หลังจากฝึกฝนเล่าเรียนมานานหลายปี ก็ถึงเวลาที่ ‘นักวาดรุ่นใหม่’ จะออกมาโชว์ผลงานให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาผู้อื่น นอกจากผลงานเหล่านั้นจะสะท้อนเอกลักษณ์และความคิดสร้างสรรค์ของเหล่านักวาดแต่ละคนแล้ว ยังจะสามารถแปลงเป็นเม็ดเงินทำเป็นอาชีพผ่านการรับจ้างเป็น ‘นักวาดภาพประกอบ’
มองดูแล้วก็คิดว่า นี่แหละ! อาชีพในฝัน เพราะนอกจากจะได้ทำในสิ่งที่รักและถนัดแล้ว ยังมีอิสระในด้านเวลาและการทำงาน อยากจะไปนั่งทำงานที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องเข้าออกออฟฟิศตลอดเวลา หรืออยากจะเลือกรับงานกี่ชิ้นก็ย่อมได้ แถมการรับจ้างทำงานต่อชิ้นก็ดูเหมือนจะเงินดีกว่าการทำงานประจำเสียอีก
แต่ถ้าใครเคยดูภาพยนตร์เรื่อง ‘ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ’ ที่เข้าฉายในปี ค.ศ. 2015 กับฉากปั่นงานสุดโหดของ ยุ่น กราฟิกหนุ่ม นำแสดงโดย ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ หลายคนก็คงจะสะดุ้งตื่นจากความฝัน เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รวบรวมฝันร้ายที่เหล่าอาชีพรับจ้างอิสระจำต้องเผชิญ อย่างการอดหลับอดนอน การตัดขาดจากสังคม การเจ็บป่วย การโดนแย่งงาน การเสียลูกค้า ไปจนถึงการตกงาน
จากภาพยนตร์เรื่องฟรีแลนซ์ฯ เดี๋ยวนี้เราก็มีคนหันมาทำอาชีพฟรีแลนซ์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างน่าประหลาดใจ และหนึ่งในนั้นก็คืออาชีพ ‘นักวาดภาพประกอบ’ หรือ ‘นักวาดอิสระ’ ผู้อยู่เบื้องหลังภาพสวยๆ ที่เราเห็นตามงานกราฟิกทั้งบนโลกโซเชียล รวมถึงในชีวิตประจำวันอย่างนิตยสาร โบรชัวร์ และป้ายโฆษณา
ด้วยความที่ยุคฟรีแลนซ์กำลังเติบโตและกลายเป็นที่ต้องการของตลาด ทำให้หลายคนคิดว่าหากวันหนึ่งกลายเป็นนักวาดที่มีชื่อเสียงขึ้นมาก็คงรายได้ดีไม่ใช่เล่น แต่กว่าจะถึงจุดนั้น ใครจะรู้บ้างว่านักวาดรุ่นใหม่ต้องเผชิญหน้ากับอะไรบ้างเพื่อให้ตัวเองได้แจ้งเกิดในเส้นทางอาชีพนักวาดอิสระ
สร้างจุดขายยังไงไม่ให้ไปซ้ำกับของคนอื่น
อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าอาชีพนักวาดอิสระมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนมากหน้าหลายตาไปหมด เพียงแค่คลิกเข้าเว็บไซต์จัดหาฟรีแลนซ์ ก็แทบจะเรียงมาให้เลือกกันไม่หวาดไม่ไหว การจะแทรกตัวเข้าไปมีพื้นที่เล็กๆ ในวงการจึงนับเป็นเรื่องยากสำหรับผู้เริ่มต้น เพราะรุ่นใหม่จะต้องดึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวออกมาให้ได้มากที่สุด ทั้งสไตล์ ลายเส้น และโทนสี ที่จะต้องมีความโดดเด่น เพื่อให้เป็นที่รู้จักและจดจำของผู้คน
แต่ท่ามกลางผลงานอันล้นหลามของนักวาดรุ่นเก่าซึ่งเดิมทีมีเป็นร้อยเป็นพันสไตล์ การจะหาจุดขายให้กับตัวเองโดยที่ไม่ไปซ้ำกับคนก่อนๆ ถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย นักวาดรุ่นใหม่จะต้องมีความสร้างสรรค์และคิดหนักเอามากๆ โดยที่ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ทิ้งความเป็นตัวเองไปด้วย
หาประสบการณ์เพื่อหาประสบการณ์
ใครๆ ก็คงอยากจ้างคนที่มีประสบการณ์ แต่คำถามที่มักจะวนกลับมาคือ ถ้าไม่ถูกจ้าง แล้วนักวาดจะหาประสบการณ์ได้จากไหน? เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ต้องทำใจและหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะไม่ว่านักวาดรุ่นไหนๆ ก็ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ อารมณ์ก็คงคล้ายๆ กับเวลาเราเป็นเด็กจบใหม่เวลาไปสมัครงาน แล้วบริษัทระบุไว้ว่า “ต้องการประสบการณ์อย่างน้อย 2 ปี” นั่นแหละ
