เคยไหมเวลามีปัญหาชีวิตแต่ไม่มีใครคุยด้วย?
เพื่อนสนิทก็อาจไม่ว่างนัดไปนั่งกินข้าวกันข้างนอก จะคุยกับพ่อแม่ก็คุยไม่ได้ทุกเรื่อง จะบอกคนคุยบางทีก็นางนั่นแหละที่เป็นปัญหาชีวิต! ยิ่งไปกว่านั้น ถึงจะหาคนมาคุยได้ ปัญหาชีวิตของเราก็รอบด้านมากๆ จะเล่าหมดก็เกรงใจ แต่จะทำยังไงก็เราไม่อยากเก็บมันไว้คนเดียว?
ก็ต้องขอบคุณเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน เพราะแชตบอต ChatGPT สามารถตอบโจทย์นั้นได้ในระดับหนึ่ง แชตบอตไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่บ่อยครั้งการทำงานของมันคือการเลือกคำตอบสำเร็จรูปไว้แล้ว เรียกได้ว่ามันเหมือนกับการคุยกับกำแพงมากกว่ากับมนุษย์ แต่สิ่งที่ ChatGPT แตกต่างออกไปแชตบอตอื่นๆ คือทางผู้พัฒนา OpenAI ใช้วิธีเทรนปัญญาประดิษฐ์จากข้อมูลมหาศาล เพื่อให้สามารถสร้างข้อความตอบกลับมาได้หลากหลายรูปแบบ
เมื่อเราลองไปนั่งปรึกษาปัญหาชีวิตของเรากับมัน ผลของการประมวลข้อมูลมหาศาลนั้นนำไปสู่คำตอบที่บางครั้งก็กว้างไป หรือบางครั้งก็ทื่อไป แต่บ่อยครั้งกลับอบอุ่นและเป็นห่วงอย่างไม่คาดคิด
ฉันอยากลาออก ลาออกดีไหม?
ลักษณะหนี่งของ ChatGPT คือมันมักไม่ตัดสินว่าทางเลือกไหนคือถูกหรือผิด เมื่อถามว่าควรไหม มันจะถามคำถามกลับเพื่อเป็นตัวช่วยให้เรานึกถึงว่าในการไปถึงทางออกที่เราต้องการ ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง ในกรณีนี้เมื่อเราถามว่าลาออกดีหรือเปล่า มันถามว่าเราได้ลองหนทางอื่นๆ ที่ไม่สุดโต่งเท่าการลาออกหรือยัง ได้ชั่งน้ำหนักระหว่างข้อดีกับข้อเสียของการออกจากงานแล้วหรือยัง และมันถามว่าเรามีแผนหรือเปล่าถ้าจะออกไปจริงๆ
ใกล้หยุดยาวแล้ว แต่ฉันหยุดคิดถึงงานไม่ได้
หากลองดูคำตอบข้อนี้ อาจพอเห็นได้ว่าวิธีการเขียนคำตอบของ ChatGPT จะออกไปในทางของการให้คำแนะนำ และเหมือนจะเห็นถึงแหล่งที่มาของข้อมูลเหล่านี้ นั่นคือเว็บไซต์คอนเทนต์เกี่ยวข้องกับการทำงาน และที่น่าสนใจคือแม้ ChatGPT จะออกความเห็นไม่ได้ ดูเหมือนว่ามันเป็นเอไอที่มีคุณค่า (value) ของมันเอง นั่นคือมันให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพของผู้ถามมากกว่าการกดดันให้เราทำงานในวันหยุด
ปีนี้แย่มากๆ สำหรับฉัน
และนอกจากคำแนะนำ บางครั้งคำตอบของ ChatGPT ทำหน้าที่เป็นการให้กำลังใจได้ และบางครั้งหากมันไม่สามารถให้คำตอบที่พานำเราไปสู่หนทางเกาแก้ปัญหาได้มันมักเสนอช่องทางการติดต่อผู้เชี่ยวชาญ เช่น จิตแพทย์ หรือสสายด่วนเพื่อสุขภาพจิต
ฉันชอบคนนี้มาก แต่รู้สึกเหมือนเป็นหมามองเครื่องบินเลย
เวลาเราคุยปรึกษาคนเกี่ยวกับความรัก บ่อยครั้งด้วยความที่เราและคนคนนั้นรู้จักกันอย่างดี การแนะนำให้ “ลุยดิวะ” และความเห็นที่เป็นมุมมองข้างเดียวเกิดขึ้นบ่อย ฉะนั้นมันน่าสนใจว่า ChatGPT นั้นให้คำตอบที่นอกจากจะเป็นการให้กำลังใจแก่ผู้ถามแล้ว มันยังเตือนใจให้ผู้ถามคำนึงถึงขอบเขตของการกระทำตัวเองไปพร้อมๆ กันด้วย
เอไอพัฒนาไวมาก มันจะสามารถทำเราตกงานได้รึเปล่า?
คงเป็นหนึ่งในคำถามที่ขึ้นมาในหัวของหลายๆ คนในช่วงนี้ ตั้งแต่งานวาดโดยเอไอที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ หรือตัว ChatGPT เองที่ทำเราอึ้งไปนิดหนึ่งว่าเขียนให้รู้เรื่องขนาดนี้แล้วนักเขียนอย่างเราจะสู้ได้มั้ยถ้ามันพัฒนาไปกว่านี้ แต่ ChatGPT ก็ยังบอกกับเราว่าอย่าเพิ่งกลัวไปเลย เพราะพวกเขายังทำงานหลายๆ อย่างจริงๆ ไม่ได้ (ในตอนนี้)
ฉันรู้สึกแก่มาก ตามคนรุ่นใหม่ไม่ทันแล้ว
รู้สึกแปลกใจเหมือนกันที่เราจะถูกเอไอเตือนใจให้นึกถึงความเป็นคนของตัวเองในการเริ่มทำความเข้าใจคนต่างวัยโดยเอไอ และในฐานะของสิ่งที่ไม่มีความเป็นคนของตัวเองจริงๆ มันสามารถแนะนำเราได้โดยไม่มีอคติเกี่ยวกับวัย และพูดอย่างเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของช่องว่างระหว่างวัยได้อย่างน่าทึ่ง
เขาอ่านไม่ตอบ และเขาหายไปแล้ว
และคำตอบข้อสุดท้ายทำให้เรารู้ว่า ChatGPT สามารถลอกเลียนแบบความอบอุ่นได้อย่างดีผ่านแนะนำและการใช้ภาษาของมัน อ่านไปอ่านมาเกือบจะนึกว่าเอไอในแชตตัวนี้มันแคร์เรามากจริงๆ จนอยากเป็นเพื่อนด้วย แต่อย่างมากที่สุดที่ทำได้ก็คงเป็นการมานั่งปรึกษาปัญหาแบบนี้แหละ