ในโลกโซเชียล เราเห็นเพจออนไลน์ คอนเทนต์มากมาย ที่เล่าเรื่องการ์ตูน เล่าเป็นเรื่องความรัก หรือใช้คลิปวิดีโอถ่ายทอดประเด็นต่างๆ ออกมาให้เราได้ดูกัน
รวมถึงเพจน้องหมาอย่างเพจ ‘นวล’ ที่ช่วงนี้น้องหมาตัวนี้ ได้ออกมาเล่าเรื่องในประเด็นต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะทั้งประเด็นท้องถนน สังคมการศึกษา ไปจนถึงการเลือกตั้งด้วย
The MATTER ได้ไปคุยกับ กวิน ศิริ เจ้าของเพจนวล ถึงการทำคอนเทนต์ออนไลน์ การหยิบเจ้าหมาๆ ทั้งหลายมาเล่าเรื่องสังคม ประชาธิปไตย ไปจนถึงการเล่าเรื่องพร้อมๆ การขายโฆษณาว่าบาลานซ์อย่างไร กับสิ่งที่อยากพูดกับสิ่งที่ต้องการขาย
ทำไมถึงตั้งในเพจนวลว่า ‘นวลเป็นหมาหน้าโง่ที่จะมาพูดในสิ่งที่คุณคิด’
เวลาทำคลิป เราเริ่มจากไอเดียที่มันทั่วไปมากๆ เพราะว่าเราไม่ได้ทำไว้ดูคนเดียว แต่เราทำให้คนในสังคมดูด้วย แล้วการที่เราจะดึงความสนใจเค้าได้ อย่างน้อยเราต้องพอจะเข้าใจว่าเขาคิดเรื่องอะไรอยู่ ดังนั้นเราเลยบอกว่าเราจะมาพูดสิ่งที่คุณคิด เพราะเราคิดว่าคนทั่วไป อาจจะมีความรู้สึกกับเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง ในปัจจุบัน แต่ว่าไม่ได้ถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดได้ว่าคิดเห็นกับเรื่องนี้อย่างนี้ๆ แล้วจริงๆ เขาแค่รู้ว่าเขาสัมผัสกับเรื่องนั้นยังไง แต่ไม่ได้เรียบเรียง เราเลยรู้สึกว่า ถ้าเราทำคอนเทนต์โดยที่เอาสาระตรงนี้ มาเป็นเนื้อหา มันก็มีทางที่จะทำให้สนุกได้แล้ว เราว่าเริ่มจากการที่ทุกคนมีจุดร่วมตรงนี้ แล้วเราจะทำยังไง ค่อยมาดูว่าจะทำให้มันประชด หรือล้อเลียนไป
ทำไมถึงเอาหมาๆ มาเป็นตัวเล่าเรื่องราว
เพราะว่าหมาน่ารัก เราชอบวาดรูปอยู่แล้ว แล้วก็พอเป็นหมาก็จะมีข้อดีอย่างที่บอกคือ คนให้อภัยมันเยอะขึ้น ถ้าเป็นตัวละครคนก็จะดูน่าหมั่นไส้มาก และก็จะถูกคิดว่า มันต้องอยากจะบอกแมสเซจบางอย่างทั้งหมาก็มีข้อดีตรงทีคนจะไม่รู้สึกว่ามันเป็นตัวแทนของอะไร ไม่ได้เป็นตัวแทนของชนชั้นกลาง หรือคนกลุ่มใด คือมันเป็นหมา มันเลยเป็นข้อดีของการที่จะพูดเรื่องอะไรก็ได้
จริงไหมที่เขาว่าคอนเทนต์ของนวลจะเป็นแนวเสียดสีสังคม
เราว่าไม่นะ เสียดสีมันแปลว่ากระทบกระเทียบคน หรือเรามักจะใช้การเสียดสีเวลาเราไม่ชอบใครคอนเทนต์เราพูดเรื่องคนอื่นก็จริง แต่มันเหมือนการเอา issue อะไรบางอย่างแล้วมาขยี้ มาตีให้มันเว่อร์ เอามาทำให้เห็นความ irony ของมันมากกว่า เราไม่ค่อยรู้สึกว่าเราเสียดสีเท่าไหร่
นวลทำแต่ละคอนเทนต์ แต่งเส้นเรื่องยังไง ให้คนรู้สึก relate กับเรื่องจริงได้
