ถ้าพูดถึงการแข่งขันมวยไทย คุณจะนึกถึงอะไรบ้าง
นอกเหนือไปจากศิลปะการต่อสู้แล้ว ภาพลักษณ์ของวงการมวยไทยมักจะติดพันอยู่กับการพนันในสนาม เซียนมวยเสียงดังสนั่นที่พร้อมต่อรองราคากันสดๆ บางกรณีก็สามารถเปลี่ยนผลการแข่งขันได้แบบทันดีทันใด
อิทธิพลมืดมาเฟียและการล้มมวยสิ่งเหล่านี้อยู่กับสนามมวยไทยมาช้านานคนที่อยู่มานานจำนวนไม่น้อยก็เหนื่อยและหวาดกลัวที่จะสร้างเปลี่ยนแปลง
ต่างไปจากจุดยืนของ เปรม—อริยะวัฏ บุษราบวรวงษ์ ผู้บริหารแห่ง ‘One ลุมพินี’ ผู้ผลักดันให้เกิดเวที One Championship Thailand
เปรมคือทายาทธุรกิจค่ายมวย ‘แฟร์เท็กซ์’ ที่เขารับสืบทอดมาจากพ่อ การได้คลุกคลีกับวงการมวยมานาน ทำให้เขามองเห็นปัญหาหลายอย่างในวงการมวยไทย—ปัญหาที่เขาอยากจะเข้ามาปรับเปลี่ยน—เพื่อให้วงการนี้ดีต่อทุกคนที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะภายในและนอกสนามมวย
One Championship Thailand มีจุดขายอยู่ที่เป็นการแข่งขันที่เน้น Sport Entertainment ระดับมาตรฐานสากลไม่มีการพนันใดๆเกิดขึ้นภายในสนามตัดอิทธิพลต่างๆที่สามารถกดดันให้กรรมการและนักมวยพร้อมเปลี่ยนผลการแข่งขันเพื่อเงินออกไปทั้งหมด
แม้จะเริ่มต้นได้ไม่นาน แต่เปรมและ One Championship Thailand ก็เริ่มเปลี่ยนภาพลักษณ์วงการมวยไทยได้อย่างชัดเจนมีผู้ชมที่หลากหลายเข้าชมการแข่งขันไม่ได้เป็นเพียงแค่สนามมวยที่มีแต่เซียนพนันอีกต่อไป
หนึ่งในหมุดหมายสำคัญที่ One Championship Thailand ทำได้สำเร็จแล้วคือการที่รายการนี้สามารถเข้าไปสอดแทรกช่วงเวลาละครในเวลาไพร์มไทม์ของช่องเจ็ดได้นี่นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่าห้าสิบปีที่ช่องเจ็ดยอมเปลี่ยนเวลาของการฉายละครมาให้กับการถ่ายทอดสดแข่งขันกีฬา
คอลัมน์ No Shortcut วันนี้ เราเดินทางมายังสนามมวยลุมพินี เพื่อพูดคุยกับเปรมในวันที่ทุกอย่างเหมือนจะพาให้ One Championship Thailand ร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ
กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ เขายึดถือความเชื่อแบบไหน?
อะไรคืออุปสรรคสำคัญของการทำธุรกิจ Sport Entertainment ในสังเวียนที่ชื่อสังคมไทย?
