แม้จะเป็นสิ่งของที่เราอาจะเห็นผ่านตากันอยู่บ่อยๆ ทั้งผ่านอินเทอร์เน็ต รวมถึงเห็นคนวางขายกันตามตลาด และเว็บช้อปปิ้งออนไลน์กันอยู่บ่อยๆ แต่เซ็กซ์ทอยก็ยังคงมีสถานะที่เป็นสิ่งของ ‘ผิดกฎหมาย’ ที่รัฐไทยห้ามจำหน่ายอยู่จนถึงวันนี้
ประเด็นเกี่ยวกับเซ็กซ์ทอย เริ่มถูกนำกลับมาพูดถึงกันอีกครั้ง เมื่อมีความพยายามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนหนึ่ง ที่พยายามจะเสนอให้เซ็กซ์ทอยกลายเป็นสินค้าควบคุมที่ถูกต้องกฎหมาย
ในส่วนนี้เราขออธิบายความหมายของสินค้าควบคุมกันสักเล็กน้อยว่า โดยหลักๆ แล้ว มันจะหมายถึงสินค้าที่ถูกกฎหมายแหละ แต่ต้องอยู่จำหน่ายกันภายใต้เงื่อนไขบางอย่างที่รัฐกำหนดให้ เช่น จำกัดอายุคนซื้อ จำกัดสถานที่จำหน่าย หรือก่อนจะซื้อต้องมีการแสดงหลักฐานหรือตัวตนอะไรบางอย่างก่อน
ที่ผ่านมาก็มีหลายๆ ฝ่ายที่ออกมาส่งเสียงเรียกร้องให้รัฐหันมาสนใจเรื่องนี้กันเสียที และควรมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษา เพื่อทำให้เซ็กซ์ทอยกลายเป็นสินค้าที่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างเป็นทางการ
ในช่วงเวลาที่กระแสความเคลื่อนไหวนี้ยังไม่ชัดเจนมากนักว่าจะเดินไปทางไหน The MATTER เลยต่อสายพูดคุยกับ Pornhubber (พูดง่ายๆ คือคนทำคลิปโป๊และ Sex Tape นั่นเอง) อย่าง ชายต๊อง & หญิงเพี้ยน เพื่อสอบถามถึงความเห็นของเขาในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่กับวงการเรื่องเพศมาพอสมควร และเป็นหนึ่งในคนที่เห็นว่า ถึงเวลาที่สังคมไทยควรปลดล็อคเซ็กซ์ทอยกันได้แล้ว
ทำไมเขาถึงคิดแบบนั้น? บทสัมภาษณ์นี้จะพาทุกคนไปสำรวจความเห็นของเขากัน (เราคุยกับชายต๊องคนเดียวนะ)
อยากเริ่มต้นอย่างนี้ก่อนว่า ทำไมถึงมาเป็น Pornhubber ได้
จุดเริ่มต้นของการเข้าสู่วงการคือ ผมกับแฟนอยากจะทำวิดีโอ sex tape เพื่อเก็บความทรงเป็นเกี่ยวกับเซ็กซ์ไว้ดูในอนาคต ซึ่งฝรั่งเขามีกันเยอะมากนะครับ ตอนแรกผมก็เอาคลิปไปลงในทวิตเตอร์ และมีคนแชร์เยอะขึ้นเรื่อยๆ ผมเลยคิดว่า แล้วทำไมเราไม่เอาสิ่งนี้ไปทำเป็นรายได้ไปเลยล่ะ จากนั้นก็เลยลองทำคลิปลงในกลุ่มไลน์ หรือกลุ่มลับต่างๆ ผมก็เคยทำมาแล้ว แต่ผมรู้สึกว่ามันไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่ ในที่สุดก็เลยเลือกที่จะทำคลิปลงเว็บ Pornhub แทน
ที่บอกว่ารู้สึกไม่ปลอดภัย หมายถึงอะไร
ผมคิดว่าคนไทยยังไม่ค่อยให้เกียรติคนที่ทำงานสายนี้เท่าไหร่ เนื่องจากมันเป็นงานที่กฎหมายมันยังไม่รองรับ คือมันยังผิดกฎหมายอยู่ ขณะเดียวกัน เราก็ยังไม่มีกฎหมายที่เข้ามาช่วยปกป้องคนที่ทำงานเป็น sex worker หรือคนที่เป็น content creator ที่เป็นสายหนังโป๊ได้เลย เท่ากับว่าทุกคนต้องดิ้นรนกันเอง