เราทำอย่างนั้นเพราะว่ามันจะได้ไม่เดือดร้อน แต่จริงๆ เราว่าคนรู้อยู่แล้วว่าเราจะพูดอะไร แล้วมันก็เป็นการดึงคนด้วย เพื่อให้คนตั้งใจฟัง และตามได้ว่าจริงๆ เราพูดเรื่องอะไรอยู่ เราก็เห็นในคอมเมนต์คนมาคุยกันว่าคิดว่าตัวละครนี้ คือคนนู้น คนนี้ จริงๆ คนดูจะคิดยังไงก็ได้เลย แต่อย่างน้อยแปลว่าเขาตั้งใจดู
คลิปของนวล ตั้งใจทำให้ไวรัลไหม
ไวรัลก็ดี คนทำคอนเทนต์อยากให้คนเห็นเยอะอยู่แล้ว แต่ถ้าหากไปเริ่มคิดว่าทำยังไงให้ไวรัล ก็จะลืมไปว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ เพราะมันก็จะไปคิดแต่ว่าองค์ประกอบของความไวรัลคืออะไร เช่น ความย่อยง่าย ความน่าดึงดูด น่าจดจำ ความแชร์ง่าย ซึ่งมัน commercial มากๆ เป็นสิ่งที่ลูกค้าชอบพูดในห้องประชุมเลย ซึ่งถ้าถามว่าพวกนี้ไวรัลไหม เราก็เห็นว่าสิ่งที่ประสบความสำเร็จก็มีพวกนี้นะ ถึงอย่างนั้นคลิปที่มีองค์ประกอบเหล่านี้ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ก็มีมากถึง 99% ในตลาดเลย
เราว่าสิ่งที่สำคัญ คือเราต้องแคร์คนดูก่อนว่า เขาจะได้อะไรจากการดูอันนี้ ถ้ามันดีจริง มันถึงจะมีสิทธิไวรัล ไม่ใช่เริ่มจากการตั้งโจทย์ว่าทำยังไงจะไวรัล เพราะคนดูมีตัวเลือกเยอะเหลือเกินในตอนนี้ และก็มีคอนเทนต์ที่แย่งความสนใจกันหนักมากๆ
แล้วทำไมวันนึง นวลถึงออกมาพูดเรื่องการเลือกตั้งกับเขาด้วย
นวลจะพูดอะไรก็ได้ นวลมันเป็นอย่างงี้ตั้งแต่ไหนแต่ไร จริงๆ ก่อนหน้านี้ช่วงเดือนตุลาคม 2 ปีก่อนที่มีการไว้ทุกข์ เราก็เคยเอานวลมาพูดมาพูดประเด็นนี้ แต่ตอนนั้นเรายังไม่ได้ทำวิดีโอเลย ซึ่งจริงๆ มันดูจาบจ้วงมากๆ เลยในการที่เอาหมามาพูดเรื่องอะไรที่ค่อนข้างอ่อนไหว แต่เรารู้สึกว่าถ้าเขียนไม่ให้โจมตีใคร มันก็จะเล่าได้
แล้วเรื่องกระบวนการเลือกตั้ง เราคิดว่ามันควรเป็นเรื่องที่จะพูด แต่กลับไม่ค่อยมีคนพูดเท่าไหร่ แล้วเรื่องระบบ การนับคะแนนต่างๆ มันก็เป็นเรื่องที่เข้าใจยากด้วย
จากการเป็นผู้ทำคลิปเลือกตั้งเองเห็นกระบวนการมากมายของการเลือกตั้งครั้งนี้ คิดว่าการเลือกตั้งซับซ้อนไหม
ยากมาก ยากจริงๆ เพราะขนาดเราพยายามทำความเข้าใจ พยายามแล้วนะ ยังรู้สึกว่ายังยาก ดังนั้นคนที่ไม่ได้พยายามหรืออยากจะทำความเข้าใจโดยที่ไม่มีเวลาอยู่กับมัน 2-3 ชั่วโมงในการนั่งอ่านเอกสารที่เป็นทางการ ไม่มีทางเข้าใจเลย เพราะยากมากจริงๆ เราเลยคิดว่ามาทำให้มันย่อยง่ายก็คงจะดี
อยากสื่อสารอะไรผ่านคลิปนี้
เราคิดว่าต้องทำให้ไม่น่าเบื่อก่อน เพราะมันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ ต้องทำให้ดูแล้วรู้สึกว่าดูจนจบได้ เราไม่ได้แสดงความเห็นทางการเมืองของเราเลยในคลิปนี้ เราพูดถึงระบบล้วนๆ คือแค่นี้ก็รู้สึกเบื่อแล้ว ดังนั้นอันดับแรกในการคิดคลิปนี้ คือข้อมูลต้องถูกต้อง อย่างที่สองคือ ทำยังไงให้คนดูจนจบได้ ก็อาจจะมีการใส่นู่น ใส่นี่ให้มันสนุกขึ้น
