คุณจำได้ไหมว่าตัวเองห้อยพระครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่? ตอนนั้นห้อยพระอะไร? ใครเป็นคนให้? แล้วทำไมถึงเลิกห้อยไป?
คำถามว่าวัตถุมงคลมีพุทธคุณจริงหรือไม่ ยังถกเถียงกันไม่จบสิ้นและคาดว่าจะไม่มีวันจบในศตวรรษนี้ แต่ไม่ว่าจะมีหรือไม่มี วัตถุเหล่านี้เป็นที่พึ่งของใครหลายคน และเปลี่ยนชีวิตใครบางคนได้จริงๆ
‘ไดอาน่า—อริส สารีวงษ์’ เล่าอยู่หลายครั้งตลอดการสัมภาษณ์ราว 1 ชั่วโมงว่าชีวิตของเธอเริ่มต้นจากศูนย์ ครอบครัวยากจนและลำบาก จนกระทั่งค้นพบวิชาดูพระจนทำให้ทุกวันนี้เธอกลายเป็น ‘เซียนพระ’ สายหลวงพ่อเกษม (หลวงพ่อเกษม เขมโก) ที่มีคนติดตามทางช่องติ๊กต๊อก diana.arisss กว่า 700,000 คน อีกทั้งยังเป็นต้นแบบของตัวละคร ‘หมวย’ ในภาพยนต์เรื่องพระแท้ คนเก๊
“เรามองว่าพระเครื่องเป็นกุศโลบายที่ทำให้คนธรรมดาเข้าถึงคำสอนได้ง่ายขึ้น มันทำให้คนที่ไม่ใช่คนดีตลอดเวลาแบบเราฉุกคิดก่อนเวลาจะทำสิ่งไม่ดี” ไดอาน่ากล่าว
“คุณจะมองว่าเจตนารมณ์ที่ดีเหล่านี้เป็นพุทธพาณิชย์ก็ได้ มองว่ามันบาปก็ได้ ส่วนตัวเรามองว่า มีคนอีกมากที่ไม่ได้เล่นพระเพราะแค่ราคาหรืออยากได้เงิน แต่เล่นเพราะศรัทธาจริงๆ เราเองก็สาบานว่าเล่นเพราะศรัทธาหลวงพ่อเหมือนกัน” เธอกล่าวถึงพุทธพาณิชย์
เมื่อคนรุ่นใหม่ ผู้หญิง และพระเครื่องดูไม่ใช่สิ่งที่พบเห็นได้บ่อยนัก เราจึงเดินทางไปห้างพันธุ์ทิป พลาซ่าศูนย์รวมเซียนพระขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของประเทศไทย เพื่อจับเข่าคุยกับเซียนพระรุ่นใหม่คนนี้ถึงมุมมองต่อวงการพระเครื่อง อภินิหารที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเธอเอง รวมถึงปัญหาและอนาคตของวงการพระเครื่องไทย
คุณได้รับพระองค์แรกมาจากใคร เป็นพระอะไร?
น่าจะเป็นหลวงพ่อคูณ (หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ) เป็นรุ่นย่อยๆ ไม่ได้มีราคาอะไร แต่ส่วนใหญ่ตอนเด็กไม่ค่อยได้ห้อยพระ เวลาผู้ใหญ่มาให้จะชอบเก็บไว้ในกระเป๋ามากกว่า
ถือว่าเราเป็นคนโตมากับศาสนาตั้งแต่เด็กเลยไหม?
แม่เราเป็นคนธรรมะธัมโม เข้าวัดทำบุญนั่งสมาธิตลอด สมัยที่แม่เลิกกับพ่อแล้วย้ายกลับบ้านที่ จ.อุดรธานี ทุกตอนเช้าเราต้องไปจังหัน (ถวายอาหารให้พระ) ตลอด หรือโตมาก็ยังเข้าวัด ยิ่งมาเล่นพระยิ่งต้องเข้าวัด
ส่วนเข้าเมื่อไหร่ก็ ณ ฤกษ์สะดวก ช่วงไหนเราอยากเข้าวัดนั่งสมาธิก็แวะไปวัดปากน้ำ หรือวัดคุณแม่บุญเรือน (แม่ชีบุญเรือน—โตงบุญเติม วัดสัมพันธวงศ์) เพราะเราถูกโฉลกกับพระสายเมตตา
ตั้งแต่เด็กๆ คุณมีความฝันอะไรไหม?