ทีนี้ พอมันยังเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ก็จะมีคนประเภทที่พร้อมจะทำอะไรกับเราก็ได้ จะบูลลี่ยังไงก็ได้ จะข่มขู่ยังไงก็ได้
เพราะหลายๆ คนยังไม่ได้มองว่ามันคืออาชีพที่ก็มีเกียรติรึเปล่า
สังคมเราสอนกันมาแบบนี้ คนรุ่นก่อนๆ สอนกันมาว่า ผู้หญิงที่สำส่อน ผู้หญิงขายตัว คือผู้หญิงที่ลดศักดิ์ศรี ลดคุณค่าของตัวเอง ทุกคนคงเคยได้ยินคำพูดว่า เอาร่างกายไปขายก็เหมือนลดศักดิ์ศรีความเป็นผู้หญิง-ผู้ชาย หรือประมาณว่าผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัว จะประเจิดประเจ้อเรื่องเพศไม่ได้ ผมคิดว่ามันเป็นทัศนคติที่ผิด แล้วพอมันถูกปลูกฝังมาเรื่อยๆ มันก็แก้ไขได้ยาก
ในคลิปของคุณก็มีการใช้เซ็กซ์ทอยอยู่บ่อยๆ คุณไปหามันมาจากไหน
ของพวกนี้มันถูกขายกันโต้งๆ อยู่แล้วนะ หรือค้นหาในเว็บช้อปปิ้งออนไลน์ก็เจอได้ไม่ยากเลย มันเจอได้อยู่แล้ว คนขายเขาอาจจะเลี่ยงๆ ใช้คำเรียกอ้อมๆ ว่า ‘ตัวสั่น’ หรือ ‘ที่นวด’ แต่มันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นเซ็กซ์ทอย ผิดกฎหมายก็จริง
แต่ถึงแม้จะขายกันอยู่แล้ว แต่ไม่ได้แปลว่าเราไม่ควรทำให้มันถูกกฎหมายนะ การที่หาง่าย ไม่ได้หมายความว่าไม่ควรจะถูกกฎหมาย
ผมคิดว่ามันไม่มีเหตุผลเลยที่จะทำให้เซ็กซ์ทอยอยู่ในสถานะผิดกฎหมายต่อไป มันคือความล้าหลังอย่างหนึ่งของสังคมเรา ในเมื่อต่างชาติเองก็มีงานวิจัยมาพอสมควรแล้วว่าเซ็กซ์ทอยมันมีประโยชน์ หรือมันมีวิจัยว่าส่งผลยังไงกับคนกลุ่มไหนบ้าง
แล้วเซ็กซ์ทอยมันมีประโยชน์ในแง่ไหนบ้าง
เซ็กซ์ทอยมันเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยบำบัดในเรื่องอารมณ์ทางเพศ สิ่งที่มันช่วยได้ชัดๆ เลยคือการช่วยสำเร็จความใคร่ หรือถึงจุดสุดยอด ผู้หญิงหลายคนอาจจะไม่ได้ไปถึงจุดสุดยอดได้ในระหว่างที่มีเซ็กซ์ ขณะเดียวกัน ผู้ชายบางคนก็ไม่สามารถทำให้ได้ ผู้ชายบางคนไม่เสร็จก็มี หรือบางคนอยู่คนเดียวและไม่รู้ว่าจะปลดปล่อยอารมณ์ทางไหนนอกจากการช่วยตัวเอง บางคนก็ใช้เซ็กซ์ทอยแบบโฮมเมดที่เอาเนื้อสัตว์มาใช้ ซึ่งมันก็ไม่ถูกสุขลักษณะเท่าไหร่
นอกเหนือจากนี้ก็ยังมีประโยชน์อีกหลายด้าน เช่น การช่วยให้ความรักไม่จืดชืดมากเกินไป ในฐานะที่ผมอยู่ในสายงานนี้ก็เคยฟังเรื่องราวมาเยอะ มีคนทักมาปรึกษาผมหลายเรื่อง เช่น “พี่คะ ทำยังไงคู่ของหนูที่อยากจะมีเซ็กซ์ที่ดีขึ้น” หรือ “พี่ครับ เวลามีเซ็กซ์กับแฟน แฟนไม่เคยเสร็จเลย ผมควรจะทำยังไงดี”
คุณมองการพูดคุยเรื่องเพศและเซ็กซ์ทอยในสังคมเรายังไงบ้าง