การเอาคาแรคเตอร์หมาๆ มาเล่าเรื่องการเมืองยากไหม
หมามันมีหลายหน้า คาแรคเตอร์ของหมาแต่ละพันธุ์มันจะมีลักษณะของตัวมันเอง แล้วมันจะมีคำว่า ‘หมาก็จะมีลักษณะเหมือนคนเลี้ยง’แล้วเรารู้สึกว่าแต่ละพันธุ์ก็ไปดูใกล้เคียงกับแต่ละคน อย่างผู้นำพรรคนึงก็ดูไฟแรง มีความเข้มแข็งหน่อย ตัวยืดๆ เราก็เลยให้เป็น ‘โดเบอร์แมน’ อีกคนนึงก็ดูดี น่ารัก อิมเมจดูดีมาก แต่ทำอะไรไม่ได้ เราก็ให้เป็น ‘คอร์กี้’ ที่ขาสั้นๆ
คิดว่ามีประชาธิปไตย ในหมู่หมาๆ ไหม
มันก็คงไม่มีประชาธิปไตยในหมาๆ แต่หมามันก็คงจะมีวิธีการปกครองของมันเอง ที่คงจะใช้กับคนไม่ได้
ถ้านวลได้เป็นนักการเมือง คิดว่านวลจะเป็นนักการเมืองแบบไหน
นวลไม่น่าจะฟังคนอื่นนะ นวลเป็นคาแรคเตอร์ที่เอาตัวเองเป็นที่ตั้งหนักมาก คือการเอาตัวเองเป็นที่ตั้งของมันก็ไม่ได้แปลว่าตัวมันเป็นคนชั่ว บางทีความต้องการของมันก็อาจจะ favor คนกลุ่มนึงก็ได้ ถูกใจคนประเภทนึง แต่ในขณะเดียวกันคนที่ต้องการความใส่ใจ มันก็ไม่น่าจะแคร์เลย เราเลยคิดว่าถ้านวลเป็นนักการเมืองจริงๆ ก็คงไม่น่าจะมีสังคมที่สงบสุข
คิดว่านวลต้องการสังคมการเมืองแบบไหน
นวลน่าจะต้องการสังคมการเมืองที่ liberal ในระดับนึง เพราะมันพูดมาก ถ้าเป็นเผด็จการจ๋าๆ นวลก็จะโดนเก็บเพราะพูดจาไม่ระมัดระวังเท่าไหร่ ไม่เหมือนเสือ เสือนี่ก็จะรู้ทางหนีทีไล่ดีกว่า แต่ทุกวันนี้นวลก็ยังอยู่รอดมาได้หลายปี
อยากสะท้อนอะไรให้คนดู ผ่านการทำคลิปเรื่องเลือกตั้งตัวนี้
เราทำไปเพราะเราคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ทุกคนน่าจะรู้ แล้วมันเข้าใจยากมากๆ เรารู้สึกว่า คนส่วนใหญ่จะคิดว่าเราไม่มีปัญญาทำอะไรในสังคมนี้เลย เราค่อนข้างจะอึดอัดกันว่าจะทำอะไร จะพูดอะไร ทั้งๆ ที่ปัญหาเกิดจากการที่คนไม่รู้จักทำหน้าที่ของตัวเอง ดังนั้นโอกาสมันมาแล้ว คุณได้โหวตแล้ว ในกติกาที่แม้จะอะไรก็ตามแต่ ก็อยากให้ทุกคนได้ทำหน้าที่ของตัวเอง ได้รู้ว่าสิ่งที่คุณต้องไปทำคืออย่างนี้นะ แล้วขั้นตอนการนับคะแนนเป็นอย่างนี้ อย่างน้อยคุณเข้าใจ คุณจะเลือกอะไรก็แล้วแต่เลย เราไม่ได้คาดหวังว่าคนอื่นจะมาคิดเหมือนเรา แต่อย่างน้อยถ้าดูคลิปนี้ แล้วมีคนตั้งใจจะไปทำหน้าที่ของตัวเองเพิ่มอีกคนนึง มันก็ตรงประเด็นแล้ว
ที่นวลต้องออกมาเล่า เพราะไม่มีใครเล่าเรื่องนี้หรือเปล่า