ก่อนที่เราเข้ามาในห้องนี้ ก็เห็นมีรถถ่ายทอดสดของช่องเจ็ดอยู่ที่ข้างสนามด้วย เลยคิดว่ามันยากมากเหมือนกันนะ ที่เราจะเห็นช่องเจ็ดยอมเอาช่วงเวลาละครมาถ่ายทอดสดกีฬามวยแบบนี้
ผมจริงๆ ว่ามันเป็นเรื่องที่ช็อกวงการทั้งวงการทีวีเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นช่องไหนก็ตาม ช่วงเวลาสองทุ่มครึ่งจนถึงสี่ทุ่มครึ่งต้องเป็นละคร แล้วไม่มีใครกล้าคิดนอกกรอบหรือเปลี่ยนแปลงมันนะผมว่า จนกระทั่งทาง Tero Entertainment กับ ทาง One Championship มาทำงานด้วยกัน
ตอนแรกขอเล่าเลยว่า คุณชาตรี เนี่ย กะว่าเราได้เวลาสามทุ่มครึ่งก็ดีแล้ว แต่เราและเทโรก็คุยกันว่า ถ้าอยากจะทําทั้งที เราก็ต้องทําอะไรที่แตกต่างและฉีกออกไปเลย ผมคิดว่าเวลาเราดูกีฬาอะไรก็ตามที่มันสด มันจะสร้างความรู้สึกหลาย ๆ อย่างให้กับคนดูได้ ไม่ว่าจะเป็นสร้างความสนุกสนาน สร้างความประทับใจ สร้างความทรงจําให้กับตัวเราเอง หรือไม่ก็กับคนที่เราดูด้วย
ไม่ว่าจะยังไง ทุกคนยังไงก็ต้องอยากดูแบบถ่ายทอดสด เพราะเขาอยากรู้ผล อยากรู้ ใครแพ้ใครชนะ แต่ถ้าคุณไม่ได้ยิงสด แล้วไปดูย้อนหลังเลยมันก็ไม่ตื่นเต้น มันไม่สร้างความทรงจํา ซึ่งแตกต่างจากละครที่ถ้าเราพลาดไป เราก็ดูย้อนหลังได้
ตอนที่คุยกับทางช่องเจ็ด คุณได้โน้มน้าวยังไงให้เขาเกิดความเชื่อมั่น
บอกว่า One เป็น Sport Entertainment ที่ใหญ่ที่สุดเลยนะครับ เกือบได้ที่สุดของโลกเลย แล้วก็สิ่งที่เราอยากจะทําก็คือการพัฒนามวยไทย พูดจริงๆ ตอนนี้มวยไทยได้อยู่ในช่วงตกต่ำของวงการก็ว่าได้ เนื่องจากโควิดด้วย การพนันที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย รวมถึงอิทธิพลต่างๆ
ขอเล่าย้อนไปนิดนึงว่าลุมพินีกับ One น่าจะเป็นสองสนามใหญ่ที่สุดของนักมวยไทย แต่เนื่องจาก ผบ.ทบ. ได้มองไว้ว่า มวยไทยอยู่ในช่วงที่ตกต่ำแล้ว เราควรจะทําอะไรให้มวยไทยได้แล้ว เขาก็เลยออกกฎมาว่า ห้ามมีการพนันในสนามมวยลุมพินี เราจะทํามวยไทยเป็น sport entertainment
ถ้าย้อนมองที่ส่งผลต่อวงการมวย อุปสรรคแรกโควิด ซึ่งมันก็เริ่มจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่อุปสรรคเรื่องอิทธิพลและการพนันยังคงอยู่มาเรื่อยๆ
