ความรักของแฟนคลับตัวเล็กๆ จะยิ่งใหญ่ได้มากขนาดไหน?
ในทุกๆ ปี เราจะได้เห็นโปรเจ็กต์วันเกิดศิลปินจากแฟนคลับอยู่เสมอ ไม่ว่าจะด้อมไหน ศิลปินคนใด ก็มักจะมีแฟนคลับทำสิ่งเหล่านี้ให้อยู่ตลอด เป็นทั้งคำอวยพรและการโปรโมตศิลปินไปในตัว เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แค่ในกรุงเทพฯ แต่ต่างจังหวัดก็เห็นได้อยู่บ่อยครั้ง ในตรอกซอกซอย ย่านการค้า ป้ายร้านป้าขายลูกชิ้นทอด หลังรถตุ๊กตุ๊ก ป้าย mrt จอ mbk และยังสามารถอิมพอร์ตจากประเทศจากไทยไปไกลถึงนานาชาติได้ด้วยเหมือนกัน เรียกว่าความรักและการซัปพอร์ตของแฟนคลับไม่มีพรมแดนไหนมาขวางกั้นได้
เช่นเดียวกับ 10vely (เลิฟลี่) แฟนคลับของ ‘เตนล์—ชิตพล ลี้ชัยพรกุล’ ศิลปินวง WayV, NCT และ SuperM ที่ไม่ว่าปีไหน ก็สร้างความตื่นตาตื่นใจได้ทุกครั้ง ในปีนี้แค่พูดถึงจำนวนประเทศที่ 10vely ชาวไทยทำโปรเจ็กต์วันเกิดให้เตนล์ ยกมือข้างเดียวมานับก็ยังไม่พอ เพราะนอกจากโปรเจ็กต์ในไทยเองแล้ว ยังมีที่เกาหลี ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส อเมริกา ในประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงก็มีเวียดนาม กับอินโดนีเซีย แถมในแต่ละประเทศยังแยกย่อยลงไปอีกหลายแลนด์มาร์ก
และไม่ใช่แค่ตัวโปรเจ็กต์เท่านั้นที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ แต่ยังรวมไปถึงยอดเงินโดเนตที่แฟนคลับต่างพากันโอนเพื่อให้โปรเจ็กต์วันเกิดเหล่านี้เป็นจริงขึ้นได้ (กระซิบว่ายอดโดเนตปีนี้สูงทะลุ 2.5 ล้านบาท)
ด้วยจำนวนเงินที่ไม่น้อย ความคาดหวังและผลตอบรับในตัวโปรเจ็กต์วันเกิดเตนล์ปีนี้ก็น่าจะยิ่งสูงมากขึ้นไปด้วย The MATTER เลยอยากพาทุกคนไปคุยกับทีม TEN Project TH ถึงเบื้องหลังการทำงาน การเตรียมโปรเจ็กต์ รวมไปถึงพลังความรักของแฟนคลับที่มีให้กับศิลปิน
กว่าจะเป็นโปรเจ็กต์วันเกิดเตนล์
จุดเริ่มต้นของโปรเจ็กต์วันเกิด
คำถามแรกที่ The MATTER พกไปถามทีม TEN Project TH คือจำนวนของทีมงานว่ามีทั้งหมดกี่คน ทำไมถึงสร้างโปรเจ็กต์ที่ใหญ่ และกระจายไปทั่วโลกได้ขนาดนี้ แต่คำตอบที่ได้รับกลับมาทำเอาเราต้องร้องว้าว เพราะทีมโปรเจ็กต์วันเกิดเตนล์ มีกันแค่ 3 คนเท่านั้น
จุดเริ่มต้นของการมาทำโปรเจ็กต์วันเกิด เริ่มมาจากความรักที่ทั้ง 3 คน มีให้กับเตนล์ ในระหว่างการสัมภาษณ์ เราได้เห็นทั้งสีหน้า แววตา ท่าทางที่แสนจะกระตือรือร้น เมื่อพวกเขาได้พูดถึงศิลปินที่รัก
“จุดเริ่มต้นของเราเลยเริ่มมาจากตอนงานมาชิตะ หลายๆ คนอาจจะรู้สึกเหมือนกัน เพราะในงานตอนนั้นเตนล์น้ำตาคลอ เราเห็นแล้วก็รู้สึกว่า เราไม่อยากเห็นเขาร้องไห้อีก ไม่ยิ้มก็ได้แต่ไม่ต้องร้องไห้อีกได้ไหม”
“เราอยากผลักดันเขาไปให้ได้ไกลที่สุด อยากเป็นอีกแรงที่ช่วยโปรโมต ช่วยผลักดันเขาไปให้ไกลกว่านี้ ให้เขาได้รับโอกาสที่เขาสมควรจะได้รับ”
“เหมือนกันเลย หลักๆ คือเราอยากให้เขาได้รับสิ่งที่ดีที่สุด ได้รับการโปรโมตที่ดีที่สุด”
การเดินทางของโปรเจ็กต์วันเกิดเป็นยังไง?
