เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2568 เกิดเหตุอันน่าสลด เมื่อชายชาวจีนฆ่าและชำแหละศพผู้ขายบริการทางเพศ (Sex worker) ผู้หญิงข้ามเพศในพัทยา จนเกิดข้อถกเถียงมากมายตั้งแต่นโยบายฟรีวีซ่า จวบจนความปลอดภัยของอาชีพขายบริการทางเพศ ที่ยังถือเป็นอาชีพที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นการเปิดช่องให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบ เพราะคนเหล่านี้ไม่อาจส่งเสียงเรียกร้องความยุติธรรมได้
ด้วยคำถามมากมายต่ออาชีพ Sex worker เราจึงคุยกับ ศ.ดร.ชลิดาภรณ์ ส่งสัมพันธ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และประธานมูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ (SWING) ถึงสถานภาพและกฎหมาย ที่เกี่ยวเนื่องกับผู้ประกอบอาชีพขายบริการทางเพศ
หน้าตาของ ‘การค้าบริการทางเพศ’ ในประเทศไทยเป็นอย่างไร

Photographer: Watcharapol Saisongkhroh, Aoraya Srisangwal
Sex worker ในประเทศไทยก็จะเป็นกลุ่มอาชีพที่มีความหลากหลาย หลากหลายทั้งในเชิงเพศสภาพ ช่วงอายุ ที่มา เหตุผลที่เข้าสู่อาชีพ ทีนี้เวลาที่พูดถึงผู้ค้าบริการทางเพศในประเทศไทย มักจะถูกมองไปที่คนกลุ่มเดียว คือผู้ขาย แต่ไม่เห็นภาพรวมที่เป็นภาพใหญ่ ซึ่งได้แก่ การค้าบริการทางเพศ ผู้ค้าบริการทางเพศ ผู้ซื้อบริการทางเพศ
ในสังคมไทย มันมีความหลากหลายและมีความซับซ้อน ซึ่งถ้าจะจัดการกับกรณีการซื้อขายบริการ รวมทั้งธุรกิจที่ให้บริการในเรื่องเพศ ก็ต้องมองให้เห็นความซับซ้อนนี้ อย่าลดทอนมัน และเวลาที่พูดถึงการขายบริการทางเพศ มันมีทั้งฝั่งผู้ขายและผู้ซื้อ ทีนี้เมื่อพูดถึงผู้ขายเรามักจะมองความเชื่อความเข้าใจทั่วไปก็คือ ผู้ขายมีเพศสภาพหญิงที่ถูกล่อลวงมา
เรามักจะเข้าใจไปว่าไม่มีใครสมัครใจหรือเลือกที่จะขายบริการทางเพศ มีแต่พวกถูกหลอก ถูกบังคับ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ และถ้ามองลึกลงไปอีกผู้ประกอบอาชีพนี้ไม่ได้มีแต่เพศสภาพหญิง แต่มีหลากหลายเพศภาพมาก แล้วก็หลากหลายช่วงอายุ และไม่ได้มีแต่คนอายุน้อย รูปแบบบริการ ระดับราคาก็หลากหลายมาก และความสามารถที่เขาจะจัดการกับการให้บริการ หรือการต่อรองกับผู้ซื้อก็ไม่เหมือนกันเลย ชุดของปัญหาที่เจอก็ไม่เหมือนกัน
นอกจากนี้ คนขายบริการทางเพศในประเทศไทยที่มีความหลากหลาย เข้าสู่การขายบริการทางเพศด้วยเหตุผล ด้วยปัจจัยในชีวิตที่แตกต่างกัน

Photographer: Asadawut Boonlitsak
ส่วนฝั่งผู้ซื้อ เรามักจะเข้าใจว่าผู้ซื้อบริการทางเพศมักเป็นเพศสภาพชาย ซึ่งถามว่าใช่ไหม ถ้าดูจากงานวิจัยหลายๆ ชุดที่ไม่ใช่ของไทย คนซื้อบริการทางเพศกลุ่มใหญ่เลยเป็นผู้ชายจริง แต่ก็มีคนกลุ่มอื่นที่ซื้อบริการทางเพศอยู่ด้วย และเวลาที่ซื้อบริการทางเพศ มันไม่ใช่เรื่องของการระบายความต้องการทางเพศเฉยๆ แต่เป็นการซื้อบริการเพื่อสนองความต้องการอย่างอื่นก็มี เพราะแต่ละคนมีรสนิยมเรื่องเพศที่ไม่เหมือนกัน
ดังนั้นถ้ามองทั้ง 2 ฝั่ง จะถือเป็นปรากฏการณ์ที่ซับซ้อน และสะท้อนหลายเรื่องในสังคม คำถามก็คือ แล้วคนเห็นความซับซ้อนนั้นไหม หรือลดทอนความซับซ้อนลง และเน้นการประณามเพียงอย่างเดียว
อาจารย์มองว่าสื่อและผู้คนเห็นถึงความซับซ้อนนี้หรือไม่

