ช่วงหลังๆ หลายคนอาจจะได้ยินข่าว Facebook และ Instagram ประกาศปรับฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่หันไปเน้นคอนเทนต์วิดีโอสั้นและโพสต์แนะนำจากอัลกอริธึมมากขึ้น โดยตั้งเป้าให้บนหน้าฟีดมีโพสต์ที่อัลกอริธึมแนะนำประมาณ 30% ภายในปี ค.ศ.2023 (จากเดิมอยู่ที่ประมาณ 15%) จนมีคนออกมาทวงคืนแอปฯ เดิมที่เคยรู้จัก
อย่างช่วงปลายเดือนกรกฎาคม มีผู้คนกว่า 230,000 คนลงนามในคำร้อง ‘make Instagram Instagram again’ (ทำให้ Instagram กลับมาเป็น Instagram อีกครั้ง) พร้อมกับบอกว่า “เลิกพยายามเป็น TikTok สักที” ส่วน Facebook ก็มีเสียงจากผู้ใช้งานที่ไม่พอใจกับการเห็นโพสต์ของเพื่อนน้อยลง ขณะที่โพสต์แนะนำจาก AI กลับเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ตอนนี้บางคนเลยอาจจะสับสนกับการอัปเดตฟีเจอร์ของทั้งสองแอปฯ ที่เดี๋ยวมา เดี๋ยวหาย ทดสอบแล้วทดสอบอีก เราเลยสรุปทิศทางของ Facebook และ Instagram มาฝากกันว่าตอนนี้ เริ่มมีฟีเจอร์ไหนในประเทศอื่นๆ แล้วหรือวางแผนไว้ว่าจะปรับเปลี่ยนอะไรบ้างในอนาคต
01 ยกเลิกการทดสอบภาพแบบเต็มจอเหมือน TikTok และลดโพสต์แนะนำจากอัลกอริธึม
หลังจากที่มีคนออกมาเรียกร้องผ่านแคมเปญ ‘make Instagram Instagram again’ บน Change.org เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ค.ศ.2022 ที่ผ่านมา รวมทั้งอินฟลูเอนเซอร์ระดับโลกอย่าง ‘คิม คาร์ดาเชียน’ (Kim Kardashian) และไคลีย์ เจนเนอร์ (Kylie Jenner) ทำให้ Instagram ยกเลิกการทดสอบโพสต์ภาพและวิดีโอในฟีดแบบเต็มจอเหมือนกับใน TikTok เพราะหลายคนบอกว่าใช้งานยากขึ้น ส่วนเรื่องการลดโพสต์แนะนำจากอัลกอริธึมจะเกิดขึ้นแค่ ‘ชั่วคราว’ ระหว่างหาฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากขึ้น แต่ก็ยังมีโพสต์แนะนำอยู่เหมือนเดิม
02 ทุกวิดีโอที่โพสต์จะกลายเป็น Reels ทั้งหมด
ก่อนหน้านี้เวลาโพสต์วิดีโอ เราจะมีตัวเลือกระหว่างโพสต์เป็น ‘วิดีโอทั่วไป’ กับ ‘Reels’ แต่หลังจากนี้ ‘ทุกวิดีโอ’ ที่โพสต์จะไปโผล่ในช่อง Reels ทั้งหมด ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในช่วงทดสอบ ทำให้บางแอคเคานท์ยังสามารถโพสต์วิดีโอได้ตามปกติ แต่บางแอคเคานท์จะสามารถโพสต์ได้แค่ Reels เท่านั้น
03 ระบบ subscription คนดัง/ครีเอเตอร์
นอกจากโพสต์บนหน้าฟีดแล้ว ยังมีฟีเจอร์ subscription สำหรับครีเอเตอร์หรือคนดังบางคน โดยผู้ใช้งานสามารถกด subscription และจ่ายเงินตั้งแต่ 0.99 – 99.99 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน เพื่อเข้าถึงเนื้อหาอย่าง story Live หรือคอนเทนต์อื่นๆ ที่คนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้ แม้ตอนนี้ระบบ subscription ยังเปิดใช้เฉพาะในสหรัฐอเมริกา แต่ไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจจะเห็นฟีเจอร์นี้เปิดใช้งานทั่วโลกได้เหมือนกัน
04 ฟีเจอร์ NFT ใน Instagram
ฟีเจอร์นี้จะเชื่อมต่อกับดิจิตอลวอลเล็ต และสามารถแชร์ NFT ผ่าน Instagram ได้ โดยภาพที่เป็น NFT จะมีแท็ก ‘ของสะสมดิจิทัล’ (digital collectible) แปะไว้พร้อมกับข้อมูลผู้สร้างและ/หรือเจ้าของ NFTรวมทั้งคำอธิบายสั้นๆ
จริงๆ ฟีเจอร์นี้เปิดตัวมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เฉพาะในสหรัฐอเมริกา และเมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา Instagram ได้ประกาศว่าจะขยายฟีเจอร์นี้ไปอีก 100 ประเทศ ในแอฟริกา เอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และอเมริกา
01 เพิ่มหน้า Feeds ที่ไม่มีโพสต์แนะนำจากอัลกอริธึม
หลังจากที่หลายคนบ่นว่าบนหน้า Facebook เต็มไปด้วยโพสต์ของเพจที่ไม่ได้กดไลก์ คอนเทนต์ที่ไม่ได้สนใจ แต่ผู้ใช้งานอยากเห็นโพสต์ของเพื่อนมากกว่านี้ Facebook เลยเพิ่มหน้า ‘Feeds’ เข้ามาแทน โดยหน้า Feeds จะมีโพสต์ของเพื่อน คอนเทนต์จากเพจที่เรากดไลก์ และกลุ่มที่เราเข้าร่วม โดยไม่มีโพสต์แนะนำจากอัลกอริธึมโผล่มากวนใจ (ส่วนหน้าแรกก็ยังคงไว้เหมือนเดิมโดยใช้ชื่อว่า ‘Home’ แทน)
02 ไม่มี VDO live shopping
Facebook ประกาศว่าตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ.2022 เป็นต้นไป เหล่าพ่อค้าแม่ค้าจะไม่สามารถใช้ VDO live shopping ได้อีกต่อไป (แต่ยังใช้ Facebook Live ได้เหมือนเดิม) เพราะ Facebook ต้องการเน้นวิดีโอขนาดสั้นมากขึ้น และการทำเป็น Reels อาจทำให้ผู้ใช้งานเห็นรายละเอียดของสินค้าได้มากกว่าอีกด้วย
03 Music Revenue Sharing เพลงประกอบแบบถูกลิขสิทธิ์
Music Revenue Sharing คือฟีเจอร์ที่ช่วยให้เหล่าครีเอเตอร์มีตัวเลือกเพลงประกอบคลิปวิดีโอได้มากขึ้น แถมยังถูกลิขสิทธิ์ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเป็นวิดีโอความยาวอย่างน้อย 60 วินาที และเนื้อหาหลักไม่ใช่เพลง (แค่เอาเพลงไปประกอบคลิปเท่านั้น) ซึ่ง Facebook จะแบ่งรายได้ 20% สำหรับครีเอเตอร์ และอีก 80% สำหรับ Facebook และเจ้าของลิขสิทธิ์เพลง
อ้างอิงข้อมูลจาก
Blog.hootsuite.com 01 , 02 , 03