หลังจากสร้างพื้นที่ให้ตัวเองแล้ว การหาลูกค้าแต่ละคนก็ช่างยากเย็น เพราะจะให้คนไว้ใจมือใหม่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ส่วนนักวาดรุ่นที่มีประสบการณ์ก็ค่อนข้างมีฐานลูกค้าของตัวเองอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้นักวาดรุ่นใหม่จึงจะต้องเร่งสะสมผลงานกันอย่างหนัก เพื่อเป็นเครื่องการันตีคุณภาพและความน่าเชื่อถือของตัวเอง และการจะสะสมผลงานเยอะๆ หมายถึงการรับงานจำนวนมาก ซึ่งท้ายที่สุดก็ต้องแลกมาด้วยเวลา สุขภาพ และสังคมรอบข้าง บางคนแทบจะไม่ปฏิเสธงานจากใครเลยเพราะกลัวเสียลูกค้า เสียโอกาส
ความลำบากใจในการตั้งราคา
“ไม่ค่อยโอเคหรอก แต่ก็ด้วยความที่เดี๋ยวนี้คู่แข่งเยอะ ถ้าเราตั้งราคาแพงก็จะไม่มีใครมาจ้างเอา”
“บางทีนะ วาดออกมาดีแค่ไหนก็ขายแพงไม่ได้” นักวาดที่เพิ่งจบใหม่พูดให้ฟัง
ปัญหานี้อาจไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับนักวาดรุ่นเก่าที่มีผลงานและฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นอยู่แล้ว แต่การตั้งราคานับเป็นเรื่องน่าลำบากใจสำหรับรุ่นใหม่ๆ ที่ไม่รู้ว่าจะต้องคิดราคาเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสมกับต้นทุนและคุณภาพของผลงาน หลายครั้งที่เราจะเห็นนักวาดรุ่นใหม่มีการกดราคาผลงานของตัวเองที่ต่ำ เพื่อให้มีโอกาสสามารถแทรกตัวเข้าไปในวงการและสร้างฐานลูกค้าเบื้องต้น เพราะหากตั้งราคาที่สูงเมื่อเทียบกับประสบการณ์ที่มี หลายคนก็กลัวว่าจะไม่มีลูกค้าเข้ามาจ้าง
“การกดราคามันก็มีทั่วไปแหละ เพราะเกณฑ์ตัดสินว่างานประมาณนี้ควรจะเท่าไหร่มันไม่มี เลยขายกันในราคาที่มั่วมากๆ” นักวาดคนเดิมเสริม
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม การกดราคาตัวเองในลักษณะนี้ นักวาดรุ่นใหม่ต้องวาดงานหลายร้อยชิ้นกว่าจะถอนทุนคืน ซึ่งคนภายนอกอาจจะมองว่าอาชีพนี้ ไม่เห็นจะใช้ต้นทุนเยอะเลย มีคอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่องและเมาส์ปากกาหนึ่งด้ามก็สามารถผลิตผลงานออกมาได้หลายร้อยชิ้น แต่ความเป็นจริงแล้วอุปกรณ์เหล่านี้ซ่อนค่าใช้จ่ายที่มองไม่เห็นเอาไว้มากมาย ไหนจะค่าวิชาชีพ ค่าโปรแกรม ค่าเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ ค่าไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่นๆ อย่างค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล ค่าเดินทาง เรียกได้ว่าแทบจะต้องปั่นงานกันจนควันขึ้นคอมพิวเตอร์กว่าจะได้เงินมาโปะในส่วนนั้น
ได้เงินช้า ถูกลูกค้าเอาเปรียบ
“บางครั้งเพื่อนกันก็มาขอต่อราคาบ้าง ขอให้ทำฟรีบ้าง หรือมาคนมาสั่งงานแล้วก็หายไป ไม่จ่ายเงินบ้าง”
“เร่งงานแล้วจ่ายเงินช้า บางทีดีลว่าจะจบในเดือนที่ 1 แต่ดันยืดไปจนถึงเดือนที่ 5 แต่ในสัญญาบอกว่าวางบิลหลังจบงาน 3 เดือน” นักวาดภาพประกอบอิสระคนหนึ่งเล่าถึงปัญหาส่วนตัวที่เคยเจอ
ทุกอาชีพอยู่ไม่ได้หากขาดลูกค้า แต่ในขณะเดียวกันลูกค้าก็พ่วงมาด้วยปัญหาอันน่าปวดใจ โดยเฉพาะอาชีพนักวาดที่จะต้องมีการสื่อสารกับลูกค้าเพื่อบรีฟงาน ซึ่งก็มักจะเจอลูกค้าหลากหลายรูปแบบ ทั้งโดนสั่งแก้งาน โดนต่อราคา โดนของานฟรี โดนลูกค้าชิ่งหายไม่จ่ายเงิน และอีกสารพัดรูปแบบที่จะสามารถนึกออก แต่อันที่จริงแล้วไม่ว่ารุ่นไหนก็คงประสบพบเจอปัญหานี้กันทั้งนั้น เพียงแค่นักวาดรุ่นใหม่บางคนอาจจะต้องยินยอมสักหน่อยเพราะเกรงใจและยังไม่ได้อยู่ในจุดที่ต่อรองกับลูกค้าได้มากนัก
การก่ออิฐแต่ละก้อนเพื่อสร้างพีระมิดสูงจำเป็นจะต้องใช้เวลา ความพยายาม และความอดทน เด็กจบใหม่ในสายอาชีพนี้อาจจะต้องเตรียมตัวรับมือกันเล็กน้อยก่อนลงสู่สนามฟรีแลนซ์ ที่นับวันดูท่าจะขยายใหญ่ขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด