“หวังว่าจะได้พบกันข้างนอก” ตะวัน–ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ฝากข้อความมากับทนาย จากในรั้วทัณฑสถานหญิงกลาง
วันนี้ (19 พ.ค. 2565) เธออดอาหารเพื่อเรียกร้องสิทธิการประกันตัวในเรือนจำเข้าสู่วันที่ 30 แล้ว หลังจากที่ศาลอาญาสั่งเพิกถอนประกันในคดี ม.112 ของเธอ ตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. เป็นต้นมา
“ตะวันฝากบอกทุกคนว่าคิดถึงมากๆ ได้อ่านข้อความของทุกคนและรู้เรื่องกิจกรรมต่างๆ เป็นกำลังใจที่ดีมาก หวังว่าจะได้พบกันข้างนอก” จากการเปิดเผยโดยศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
อดอาหาร 1 เดือน ร่างกายเข้าขั้นวิกฤต
ผู้ดูแลเฟซบุ๊ก ‘Tawan Tantawan’ แทนตะวัน เปิดเผยสภาพร่างกายของตะวัน จากบันทึกเข้าเยี่ยมของทนายในวันนี้ (19 พ.ค.) ว่า มีอาการเลือดออกตามไรฟัน เวลาเดินก็รู้สึกวิงเวียนตลอด และมีความดันในวันนี้อยู่ที่ 91/58 เช่นเดียวกับเมื่อวานนี้ ที่ศูนย์ทนายฯ ระบุว่า “ตะวันมีอาการความดันตก ค่อนข้างเพลียและหน้ามืดบ่อย เลยต้องเน้นนอนเป็นหลักเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกาย”
นอกจากนี้ ยังเห็นไหปลาร้าและกระดูกชัดเจน “จนตกใจตัวเองเหมือนกัน” และร่างกายดูซูบผอมไปมาก แม้น้ำหนักจะลดไป 3 กิโลกรัม
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ผู้ดูแลเฟซบุ๊กของตะวันยังเปิดเผยด้วยว่า “ตะวันเป็นเหาซึ่งเกิดจากความแออัดของเรือนจำและมีการนอนหัวชนกันจึงทำให้ติดเหาจากผู้ต้องขังในห้องเดียวกันสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเรือนจำควรแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว”
อย่างไรก็ดี สำหรับการอดอาหารประท้วง ตะวันยืนยันว่าจะทำต่อไป “เพราะอยู่ในนี้ไม่รู้จะสู้ยังไง พูดออกมาก็ไม่ได้ อยากเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจเห็นความเป็นคน” และถ้าไม่ได้ประกันอีก ตะวันก็เผยว่า จะตั้งใจดื่มแค่น้ำอย่างเดียว ไม่ดื่มนมแล้ว แม้จะต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า “จะไหวถึงเมื่อไหร่” ก็ตาม
ทั้งนี้ เธอประกาศอดอาหารตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. เป็นต้นมา หลังถูกควบคุมตัวเข้าทัณฑสถานหญิงกลาง ทันทีที่ศาลสั่งเพิกถอนประกันในคดี ม.112 จนถึงวันนี้ เธออดอาหารรวมแล้ว 30 วัน โดยดื่มเพียงน้ำเปล่าและนม
ศูนย์ทนายฯ เผย ‘ทิม พิธา’ เตรียมใช้ตำแหน่ง ส.ส. ยื่นประกันตัวอีกครั้ง
สำหรับขั้นตอนทางกฎหมาย ล่าสุด ศูนย์ทนายฯ เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ว่า ตำรวจจะขอฝากขังตะวันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (20 พ.ค.) รวมถึง เก็ท–โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง นักกิจกรรมกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ และอีกคนหนึ่งที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำด้วย
ขณะที่ ทิม–พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล จะเข้ายื่นประกันตัวอีกครั้งในวันพรุ่งนี้เช่นเดียวกัน หลังจากที่ศาลยกคำร้องมาก่อนหน้านี้
เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ศาลอาญามีคำสั่งยกคำร้องขอประกันตัวที่พิธาใช้ตำแหน่ง ส.ส. ยื่น โดยชี้ว่า ไม่ปรากฏหลักฐานเงินเดือน (สลิปเงินเดือน) ของผู้ร้อง และไม่มีพฤติการณ์พิเศษอื่นที่จะพิจารณาคำร้องได้ แม้ศูนย์ทนายฯ จะยืนยันว่า พิธาได้แนบหนังสือรับรองจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งระบุอัตราเงินเดือนชัดเจน
ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน ศาลยังได้มีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังตะวันต่ออีก 5 วัน โดยอ้างว่า ตำรวจมีเหตุจำเป็นที่จะต้องส่งสำนวนให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณา ซึ่งอาจตีกลับสำนวนให้สอบสวนในประเด็นอื่นที่เกี่ยวข้องอีก
ศูนย์ทนายฯ อธิบายว่า พนักงานสอบสวนมีอำนาจขอศาลฝากขังได้รวม 7 ผัด ซึ่งล่าสุดก็เป็นผัดสุดท้ายของตะวันแล้ว ตำรวจและอัยการต้องส่งฟ้องภายในผัดนี้ ถ้าฟ้องไม่ทัน ก็จำเป็นต้องปล่อยตัว
อย่างไรก็ดี ถ้าอัยการฟ้องทันภายในผัดที่ 7 ศูนย์ทนายฯ ก็ระบุว่า ต้องไปยื่นประกันตัวในการพิจารณาชั้นศาลใหม่ ถ้ายังไม่ได้ประกันตัวอีก ก็จะเป็นการขังระหว่างพิจารณาคดี โดยจะไม่ได้มีกำหนดเวลาเช่นเดียวกับการฝากขัง
นอกจากตะวัน ยังมีผู้ต้องขังคดีการเมืองอีกอย่างน้อย 10 คนที่อยู่ในเรือนจำ
จากการรวบรวมข้อมูลโดย iLaw พบว่า ในวันนี้ มีนักกิจกรรมทางการเมืองที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำอย่างน้อย 11 คน โดยเป็นการคุมขังระหว่างสอบสวนในชั้นตำรวจถึงอย่างน้อย 9 คน และเป็นผู้ต้องขังที่มีคำพิพากษาแล้ว แต่คดียังไม่สิ้นสุด 2 คน
สำหรับการคุมขังในชั้นตำรวจ นอกจากตะวัน ก็ยังมีนักกิจกรรมจากกลุ่มทะลุวัง คือ ใบปอ–ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ และ บุ้ง–เนติพร เสน่ห์สังคม นักกิจกรรมจากกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ คือ เก็ท–โสภณ และคนอื่นๆ ได้แก่ เวหา แสนชนชนะศึก, คทาธรและคงเพชร, ปฏิมา และพรพจน์ แจ้งกระจ่าง
สำหรับผู้ต้องขังที่มีคำพิพากษาแล้ว แต่คดียังไม่สิ้นสุด ได้แก่ ‘เอกชัย หงส์กังวาน’ ที่ถูกตัดสินจำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา จากการโพสต์เล่าประสบการณ์ทางเพศในเรือนจำ ซึ่งเป็นความผิดฐานนำเข้าข้อมูลลามกอนาจาร ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ม.14 (4)
อีกคนหนึ่งคือ ‘สมบัติ ทองย้อย’ อดีตการ์ดแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ถูกพิพากษาจำคุก 6 ปี ไม่รอลงอาญา จากการโพสต์ข้อความ “กล้ามาก เก่งมาก ขอบใจนะ” และอีก 2 ข้อความว่า “เขาให้ลดงบประมาณที่เอาไปใช้จ่าย ไม่ใช่ลดตัวลงมาใกล้ชิดประชาชน …” และ “มีแจกลายเซ็นต์ด้วย เซเลปชัดๆ”
ณัฐวุฒิเรียกร้องสิทธิการประกันตัว – ทนายอานนท์เรียกร้องเรือนจำแถลงอาการ ‘ตะวัน’
เช่นเดียวกับสิ่งที่คนเสื้อแดงต้องเจอในปี 2553 ที่ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. เผยว่า “เจ็บปวด คับแค้น หลายครั้งต้องกัดฟันข่มน้ำตา” ณัฐวุฒิก็ได้ใช้โอกาสรำลึกการสลายการชุมนุมเมื่อ 12 ปีที่แล้ว เพื่อเรียกร้องสิทธิของนักเคลื่อนไหวรุ่นปัจจุบันที่เขาบอกว่า ถูกกดปราบจากอำนาจรัฐไม่ต่างกันด้วย
ณัฐวุฒิโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า “วาระครบรอบ 12 ปี เมษา – พฤษภา 53 ในฐานะคนเสื้อแดงคนหนึ่ง ผมขอเรียกร้องสิทธิการประกันตัวให้น้องๆ ที่ถูกจำขังเพราะเคลื่อนไหวทางการเมือง”
เขาเล่าว่า “เด็กหลายคนยังถูกขัง หลายคนยังถูกคุกคามด้วยวิธีการต่างๆ อำนาจรัฐเดินหน้ากดปราบลูกหลานที่คิดต่างราวกับเป็นศัตรู ผมตามไม่ค่อยทันแล้วว่ามีกลุ่มไหน ใครบ้างในเรือนจำ รู้แต่จากข่าวว่าเด็กสาวชื่อ ‘ตะวัน’ กับเพื่อนๆ และคนอื่นๆ ยังไม่ได้ประกันตัว
“ทุกการยื่นขอประกันตัว อยากให้ความเมตตามีบทบาทสำคัญในคำวินิจฉัย เงื่อนไข ข้อกำหนดทั้งหลาย ผมเชื่อว่าทุกคนรับได้ เหมือนแกนนำคนอื่นๆ ก่อนหน้านี้ ซึ่งจำกัดความเคลื่อนไหวของตนตามนั้น คนในขบวนการต่อสู้ก็รับรู้ ไม่มีใครไปกดดัน เพราะเข้าใจและเห็นใจ”
ขณะที่ อานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน และแกนนำม็อบราษฎร ก็ออกมาเรียกร้องถึงสิทธิของตะวันสั้นๆ ว่า