ยังไงการพนันยังไงมันก็เป็นคู่กับกีฬาอยู่แล้ว มันไม่ใช่แค่มวย ไม่ว่าคุณจะไปดูกีฬาอะไร มันจะมีการพนันทั้งหมด แต่ผมเชื่อว่าการพนันนั้นควรจะอยู่ข้างนอกสนาม ไม่ก็อยู่ในโลกออนไลน์ ไม่ว่าคุณจะไปดูบาสหรือดูฟุตบอล เราจะไม่เคยเห็นคนที่จะไปนั่งคุยต่อรอคา หรือยกมือในสนาม บางคนบอกโบกมือบอกว่าไม่ต้องทำแล้ว เพราะสิ่งเหล่านี้มันจะทําให้อรรถรสของการดู หรือความ performance ของนักกีฬาหายไปครับ
แล้วการมีการพนันอยู่ในมันทําร้ายวงการมวย และคนบนเวทีอย่างไร
หนึ่งคือมีการว่าจ้างการล้มมวย ข้อสองคือถ้าการพนันเข้าไปถึงกรรมการได้มันก็จะมีการคุยเรื่องราคา เช่น บางช่วงเวลากรรมการจะช่วยนักมวยฝ่ายหนึ่งเลย บางทีมันมีเทคนิคเล็กๆ อยู่ อีกตัวอย่างคือ ถ้าสมมติมวยต่อยกันถึงยกที่สี่ และฝ่ายแดงเป็นต่อแล้ว แต่ยกห้ากลับเป็นคนละเรื่องเลย คนดูมวยเขาก็ดูกันออกว่าเกิดอะไรขึ้น มันก็เสียรสชาติเหมือนกัน คนที่พนันก็สามารถมีอิทธิพลต่อการต่อยกันบนเวทีได้ และสามารถเปลี่ยนผลการแข่งขันได้ขนาดนั้นเลย
ยกตัวอย่างหนึ่ง คือบางทีนักชกต่างชาติ เขาทุ่มเทมาเรียนมวยไทยอยู่สองสามเดือน ซ้อมเพื่ออยากจะเริ่มชีวิตในการต่อยมวยไทย แต่กลับพอขึ้นไปบนเวทีแล้ว ราคาไม่มา คะแนนไม่ให้บ้าง ถูกโกงบ้าง จนภาพลักษณ์วงการมวยเราเสียหายออกไปครับ เดี๋ยวนี้มันเป็นโลกโซเชียลมีเดียที่เห็นกันได้หมด
คุณกำลังจะบอกว่าการพนันมันทําร้ายอนาคตของมวยไทยด้วย
ในช่วงสมัยมวยไทยรุ่งๆ ค่าตัวนักมวยก็เป็นสองแสน แต่พอช่วงโควิดก็เหลือ ห้าหมื่น เจ็ดหมื่น ซึ่งมันไม่พอกับการใช้ชีวิต เพราะว่าเด็กมันก็ต้องมาแบ่งกับค่าย หรือบางทีพอไม่ได้ค่าตัว สิ่งที่ชักจูงนักกีฬาได้ก็คือ การจ้างล้มมวย
แล้วมันมีผลที่มีต่อคนทําธุรกิจนี้ยังไงบ้าง? คุณเคยบอกว่าธุรกิจมวยมันทําไรยากมากอยู่แล้ว
ยากครับ ยาก ยกเว้นสมัยยี่สิบปีก่อน ถือว่ากําไรโอเค เพราะช่วงนั้นมวยไทยกําลังบูมมาก อิทธิพลไม่ได้เข้ามาเยอะขนาดนี้ เพราะฉะนั้นคนดูตรงสมัยที่ยังอยู่ลุมพินีพระรามสี่เนี่ย จัดมวยทีก็มีกําไรบ้าง ถึงแม้จะไม่เยอะมาก แต่ก็ถือว่าคุ้ม จัดมวยแล้วคนดูก็มาเต็มสนาม
แต่พอมาช่วงหลังๆ มันยากที่จะได้กําไร เพราะสปอนเซอร์ก็เริ่มไม่ไว้วางใจในโปรดักส์ของมวยไทย เพราะว่าเขาก็มองว่ามันเป็นการพนัน ถ้ามีการฉ้อโกงขึ้นมา มันก็จะส่งผลต่อแบรนด์ของพวกเขา เขาก็ไม่สามารถจะมาเป็นสปอนเซอร์ต่อได้ แต่สำหรับ One เราอยากทําให้มันต่างออกไป