ไม่มีเป้าหมายอะไรเป็นพิเศษ แต่เราอยากเป็นคนรวยเพราะบ้านเราจนมาตลอด ตอนเด็กๆ เราโตมาในสลัมคลองเตยถือว่ายากจนมาก จนพ่อเริ่มมีเงินจึงย้ายออกจากสลัมไปอยู่บ้านทาวน์เฮาส์ แต่พอพ่อกับแม่เลิกกันก็ลำบากอีก ต้องย้ายกลับต่างจังหวัดต้องปั่นจักรยานเป็นสิบกิโลฯ เพื่อช่วยแม่เปิดร้านผ้าไทย ซึ่งโคตรลำบากเลย
เรารู้จักความลำบากดีและเราโคตรเกลียดความลำบาก
เราอยากเป็นคนรวย บ้านเราจนมาตลอดทำให้เรารู้จักความลำบากดี
และเราโคตรเกลียดความลำบาก
ในมุมของคนที่เรียนจบรัฐศาสตร์ มองพระเครื่องด้วยสายตาอย่างไร?
เรามองว่าเป็นกุศโลบายทางพระพุทธศาสนาที่ทำให้คนธรรมดาเข้าถึงคำสอนได้ง่ายขึ้น ถึงแม้ศาสนาพุทธจะไม่ได้ให้มีพระเครื่อง หรือบางคนบอกว่าพระอยู่ที่ใจ แต่มันทำให้คนที่ไม่ใช่คนดีตลอดเวลาแบบเราฉุกคิดก่อนเวลาจะทำสิ่งไม่ดี
พระเครื่องในอดีตมีเจตนารมณ์ในการสร้างดีมาก อย่างเหรียญ 6 รอบหลวงพ่อเกษม ก็สร้างเพื่อสมทบทุนไปสร้างโรงพยาบาลสงฆ์ อย่างเหรียญรุ่นกองพันลำปางก็สร้างเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ทหารไปรบ เรามองว่ามันเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจให้คนเราได้ที่สุดแล้ว อย่างตอนเกิดแผ่นดินไหว อย่างแรกสุดที่เราคว้าคือพระเพื่อเอามาคล้องคอ พอเราปลอดภัยก็รู้แล้วว่าควรทำอย่างไรกับเหตุการณ์นี้
เรามองว่าเป็นกุศโลบายที่ทำให้คนธรรมดาเข้าถึงคำสอนได้ง่ายขึ้น
มันทำให้คนที่ไม่ใช่คนดีตลอดเวลาแบบเราฉุกคิดก่อนเวลาจะทำสิ่งไม่ดี
ทำไมถึงศรัทธาหลวงพ่อเกษม ท่านคือใคร?
หลวงพ่อเกษมเกิดมาในตระกูลเจ้าครองนครลำปาง นามสกุลเดิมคือ ณ ลำปาง แต่พอได้มาบวชก็ไม่เคยเอาลาภยศสรรเสริญ เน้นวิปัสสนากรรมฐานนั่งสมาธิในสุสาน
ตอนแรกเราไม่เชื่อเรื่องพระพุทธคุณขนาดนั้น แต่พอเริ่มเก็บพระของท่านแล้วรู้สึกว่าชีวิตดีขึ้นมาก เวลาเราห้อยพระของท่านมันเหมือนกุศโลบายให้เราเข้าถึงธรรมะมากขึ้น อย่างเราจะโกหกใครก็เปลี่ยนใจไม่ทำดีกว่า เราคิดว่าจุดเปลี่ยนเล็กๆ วันละ 1% แบบนี้ทำให้เราเป็นคนที่ดีขึ้น เราจึงศรัทธาหลวงพ่อเกษมมากๆ
ตอนที่เราเข้ามาวงการพระครั้งแรก บ้านของเราไม่ได้ร่ำรวย แม่เปิดร้านขายผ้าอยู่ จ.อุดรธานี พอเรียนจบและกำลังคิดจะกลับต่างจังหวัด บังเอิญได้มาศึกษาเรื่องพระเครื่องแล้วขายได้ เราเลยศรัทธาหลวงพ่อมากๆ
ในมุมของคุณ เสน่ห์ของพระเครื่องคืออะไร?
