ถึงจำเป็นรัฐบาลผสม แต่รู้ๆ กันอยู่ว่านโยบายสำคัญย่อมเป็นไปตามหัวเรือแกนนำรัฐบาล นั่นทำให้นโยบายที่เพื่อไทยเคยหาเสียงไว้ ตามสโลแกน ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’ ถูกจับตามองทันทีว่าจะเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่
และเพื่อไม่ให้เป็นแค่ลมปาก ถึงได้มีการกำหนดในรัฐธรรมนูญให้รัฐบาลต้องแถลงนโยบายทั้งหมดก่อนการปฏิบัติหน้าที่เอาไว้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน โดยการแถลงของหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งครม.นี้ นำโดยเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง
ทำให้ใคร? ทำยังไง? ทำเมื่อไหร่? ดูจะเป็นสิ่งที่ประชาชนต่างคาดหวังจะได้เห็นจาการแถลงนโยบาย The MATTER ถือโอกาสชวนย้อนนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ใช้หาเสียง และยังคงเผยแพร่ในเว็บไซต์ของพรรคหัวเรือรัฐบาลอย่างเป็นทางการอยู่ ว่า ‘เหมือนหรือต่าง’ กับคำแถลงนโยบายของนายกรัฐบาลตรีคนที่ 30 หรือไม่ อย่างไร
แรงงานไทย
‘ค่าแรงขั้นต่ำ’ ไม่เคยอยู่นอกสายตาของผู้คน นับตั้งแต่วันแรกที่แต่ละพรรคเริ่มต้นหาเสียง เพราะนี่เป็นเมืองสิ่งชุบชูใจของแรงงานไทยที่ยังคงต้องดิ้นรนเพื่อปากท้อง และพรรคเพื่อไทยก็ไม่ทิ้งโอกาสนี้
ด้วยการชูนโยบายเพิ่มรายได้ภาคแรงงานและการจ้างงาง ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน ภายในปี พ.ศ. 2570 และเน้นว่า “ไม่ได้ใช้แรงงานเป็นตัวประกัน” แต่จะทำให้เศรษฐกิจโตขึ้น และแบ่งผลกำไรเหล่านี้กลับไปให้ภาคแรงงาน ตามหลัก “ทุนนิยมที่มีหัวใจ”
แต่เมื่อถึงคราวแถลงนโยบายกับระบุเพียงว่า “สร้างชีวิตของคนไทยให้มีเกียรติ มีเงินเดือนและค่าแรงขั้นต่ำที่เป็นธรรม สอดคล้องและเพียงพอต่อปัจจัยด้านการดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี”
เท่าไหร่ถึงเรียกว่าเป็นธรรม และเพียงพอ? นับเป็นข้อสงสัยที่อดคิดตามไม่ได้ เพราะไทยติดกับดักมากแค่ไหนแล้วกับคำว่า ‘ดุลยพินิจ’
นอกจากนี้ นโยบายหาเสียงที่ว่า จะให้เงินเดือนคนจบปริญญาตรีเริ่มต้นที่ 25,000 บาทต่อเดือน ภายในปี พ.ศ. 2570 รวมทั้งข้าราชการด้วย ก็ปรากฏในการแถลงนโยบายแต่อย่างใด
รายได้เกษตรกรไทย
ว่าไปแล้ว ‘การแก้ปัญหาหนี้สิน’ เพื่อลดภาระพี่น้องเกษตรกร ดูจะเป็นนโยบายหาเสียงที่สอดคล้องกับการแถลงนโยบายของนายกฯ มากที่สุดก็อาจเป็นไปได้ เพราะมีการพูดถึงการพักหนี้เกษตรกร 3 ปี ทั้งต้นทั้งดอก เร่งรัดออกโฉนด และการเพิ่มรายได้อย่างครบถ้วน
แต่ก็ต้องขมวดคิ้ว เมื่อได้ยินว่า ให้เป็นไป ‘ตามเงื่อนไขและคุณสมบัติที่เหมาะสม’ นั่นเท่ากับไม่ใช่เกษตรกรทุกคนที่จะเข้าถึงสิทธิข้อนี้อย่างนั้นหรือ แถมไม่มีระบุรายได้เฉลี่ยที่เคยพูดไว้ว่า จะเพิ่มรายได้เฉลี่ย 10,000 บาท/ไร่/ปี เป็น 30,000 บาท/ไร่/ปี