ถ้าเราไปดูสนามอื่นที่มีการพนันในสนามก็จะมีแต่เซียนมวยด่ากันบ้างโมโหกันบ้างประท้วงกันในสนามบ้างแต่สำหรับของเราเราก็ยังรับเซียนพนันเข้าไปในสนามนะแต่มีกฎว่าพวกคุณห้ามเล่นการพนันดังนั้นคนที่มาดูเราก็จะมีทั้งวัยรุ่นคนทั่วไปเพื่อนนักมวยในค่ายแฟนคลับไปจนถึงฝรั่งที่อยากดูมวยแล้วเสียงเชียร์ในสนามก็จะต่างกันมากเพราะมันคือการเชียร์จริงๆที่ไม่ได้เชียร์เพราะพนัน
ถ้าผมจําไม่ผิดเมื่อ อาทิตย์ที่แล้ว มันทําให้ผมยิ่งขนลุก เพราะเราเข้าไปในสนาม มีนักมวยคนนี้ เสกสรรค์ ออกก่อนเพื่อน แล้วเราได้ยินทุกคนในสนามแบบร้องเชียร์ ‘เสกสรรค์ เสกสรรค์‘ ซึ่งในมวยไทยไม่เคยเกิดขึ้นมา มันทําให้เรารู้สึกว่าคนเริ่มเห็นในสิ่งที่เราจะทําแล้ว คนเริ่มเข้าใจว่าเราทําเพื่อกีฬาและพัฒนามวยไทย
ส่วนนักกีฬาก็มีแรงจูงใจมากขึ้น
ใช่ นักกีฬาก็ไม่จําเป็นต้องมาล้มมวยแล้ว เพราะในสิ่งที่ตอบแทนเราให้เขาอ่ะ สูงนะครับ แล้วเขาก็ได้มีอนาคตที่คิดว่าวางเป้าหมายต่อไปได้ มันไม่ใช่แค่อยู่ในประเทศไทยแล้ว อย่างวันแชมเปี้ยนส์ยังมีเป็นแบบแข่งแชมป์โลกที่เป็นจัดการแข่งขัน เขาก็สามารถมีความฝันที่มันเข้าอย่างแชมป์โลกได้ครับ
ถ้าย้อนมองกลับไป ความสำเร็จแบบนี้มันก็ไม่ง่ายเลยในวงการมวยไทย
ไม่ง่ายเลย พูดเลยว่า กว่าที่ลุมพินีจะหลุดพ้นจากการพนันได้ คนต่อต้านเป็นปีสองปี เขาอาจจะนึกว่าเราต้องง้อการพนัน เพื่อให้มวยไทยอยู่รอด แต่เราต้องพิสูจน์ว่ามันไม่จําเป็น เราไม่ได้กีดกันให้เขาไม่พนัน แต่ขออย่าให้มันมาเข้ามาในพื้นที่เรา เพื่อทำให้มวยไทยมันเป็นอาชีพจริงๆ อย่างฟุตบอลคุณก็มีเงินเดือน มีผลตอบแทนที่ดี แต่ก่อนนั้นมวยไทยไม่มีแต่เดี๋ยวนี้ถ้านักมวยเก่งก็แสนหรือสองแสน ไหนจะโบนัสอีกสามแสนห้า
ยกตัวอย่างง่ายๆอย่างเสกสรรค์นะครับต่อให้เฉลี่ยแสนกว่าบาทแต่พอมาต่อยกับวันลุมพินีสี่หนน่าจะได้ไปประมาณสี่ล้านคือซื้อบ้านได้แล้วมีอะไรทุกอย่างที่ดีขึ้นแล้วเพราะฉะนั้นเราทําให้เห็นว่ากีฬามวยไทยมันไม่ใช่เป็นกีฬาที่สําหรับคนจนอีกต่อไปแล้ว
เดี๋ยวนี้ใครที่อยากจะชกมวยเป็นวัยกลางคน หรือว่าเป็นแบบอยู่ระดับกลางและอยากจะชกมวยมี passion เกี่ยวกับมวย เนี่ย มันเป็นอาชีพได้เลย มันไม่ใช่แค่เป็นกีฬาของคนจนอีกแล้ว
ตอนนั้นที่ทําแล้วโดนต่อต้าน โดนในเรื่องอะไรบ้าง?