มันเป็นกุศโลบายของศาสนาพุทธ สมมติว่ามีคนชวนพี่ไปวัดเฉยๆ กับชวนพี่ไปเอาตะกรุดที่วัด อันไหนทำให้พี่อยากไปมากกว่ากัน วัตถุเหล่านี้คือกุศโลบายที่ทำให้คนทำนุบำรุงศาสนา เข้าวัดทำบุญไหว้พระ และยังมีเรื่องของพุทธศิลป์ความสวยงาม สมัยนี้ลูกค้าที่มาเช่าพระกับเรา นิยมห้อยพระเล็กๆ เพราะมองว่าเป็นเครื่องประดับ หรือบางคนอยากมองหาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และพระเครื่องยังเป็นการลงทุนได้ด้วย
เวลาที่บอกว่าตัวเองเป็น ‘เซียนพระ’ ทำอย่างไรเราถึงได้ชื่อว่า ‘เซียนพระ’ ?
คำว่าเซียนสำหรับเราคือผู้เชี่ยวชาญในสาขาหรือองค์ความรู้หนึ่ง ต้องมี 3 อย่างคือ ประสบการณ์ ความรู้ และความรับผิดชอบ
มีความรู้พอที่จะดูได้ว่าพระแท้หรือพระเก๊ มีประสบการณ์ถูกทดสอบจากของเก๊มาระยะหนึ่ง จนองค์ความรู้แข็งแกร่ง และความรับผิดชอบ ถ้าเซียนพระปล่อยพระแล้วลูกค้าออกใบรับรองไม่ผ่าน เราคืนเงินให้เขาไหม ถ้าไม่คืนก็อย่าเรียกตัวเองว่าเซียนพระเพราะคุณไม่มีความรับผิดชอบ ดังนั้น ถ้าคุณมี 3 สิ่งนี้คุณก็เป็นเซียนพระได้
คุณอยู่ในวงการนี้มาพอสมควร สิ่งสำคัญที่สุดในวงการนี้คืออะไร?
ความซื่อสัตย์ ความเก่ง หรือประสบการณ์จำเป็น แต่มันฝึกกันได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความซื่อสัตย์
คุณเป็นคนรุ่นใหม่แถมยังเป็นผู้หญิง ตอนที่เข้ามาวงการพระครั้งแรกคุณทำอย่างไรให้ได้รับการยอมรับ?
เมื่อก่อนพี่ๆ จะเอ็นดูมาก เวลามีใครเอาพระมาให้ดูจะไม่ให้ดู เพราะเขาเป็นห่วงและกลัวว่าเราจะถูกหลอก แต่เราอยากให้เขาทำเหมือนกับว่าเราเป็นเซียนพระคนหนึ่ง ดังนั้น เราต้องพิสูจน์ตัวเองเวลาพูดอะไรคำไหนต้องคำนั้น เพราะเครดิตสำคัญมากในวงการนี้ ถ้าพูดอีกอย่างทำอีกอย่างจะไม่มีใครเชื่อเลย
อีกอย่างคือมารยาท วงการพระเครื่องมีมารยาทที่เคร่งครัดมากๆ อย่างเช่น การไปที่ไหนต้องไหว้สวัสดีทุกคน หรือพระเข้าหน้าตู้คนไหนต้องเป็นของคนนั้น มันมีกฎมารยาทเหล่านี้ที่เราต้องปฏิบัติให้ได้
สุดท้าย เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ทั้งหมดว่า วันที่เราเจอเก๊เราทำอย่างไรกับเหตุการณ์เหล่านั้น เราเก็บไหม เอาไปคืนเขาไหม เรามองว่าเวลาจะทำให้คนยอมรับเราไปเองโดยปริยาย
เป็นผู้หญิงในวงการพระเครื่องเคยเจอเหตุการณ์กระอักกระอ่วนอะไรที่สุด?
