ควรเก็บในตู้แบบปิดเพื่อเลี่ยงแดดและฝุ่น
เราอาจจะใช้วิธีเก็บในตู้แบบปิด เพื่อเลี่ยงแสงแดดที่ทำให้หนังสือซีด รวมทั้งกันฝุ่นและแมลง ลดความแปรปรวนจากอุณหภูมิภายนอก แต่ถ้าเก็บในกล่องพลาสติก ควรใส่สารกันความชื้นลงไปด้วย เพราะพลาสติกจะชื้นค่อนข้างง่าย
6. เก็บในห้องที่อากาศถ่ายเท ไม่ร้อนและไม่ชื้นจนเกินไป
สภาพแวดล้อมในห้อง ควรมีอากาศถ่ายเท ไม่ชื้นเกินไปเพราะจะทำให้หนังสือขึ้นรา (แถมเจ้าแมลงสาบยังชอบที่ชื้นๆ ด้วยนะ) แต่ถ้าอากาศแห้งเกินไปอาจทำให้สันหนังสือเปราะ กระดาษกรอบหลุดออกมาได้ง่าย ส่วนอุณภูมิที่เหมาะสมจะอยู่ราวๆ 20-24 องศาเซลเซียส แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือการทำให้อุณหภูมิและความชื้นพอดี ไม่ขึ้นๆ ลงๆ เปลี่ยนแปลงบ่อยๆ เพราะหนังสือก็เหมือนมนุษย์ที่ถ้าเจออากาศแปรปรวนเข้าอาจทำให้เราไม่สบายได้เหมือนกัน
7. ถ้าดูแลไม่ไหว ให้ส่งร้านซ่อมหนังสือ
ถ้าเล่มไหนที่สภาพค่อนข้างหนักหน่วงเกินกว่าจะดูแลไหว เราแนะนำให้ลองส่งไปยังร้านซ่อมหนังสือที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้แทน สำหรับร้านเก่าแก่ที่เราพอจะได้ยินบ่อยๆ คงจะเป็น ‘เซ่งฮง’ และ ‘Book Clinic’ (หรือถ้าใครมีร้านอื่นๆ แวะเวียนมาป้ายยากันได้เลยนะ)
อ้างอิงจาก