ผมอาจจะไม่ได้โดนโดยตรงนะครับอาจจะเป็นนายสนามเพราะว่าจะไม่เข้าสนามโปรโมเตอร์ที่มีเกี่ยวกับการพนันเขาก็จะไม่ค่อยอยากจัดเพราะว่าคนที่ซื้อตั๋วก็คือพวกเซียนพนันอะไรอย่างเงี้ยมันโดนต่อต้านมาสองปีแล้วก็แบบกรรมการก็ต้องมีการโล๊ะทิ้งเยอะพอสมควรเพราะว่ากรรมการที่นี่ก็เข้มงวดว่าห้ามที่จะคุยกับโปรโมเตอร์หรืออะไรเลยล้างระบบสมองการให้คะแนนทุกอย่างหมดซึ่งมันคือการล้างสิ่งที่มวยไทยมันคุ้นชินมาเป็นสี่หรือห้าสิบปี
ที่คิดว่าอยากจะล้างระบบ แล้วจะให้มีสิ่งใหม่เข้ามาเติมเต็มมากขึ้น มั่นใจไหมว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้
ได้ แต่ต้องใช้เวลา เพราะว่าคนรุ่นเก่าๆ เนี่ย ก็เริ่มจะหายไปแล้วเพราะเนื่องจากว่าตอนนี้ก็อายุหกสิบเจ็ดสิบกันแล้วแหละ เพราะฉะนั้นเราก็พยายามจะทําใหม่ แล้วก็ให้ได้เป็นทาร์เก็ตกรุ๊ปคนใหม่เพราะว่ามันเป็นจุดรุ่นใหม่แล้วที่เราสามารถพัฒนาในระบบนี้ขึ้นมาได้เราก็ไม่อยากให้แค่คนไทยก็มองแค่คนกรุงเทพแล้วกัน มองมวยเป็นมวยคนจน เป็นพวกมาเฟีย คนเขาก็ไม่กล้าเข้ามาดู ไม่กล้าอะไรด้วย แต่ในสิ่งที่เราทำมาจะหกเดือนแล้วเนี่ย คนได้เริ่มเห็นคุณค่ามากขึ้น เรตติ้งก็ดีขึ้น แต่ก่อนนั้นเรทติ้งของกรุงเทพที่ดูวันแชมเปี้ยน ก็อยู่ประมาณหนึ่งจุดสามหรือหนึ่งจุดสี่ แต่สามเดือนหลังมานี้ก็เริ่มมาอยู่ที่ประมาณสองแล้วสำหรับคนกรุงเทพ แต่เราก็คาดหวังว่าวันหนึ่ง ในปีสองปีนี้เรตติ้งก็จะสามารถไปให้ดูได้เหมือนคนดูเชียร์วอลเลย์บอล แต่มันต้องใช้เวลา เพราะว่า วอลเลย์บอลมันยังไม่ใช่กีฬาของคนไทย แต่มวยไทยเป็นปีละเป็นกีฬาของคนไทย ซึ่งมันจะเป็น soft power ดีๆ ให้กับทุกคนเลย
อะไรคือความยากที่สุดในการไปถึงจุดนั้น
ถ้ายากที่สุดนะ ผมคิดว่าการที่อยากให้ทุกคนมาร่วมมือกัน อยากให้เอาผลประโยชน์มาเป็นที่สอง จากความร่วมมือกันที่จะพัฒนาระบบมวยไทยให้มันดีขึ้น เพราะอย่างที่ One ทําเนี่ย One อยากจะช่วยระบบนิเวศของมวยไทยทุกคนเลย ไม่ว่าจะเป็น โปรโมเตอร์เจ้าของค่าย กรรมการ อย่างนักมวยเนี่ย เราเข้าใจว่ากว่าจะได้นักมวยมาแต่ละคน เจ้าของค่ายก็ต้องใช้เวลา เราก็เลยจะมีแบ่งเปอร์เซ็นต์ส่วนหนึ่งของนักกีฬาให้กับโปรโมเตอร์ ให้เขาได้มีชีวิตดีขึ้น ให้มีกําลังใจที่สามารถทํามวยขึ้นมาใหม่ได้ เพื่อหล่อเลี้ยงระบบของมวยไทยนะครับ