ปิดท้ายดีหน่อยที่การจัดการรายได้เกษตรกร ดูจะเป็นนโยบายไม่กี่ด้านที่มีการระบุกรอบเวลาทำงานเอาไว้ ว่าจะเกิดขึ้นภายในปี 2570
สาธารณสุข
คงต้องยอมรับว่า การยกระดับโครงสร้างสาธารณสุขไทยทั้งระบบ เคยเป็นความสำเร็จตามประวัติศาสตร์พรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ครั้งเป็นไทยรักไทย จึงนำมาสู่การชูนโยบายต่อยอดให้สมบูรณ์และดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
ทั้งในการแถลงนโยบาย ก็ยังคงวัคซีนป้องกันปากมดลูกซึ่งเป็นสิ่งหญิงไทยปรารถนาเอาไว้ เพียงแต่ไม่ได้ลงในรายละเอียดว่ามีเงื่อนไขอะไรหรือไม่ เพราะนโยบายนี้มักติดกับดัก ‘เกณฑ์อายุ’ แทบทุกครั้ง
ทั้งนี้ สิ่งที่ตกหายไปคงเป็น นโยบายคว้าใจคนเมืองว่า ‘กรุงเทพฯ จะมีโรงพยาบาลประจำเขตครบทั้ง 50 เขต’ ที่ยังไม่ถูกพูดถึง
ประมงไทย
อาจไม่ได้อยู่ในความสนใจมากนักสำหรับนโยบายประมง แต่หากใครเป็นสาวกเพื่อไทยหน่อยคงไม่พลาด เพราะไม่ว่าแกนนำพรรคขึ้นเวทีไหนก็พูดถึงการแก้ไขปัญหาการประมง โดยไล่เรียงนโยบายที่พร้อมทำทันที ตั้งแต่ยกเลิก พ.ร.ก. ที่เป็นผลพวงรัฐประหาร เร่งเจรจาข้อตกลง IUU (Illegal Unreported and Unregulated fishing) ปลดล็อกประมงพื้นบ้านขนาดเล็ก ฟื้นฟูเศรษฐกิจประมงและทรัพยากรทางทะเล
ถึงได้น่าเสียดายที่ในการแถลงนโยบาย ไม่ได้ลงรายเอียดเท่าที่ระบุไว้ในเอกสารหาเสียงของพรรค
กระบวนการยุติธรรม
อีกคำถามที่รอคำตอบกันมาสักระยะ คือ ตกลงแล้วรัฐบาลเพื่อไทยจะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะหลังการเลือกตั้งที่ผ่านมา นักสืบโซเชียลต่างขุดคำพูดของสมาชิกพรรคที่เคยพูดไว้ จนต้องออกมาชี้แจงกันอยู่หลายครั้ง
ข้อความที่แถลงวันนี้ จึงถือเป็นทิศทางสำคัญของรัฐบาลเพื่อไทย ซึ่งระบุไว้ว่าเป็น ‘นโยบายเร่งด่วน’ เพื่อแก้ปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560
และจุดสนใจพุ่งไปตอนที่ นายกฯ กล่าวถึงว่า จะยึดรูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และไม่แก้ไขในหมวดพระมหากษัตริย์
ส่วนการพัฒนากระบวนการยุติธรรมที่จะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการให้บริการมาเพิ่มประสิทธิภาพ สร้างความโปร่งใส ขจัดช่องโหว่ในการทุจริต ลดค่าใช้จ่าย และปรับปรุงการทำงานของภาครัฐให้เป็นรัฐบาลดิจิทัลนั้น นับว่าไม่ได้ผิดไปจากที่เคยหาเสียงไว้
Soft Power ไทย
Soft Power ของบ้านคุณคืออะไร? นึกเล่นๆ ก็แอบปวดหัวเหมือนครั้งครูถามว่า ‘มีความสามารถพิเศษอะไรบ้าง’
สำรับรัฐบาลเศรษฐามีนโยบายสนับสนุนการสร้างพลังสร้างสรรค์ หรือ Soft Power ของประเทศ เพื่อยกระดับและพัฒนาความสามารถด้านความรู้ ความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย ให้สร้างมูลค่าและสร้างรายได้ ผ่านการส่งเสริม “1 ครอบครัว 1 ทักษะ Soft Power”