เราเห็นก็มีคนทำนะ สนุกด้วย คนแชร์ของนวลก็เป็นคนประเภทนึง กระจายๆ กันไป แต่ว่าอย่างที่เราบอกว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ การพูดเรื่องพวกนี้ คนไม่ค่อยอยากจะฟังกันเพราะเขารู้สึกว่า มันยังมีการครอบข้อมูลด้วยไอเดียบางอย่าง เขาจะคิดว่ากำลังโดนหลอกอยู่หรือเปล่า ก็เลยไม่ค่อยเปิดใจที่จะอ่าน ซึ่งมันเยอะจริงๆ นะรายละเอียดทั้งหมด เราเลยรู้สึกว่าคลิปนี้อาจจะประสบความสำเร็จตรงที่ คนดูโดยเปิดใจ และไม่ได้คิดว่าเรากำลังหลอกเขาอยู่
นอกจากเรื่องเลือกตั้งแล้ว ทำไมนวลดูออกมาพูดปัญหาสังคมมากขึ้น ทั้งท้องถนน หรือการศึกษา
เราว่ามันก็ตรงกับสโลแกนเพจที่ว่า เราพูดเรื่องที่คนคิด เอาจริงๆ เพจเราตอนแรกผู้หญิงเยอะมาก เพราะหมาน่ารัก หลังจากนั้นผู้ชายก็ค่อยๆ มากขึ้น เพราะเราเป็นผู้ชาย แล้วเราก็พูดสิ่งที่เราคิดมากขึ้น แต่ตอนนี้เปอร์เซ็นของทั้ง 2 เพศก็เท่าๆ กันแล้ว
ถามว่าทำไมมาพูดเรื่อง issue ทั่วไปในสังคมมากขึ้น เรารู้สึกว่าเราไม่ต้องกลัวก็ได้ อยากจะพูดก็พูด ตราบใดที่เราระวังคำพูดเราว่ามันไม่ได้เป็น hate speech บอกว่านั้นไม่ดี นี่ไม่ดี แต่เราพูดในทำนองให้คนเอนจอยกับมัน แล้วก็สะท้อนบางอย่างกับมัน
ทำไมนวลถึงสนใจประเด็นการศึกษา
เพราะว่าเรื่องการศึกษาเป็นเรื่องที่พูดยังไง ก็พูดไม่หมด ทุกคนเคยผ่านระบบการศึกษา ทุกคนเคยเป็นเด็กนักเรียนมา แล้วทุกๆ ปัญหา หรืออะไรก็ตามที่เราคิดว่าห่วยแตกในตอนโต เราสามารถย้อนไปได้หลายประเด็นเลยว่ามันเป็นเพราะปัญหาการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นความห่าง ความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น ความไม่กล้าแสดงออก เรื่องของการไม่อยากเห็นคนดี คนเด่น ทุกคนต้องเหมือนกัน เรื่องเด็กประจบครู ครูไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง ทุกอย่างโรงเรียนเป็นระบบที่จำลองดีมากในการสะท้อนปัญหาเล็กๆ จากทุกปัญหาที่เราเจอในวัยเด็ก และทุกคนก็โตพร้อมปัญหาเหล่านั้นที่ใหญ่ขึ้น เราเลยคิดว่าปัญหาก็มาจากการศึกษาทั้งนั้น ดังนั้นถ้าให้พูด เราก็พูดประเด็นนี้ได้เยอะมาก
เรารู้สึกว่า ตอนนี้เราโตแล้ว พอมองย้อนกลับไปเราก็เห็นว่าทำไมมันห่วย เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังไม่มีเลย อันนี้เป็นความต้องการส่วนตัวเรารู้สึกว่า เราอยากให้คนที่อยู่ในระบบการศึกษาไม่ว่าจะเป็นครู หรือเด็กก็ตาม ได้สะท้อนกับสิ่งนี้ เพราะเราพ้นจากระบบการศึกษามาแล้วไง แต่อยากให้คนที่อยู่ในระบบคิดว่าแบบ เออกูยังอยู่ตรงนี้ ได้คิดว่าเราไม่ต้องทำตามระบบทุกอย่าง แล้วอาจจะมีวัยเด็กที่ดีกว่าตัวเราก็ได้
คิดว่าถ้านวลอยู่ในระบบการศึกษา นวลจะเป็นยังไง
นวลก็จะเอาแต่ใจ ขบถ ครูก็จะทนไม่ได้ แต่เสือก็น่าจะแฮปปี้มาก
เสือดูเป็นตัวแทนของคนที่ไม่สนใจอะไรเลยหรือเปล่า