การปลูกฝังจากสังคมเรามันทำให้เรื่องนี้มันอยู่ในจุดที่น่าอาย คนไม่กล้าถาม ไม่กล้าคุยกัน เราไม่มีอะไรที่จะไปช่วยแก้ปัญหานี้นอกจาก Google คนก็ต้องไปหาคำตอบในนั้นกัน บางทีก็ได้คำตอบบ้าง ไม่ได้คำตอบบ้าง ผมคิดว่ามันถึงจุดที่สังคมเราควรทำเรื่องนี้ให้เปิดเผยมากขึ้น ประโยชน์ของการทำให้เซ็กซ์ทอยถูกกฎหมาย มันอาจจะอยู่ตรงที่ช่วยให้สังคมเราสามารถพูดถึงเรื่องนี้กันได้กว้างขวางมากขึ้น
คิดว่าเซ็กซ์ทอยมันช่วยเพิ่มความเข้าใจเรื่องเพศได้ยังไงบ้าง
สังคมเรามันมีคำว่า ‘ขึ้นครู’ หรือการไปเปิดบริสุทธิ์กับคนจริงๆ ผมถามว่า กับคนจริงๆ แล้วมันจะเกิดขึ้นจากกอะไรบ้าง ก็มีอยู่สองสามช่องทางคือ ข้อแรกคือมีแฟน ข้อสองคือมี sex friend / sex partner ข้อสามคือซื้อบริการจาก sex worker ผมถามว่า แล้วทำไมเราไม่เพิ่มทางเลือกที่สี่อย่างเซ็กซ์ทอยเข้าไปล่ะ มันปลอดภัยมากกว่าสองสามช่องทางแรก แล้วมันก็ง่ายกว่า เสี่ยงน้อยกว่า
เซ็กซ์ทอยมันเป็นฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์คนด้วย ถ้าสมมติว่าเราไม่มองเชิงลามก ถ้าผมเปิดหนังสือสุขศึกษาเพื่อให้รู้ว่าอวัยวะเพศของเพศตรงข้ามไปยังไง หรือครูก็สามารถใช้เซ็กซ์ทอยช่วยในเรื่องเพศศึกษาได้เหมือนกัน
มันเลยเป็นเหมือนเพศศึกษาในห้องนอน
นอกจากเป็นเรื่องเพศศึกษาแล้ว มันยังเป็นส่วนหนึ่งในการบำบัดด้วยนะ เพราะว่าหน้าที่ของมันไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องช่วยสำเร็จความใคร่อย่างเดียว บางคนกลัวการมีเซ็กซ์ บางคนมีเซ็กซ์ไม่เป็น บางคนมีปัญหาเรื่องจุดสุดยอด การมีเซ็กซ์ที่ไม่ดีก็ทำให้บางครอบครัวมีปัญหาเหมือนกัน ซึ่งเซ็กซ์ทอยมันช่วยแก้ไขปัญหาพวกนี้ได้หมดเลย
ผมเคยไปศึกษามา เซ็กซ์ทอยมันมีฟังก์ชั่นที่ช่วยอะไรได้หลายอย่าง ถ้าเราจะทำให้เรื่องเพศแบบ 18+ ในประเทศไทยพัฒนาขึ้น ผมคิดว่าเซ็กซ์ทอยมันคือก้าวแรกที่เราควรทำให้ถูกกฎหมาย
เราต้องพูดกันแบบเปิดอกว่า มันมีผู้ชายที่สอดใส่ไม่เป็นจริงๆ นะ ผู้ชายบางคนไม่รู้ว่าคลิตอริสคืออะไร อยู่ตรงไหน ดังนั้น เซ็กซ์ทอยสามารถเสริมสร้างความมั่นใจและเข้าใจเรื่องเพศได้
คิดว่าการที่สังคมเรายังไม่ปลดล็อคเซ็กซ์ทอยให้ถูกกฎหมาย เราสูญเสียอะไรไปบ้าง
ข้อแรกคือเรื่องของเศรษฐกิจ ผมมองว่ามันเป็นการปิดรายได้ส่วนนึงไปเลย ผมเชื่อว่าประเทศเรามีศักยภาพการผลิตและมีความคิดสร้างสรรค์ ถ้ามันถูกกฎหมายเราสามารถผลิตเซ็กซ์ทอยที่มีคุณภาพไม่แพ้คนต่างชาติ และทำให้มีเอกลักษณ์ของความเป็นไทยผสมผสานเข้าไปได้ด้วย
ข้อต่อมาคือในแง่การศึกษา เราเสียประโยชน์มานานมาก มันคือความย้อนแย้ง ยิ่งเราคงสถานะให้เซ็กซ์ทอยผิดกฎหมายไปเรื่อยๆ เด็กสมัยใหม่ ทุกคนรู้อยู่แล้ว ทุกคนมีแหล่งการเรียนรู้ในอินเทอร์เน็ต แต่ครูไม่สามารถตอบนักเรียนได้ว่าทำไมมันถึงผิดกฎหมาย ไม่มีใครสามารถตอบนักเรียรรุ่นใหม่ๆ ได้ เพราะเด็กรุ่นใหม่เขารู้อยู่แล้วว่ามันไม่สมเหตุสมผล คนต่างชาติเขาใช้กันโดยปกติ มีงานวิจัยรองรับ ประโยชน์มันมีเยอะแยะมากมาย ถ้าไปญี่ปุ่นก็จะรู้ว่าเขาขายกันมากมาย ดังนั้น ยิ่งเรื้อรัง ยิ่งคงสถานะนี้ต่อไปเรื่อยๆ มันก็ยิ่งคงความขัดแย้งให้กับคนรุ่นใหม่ไปเรื่อยๆ