Photographer: Watcharapol Saisongkhroh, Aoraya Srisangwal
ข่าวล่าสุดที่เป็นเรื่องความรุนแรงต่อ Sex worker คนข้ามเพศ ซึ่งวิธีการนำเสนอของสื่อ อยากจะขอตั้งข้อสังเกตดังนี้ คือคนที่เป็นผู้ถูกกระทำหรือผู้เสียชีวิต มีองค์ประกอบ 2 อย่างใหญ่ๆ คือเป็นคนค้าบริการทางเพศและเป็นคนข้ามเพศ ดังนั้นจะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ทับซ้อนกัน
ผู้ถูกกระทำเป็น Transgender แล้วก็ขายบริการทางเพศ อย่างไรก็ตาม วิธีที่สื่อนำเสนอประเด็นนี้ โดยเน้นไปว่าคนนี้เป็น Transgender ไปถึงเรื่องว่าเขาได้ผ่านการผ่าตัดแปลงเพศแล้ว ซึ่งคนที่นำเสนอข่าวอาจจะไม่ได้ตระหนักว่า ได้ผลิตซ้ำการจับคนข้ามเพศวางไว้ในวงการว่าด้วยความสวยงาม ความบันเทิง และการค้าบริการทางเพศ
โดยเรื่องของการขายบริการทางเพศในสังคมไทยมันถูกตีตราประณามอยู่โดยคนหลายๆ กลุ่ม ที่มองว่าคนขายบริการทางเพศเป็นคนชั่ว เพราะคุณเดินก้าวข้ามกรอบ หรือกำแพงเรื่องเพศที่ถูกต้องเหมาะสม ที่เป็นเรื่องระหว่างชายหญิงเท่านั้น โดยมีองค์ประกอบสำคัญคือความรัก และเรื่องเพศที่ถูกต้องนี้ต้องเกิดในสถาบันการแต่งงาน แบบรักเดียวใจเดียว ไม่ใช่ผัวเดียวเมียเดียว
แต่นี่คือการก้าวข้ามกำแพงไป ที่นอกจากจะมีเรื่องเพศนอกกรอบกติกา แล้วยังเป็นเรื่องเพศเพื่อการค้า คือหาประโยชน์หาเงิน พอเอาเรื่องการเป็นคนข้ามเพศรวมกับการขายบริการทางเพศ มารวมกันปุ๊บ ยิ่งทำให้ผู้คนมองว่า คนกลุ่มนี้ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม ผิดศีลธรรม ผิดกติกา ละเมิดความถูกต้องในสังคม เพราะฉะนั้น Sex worker เป็นอาชีพที่มีความเสี่ยง เป็นอาชีพที่เลวร้าย

Photographer: Watcharapol Saisongkhroh, Aoraya Srisangwal
คือคนไม่ได้มองในทางกลับกันว่า ไอ้ความเสี่ยงเหล่านี้ ความเสี่ยงของการถูกกระทำความรุนแรง การไม่ได้รับการคุ้มครอง บางทีมันมาจากที่พวกคุณทั้งหลายนั่นแหละตีตราประณาม และเป็นส่วนหนึ่งในการหล่อเลี้ยงความรุนแรง คนในสังคมไทย มีอาการใจร้ายโดยไม่รู้ตัวมาโดยตลอด เนื่องจากมองไม่เห็นว่าเหตุปัจจัยอะไรบ้าง ที่ทำให้คนค้าบริการเขาเลือกที่จะค้าบริการ และการที่พวกเขาถูกตีตราประณาม ก็ยิ่งทำให้พวกเขาต้องเผชิญกับการถูกกระทำความรุนแรงในหลายๆ รูปแบบ หนึ่งคือ ถูกเรียกว่ากะหรี่
คำถามคือเวลาสื่อนำเสนอข่าว สื่อเห็นเรื่องไหน ทั้งนี้การนำเสนอที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดแนวโน้มของการลดทอนความซับซ้อนของเหตุการณ์ แทนที่จะทำให้ผู้คนในสังคมได้มองเห็นว่ากรณีนี้เป็นความรุนแรงที่แย่และโหดร้ายมาก
ถ้าสื่อจะกรุณาประชาชนไทย จะกรุณาสังคมไทย อย่าลดทอนความซับซ้อน อยากให้มองเห็นความซับซ้อนในกรณี ปรากฏการณ์ การกระทำ ปฏิสัมพันธ์ต่างๆ อย่าใช้วิธีลดทอนความซับซ้อนให้เหลือเพียงเรื่องเดียว เหลือเพียงมิติเดียว
เพราะการลดทอน การผลิตซ้ำ การตอกย้ำอคติโดยสื่อ จะทำให้คนไทยหลายๆ กลุ่ม มองไม่เห็นความซับซ้อนของประเด็น พร้อมกันนั้นยังเรื่องของอคติ และความเกลียดชังหลายอย่างที่มันซ่อนอยู่ในนั้นด้วย
อย่างกรณีข้างต้นไม่ได้มีแค่ 2 มิติ แต่มิติใหญ่ๆ อาจมี 2 เรื่อง ถ้าสื่อยกระดับให้เห็น มันจะทำให้สังคมไทยมองเห็นมิติและแง่มุมอื่นๆ ของชีวิตทางสังคมของเราได้ซับซ้อนขึ้น
พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 มีปัญหาอย่างไรบ้าง