มีครั้งหนึ่งเฮียแจ๊ค (แจ็ค—ศรีรองเมือง) พาเราไปเป็นกรรมการงานประกวดพระเครื่องสายหลวงพ่อเกษมที่ จ.เชียงใหม่ แต่ในสังคมของการประกวดพระเครื่องโต๊ะหลวงพ่อเกษม มีผู้ใหญ่หลายคนที่ไม่โอเคให้เราไปอยู่ตรงนั้น เขาพูดขึ้นประโยคหนึ่งว่า “สายเราไม่เคยมีผู้หญิงมาก่อน” เขาเลยเชิญเราออกจากกรรมการในวันนั้น ตอนนั้นเรารู้สึกว่ากระอักกระอ่วนที่สุดตั้งแต่เล่นพระมาเลย
พอหลังจากจบงานเราก็ไปนั่งร้องไห้อยู่ในห้องน้ำคนเดียว เรารู้สึกว่านอยด์แต่ก็แอบเสียใจ แต่ลึกๆ เขาก็พูดถูกต้องเพราะตอนนั้นทุกคนมีประสบการณ์อย่างน้อยก็ 10 ปี แต่ของเราแค่ 2- 3 ปี เรายอมรับว่าเราอ่อนประสบการณ์
หลังจากนั้นก็ผ่านมาหน่ึงปี ตอนนี้ทางกรรมการของสายหลวงพ่อเกษมก็เปิดโอกาสให้เราเป็นกรรมการแล้ว
คุณเคยเล่าว่าครั้งหนึ่งที่ไปเที่ยว จ.เชียงใหม่ แล้วเผลอเอามือไปจับที่หนีบผมตอนมันยังร้อนจนนิ้วพอง ก่อนเอาพระมาจุ่มน้ำทาแผล จนหายในที่สุด คุณอธิบายเรื่องนี้กับตัวเองยังไง?
เราไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกัน เพราะตอนนั้นเนื้อเราลอกและเละไปหมด มันทำให้เราช็อกมากเพราะเวลาที่เราไลฟ์ คนดูจะเห็นมือเราอยู่ตลอด เราเลยเอาพระปรกใบมะขามหลวงพ่อเกษมองค์ที่ห้อยไปจุ่มน้ำแล้วอาราธนาขอให้น้ำแก้วนี้เป็นเหมือนยารักษาโรคให้อาการเราหาย แล้วพอกลับมาดูนิ้วอีกรอบปรากฏว่าหายแล้ว เหมือนไม่เคยมีร่องรอยของนิ้วที่บาดเจ็บเลย ทุกคนก็ตกใจเหมือนกัน
เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยในแวดวงคนเล่นพระเครื่อง แม้กระทั่งอภินิหารหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดเองก็ตาม เราเคยถามเรื่องนี้กับตัวเองไหมว่ามันคืออะไร?
เคยศึกษาเรื่องจิตไหม (ไม่เคย – ผู้สัมภาษณ์) เราเรียนมานุษยวิทยามามันจะมีสาขาหนึ่งที่เราสนใจมากมันคือ จิตวิทยา ในแง่พลังจิตเราเชื่อมากๆ เราคิดว่ามันเริ่มมาจากเรื่องจิต ดังนั้น ตอนนั้นที่เราหายอาจเป็นเพราะจิตเราตั้งมั่นและศรัทธาหลวงพ่อมากว่าท่านจะช่วยเรา
จิตมีพลังอำนาจมากเกินกว่าร่างกายมนุษย์จะจินตนาการได้ สมองกับจิตลองไปศึกษาดูคะ อิทธิปาฏิหาริย์ต่างๆ เริ่มจากศรัทธาที่แข็งแกร่ง อย่างสายบ้านมีดีที่ทดลองเอามีดมากรีดแผลกันจริงๆ ทำไมเขาถึงไม่เป็นอะไรล่ะ เพราะว่าเขาศรัทธาในครูบาอาจารย์และท่องมนต์กำกับในตอนที่เอามีดมากรีด จิตจึงตั้งมั่นและเชื่อมั่นจนทำให้ร่างกายส่งผลอย่างนั้น ทั้งหมดมาจากเรื่องจิต
ตั้งแต่ช่วงแรกที่คุณบอกว่าพุทธศาสนาไม่ได้ให้มีพระเครื่อง คุณมองว่าของพวกนี้เป็นพุทธพาณิชย์หรือเปล่า?