ส่วนกรรมการคนไทย เดี๋ยวนี้ก็ได้ทํางานดือนหนึ่งได้แค่หมื่นสองหมื่น เราก็เลยอยากจะสนับสนุนกลับมาจากการคนไทยขึ้นไประดับโลก อย่างวันลุมพินีก็มีแล้ว ป้อมแต่ก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว ตอนนี้เราก็พยายามจะมีอีกสองคนที่จะพัฒนากรรมการที่อยู่บนเวที แล้วก็หวังว่าจะได้ไประดับโลกเหมือนกัน เพราะฉะนั้น เราก็จะเปิดให้ทุกคนได้แบ่งกัน ไม่ใช่ว่าเราต้องได้อย่างโปรโมเตอร์บางคนจัดมวยเพื่อผลประโยชน์ของเขา มันไม่ช่วยนักกีฬาด้วยแล้วมันจะทําให้นักกีฬาคิดสั้น
ระหว่างความยากในการทําการตลาด กับ ความยากในการเปลี่ยนข้างในวงการมวย คุณเปรมคิดว่าอะไรยากกว่ากัน
เปลี่ยนวงการอาจจะยากกว่า เพราะเราเจอคนเก่าๆ ที่ยังมีความคิดเก่าๆ คือเขาสบายแล้วล่ะในด้านนี้ แต่พอมามี One เข้ามามันทําให้เขาเริ่มกังวลว่าเขาต้องเสียผลประโยชน์ถ้าให้ผมพูดว่าทําไมทุกคนอยากจะดันมวยไทยแต่ทําไมเรากลับไม่มาร่วมมือกัน
เราอยากจะทําเป็น sport entertainment ต่อยกันสามยก แต่เขาอยากจะทําแบบเดิมเป็นมวยไทยห้ายก ซึ่งมันเปิดช่องให้มีการพนันอะไรมันก็ได้ แต่ทำไมเราไม่ร่วมมือกัน หาทางว่าเราจะทํายังไงให้ดีขึ้น แทนที่จะบอก One จัดไม่ถูกตามกฎหมายการกีฬา ใส่นวมไม่ปลอดภัย ซึ่งมันไม่จริง One เราได้ศึกษามาแล้ว ไม่ว่าการความปลอดภัย เรื่อง safety ของนักกีฬา เพราะเรามองว่าความปลอดภัยของนักกีฬาจะต้องมาเป็นที่หนึ่งนะครับ ผมกล้าพูดว่าในประเทศไทย ก่อนนักกีฬาจะเข้าชมต้องไปตรวจร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นตรวจเลือดหรือค่าของเลือดต่างๆ พราะว่าสิ่งพวกนี้มันเป็นโรคที่สามารถติดต่อได้ หรือหลังต่อยเสร็จ ถ้านักกีฬาเจ็บเรารักษาให้ฟรีทุกอย่าง เราดูแลนักกีฬาตั้งแต่หลังชก จนเขาหายบาดเจ็บร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วถ้านักกีฬาน็อกเราก็ต้องบังคับทุกคนว่าต้องดูอาการ ต้องตรวจสแกนสมองก่อน เพื่อความปลอดภัยของนักกีฬา
ดูเหมือนว่า One จะโดนเล่นงานในหลายหลายรูปแบบ มีอะไรที่พอแชร์ได้อีกมั้ย?