“ในการทำโปรเจ็กต์วันเกิดปีหนึ่ง เราไม่ได้คิดกันแค่แป๊ปเดียว แต่ว่าในตลอดทั้งปีถ้าเจออะไรที่น่าสนใจ เราก็จะส่งให้กันตลอด บางอย่างมาแค่ช่วงเวลาเดียวก็หายไป พอถึงช่วงใกล้วันเกิดเราต้องมาเลือกกันอีกทีว่าอันไหนดี อันไหนเหมาะ เราจะทำให้ครอบคลุมที่สุด ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ สื่อ อีเวนต์ หรืออะไรที่แปลกใหม่ระหว่างนั้น เป้าหมายไม่ใช่แค่แฟนคลับอย่างเดียว แต่คนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็ต้องเห็น ในการทำแต่ละครั้งจะต้องคุ้มค่ามากที่สุด เป็นการโปรโมตเตนล์ไปในตัว ซึ่งทุกปีก็จะขึ้นอยู่กับจำนวนเงินโดเนตที่ได้มา แต่ปีนี้ยอดเงินก็สูงมาก ทะลุ 2.5 ล้าน โปรเจ็กต์ก็แยกย่อยออกมาเกือบ 20 พาร์ทเลย”
“เวลาเราจะไปร่วมงานกับใครเราก็ต้องคิด ต้องหาข้อมูลเช็คทุกอย่างเลยว่าเขาเป็นยังไง ผลงานเหมาะไหม คุณภาพงานของเขาเข้ากับสไตล์ของเตนล์หรือเปล่า แล้วเราก็จะดูที่แนวของเตนล์เป็นหลัก เพลงแนวไหน มู้ดกับโทนเป็นยังไง เขาจะต้องตะโกนความเป็นเตนล์ออกมาให้ได้ อันนี้โชคดีตรงที่เราเป็นแฟนคลับ เรารู้เนเจอร์ของด้อมอยู่แล้ว รู้ว่าแบบไหนจะดีประมาณนี้ จริงๆ กระบวนการตรงนี้มันเยอะมาก ใช้ความเก๋าเกมมากกว่า”
“จริงๆ มันก็คือการลงทุน สมมติเราลงไป 1 ล้าน เราจะต้องไม่ได้กลับมา 8 แสน 9 แสน แต่มันจะต้องได้มากกว่า 1 ล้านที่ลงไป ต้องได้กำไร ได้เอนเกจเมนต์ให้เตนล์”
“ระยะเวลาการโดเนตโดยปกติเราจะเปิดโดเนตประมาณ 3 เดือน ก็คือช่วงประมาณตุลาถึงธันวา แล้วพอหลังจากปิดโดเนตช่วงมกรา กุมภา ทั้งเดือนเราก็จะมาลุยโปรเจ็กต์กันแบบจริงจัง แทบจะไม่ได้นอนเลย บางทีติดต่อกับต่างประเทศ ก็ต้องติดต่อในเวลาที่เขาทำงาน ซึ่งเป็นกลางคืนบ้านเรา”
“แล้วแฟนคลับทุกคนน่ารักมาก เขาจะมีวิธีบิ้วกันเอง ปั่นกันเองในด้อม เช่น ไหนขาดอีกเท่าไหร่ 2 แสนหรอ 2 แสนหาร 500 คน ตกคนละเท่าไหร่ พูดกันเล่นๆ แบบนี้ หรือเอาของสะสมของตัวเองที่แบบมีชิ้นเดียวในโลก เอามาประมูลกัน ทุกคนเสียสละแล้วก็ทุ่มเทกันมากๆ แต่คือเรามีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนเตนล์ ให้โปรเจ็กต์วันเกิดเตนล์ดีที่สุด”
“แล้วก็ไม่ใช่แค่ยอดใหญ่ๆ นะที่ทำให้โปรเจ็กต์นี้เกิดขึ้นได้ ตอนที่เรารวมยอด ทำบัญชี จะเห็นเลยว่ามียอดเล็กๆ ยิบย่อยเยอะมาก ทุกคนร่วมใจกันมากจริงๆ ทุกยอดเงินที่โดเนตเข้ามา มีค่าทั้งหมดเลย มันก็คือสิ่งที่เราทุกคนทำเพื่อเตนล์”
2023 มีโปรเจ็กต์วันเกิดอะไรบ้าง?
“จริงๆ มีเยอะมากเลย ตอนสัมภาษณ์อยู่นี่ยังปล่อยออกมาไม่หมด ที่เป็นไฮไลต์คือปีนี้เรามีเหมียวเตนล์ยักษ์ตั้งที่สยามร้อน แล้วก็ที่น่าจะเห็นแล้วก็มีที่เอมควอเทียร์ ชื่อ TEN is ART แล้วก็จะมีร่วมกับ give.me.museums นักวาดแนวอิมเพรสชั่นนิสม์ ที่เราให้เขาวาดสิ่งที่สื่อถึงเพลงทั้ง 4 เพลงของเตนล์ แล้วเราก็จะขยายฐานแฟนคลับไปในกลุ่มแฟนคลับของนักวาดได้ด้วย บวกกับที่สไตล์การวาดของเขามันเข้ากับเตนล์ ไม่จบแค่นั้นนะ เราเอาลายที่เขาวาด ไปทำกระเป๋าผ้าต่อ คอลแลปกับ socialgiver เพื่อให้รายได้หลักหักค่าใช้จ่ายแล้วได้ถูกส่งต่อไปยังมูลนิธิช่วยเหลือคนอื่น ในปีนี้ก็จะเป็นมูลนิธิพู่กัน ที่สนับสนุนแล้วก็ส่งเสริม ในกลุ่มที่เกี่ยวกับกับภาษา ดนตรี ศิลปะ จริงๆ คือเราทำทุกปี แต่ว่าเปลี่ยนมูลนิธิไปในแต่ละปี”
และนอกจากที่ทางทีมเลือกบางที่น่าสนใจมาอธิบายให้เราฟัง ก็ยังมีโปรเจ็กต์อื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากในปีนี้ ทั้งในแล้วก็นอกประเทศ อันที่ได้รับความสนใจตั้งแต่เริ่มตั้งก็จะมี ป้ายเตนล์ที่รถไฟฟ้า สถานีหมอชิต ที่เอาชื่อจริงของเตนล์ว่า ‘ชิตพล’ มาเล่นกับภาษาเกาหลี ‘มอชิดซอโย’ ที่แปลว่าเท่ พอรวมกันเป็น ‘หมอชิตซอโย’ ได้ทั้งชื่อสถานี ชื่อเตนล์ แถมความเท่ลงไปอีก โปรเจ็กต์นี้ทั้งสร้างสรรค์ แล้วก็เรียกรอยยิ้มให้กับคนที่เดินไปผ่านมาได้อีกด้วย