ถ้ามันมีความต้องการ มีอุปสงค์มีอุปทาน มันก็ต้องมีราคาอยู่แล้ว แล้วแต่คนจะมองและไม่คิดจะเปลี่ยนความคิดใครด้วย
ส่วนตัวมองว่าตั้งแต่อดีตกาล พระเครื่องเป็นวัตถุที่จัดสร้างด้วยเจตนารมณ์ที่ดี เช่น สร้างแจกทหารให้เป็นขวัญกำลังใจก่อนออกไปรบ สมมติ คุณกำลังจะไปรบและอาจจะตาย สมเด็จโต (สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พฺรหฺมรํสี) ให้พระหนึ่งองค์บอกว่าจะคุ้มครองให้ปลอดภัย คุณจะสบายใจขึ้นไหมเมื่อเทียบกับไม่มี หรือวัตถุมงคลหลวงพ่อเกษมหลายรุ่นก็สร้างเพื่อทำนุบำรุงพุทธศาสนา บางรุ่นนำเงินไปสร้างอุโบสถ สมทบทุนสร้างโรงพยาบาลสงฆ์ หรือสร้างโรงเรียน
คุณจะมองว่าเจตนารมณ์ที่ดีเหล่านี้เป็นพุทธพาณิชย์ก็ได้ มองว่ามันบาปก็ได้ แต่ส่วนตัวเรามองว่ามีคนอีกมากที่ไม่ได้เล่นพระเพราะแค่ราคาหรืออยากได้เงิน แต่เล่นเพราะศรัทธาจริงๆ เราเองก็สาบานว่าเล่นเพราะศรัทธาหลวงพ่อเหมือนกัน บางครั้งเรายอมปล่อยพระขาดทุน 15,000 บาทเพราะลูกค้าเขาศรัทธาหลวงพ่อมาก เรายอมให้เขาไปเลย เพราะเขาคือคนที่ศรัทธาและอยากได้ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจจริงๆ
คุณจะมองว่าเจตนารมณ์ที่ดีเหล่านี้เป็นพุทธพาณิชย์ก็ได้ มองว่ามันบาปก็ได้
แต่ส่วนตัวเรามองว่ามีคนอีกมากที่ไม่ได้เล่นพระเพราะแค่ราคาหรืออยากได้เงิน
แต่เล่นเพราะศรัทธาจริงๆ
อันที่จริงส่วนตัวไม่ได้ต่อต้านพุทธพาณิชย์ แต่ที่อยากถามต่อคือ พุทธพาณิชย์ทำให้ศาสนาเสื่อมลงไหม?
ตั้งแต่เข้าวงการพระเครื่องมา เราได้ค้นพบว่าเซียนพระเป็นพุทธศาสนิกชนที่สำคัญมากๆ ในการทำนุบำรุงพุทธศาสนา เซียนพระบริจาคเพื่อสังคมเยอะขนาดที่ทั้งชีวิตเราไม่เคยเห็นมาก่อน เราเลยไม่รู้ว่ามันทำให้ศาสนาเสื่อมยังไง
คุณบอกว่าความซื่อสัตย์เป็นคุณสมบัติข้อหนึ่งของเซียนพระ แต่ในวงการที่ต้องอาศัยคุณธรรมแทนค่ากลางแบบนี้ มันแสดงว่าเป็นวงการที่ยังไม่มีมาตรฐานหรือเปล่า?
ส่วนตัวมองว่ามันเป็นวงการที่ผู้ใหญ่ทำมาได้ดีแล้ว แต่ผู้คนค่อนข้างเยอะ ทำให้การกำกับดูแลให้ทั่วถึงทำได้ยาก
อีกอย่างคือพระเครื่องเป็นวัตถุโบราณงานแฮนด์เมด ราคามันขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ มันไม่ได้เป็นสินค้าที่มีราคามาตรฐานเท่ากันหมด ฉะนั้นที่ถามว่าทำไมถึงต้องมีคุณธรรมและความซื่อสัตย์ เพราะทุกอย่างมันไม่ได้อยู่ในระบบ ไม่ใช่ถ่ายพระส่งมาราคาเท่ากันหมดทุกร้าน มันมีช่องว่างของพระแต่ละองค์เยอะ อย่างกองพันลำปาง 2 วันนี้เช่ามาหลักพัน แต่ถ้าองค์สวยๆ มีเล่นกันหลักหมื่น พอมันมีช่องว่างแบบนี้คุณธรรมเลยกลายเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวที่สำคัญมากในธุรกิจนี้
พระเครื่องเป็นวัตถุโบราณงานแฮนด์เมด ราคามันขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ ทำให้มีช่องว่างของพระแต่ละองค์เยอะ คุณธรรมเลยกลายเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวที่สำคัญมากในธุรกิจนี้
ทุกวันนี้มีทั้งเรื่องพระปลอม ใบรับประกันปลอม ส่งผลอย่างไรกับวงการพระและแก้มันได้อย่างไรบ้าง?
