โลกมักบอกเราว่า ผู้ชาย…มันต้องเท่ มันต้องเข้ม ความเป็นชายมันเป็นเรื่องของความดิบเถื่อน ความตรงไปตรงมา ความไม่ปรุงแต่ง ชีวิตแมนๆ มันเป็นเรื่องของหยาดเหงื่อ แรงกาย มันคือความเท่ ความขมปร่า ดังนั้นคำว่า ‘หวาน’ จึงเป็นคำคุณศัพท์ที่ไม่ค่อยถูกเอามาโยงกับชายหนุ่มทั้งหลายเท่าไหร่
เอาล่ะ แต่ว่าแมนๆ ทั้งหลายก็ไม่ได้อยู่คนเดียว หนุ่มๆ (รวมถึงสาวๆ ) ต่างก็ต้องมีแง่มุมของความ ‘โรแมนติก’ คือในหัวใจของคนเราก็มีด้านที่อ่อนนุ่ม และมีความต้องการความหวานอยู่ในใจ
‘เรื่องรักโรแมนติก’ มันเลยมี ‘ความหวาน’ เป็นใจกลางสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน
ในแง่ของความรัก ความสัมพันธ์ หรือการเอาชนะใจแล้ว จากชายหนุ่มที่ไม่ค่อยเข้ากับความหวาน แต่พอมีคนที่หมายปองหรือมีคนอื่นแล้ว สุดท้ายจะต้องปรุงหวานเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์กันบ้าง แต่จะปรุงหวานแค่ไหนและสำหรับบางคนที่พอจะมีความหวานในหัวใจ จะปรุงให้กลมกล่อมได้ยังไงดี
แมนๆ ตรงไปตรงมาครับ
ในกระบวนการการจีบกัน มักจะมีช่วงที่เรียกว่าช่วง ‘โปรโมชั่น’ หรือ Honeymoon Period คือเป็นช่วงที่คนสองคนเริ่มหมายปองกัน และลงทุนลงแรงทำทุกอย่างเพื่อความหวานซึ้ง ซึ่งแน่ล่ะ แค่ชื่อก็บอกว่าช่วงโปรโมชั่น วันหนึ่งมันก็หมดโปรกันไป
ดังนั้นหลายคนเลยอาจจะมองว่า ช่วงโปรโมชั่นคือช่วงแห่งการพยายาม บางครั้งคือการปกปิดตัวตนที่แท้จริงของเราไว้ อย่ากระนั้นเลย จะรักกันต้องรักกันที่ตัวตนจริงๆ งั้นก็จงรับเอาความดิบเถื่อน ความแท้จริง ความไม่ปรุงแต่งของข้าพเจ้าไปซะ
จริงๆ เรื่องนี้ไม่ค่อยเกี่ยวกับความหวานในแง่ของความโรแมนติกโดยตรงเท่าไหร่ คือไม่เชิงว่าเพราะว่าเราจะไม่ใส่หน้ากากใส่กัน แล้วผลคือทำตัวซกมกใส่คนอื่นไปซะให้สะใจไปเลย มันก็ไม่ใช่เนอะ คือไม่ใช่แค่กับคนที่แอบชอบแล้วจะทำตัวโคตรจริงไปใส่หรอก ถ้าทำขนาดนี้ คงยากที่จะหาใครรับสภาพได้
คือมนุษย์เราก็ไม่ได้อยู่ถ้ำเนอะ ยังไงก็ปรับรสชาติ เติมหวาน แต่งเติมสำหรับคนอื่นบ้างซักหน่อยก็ไม่ทำให้เสียตัวตนไป แถมยังทำให้เรามีความน่ารักน่าชิมขึ้นด้วย
เดินตามจินตนาการ
มีนักคิดบอกว่าการแสดงอารมณ์ต่างๆ บางครั้งเกี่ยวข้องกับเรื่องในจินตนาการ เช่นว่า เวลาที่เกิดอาการเศร้าใจ ก็จะต้องไปเดินร้องไห้กลางสายฝนหรือเปิดเพลงเศร้าเดินเข้าฝักบัว ทำนองเดียวกันการแสดงความรักหลายๆ ครั้ง บางทีเราก็ทำตามภาพบางอย่างเช่นเดียวกัน ก็ขึ้นอยู่กับว่าเรากำลังเดินตามจินตนาการแบบไหน
บางทีจินตนาการของความโรแมนติก ก็อาจจะมีความ ‘เกินเรื่อง’ เกินความเข้าใจของโลกใบนี้เกินไปหน่อย
ไอ้ความหวานระดับน้ำเชื่อม หวานหยดย้อยชนิดที่แค่สบตาก็อาจจะน้ำตาลในเลือดพุ่ง การเซ็ตเรื่องราวใหญ่โตเหมือนฉากหนึ่งในหนังสุดโรแมนติก การดูแลเอาใจใส่ แสดงความรักระดับที่คนรอบๆ ต้องหันมาดู
ถ้าเป็นระดับนี้ บางทีก็ให้มันอยู่ในหนัง ในมิวสิควิดิโอไปก่อนดีกว่าเนอะ
จริงๆ แล้วเราก็เข้าใจคำว่า ‘พอดี’ หรือการอยู่ตรงกลาง เรื่องความหวานที่เราต่างเติมเต็มชีวิตสดใสให้ก็เป็นสิ่งที่เราต้องคอยปรุงรสชาติให้พอเหมาะพอสม สำหรับเครื่องดื่มแมนๆ อย่าง MANSOME ก็บอกว่าความหวานที่พอดีนี่แหละสำคัญที่สุด เลยทำ MV เก๋ๆ ไอเดียดีๆ ที่ให้เราได้ลองปรับความหวานดูว่า ผู้ชายหวานๆ ระดับไหน ที่จะเหมาะกับสุขภาพกาย สุขภาพใจ และมีความอร่อยเหมาะกับการลิ้มชิมรส ไปลองปรับและดูตัวอย่างความหวานได้ที่ mansomemv.com