และในเมื่อแต่ละปีที่ทำก็มีโปรเจ็กต์มากมายเต็มไปหมด เราเลยลองให้ทางทีมโปรเจ็กต์เลือกอันที่ชอบมากที่สุด เราก็ได้รับคำตอบจากมา 3 อัน ก็คือ เพลง 1001 (You’re Lovely) – SERIOUS BACON ที่เป็นเพลงแทนความรู้สึกของแฟนคลับ ส่งให้กับเตนล์ในปี 2021, งาน exhibition ‘a 10vely day with TEN’ ที่ Siam center ปี 2022 ที่ได้นักร้องอย่าง ซิน Singular และ วง serious bacon มาร่วมร้องเพลงในงาน และล่าสุดในปี 2023 น้ำตก Happy TEN Day ที่ ICONSIAM ที่ได้รับความสนใจจากผู้คนมากมาย รวมไปถึงเจ้าของวันเกิดอย่างเตนล์เองก็โพสต์คลิปน้ำตกอันนี้ลงไอจีสตอรี่ด้วย
แน่นอนว่าการมาทำโปรเจ็กต์ตรงนี้ ต้องเจอกับคอมเมนต์หรือแรงกดดัน ทางทีมมีวิธีฮีลใจยังไงบ้าง?
“เราจะนึกถึงเตนล์ นึกถึงเวลาที่น้องดีใจที่เห็นสิ่งที่เราทำ นึกถึงแฟนคลับคนอื่นๆ ที่เขาให้กำลังใจเรา โดเนตเงินมาให้เรา เราก็ต้องทำให้สมกับที่เขาไว้ใจ มันมีช่วงที่กดดันนะ แต่เป็นแรงกดดันในทางบวก ไม่ใช่กดดันเพราะคนอื่นด้วย เป็นกดดันจากตัวเองเหมือนเราเคยทำได้ เราก็อยากทำให้มันดียิ่งขึ้นไปอีก อยากให้คนมาชื่นชมเตนล์เยอะๆ เราเห็นคุณค่าของทุกคอมเมนต์ที่พิมพ์มาให้ ฟีดแบ็กต่างๆ เรารับฟังทั้งหมด แต่อาจจะเทคแอ็กชั่นไม่ได้ทุกอันเท่านั้นเอง”
“พวกเราแคร์เตนล์มากๆ แล้วก็แคร์ไปถึงความรู้สึกของแฟนด้อมด้วย เพราะฉะนั้นเลยเราอยากให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุด ส่วนคำพูดที่แซะ หรืออะไรที่ไม่ดี เราจะไม่เก็บมาใส่ใจ”
เป้าหมายต่อไปในอนาคตคืออะไร?