ส่วนตัวเราบอกลูกค้าตลอดว่าดูพระให้ดูจบที่พระ อย่าไปจบที่อย่างอื่น ไม่ว่าใบรับประกันจะเป็นอย่างไร คนขายจะรับปากว่าอย่างไร ดูพระสำคัญที่สุดคือที่องค์พระ เพราะถ้าเราศึกษาอย่างแตกฉานจะรู้ว่าการเล่นพระมีมาตรฐานมานานแล้ว เช่น เหรียญรุ่นนี้ เก๊ — แท้ ดูอย่างไร สุดท้ายย้อนกลับมาในการศึกษาพื้นฐานของพระเครื่อง
ใครจะเช่าพระต้องศึกษาก่อน ไม่ใช่คนนี้บอกมีใบรับประกันคุณเช่า คนนี้บอกให้ราคาเท่านี้คุณปล่อย
เคยมีข้อเสนอให้ผลักดันให้พระเครื่องเป็น Soft Power ส่งออกของไทย คิดว่าเป็นไปได้ไหม?
เป็นไปได้มากๆ เพราะทุกวันนี้คนจีนมองเห็นช่องว่างว่า พระเครื่องมีพาวเวอร์ในการส่งออกและสร้างผลกำไร ทำให้มีคนจีนที่ร่ำรวยขึ้นเยอะแยะจากการเช่าพระในไทยแล้วส่งออกพระเครื่องไปขายที่จีน ความต้องการพระเครื่องในจีนค่อนข้างเยอะ ประเทศอื่นก็เยอะ ลูกค้าเราก็ส่งไปต่างประเทศค่อนข้างเยอะ
อย่างนั้นจะยกระดับวงการพระเครื่องให้ไปถึงจุดนั้นต้องทำอย่างไร?
สร้างมาตรฐาน ในแง่ของการออกบัตรให้มีมาตรฐานและยอมรับกันทั่วไป ไม่ใช่องค์นี้เก๊แต่ออกใบรับประกันได้ องค์นี้แท้แต่ออกบรับประกันไม่ได้ ต้องทำให้มันชัดเจนและทั่วถึง ถ้าสมาคมได้รับการยอมรับจากเซียนโดยทั่วไป การออกบรับประกันจะยิ่งทำให้ได้พระเครื่ององค์นั้นน่าเชื่อมากขึ้น
อันที่จริง ทุกวันนี้ ยังไม่มีโรงเรียนสอนดูพระเลย?
ใช่ จริงแล้วเราอยากทำมากนะ ตอนนี้มันมีหนังสือเกี่ยวกับพระเครื่องเยอะมาก และองค์ความรู้แตกกระจายมาก แต่ไม่ขอรับปากว่าจะทำ (หัวเราะ)
ชีวิตตอนนี้ถือว่าถึงจุดที่สำเร็จหรือยัง?
ยังห่างไกลอีกเยอะ เป้าความสำเร็จคืออยากเห็นคนไทยทุกคนห้อยพระ สมัยนี้ศาสนาไม่ได้เจริญเหมือนสมัยก่อน เรารู้สึกว่ามันเสื่อมลงไปเยอะในแง่ของคนที่เข้าวัดทำบุญ นั่งสมาธิ สวดมนต์ ทำให้สังคมสมัยนี้ค่อนข้างใจร้ายต่อกันไปนิดนึง แต่ถ้าทุกคนห้อยพระ อย่างน้อยเวลาที่เราจะคอมเมนต์ว่าใครในโลกออนไลน์ หรือทำอะไรที่ไม่ดีใส่คนอื่น มันจะช่วยให้เราฉุกคิดก่อนลงมือทำ นี่คือความฝันของเรา แต่ยังห่างไกลมาก
แต่ตั้งแต่เราเข้ามาเล่นพระ เห็นมีคนเข้ามาศึกษาเยอะขึ้นนะ ซึ่งเราก็บอกลูกค้าตลอดว่าเช่าพระไปเราขออย่างหนึ่ง “คิดดี พูดดี ทำดี” แค่นี้หลวงพ่อจะช่วยทุกคน แค่ได้ฝากสิ่งนี้ไปกับพระบนคอเขา เราได้ทำตามความฝันของเราแล้ว
เป้าหมายคืออยากเห็นคนไทยทุกคนห้อยพระ อย่างน้อยเวลาที่เราจะคอมเมนต์ว่าใคร หรือทำอะไรที่ไม่ดีใส่คนอื่น มันจะช่วยให้เราฉุกคิดก่อนลงมือทำ นี่คือความฝันของเรา