Photographer: Asadawut Boonlitsak
คือ พ.ร.บ.ปราบปรามฯ ปี 39 ฉบับปัจจุบัน โดยเนื้อหาหากอ่านดูดีๆ จะพูดถึงองค์ประกอบของการค้าบริการ ที่ทำให้จะเป็นการผิดกฎหมายอยู่ แล้วก็มองไปที่เรื่องของผู้ค้าบริการที่เป็นคนอายุน้อย อายุยังไม่ถึง 15 ไม่ถึง 18 ปี แต่ประเด็นที่สำคัญยิ่งก็คือในตัว พ.ร.บ.ปราบปรามฯ เอง ยังมองการค้าบริการทางเพศในหลายๆ แง่มุมว่าเป็นอาชญากรรม เป็นความผิดที่รัฐเอาผิดลงโทษได้ แต่รัฐก็มีความเมตตากรุณา เพราะ พ.ร.บ.ดังกล่าวระบุว่า เนื่องจากคนค้าบริการเป็นคนโง่เขลา ไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะฉะนั้นจึงเลือกใช้วิธีเข้าไปสงเคราะห์ แต่การสงเคราะห์นี้ การไม่เอาผิด แปลว่าผู้ค้าต้องเลิกทำอาชีพนี้
หากดูให้ดีๆ ตัวกฎหมายมันสะท้อนการตีตราประณามการค้าบริการทางเพศ แต่อย่างที่บอก การค้าบริการทางเพศ มันเป็นการค้า เป็น commercial action ของผู้คน เพราะฉะนั้นจะมีทั้งฝั่งผู้ซื้อผู้ขาย ซึ่งที่ผ่านมาเราไม่เคยพยายามจะทำความเข้าใจว่า การค้าบริการทางเพศ การขายบริการทางเพศ ทำไมมันถึงยังดำรงอยู่ แล้วมันมีความซับซ้อนยังไง
ดังนั้น พ.ร.บ.ปราบปรามฯ สะท้อนให้เห็นอาการที่มันอีหลักอีเหลื่อของรัฐไทย ในการจัดการกับการขายบริการทางเพศ ฉะนั้นถ้าสมมุติว่าการซื้อขายบริการทางเพศเป็นกิจกรรมที่ผิดศีลธรรม ละเมิดกติกาในเรื่องเพศ ถ้ามันแย่และเลวมาก สิ่งที่รัฐควรจะทำคือกำจัด ไม่ต้องมี ซึ่งก็เป็นแนวทางหนึ่งที่หลายประเทศทำ คือให้กำจัดให้สิ้นซาก ไม่ให้มีการซื้อขายบริการทางเพศ แต่เอาเข้าจริงๆ รัฐอย่างรัฐไทย มองการซื้อขายบริการทางเพศเป็นความชั่วร้ายที่จำเป็น
ชั่วไม่ชั่ว แต่ไม่มีไม่ได้ แล้วเหตุผลเวลาถามหลายๆ คนว่า “อ้าว แล้วทำไมถึงยังต้องมีการซื้อขายบริการทางเพศ?” การซื้อขายบริการทางเพศที่เปิดช่องให้ทำได้ คือ ฝ่ายผู้ซื้อเป็นผู้ชาย เพศสภาพชาย ฝ่ายผู้ขาย เพศสภาพหญิง แล้วเหตุผลก็คือคนเพศสภาพชายมีความต้องการทางเพศ ที่ถ้าถูกกระตุ้นเร้าแล้วมันจะะแบบรุนแรงมาก ไม่ระบายออกไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นมันต้องมีช่องทางให้ระบายออก ก็จะต้องไปหาที่ออก เช่น ออกไปในรูปของการข่มขืนกระทำชำเรา นี่คือ justification ของการซื้อขายบริการทางเพศในหลายๆ สังคม
ยกเลิกกฎหมายปราบปรามการค้าประเวณีก็เพียงพอ?