คนที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงก็คือรัฐ เพราะเขาตอบไม่ได้ มันเป็นแค่เรื่องเล็กๆ แต่สามารถทำได้เลย เรามีทุกอย่างแล้ว เรามีตัวอย่างประเทศที่เขาทำไปก่อนแล้ว ซึ่งมันไม่ยากเกินที่จะทำ คำถามคือแล้วทำไมยังไม่ทำให้มันถูกกฎหมายเสียที
จุดยืนของคุณต่อเรื่องการปลดล็อคเซ็กซ์ทอยคืออะไร บางคนก็บอกว่าควรเสรีไปเลย บางคนก็เสนอว่ามันควรเป็นสินค้าควบคุม
ผมคิดว่าเซ็กซ์ทอยควรถูกกฎหมาย โดยมีการออกกฎหมายมารองรับเพื่อจำกัดขอบเขตของมันให้ชัดเจน เซ็กซ์ทอยมันควรเป็นสินค้าควบคุม ไม่ควรปล่อยให้อยู่ในมือของเด็กเล็กๆ ต้องระบุชัดเจนว่าอายุเท่าไหร่ถึงจะซื้อเซ็กซ์ทอยได้ ส่วนคนขายก็ต้องมีใบอนุญาต อาจจะมีร้านที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองก็ได้ แต่คนเข้าไปในร้านต้องโชว์บัตรประจำตัวประชาชนเพื่อระบุอายุ สิ่งเหล่านี้ มันจะทำให้เซ็กซ์ทอยไม่ประเจิดประเจ้อเกินไป
อีกเรื่องหนึ่งคือในแง่ของคุณภาพ ที่ผ่านมาเซ็กซ์ทอยมันก็มีหลายแบบ แบบที่ใช้วัสดุที่เป็นเกรดแย่ ไม่ปลอดภัยต่อร่างกายก็มีเหมือนกัน เซ็กซ์ทอยที่ราคาแพงๆ แบบที่ราคาเกินหนึ่งพันขึ้นไป มันจะเป็นเซ็กซ์ทอยคุณภาพดี ใช้แล้วไม่ป่วย แต่เซ็กซ์ทอยที่ไม่มีคุณภาพ ราคาหลักร้อย มันสามารถพังคาอวัยวะเพศเราได้เลย
ดังนั้น ถ้าเราทำให้มันถูกกฎหมาย เราก็จะได้เซ็กซ์ทอยที่มีคุณภาพมากขึ้น ไม่ใช่เอาเซ็กซ์ทอยที่ไหนมาขายก็ได้ ควรมีจำกัดคุณภาพของมัน เช่น ควรมีความทนทาน มีคุณภาพระดับมาตรฐานการแพทย์ หรือเป็นพิษต่อร่างกายน้อย
เวลาพูดเรื่องทำให้เซ็กซ์ทอยถูกกฎหมาย ก็จะมีผู้ใหญ่ที่อ้างว่า ไม่ควรทำเพราะมันจะส่งผลต่อวัฒนธรรมอันดีงามของสังคมเรา
เวลาพูดเรื่องปลดล็อคเซ็กซ์ทอย จะมีผู้ใหญ่ที่บอกว่า ประเทศเราเป็นเมืองพุทธ มีวัฒนธรรมอันดีงาม ทำให้เด็กใจแตก ทำให้สังคมเสื่อมโทรม เราไม่เหมือนฝรั่ง ผมถามคำเดียว ทำไมญี่ปุ่นหรือประเทศอื่นทำได้ ญี่ปุ่นสามารถผลักดันเซ็กซ์ทอยให้เป็นการส่งออกได้มากนะ แล้วเขาก็คงศาสนาพุทธไว้คู่กับสังคมได้เหมือนกัน
ถ้าอ้างว่าเซ็กซ์ทอยทำให้ประเทศเราเสียวัฒนธรรมอันดีงาม มันก็แสดงว่าวัฒนธรรมของเรามันเปราะบางมาก และไม่มีขอบเขตที่ชัดเจน เราไม่ได้จัดขอบเขตวัฒนธรรมของเราให้ชัดเจนเลย เราสามารถอ้างคำว่าวัฒนธรรมอันดีงามได้เสมอๆ
ผมถามว่าแล้ววัฒนธรรมอันดีงามคืออะไร มันไม่มีคำนิยามที่ชัดเจนเลย
cover illustration by Waragon Keeranan