เยอะครับ ก็หาว่าเราเรียกมวยไทยไม่ได้ ไม่ทําตามประเพณีไทยหรือวัฒนธรรมมวยไทย บางคนบอกว่า ทําไมไม่มีไหว้ครู ซึ่งเราก็พยายามทําแต่เราอาจจะไม่ได้ไหว้ทุกคู่ เพราะว่าหนึ่ง ค่านิยมเวลาเราอิงไปต่างประเทศ คนจะมาดูนั่งไหว้ครูทุกคู่มันก็ไม่ไหว และข้อสองก็คือว่า แอร์ไทม์ที่เรามีในทีวี มันเป็นจํานวนจํากัด เพราะเราอยากให้มวยเราทุกคู่ ได้ถ่ายทอดสดเพื่อให้คนได้ดู แต่พอมีไหว้ครูไป มันก็กินเวลาอีกเท่าไร เพราะฉะนั้นจะทำให้เวลาการถ่ายทอดสดมันก็จะอาจจะไม่ครบทุกคู่ เพราะนักกีฬาทุกคนที่มาต่อยที่ลุมพินีก็คาดหวังว่าคนดูจะได้เห็นเขาต่อย เพราะมันเป็นเวทีที่วาดความฝันให้กับทุกคน ให้กับคนทั่วโลกได้เห็น
ถามแบบซื่อๆ คุณเปรมกลัวไหม? เวลาโดนอะไรแบบนี้เยอะๆ
ไม่กลัว เพราะว่าผมก็โตมากับมวยไทย ค่ายมวยไทยของผมก็ได้เห็นอะไรมาเยอะ แล้วเราก็สงสารเด็กๆ ที่เป็นนักมวยนะ วันนี้เราทําเพื่อนักกีฬาคนไทย เพื่อให้นักมวยไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น เราไม่อยากเห็นที่นักกีฬาที่มีชื่อเสียง ที่พอเลิกต่อยมวยไปต้องกลับต้องเป็นไปคนนอนข้างถนน ไม่มีงานทํา เราอยากให้คนเห็นว่านักมวยเหล่านี้ก็เป็นฮีโร่ได้ สมมติดูในวงการฟุตบอลก็ชนาธิปที่ดูเป็นฮีโร่ แต่กับมวยไทย เรามีน้อยมากนะ ถ้าให้พูดชื่อนักมวยไทยที่คนรู้จักทั่วประเทศไทยรู้จักจริงๆ ก็มีแค่คนเดียวคือบัวขาว เราก็อยากให้คนไทยมาสนับสนุนในนักกีฬาตรงนี้บ้างครับ
เป้าหมายต่อไปของคุณกับ One ลุมพินีคืออะไร
แน่นอนเป้าหมายก็คือเราอยากจะทําเรตติ้งให้สู้วอลเลย์บอลได้ แล้วเป็นกีฬาที่ยอมรับของคนทั่วประเทศให้ได้ โดยเฉพาะคนกรุงเทพนะครับ ผมเชื่อว่าในหกเดือนนี้เขาเริ่มได้เห็นแล้วล่ะ ไม่งั้นเรทติ้งของกรุงเทพจะไม่มีการพัฒนาขึ้น แต่ก็อยากให้สปอนเซอร์ influencer หรือดาราได้ให้เห็นคุณค่ากับมวยไทย มวยไทยมันเป็น soft power ที่ดีมากอยู่แล้ว ถ้าเราทำได้ดีก็จะมีรายได้ที่จะเข้าประเทศไทยมหาศาลมาก
นักมวยดังๆ ต่างชาติก็มาเก็บตัวที่ภูเก็ตกันหลายคน เพราะภูเก็ตมันเป็นจุดศูนย์รวม ไม่ว่าจะเป็นมวยไทย หรือ MMA Kickboxing ไม่ว่ายังไงทุกคนในโลกที่รู้จักการศิลปะการป้องกันตัวเขาจะมองว่ามวยไทยเป็นกีฬาการต่อสู้ที่ดีที่สุดเวลายืนทุกคนต้องไปเรียนเมืองไทยการต่อสู้ในท่านอนพื้นอาจจะเป็นมวยปล้ำแต่ถ้ามวยไทยคือการยืนต่อสู้ที่ดีที่สุดที่เขาใช้ได้มวยไทยมันจะครบทุกอย่างที่ใช้ได้ถ้ารัฐเราเปิดให้มีการสนับสนุนเพิ่มขึ้นผมคิดว่าเงินรายได้ที่จะเข้ามาในประเทศจะเยอะมาก
คุณอยากเห็นวงการมวยไทยไปทางไหน
สิ่งที่สําคัญที่สุดผมอยากเห็นคือทุกคนร่วมมือกัน ผมว่าตอนนี้เราอยู่ในจุดที่แต่ละคนยังคิดถึงตัวเอง
อยากให้ทุกคนได้ร่วมมือกัน ไม่ว่าทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ค่ายมวยหรือว่าโปรโมเตอร์อื่นๆได้ร่วมมือกันจริงๆเพื่อประโยชน์ให้กับมวยไทย