Photographer: Watcharapol Saisongkhroh, Aoraya Srisangwal
อย่างที่บอกไปว่า ผู้ขายบริการทางเพศมีความหลากหลายในเรื่องเพศสภาพ อายุ เหตุผล ที่มามากมาย และก็ต้องเผชิญกับการถูกตีตราประณาม นอกจากนี้ยังเป็นช่องทางที่ทำให้คนมากมายหลายกลุ่ม เช่น เจ้าหน้าที่ของรัฐไทยเอารัดเอาเปรียบและรังแก คนหนึ่งที่เป็น Transgender ถูกกระทำความรุนแรง เสียชีวิต แล้วเป็นการตายที่โหดเหี้ยมมาก เธอผู้นั้นเสียชีวิตในฐานะคนขายบริการ และคำถามก็คือมันไม่มีกลไกอะไรใดๆ ที่จะคุ้มครองการประกอบอาชีพนี้ หรือกลไกที่เราเหล่านี้มันเกิดขึ้นไม่ได้ ในสภาพที่การค้าบริการทางเพศยังถูกรัฐไทยมองเป็นความชั่วร้ายที่จำเป็น
อย่างไรก็ดี การทำให้การค้าบริการทางเพศเป็นอาชีพที่ถูกกฎหมาย ทุกคนหลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่าต้องออกกฎหมาย เพื่อจะทำให้ถูกกฎหมาย ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ยกเลิก พ.ร.บ.ปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 ที่ใช้อยู่ฉบับปัจจุบัน มันก็จะทำให้การค้าบริการทางเพศกลายเป็นการงานอาชีพ เป็นกิจกรรมที่คนกลุ่มต่างๆ สามารถจะเลือกทำได้ในแต่ละช่วงอายุ ในแต่ละช่วงเวลาจะยาวนานมากน้อยแค่ไหน ด้วยเหตุผลอะไรก็ได้
แต่ก็อาจจะมีคนตั้งคำถามทันทีว่า “อ้าว แล้วถ้าจะเข้าไปดูแล จะเข้าไปจัดการกิจกรรมแบบนี้ได้ยังไง?” คำตอบคือ ให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงแรงงาน เพราะกระทรวงมีกฎกระทรวงที่คุ้มครองหรือจัดการกับแรงงานประเภทต่างๆ โดยแรงงานในระบบเศรษฐกิจไทย ไม่ได้หน้าตาเหมือนกันหมด มันขึ้นอยู่กับกิจกรรม ขึ้นอยู่กับประเภทของงานที่ทำ ซึ่งกระทรวงแรงงานเองก็มีกฎ ที่เข้าไปคุ้มครองหรือจัดการกิจกรรมเฉพาะในหลายเรื่องอยู่แล้ว

Photographer: Watcharapol Saisongkhroh, Aoraya Srisangwal
เมื่อสถานะผู้ค้าบริการทางเพศไม่ได้ถูกมองว่าเป็นอาชญากรรม ก็จะทำให้มีความสามารถที่จะต่อรองกับเจ้าของสถานบริการ กับคนซื้อบริการ ส่งผลให้พวกเขามีสถานะและความปลอดภัยมากขึ้นในการทำงาน
การขายบริการทางเพศเป็นการงานอาชีพอย่างหนึ่ง ที่คนบางคนบางกลุ่มเขาเลือกทำ ด้วยเหตุผลเฉพาะของเขา สำหรับคนฟังที่รู้สึกว่าไม่เห็นด้วย เห็นว่าเลวก็ไม่ต้องทำ และคุณไม่มีสิทธิ์ไปบังคับคนอื่น
ในฐานะที่เป็นประธานมูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ เราได้พยายามใช้กระบวนการตามรัฐธรรมนูญ เพื่อจะขอยกเลิก พ.ร.บ.ปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 ซึ่งต้องรวบรวมรายชื่อประชาชน ขณะนี้อยู่ในกระบวนการทางสภาแล้ว โดยเราหวังว่ามันจะไปได้ตลอดรอดฝั่ง