“ในอนาคตอาจจะต้องรอดูกันต่อไป คือ 7 ปีที่ผ่านมา มีสิ่งที่อยากทำแต่ยังไม่ได้อยากทำอยู่นะ เราอยากทำสิ่งที่คุ้มค่ามากที่สุด เราดูแต่สิ่งที่มันคุ้มค่าสำหรับเตนล์ อยากกระจายการมองเห็นให้ได้มากที่สุด”
“ถ้าถูกหวยอยากทำป้ายทางด่วน กับพวกสนามบิน คือถ้าถูกรางวัลที่ 1 นะ คือทำเองเลย ไม่ต้องมีโดเนต คือเราเคยอยากทำป้ายตรงสุวรรณภูมิอะไรแบบนี้ แต่คือปัจจัยหลายๆ อย่างไม่เอื้ออำนวย พอคิดถึงความคุ้มค่าแล้วมันอาจจะไม่คุ้มเลยไม่ได้ทำ แต่คือถ้าถูกรางวัลที่ 1 ทำเองเลย”
“กับมีอีกอันคืออยากจัดงานแบบที่มีเตนล์ตัวจริง เชิญเตนล์มางานเองเลย อันนี้ถ้าทำได้เราก็อยากทำ”
เพราะความรักของแฟนคลับยิ่งใหญ่เสมอ
คิดยังไงกับคำที่ว่า ‘ถ้าไม่มีแฟนคลับก็ไม่มีศิลปิน ถ้าไม่มีศิลปินก็ไม่มีแฟนคลับ’
“เราว่ามันเป็นสิ่งที่อยู่คู่กัน ขนานกันไป จริงๆ แล้วแฟนคลับไม่ใช่แค่คนที่อยู่ในแฟนด้อมนะ แต่หมายถึงทุกคนที่สนับสนุนเขา ไม่ว่าจะในทางไหนก็ตาม การปล่อยผลงานอะไรออกมาล้วนก็ต้องอยากได้รับการสนับสนุน”
“เราว่ามันเป็นสิ่งที่ขาดจากกันไม่ได้ พึ่งพาอาศัยกันและกันอะ แต่ว่าไม่ได้อยากให้มองเป็นบุญคุณหรืออะไรนะ มันเป็นความรักล้วนๆ เลย รักเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ เป็นความรู้สึกข้างใน”
“เราพึ่งพากันด้วยสัญญาใจ ศิลปินทำให้เรามีความสุขประทับใจกับผลงานที่ทำ เราก็ให้แรงซัปพอร์ตเขากลับไป เป็นรักแบบที่ไม่ได้คาดหวัง แค่อยากให้เขามีความสุขและประสบความสำเร็จกับสิ่งที่เขาทำ”
แล้วแบบนี้ทีมโปรเจ็กต์ได้อะไรจากการทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ให้ศิลปิน?
“ได้รอยตรงนี้ (ชี้ถุงใต้ตา)”
“มันก็จะย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นนะ ที่ถามว่าทำไมเราถึงมาทำโปรเจ็กต์นี้ แล้วก็ย้อนกลับไปที่คำตอบที่แล้วที่ว่าศิลปินมอบความสุขให้เรา เราก็อยากส่งแรงซัปพอร์ตกับไปให้เขา”
“กับพอเรารู้สึกว่าเราทำได้ มันจะเหมือนเราได้พิชิตเป้าหมายในใจ ไปเรื่อยๆ ทุกปี อีกอย่างคือเตนล์น่ารักด้วย เขารู้ว่าเราทำเพื่อเขา เตนล์ให้คุณค่ากับสิ่งที่พวกเราทำให้ตลอด จริงๆ ต่อให้เขาไม่พูดถึงเราก็ไม่ได้ซีเรียสนะ แต่เขาดันพูด มันเลยยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าน่ารักจัง ดีจังที่ได้รักเขา”
“เตนล์เหมาะสมกับความรัก เขาทำให้เรารู้สึกว่าเรารักคนไม่ผิด เตนล์ไม่เคยมองข้ามแฟนคลับ เขากล้าที่จะแสดงความรักให้กับแฟนคลับ แล้วเขาก็สมควรได้รับความรักมากจริงๆ อยากให้คนมารักเตนล์เยอะๆ”
อีกหนึ่งสิ่งที่เราเห็นตลอดการสัมภาษณ์นี้ แม้ว่าทั้ง 3 คนจะไม่ได้พูดออกมา แต่เราสามารถรับรู้ได้ก็คือ นอกจากความภูมิใจ และการได้รักศิลปินแล้ว พวกเขาทั้ง 3 คน ยังได้รับมิตรภาพที่ดีจากการชอบศิลปินคนเดียวกันอีกด้วย
และในวันที่การสัมภาษณ์จบลงเราได้รู้คำตอบแล้วว่า ความรักของแฟนคลับตัวเล็กๆ นั้น ยิ่งใหญ่ได้มากพอที่จะทำให้ศิลปินคนหนึ่งก้าวต่อในเส้นทางที่ฝันไว้อย่างมั่นคง