นี่เป็นข้อสังเกตของเรานะ เราไม่ได้บอกว่ามันต้องเป็นแบบนี้ เราคิดว่าเวลาที่เราใช้เสือในวิดีโอ เสือเป็นลักษณะของคนอยู่เป็น คนที่ไปได้กับทุกระบบ ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม เสือก็จะสามารถเจริญก้าวหน้าไปกับระบบได้ ในขณะที่นวลก็จะเอาแต่ใจ ระบบต้องโคจรรอบกูสิ แต่เสือจะไม่คิดอย่างนั้น ถ้าต้องประจบครู แต่เสือไม่ได้คิดเหมือนครู เสือก็จะทำให้ครูแฮปปี้ได้ แต่เสือก็ไม่ใช่ทั้งคนดี และคนเลว
คิดว่าโดยรวมแล้ว นวลอยากสื่อสารอะไรให้คนดู
จริงๆ แล้วสำหรับเรา เพจนวลเป็นอาชีพนะ เราทำคอนเทนต์เลี้ยงชีพด้วย แต่ในการเลี้ยงชีพก็มีการควบคุมภายใต้ทิศทางของศิลปะด้วย เราไม่ได้ทำเพจเพื่อแค่ให้มีโฆษณาเข้า ให้มีอะไรเข้ามาเยอะๆ เราไม่สามารถทำเดือนละ 4 คลิปได้ ดังนั้นมันก็เป็นการเลือกลูกค้าตั้งแต่ต้น
อย่างที่ 2 คือ เราอยากทำคลิปที่มันคุ้มค่ากับการทำของเราเอง เพราะว่าทำคลิปอันนึงมันเหนื่อยมาก เราใช้เวลากับการทำบทเยอะมาก แล้วเรารู้ว่าเราใช้เวลาเยอะ เราเลยอยากให้คนดูได้อะไรมากกว่าการดูแล้วสนุกเฉยๆ หรือว่าตอนจบเห็นว่าเราขายของเก่ง แต่อย่างน้อยเขาดูแล้วได้สะท้อนอะไรกับคลิปของเราบ้าง นิดๆ หน่อยๆ ก็ยังดี เราไม่ได้คิดว่าเราฉลาดกว่าใคร แล้วเราจะไปสอนใครได้
แม้ว่าคลิปนวลจะขายของ แต่บางครั้งเราก็รู้สึกว่าประเด็นที่นวลพูดสะท้อนหลายอย่างมากกว่าการขาย บาลานซ์ยังไงระหว่างสิ่งที่ต้องการพูด กับความต้องการลูกค้า
ต้องคุยกับลูกค้าดีๆ ว่าการขายมันจะไปอยู่ท้ายคลิปเรารู้สึกว่าโฆษณาเปลี่ยนไปตามยุคสมัย โฆษณาในหนังสือพิมพ์แบบนึง ใน YouTube เองก็อย่างนึง เดี๋ยวนี้มันเป็น tie-in เป็นส่วนใหญ่ แล้วเราไม่ค่อยชอบแบบดูละคร แล้วมีการกินน้ำยี่ห้อนึง ขับรถยี่ห้อนึง มันต้อง tie-in เข้าไปให้ได้มากที่สุด คือเราคิดว่าคนดูฉลาด เค้าเห็นบ่อยแล้วอะไรพวกนี้ เราสามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการขาย แล้วเราก็จะไม่ได้เนียนๆ เขินๆ แบบขอขายหน่อย คือเราขายอยู่แล้ว ขายจริงๆ ต้องรู้เลย
แต่ในขณะที่เราขาย คุณให้เวลาเรามา 4-5 นาที คุณก็เอนจอยกับมันใช่ไหม มันมีศักศรีดิ์พอที่จะมีโฆษณาอยู่ในตอนจบ ในอนาคตเรายังไม่รู้นะ แต่ ณ ปัจจุบัน เรารู้สึกว่าคนดูโอเคกับรูปแบบนี้ เขาเจอโฆษณามาเยอะมากหลายรูปแบบในแต่ละวัน แล้วเขาก็รู้สึกว่าแบบนี้ก็แฟร์อะ เพราะมันไม่มีงานไหนที่จะทำให้คุณดูฟรีๆ โดยไม่มีโฆษณา แล้วเรามีข้อตกลงร่วมกันว่าเราจะขายแบบนี้
หลายคลิปก็เป็นการบาลานซ์ระหว่างสิ่งที่เราอยากพูดกับสิ่งที่เขาต้องการขาย ซึ่งเราว่ามันเป็นอะไรที่ลงตัว ส่วนใหญ่เราก็จะเห็นลูกเพจมาคอมเมนต์นะ ว่ารอดูว่าจะขายอะไร อันไหนไม่มีโฆษณาบางคนก็บอกว่าผิดหวังมากที่ไม่มีโฆษณา