โดยไม่ได้พูดถึง ‘การสร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง ด้วยการการันตีรายได้ 200,000 บาทต่อปี’ แต่เพิ่มเติมการส่งเสริมและพัฒนาด้านกีฬา ให้เป็นอาชีพทั้งในบทบาทที่เป็นนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และผู้มีวิชาชีพด้านการสนับสนุนของวงการกีฬา
ยาเสพติด
อีกนโยบายที่เคยเป็นผลงานชิ้นเอกครั้งเป็นรัฐบาลไทยรักไทย แต่ก็ยังเป็นข้อครหาที่ถูกกใช้โจมตีอยู่บ่อย นั่นคือ นโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติด
โดยครั้งนี้ยึดหลักการ “เปลี่ยนผู้เสพ เป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเข้ารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนผู้ผลิตและผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมายอย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด พร้อมทั้งดำเนินการเจรจาทางการทูตกับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนายาเสพติด และดึงประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร
ส่วนที่ยังคงคลุมเครือ คือ การจัดการกับ ‘กัญชาเสรี’ ที่ยังเป็นปัญหาตกค้างจากรัฐบาลก่อน เพราะในการแถลงไม่มีรายละเอียดควบคุมแต่อย่างใด เพียงชี้ว่าจะดำเนินแนวทางนโยบายการใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ เพื่อสร้างมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจเท่านั้น
การศึกษา
‘ปฏิรูปการศึกษาและสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต’ คือ นโยบายด้านการศึกษาตามคำแถลงครั้งนี้ คำถามคือแล้วดำเนินการด้วยวิธีใดบ้างซึ่งยังต้องติดตามต่อไป
ย้อนไปครั้งหาเสียง พรรคเพื่อไทยมีการพูดถึงโครงการอย่าง “Free tablet for all” โครงการ 1 นักเรียน 1 แท็บเล็ต และ โครงการ 1 ครู 1 แท็บเล็ต รวมถึงโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน (ODOS) ซึ่งไม่ได้มีการระบุในการแถลงวันนี้
อื่นๆ
จะไม่พูดถึงนโยบายนี้ไปไม่ได้ สำหรับการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้ทุกคนใช้จ่ายใกล้บ้าน 4 กิโลเมตร ที่ถูกทวงถามตั้งแต่ได้นั่งนำจัดตั้งรัฐบาลว่าจะมีรายละเอียดยังไง
แต่ในการแถลงนโยบาย เศรษฐาระบุเพียงว่า “นโยบายการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital wallet จะทำหน้าที่เป็นตัวจุดชนวนที่กระตุกเศรษฐกิจประเทศให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง” โดยยังไม่ได้ชี้แจงวิธีการแจกจ่ายแต่ประการใด
ทั้งนี้ยังมีนโยบายอื่นๆ ที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากที่หาเสียง แต่ก็มีอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่มีพูดถึงเลย อย่าง นโยบายทุกครัวเรือนมีรายได้ไม่น้อยกว่า 20,000 บาท หรือรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย เป็นต้น